▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
Samsung Smartphone
เที่ยวต่างประเทศ
สถานที่ท่องเที่ยวต่างประเทศ
Samsung Galaxy S8 Plus
Samsung Galaxy S8
[SR] พาเที่ยวยุโรป ผ่าน Galaxy S8 Plus ฉบับคนธรรมดาถ่าย [เทียบ P10 Plus บางภาพ]
นานมาแล้วนะคะ ที่ไม่ได้มานั่งเล่าเรื่องยาวๆ ผ่าน Pantip ให้ฟัง จนเกือบลืมไปว่า เสน่ห์ของการนั่งเขียนไป อัพภาพไปมันอยู่ที่ไหน ...
วันนี้อุ้มอยากจะมาพาเที่ยวยุโรป ผ่าน Samsung Galaxy S8 Plus แบบฉบับคนธรรมดาถ่าย แปลว่าอย่าคาดหวังว่าจะมีภาพหรือมุมที่สวยงามเริ่ดเลอ แต่แค่ยกมาถ่าย ไม่ต้องตั้งค่าอะไร แล้วได้ประมาณนี้ ถือว่าสอบผ่านหรือไม่ เดี๋ยวค่อยๆดูกันไปค่ะ
*ขอ SR สำหรับ Samsung Galaxy S8 Plus ที่ยืมเค้ามา เพราะฉะนั้นภาพทั้งหมดจะถ่ายด้วย S8 Plus
**จะมีภาพเทียบกับ P10 Plus เล็กน้อยประปราย อันนี้ก็ CR นะคะ
***เที่ยวนี่ไปเที่ยวเอง เป็น CR แบบ 100% จ้า ไปเยอรมัน ออสเตรีย เชค ฮังการี แล้วกลับเข้าเยอรมันอีกทีนึง
พร้อมแล้วก็ออกเดินทางกันเลยค่ะ
==========================
DAY 1
ด้วยความเร่งด่วนของการจัดทริปยุโรปสนองความอยากของตัวเอง ทำให้วางแผนอะไรไม่ทันเลยสักอย่าง สุดท้ายเลยตัดสินใจไปกับทัวร์ค่ะ เตรียมตัวทำวีซ่า เอาเสื้อหนาวแพ็คเข้ากระเป๋า แลกเงิน อึดใจเดียว เราก็เดินทางเข้าประเทศเยอรมัน ที่เมืองมิวนิคเรียบร้อย ใช้เวลาเดินทางประมาณ 14 ชม. รวม Transit ด้วย ต้องบอกเลยว่าเครื่อง Qatar ที่บินมาค่อนข้างเก่า เมื่อยทีเดียวค่ะ
โชคดีที่วันแรกที่เรามาถึง (10 เมษา 60) ฟ้าค่อนข้างเปิด หลังจากรับกระเป๋าแล้ว ก็นั่งรถบัสเข้าสู่เมืองมิวนิค เราเปิดโปรแกรมด้วยการช๊อปปิ้งกันก่อน เพราะเป็นช่วง Easter พอดี กลัววันหลังๆ ร้านรวงจะปิดซะหมด วันนี้อากาศดีมากๆ ฝรั่งออกมาเดินเล่นในเมืองกันเต็มเลยค่ะ
ตัวอุ้มเองก็กลัวพลาด ปรี่ไปยืนรอ Foot Locker เปิดเลย อยากจะจัด NMD ใจจะขาด สรุปไปได้ที่ร้าน Snipes ใครจะไปถอยเหมือนอุ้ม ก็ไปดูได้นะคะ มีหลายรุ่นอยู่เหมือนกัน
ส่วน Apple Store ก็อยู่กลางเมืองเลย ไปถอยได้เลยตรงนั้นเก๋ๆ
ช่วงนี้นอกจากจะอากาศดีแล้ว พวกผลไม้อย่างสตรอเบอรี่ยังลูกใหญ่มากๆ อาจจะไม่หวานเหมือนที่ญี่ปุ่น แต่ก็ไม่แพงมากนัก ซื้อชิมกันได้ตามสบาย
จริงๆแล้วนอกจากการช๊อปปิ้งแล้ว ยังมีอาคาร สถาปัตยกรรมที่สวยงามอีกมากมาย ยกตัวอย่างเช่น จตุรัสมาเรียนพลัทซ์ ที่ตั้งของศาลาว่าการเมืองเก่าที่สวยงามมากๆอีกด้วย ตึกที่นี่ มองไปทางไหนก็น่าถ่ายภาพไปหมดจริงๆค่ะ
พาเดินชมบรรยากาศนิดนึง
หลังจากทานอาหารกลางวันเรียบร้อย เราก็เดินทางไปที่เมืองโฮเฮนชวานเกากันต่อ เพื่อไปปราสาทนอยชวานสไตน์ อีก 1 ไฮไลท์ของทริปนี้ ซึ่งวันแรกนี่เป็นธรรมดาที่จะเพลียมากถึงมากที่สุด แต่ทุกครั้งที่เราลืมตาขึ้นมา เห็นภูมิทัศน์ช่วงรอยต่อระหว่างประเทศเยอรมัน และออสเตรีย มันสวยกว่าที่คิดไว้มากๆ ส่วนตัวเคยรู้สึกว่าสวิสเซอร์แลนด์สวยแล้วนะคะ อันนี้สวยอีกแบบนึง ต้องมาเห็นด้วยตาตัวเองจริงๆน้า
เมื่อเดินทางมาถึงแล้ว รถบัสจะขึ้นไปถึงปราสาทไม่ได้ จะต้องเปลี่ยนไปนั่งรถบัสเล็กเพื่อขึ้นไปด้านบน และเดินเท้าต่ออีกเล็กน้อย จังหวะนี้เดินไม่ไกล แต่ขึ้นเขา เตรียมตัวกันให้ดีนะคะ
ถ้าใครคุ้นๆ นี่คือต้นแบบของปราสาทต้นแบบที่เราเคยเห็นใน Disneyland นั่นเองค่ะ จริงๆแล้วเป็นของพระเจ้าลุดวิกที่ 2 เสียดายด้านในไม่สามารถถ่ายภาพได้ แต่ตลอดการเดินชมปราสาทจะมี audio เสียงภาษาไทยเปิดให้ฟังตลอดเวลา ส่วนตัวประทับใจกับปราสาทนี้มากค่ะ ถ้าไม่มีจินตนาการสุดๆ ไม่สามารถสร้างออกมาได้อย่างแน่นอน มองวิวออกมาด้านนอก ก็สวยมากๆทีเดียว
จริงๆจะมีจุดชมวิวอยู่ที่สะพานด้านนอกนะคะ แต่เนื่องจากเวลาของทัวร์มีไม่มากพอ เลยอดไปถ่ายตรงนั้น TT เอาภาพรอบๆปราสาทมาฝากกันเนาะ
ขาลงจากปราสาท เดินลงมา 25 นาที !!! ลงเขามาเรื่อยๆจนถึงที่จอดรถ วันนี้เหนื่อยสุดๆ ขอจบลงที่เบียร์และขาหมูขาแรก ... แน่นอน มันยังมีอีกหลายขา 555
==========================
DAY 2
เราออกเดินทางไปกันต่อที่เมืองซาลสเบิร์ก เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับ 4 ของประเทศออสเตรีย ที่สำคัญคือ เป็นบ้านเกิด ของศิลปินเอก ของโลก โวฟกัง อมาดิอุส โมสาร์ท จริงๆเค้าให้มาถ่ายสวนมิราเบล ที่เคยเป็นสถานที่ถ่ายทำหนังเรื่อง The Sound of Music แต่ของจริงมันเล็กนิดเดียวจริงๆ ถ่ายกับต้น Cherry Blossom ที่กำลัง Full Bloom ดีกว่าเนาะ 555
ถ่ายจนพอใจ ก็เดินข้ามสะพานซาลซาคไปย่านถนนคนเดิน จริงๆเค้าให้มาถ่ายหน้าบ้านโมสาร์ท ส่วนเราก็ช๊อปต่อดีกว่า ว่าแต่ฟ้าครึ้ม ฝนตกซะแล้ว TT
บ่ายวันนี้ ต้องลุ้นตัวโก่ง ว่าการเดินทางไป Hallstatt จุดมุ่งหมายในทริปครั้งนี้ของอุ้ม จะรอดจากฝนมั้ย บอกเลยว่าครึ้มมากๆจริงๆ
Hallstatt เป็นเมืองเล็กๆ ที่เล็กๆมากๆอยู่ริมทะเลสาบ บรรยากาศสวยงาม แม้ฝนจะตกเล็กน้อย คนไทยที่ไปเที่ยวที่นั่นก็เยอะมากๆเลยทีเดียว ใครที่ไปถึงแล้วอยากจะได้ถ่ายภาพที่จุดชมวิวที่เราเห็นกันใน Postcard วิธีการคือเดินตรงเข้าไปเรื่อยๆ ให้เลยโบสถ์นะคะ เมื่อมองกลับมา จะได้วิวที่เราอยากได้ คิดว่าไปตอนเช้าในวันฝนไม่ตก จะได้บรรยากาศที่สวยงามกว่า แต่ไม่เป็นไรค่ะ ได้มาเห็นด้วยตาตัวเอง ก็คุ้มเกินคุ้มแล้ว
หลังจากถ่ายภาพกันเรียบร้อย วันนี้จะไปนอนในเมืองมรดกโลก Cesky Krumlov ในประเทศสาธารณรัฐเชค และกลายเป็นเมืองที่ชีวิตนี้ อุ้มจะต้องไปให้ได้อีก นอกจากความน่ารัก โรแมนติคแล้ว เมื่อเราเดินผ่านกำแพงเมืองเก่าเข้าไป จะเหมือนหลุดไปอยู่ในอีกโลกนึง
โดยเราจะไม่สามารถเอารถบัสเข้าไปจอดที่หน้าโรงแรมได้นะคะ ทางทัวร์ให้เตรียมเสื้อผ้า ใส่กระเป๋าเดินทางเล็กๆ มาด้วย แนะนำให้แบกเป้มา จะสะดวกกว่าลากกระเป๋าจ้า อย่างอุ้มไปอยู่โรงแรมกลางเมือง เดินไกลพอสมควร
มื้อดึกวันนี้ มาจบกันในถ้ำ 555 เป็นร้าน Local สุดๆใน Cesky Krumlov ทานปลาเทร้ากันค่ะ อร่อยแต่ก้างเยอะมากกก ก้างเล็กๆเต็มตัวไปหมดเลย ทานเบียร์ดีกว่าเนาะ
==========================
DAY 3
อาหารเช้าแบบ Breakfast เริ่มทำให้เรารู้สึกคิดถึงอาหารไทยขึ้นมาตะหงิดๆ แต่ยังทนไหวอยู่ 555 เช้านี้เราจะเดินไปชมเมือง Cesky Krumlov กันที่ปราสาทครุมลอฟ แต่ว่าไม่ได้เข้าไปในตัวปราสาทนะคะ ไปยืนถ่ายรูปอีก 1 มุมฮิตที่ริมระเบียงนั่นเอง
บ้านเรือนที่เชสกี้ จะกระจุกตัวกันอย่างสวยงาม เล็กๆน่ารัก น่ามอง ผสมกับอากาศที่หนาวเย็น ทำให้บรรยากาศน่าหลงไหลมากๆ
หลังจากนั้น เราไปกันต่อที่กรุงปราค อีก 1 จุดมุ่งหมายของใครหลายๆคน ส่วนตัวคิดว่าภูมิประเทศของสาธารณรัฐเชค อาจจะไม่ได้สวยงามเท่าประเทศอื่นๆที่ผ่านมา แต่เมื่อเข้าไปถึงในตัวเมืองต่างๆแล้ว ยังเห็นถึงความสวยงามทางประวัติศาสตร์ผ่านสิ่งก่อสร้าง และผู้คน
คืนนี้เรามาจบกันที่อาหารท้องถิ่นอีก 1 เมนูคือ เป็ดโบฮีเมี่ยน รสชาติถ้ากินกับน้ำจิ้มแจ่วที่พกไปด้วย ก็ถือว่าดีเลยทีเดียวค่ะ 555
==========================
DAY 4
ในวันที่ 4 ตามโปรแกรมทัวร์คือเราจะผ่านไปแวะกรุงบราติสลาว่า เมืองหลวงสาธรณรัฐวโลวาเกีย ซึ่งไม่ค่อยมีอะไร และนั่งรถยิงยาววว เข้าบูดาเปสต์เลย เมื่อไปถึงก็ค่ำมากแล้ว วันนี้เลยอยู่บนรถเป็นส่วนใหญ่