การแอบรักข้างเดียวควรลืมหรือเลิกรักไปยังไงดีค่ะ?

กระทู้คำถาม
สวัสดีค่ะ ขอเริ่มคำถามเลยแล้วกันน่ะค่ะ ไม่ขอแนะนำอะไรมากค่ะ
ด้วยเรื่องที่หนักใจอยู่มากตอนนี้ จะว่ากรรมหรึเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจค่ะ
แต่มันมักจะเกิดกับความรักที่เจออยู่เสมอ เราชอบผู้ชายดูมีความเป็นผู้ใหญ่ไม่งอแงอะไรมาก  ทุกครั้งที่ชอบก็จะมารูปแบบ *อาจายร์* (อาจายร์ที่แอบชอบไม่แก่น่ะค่ะอายุประมาน27-30ต้นๆ)ตลอดเลยค่ะ ตั้งแต่มัธยม ปีที่1-3 เราอยู่วงโยธวาทิตก็แอบชอบอาจายร์หนุ่มที่สอนวิชาดนตรีแอบชอบเค้าอยู่นานมากส่องเฟสเค้าทุกวันรู้น่ะค่ะว่าเค้ามีเจ้าของอยู่แล้วแต่เราก็รู้สำนึกตัวเองอยู่ค่ะว่าเป็นแค่ลูกศิษย์ห้ามทำอะไรมากกว่านี้ เมื่อจบม.3 เลยมาต่อ ปวช.ที่อาชีวะ(ขอไม่บอกข้อมูลสาขาวิชาและสถานศึกษาน่ะค่ะ) ตั้งขึ้น ปวช.1เราก็ตัดใจไม่ไปแล้วน่ะค่ะ เพราะคิดว่ายังไงคงไม่ได้ ที่จะเล่าอาจจะซับซ้อนลองนึกตามดูน่ะค่ะ ช่วงม.3เทอม2 เราไปเรียนพิเศษภาษาอังกฤษ แถวบ้าน เราก็เจอกับอาจายร์ที่สอนพิเศษอายุราวๆ 30ต้นๆ 4-5วันแรกที่เรียนก็ไม่ได้สนใจอะไร แต่มันมีเหตุการณ์ประทับใจที่ทำให้ใจเราเปลี่ยนไป คือเราไม่เก่งภาษาเลย ด้อยค่ามากกกก แล้วประโยคบนหนังสือที่ต้องแล้วประมานว่าจะต้องเปลี่ยนประโยคให้ V.3อะไรประมานนี้เราก็ทำไม่เป็นเลยยยโง่เง่ามากกแล้วเราเป็นเด็กใหม่ที่นั้นเลยต้องนั่งคนเดียวเพราะเพื่อนมีคู่หมดแล้วแต่เด็กอีกคนไม่มาเราต้องทำคนเดียววันนั้น อาจายร์คนนี้ก็เลยเดินเข้ามาช่วยสอนว่าทำยั
ไง ต้องเปลี่ยนยังไง ด้วยความที่เรารู้สึกด้อยๆในห้องนั้น เลยถามอาจายร์ว่าถ้าเราทำไม่ได้เหมือนเพื่อนเราจะน่าอายมากมั่ย อาจายร์เลยปลุกใจ ด้วยคำพูดว่า "จะอายบ้าอะไรเราคนเกิดมาไม่ได้พูดภาษาอังกฤษตั้งออกมาจากช่องคลอดไม่ต้องอายถ้าอายก็นึกเอาไว้ว่าในทะเบียนบ้านเราเป็นสัญชาติไทยแค่นั้น" โห!!! อาจายร์พูดแค่นี้คือแบบตาเป็นกายออร่าใบหน้าอาจายร์คือเด่นสง่ามาก เพราะแบบนี้ใจเราเลยเต้นผิดจังฟวะอีกครั้ง รู้ตัวเองว่าชอบอาจายร์ก็ตอนที่เห็นหน้าอาจารย์วงโยแล้วใจไม่รู้สึกเหมือนที่ผ่านๆหรือเจอหน้ากันทุกครั้ง แต่เวลาเจอหน้าอาจายร์ที่เรียนพิเศษกลับรู้สึกเหมือนตัวจะระเบิดชีพจรก็เหมือนจะเต้นเร็วขึ้นหายใจไม่ค่อยออกเลยรู้ตัวว่าตัวเองชอบเค้า ก็เรียนไปได้ประมาน3เดือนก็ออกเพราะพ่อให้ไปเรียนอีกที่คือในตัวเมืองเลยไม่ได้เรียนแต่ก็อ้อนพ่อทุกวิถีทางแต่ก็ไม่สำเร็จ แต่ในใจก็คิดถึงตลอดน่ะ พอจบม.3ก็ตัดสินไปอาชีวะทันทีตอนนั้นปวช.1ก็ปกติและก็คิดปลงๆไว้แล้วว่ายังไงก็คงไม่มีทางได้เจอกันอีกแล้ว ผิดคร้าาาาาาา!!! บอกความรู้สึกตอนเจอกัน เห้!!มากกกๆๆๆปวช.1ยังปกติแต่พอขึ้น ปวช.2 หึ!!โชคชะจาเล่นห่าเหวอะไรไม่รู้ ดั้นนนนเจอ อาจารย์ที่เรียนพิเศษโผล่มาแบบไม่ทันตั้งตัว จะมีความสุขก็ไม่ปานแต่ใจลึกๆก็รู้อยู่ว่ายังไงก็ไม่ได้ อยู่ดี!! ที่ความสุขไปกว่านั้นคือเราจะได้เจอเค้าเกือบทุกวัน เพราะมาเป็นอาจารย์สอนภาษาที่วิทลัย เอาซี้จากที่ปลงๆอยู่ก็ขึ้นทะยานเหินฟ้าดั่งคนสูดกัญไปประมาน 100 บ้อง (เปรียบทียบให้เห็นภาพเฉยๆน่ะ) หลังจากนั้นจะมีหรอที่เด็กผู้ที่มีบุญแค่แอบชอบเค้าข้างเดียวจะอยู่เฉย ไม่เฉยค่ะ ตามสอดส่องเค้าทุกฝีก้าวว่าทำอะไรเช็ควันเวลามาว่าเค้ามาตอนไฟนส่วนมากจะภาคเช้า *ส่วนมาตอนเช้านั้นแหละอาจารย์นิเนอะ*
กลับบ้านตอนไหนเช็คหมดว่าสอนตึกไหนบ้างอยู่ห้องพักครูตึกไหนมีบางครั้งน่ะค่ะคิดว่าตัวเองเป็นสต๊อกเกอร์ แล้วก็คิดว่าตัวคงจะบ้าไปแล้วมั่ย ! ค่ะยังไงเค้าก็ไม่รู้อยู่ดีว่าเราชอบเค้า แต่ทุกครั้งเจอเราก็ทักาายด้วยภาษาอังกฤษแบบพื้นๆไม่มากเพราะเราเลี่ยงประโยคยาวๆ มีวันนึงเราไปเจอเค้าอยากให้เค้าช่วยติวโทอิคให้เค้าบอกให้พรุ่งนี้เรามารอที่ตึกนี้น่ะเราก็มาเค้าก็เอาหนังสือเตรียมสอบโทอิคมาให้เราเห็นว่าาหนังสือเล่มนี้เรามีแล้วเลยปฏิเสทเค้าไปเค้าเลยบอกให้เราทบทวนคำศัพท์อะไรที่เกี่ยวโทอิคก็จำๆไปให้เยอะมีอะไรให้ช่วยก็บอกได้ แต่หลังจากวันนั้นเราไม่ค่อยได้ด้วยที่เราเรียนบ่ายส่วนเค้าก็ต้องกลับบ้านช่วงบ่ายสามกว่าๆเราเรียนถึงหนึ่งทุ่มตึกก็คนละตึกเลยเจอยากขึ้น ก็นั้นล่ะค่ะไม่ละความพยายามหรอค่ะ ก็มองเค้าตลอดเจอก็ทักก็คุยก็ได้แต่เก็บอาการเพ้อให้เฟสไปวันๆ แต่แล้วมันก็จุดที่เราแทบคลั้ง เพราะเราเอกภาษาช่วงปิดภาคเรียนที่2ทางวิทลัยมีทริปไปเที่ยวเอาความรู้ที่ประเทศมาเลยเซียเค้าก็ไปค่ะเรารู้สึกดีใจสุดๆ !! เพื่อนเกือบทั้งห้องรู้าะว่าเราชอบอาจารย์อยู่แต่ก็ช่วยอะไรมากไม่ได้เพราะเป็นอาจารย์จะทำอะไรมันก็ดูไม่ดีไม่เหมือนคนรุ่นเดียวหรือรุ่นพี่ที่ยังสามารถส่งนกต่อหรือแม่สื่อคอยชักจูงชักใยเข้าหากันได้แต่เคสนี้เพื่อนบอก "กูจะไม่ยุ่ง" เราเลยทำได้แค่ทักคุยและมอง พอตอนไปมาเลอาจารย์เค้สก็ไปอยู่กับห้องเรียนสนิทๆเราไม่ค่อยได้คุยกันเลย เรานั่งบัสอีกคันมีรุ่นพี่ปวช.3และเราที่เป็นปวช.2 มีรุ่นพี่ที่สนิทกันมากกกก เราก็เล่าให้ฟังว่าเราชอบอาจารย์คนนี้อยู่น่ะอะไรแบบนี้ รุ่นพี่คนนี้เลยบอกว่าเห้ยเอาจริงดิ้ไม่น่าเชื่อน้ำหน้าอย่างแกจะชอบรุ่นนี้ ก็หยอกล้อกันตามภาษารุ่นพี่รุ่นน้อง จุดพีคคคคอยู่ตรงที่ว่า รุ่นพี่คนนี้อยู่ๆเค้าก็เล่าให้ฟังว่าอาจารย์คนที่เราชอบตอนนี้เค้ากำลังคบกับเด็กที่เค้าสอนเป็นรุ่นเดียวกับพี่เค้า เรารู้สึกโดนอำ ก็เลยต้องเค้นออกมาถามรุ่นพี่บนรถทั้งหมดว่าจริงหรึเปล่า ที่ปวดกว่านั้นคือ เพื่อนเราคนนึงก็รู้ว่าอาจายร์คนนี้คบกับเด็กของตัวเองอยู่ เราเลยเริ่มเข้าใจว่าไม่ใช่เรื่องโกโหกตลอดเส้นทางเรากลายเป็นเหมือนติดอยู่ในภวังค์ความรู้สึกตอนนั้นมันทั้งเศร้า ทั้งเจ็บอยู่ลึกแต่ร้องไม่ออก ตอนเราแอบชอบก็มีเพื่อนที่คอยให้กำลังใจแล้วเตือนบ้างน่ะว่าอย่าเลยเค้าอายุขนาดนั้นไม่มองเด็กอย่างเราหรอ !!! เราเริ่มโกรธเริ่มที่จะเข้าสู่โหมดเฮิ้ต และคิดว่าที่เราไม่รู้เพราะเพื่อนที่รู้ก้เพราะไม่อยากให้เรานั่งเฮิ้ตแหละ และที่เราไม่รุ้ว่าเค้าสองคนคบกัน เพราะในเฟสเค้าไม่ค่อยได้ลงหรืออัพเดทอะไรบ่อยๆ ตลอดทริปที่มาเลเป็นเวลา 4 วัน เรากลับมาบ้านก็ไม่เคยมรวันไหนไม่คิดถึงเค้าหรือไม่คิดถึงเรื่องนี้เราเริ่มรู้สึกหนักขึ้นจะว่าเริ่มบ้าหรึเปล่าไม่รุ้ดิ้ แต่รู้สึกเหมือนไม่แฟร์กับเรื่องทุกอย่างเกิดขึ้นรู้สึกอยากจะเอาชนะผู้หญิงคนนั้น รู้สึกอยากทำทุกอย่าง ตลอดเวลาที่คิดก็จะมีความคิดนึงเสมอที่โผล่ขึ้นมาคือเรายอมทำอย่างให้ทึกเพียงเค้ามาเป็นของ จนตอนนี้เรารู้เหนื่อยและเริ่มที่จะหนักขึ้นเรื่อยด้วยความคิดแบบนี้คิดตลอดเวลาและรู้สึกอยากยุติความคิดความรักความชอบที่เรามีให้ต่อเค้าให้ออกไปจนหมดสิ้น ไม่รู้ต้องทำยังไงดี?
ถึงขั้นที่ว่าถ้าเราตายจิตสุดท้ายของเราถ้านคกถึงก็อาจจะได้ไปอยู่กับเค้าเราไม่อยากถลำลึกไปมากกว่านี้แล้วมันเหมือนตัวเราก็เริ่มที่จะไม่ไหวแล้วเหมือน ควรทำยังไงดี?

ปล.คำว่าอาจารย์อาจจะพิมพ์ผิดอยู่หลายตัวน่ะค่ะ *อาจายร์* = ×
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่