ช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมามีวันหยุดหลายวันเราได้เดินทางไปเนปาลมา แต่จองตั๋วการบินไทยช่วงมีโปรโมชั่นใว้ตั้งแต่ปีที่แล้ว ได้ ตั๋วไป-กลับ ราคางาม อยู่ที่ประมาณ 10,075 บาท เลยจองทิ้งใว้ก่อน พี่สาวมาตัดสินใจว่าจะไปด้วยทีหลังเลยได้ตั๋วแพงขึ้นมา อยู่ที่ราคา 15,690 ตอนแรกวางแผนว่าจะไปเทรคแถวพูนฮิลเอาแค่เบาๆก่อน แต่พอดีได้ข้อมูลว่า ที่จิตวันมีซาฟารี ขี่ช้างเข้าป่าดูแรด เลยเปลี่ยนใจทันที 5555 เพราะส่วนตัวเป็นคนชอบเที่ยวแนวเข้าป่าดูสัตว์อยู่แล้ว ทริปนี้เราเดินทางกัน 2 คนพี่น้อง เลยวางโปรแกรมดังนี้
7-8 เมษา กรุงเทพ-กาฐ- เที่ยวในกาฐมัณฑุ และ บริเวณใกล้เคียง
9 เมษา เดินทางไปจิตวัน
10 เมษา ล่องเรือ เดินป่า ขี่ช้างที่จิตวัน
11 เมษา เดินทางไปเมือง โปขระ
12 เมษา ขึ้นเขาซารังกอต เดินเล่น แถวทะเลสาปเฟวา
13 เดินทางกลับกาฐมัณฑุ พักแถวทาเมล ชอปปิ้ง
14 เดินทางกลับ กรุงเทพ
วันแรกเราเดินทางออกจากกรุงเทพ ด้วยสายการบินไทยไฟล์ตอน 10:15 ไปถึง กาฐมัณฑุ ประมาณเที่ยงกว่าๆ กว่าจะรอรับกระเป๋าที่สายพาน ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน เนื่องจากช่วงนี้นักท่องเที่ยวนักเทรคกิ้ง ปีนเขาทั้งหลาย มาเนปาลกันเยอะมาก ได้กระเป๋าแล้วก็ลากออกมาหน้าสนามบิน ซึ่งเราติดต่อรถโรงแรมให้มารอรับ ใครเคยไปเนปาลจะนึกภาพออก ตรงหน้าสนามบิน จะมีพวกเอเย่นต์ทัวร์ต่างๆมารอรับเยอะมากกกกกกกกก ทุกคนจะชูป้ายที่ มีชื่อ หรือ บริษัท เราเดินออกมามองหาคนขับรถไม่เจอเนื่องจากคนมารอรับยืนกันเยอะมาก มีความรู้สึกเหมือนเป็นดารา 5555555 จนในที่สุดก็หาคนขับรถขอเราเจอ ก่อนถึงโรงแรมคนขับถามว่าเคยกินมาม่าเนปาลรึยังพร้อมกับส่งมาม่าให้ 1 ห่อ บอกอยากให้ลองชิม หน้าตาห่อนี่มัน ใวใวชัดๆ555555 เปลี่ยนแค่ภาษาแค่นั้นเอง แต่เราก็รับมานะ อิอิ วันแรกก็เจอคนเนปาลน่ารักเลย^^ คนขับพาเราไปส่งที่โรงแรม เราพพักที่ Kathmandu Grand Hotel ซึ่งอยู่ในย่าน ทาเมล ถือว่าสะดวกสบายใช้ได้เลย ไม่ไกลจากถนนใหญ่ด้วย
เราเช็คอินเข้าห้องพักนอนเล่นพักผ่อน กินมาม่าที่คนขับรถให้ 555 กะว่ารอแดดล่มๆจะออกไป เดินเล่น บ่ายกว่าๆ เราออกมาหน้าโรงแรมหาซื้อ ซิมใส่ Pocket Wifi ที่ซื้อมาจากไทยใส่ ไปประเทศไหนก็ซื้อซิมอินเตอร์เนตประเทศนั้นใส่ได้เลยสะดวกมาก เราซื้อแบบ 3GB ราคาประมาณ 1400 รูปี แอบแพงเหมือนกันนะ รู้งี้ซื้อซิมของ AIS จากไทยไปเลยดีกว่า แต่ก็หยวนๆ จากนั้นเราก็ยืนรอหารถหน้าโรงแรมจะไป Monkey Temple กัน ลุงยามหน้าโรงแรมก็เรียกให้ ตกลงราคากัน ไป และ รอ กลับด้วย ลุงแทคซี่คิดที่ราคา 1000 รูปี พอไปถึง ลุงก็ปล่อยลงตรงทางขึ้นเจดีย์ เรากับพี่สาวก็เดินกัยขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ขั้นยังไม่ถี่มาก ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
เดินขึ้นไปเรื่อยๆ ก็งงทำไมไม่ถึงสักที มองไปไกลๆเห็นบันไดอีกเยอะและสูงมากกกกก เลยขอตัดใจดีกว่าหยุดแค่ตรงนั้น 55555
เลยตัดสินใจเดินกลับไปหาลุงแทคซี่ที่รอ เดินกลับไปไม่เจอรถลุงก็คิดว่าแกคงไปไหนเดี๋ยวคงกลับมารับ เพราะยังไม่ได้จ่ายเงินกันไป สักพักลุงวิ่งมาจากไหนไม่รู้ ถามว่าทำไมลงมาเร็ว 555 เลยบอกว่ามันสูงมากลุง ขึ้นไม่ไหว แกบอกไม่ได้ๆ มาถึงแล้วต้องขึ้น เดี่ยวจะนำทางไปเอง ลุงพาเราขับรถไปอีกทางนึง ทางเส้นนี้ไม่ชันแถมได้เห็นวิวสวยๆ ของเมืองด้วย แต่จะเจอกลุ่มลิงทะเลาะกันเป็นพักๆ 555 ต้องคอยหลบ
เดินมาถึงปากทางขึ้น เจดีย์ ตรงนี้นักท่องเที่ยว ต้องเสียค่าเข้านะคะ คนละประมาณ 250 รูปี (แต่ตรงที่ลุงไปจอดครั้งแรกถ้าขาแข็งแกร่งสามารถเดินไหวไปถึงยอดตรงนั้นไม่เสียค่าขึ้นนะคะ^^) ไหนๆก็มาละ เข้าไปด้านในก็จะมีเจดีย์ มีธงมนต์พาดผ่าน ระโยงระยาง
ลิงอยู่ตามต้นไม้ วิ่งกันไปมาบ้าง นักท่องเที่ยวก็เยอะ คนท้องถิ่นเองก็เยอะ มานั่งจีบกัน ชมวิวยามเย็น
พักแปปนะคะ ขอทำงานก่อน อิอิ
[CR] กินลมชม Nepal 8 วัน 7 คืน 3 เมือง แบบไม่มีเทรค
7-8 เมษา กรุงเทพ-กาฐ- เที่ยวในกาฐมัณฑุ และ บริเวณใกล้เคียง
9 เมษา เดินทางไปจิตวัน
10 เมษา ล่องเรือ เดินป่า ขี่ช้างที่จิตวัน
11 เมษา เดินทางไปเมือง โปขระ
12 เมษา ขึ้นเขาซารังกอต เดินเล่น แถวทะเลสาปเฟวา
13 เดินทางกลับกาฐมัณฑุ พักแถวทาเมล ชอปปิ้ง
14 เดินทางกลับ กรุงเทพ
วันแรกเราเดินทางออกจากกรุงเทพ ด้วยสายการบินไทยไฟล์ตอน 10:15 ไปถึง กาฐมัณฑุ ประมาณเที่ยงกว่าๆ กว่าจะรอรับกระเป๋าที่สายพาน ใช้เวลาเป็นชั่วโมงเหมือนกัน เนื่องจากช่วงนี้นักท่องเที่ยวนักเทรคกิ้ง ปีนเขาทั้งหลาย มาเนปาลกันเยอะมาก ได้กระเป๋าแล้วก็ลากออกมาหน้าสนามบิน ซึ่งเราติดต่อรถโรงแรมให้มารอรับ ใครเคยไปเนปาลจะนึกภาพออก ตรงหน้าสนามบิน จะมีพวกเอเย่นต์ทัวร์ต่างๆมารอรับเยอะมากกกกกกกกก ทุกคนจะชูป้ายที่ มีชื่อ หรือ บริษัท เราเดินออกมามองหาคนขับรถไม่เจอเนื่องจากคนมารอรับยืนกันเยอะมาก มีความรู้สึกเหมือนเป็นดารา 5555555 จนในที่สุดก็หาคนขับรถขอเราเจอ ก่อนถึงโรงแรมคนขับถามว่าเคยกินมาม่าเนปาลรึยังพร้อมกับส่งมาม่าให้ 1 ห่อ บอกอยากให้ลองชิม หน้าตาห่อนี่มัน ใวใวชัดๆ555555 เปลี่ยนแค่ภาษาแค่นั้นเอง แต่เราก็รับมานะ อิอิ วันแรกก็เจอคนเนปาลน่ารักเลย^^ คนขับพาเราไปส่งที่โรงแรม เราพพักที่ Kathmandu Grand Hotel ซึ่งอยู่ในย่าน ทาเมล ถือว่าสะดวกสบายใช้ได้เลย ไม่ไกลจากถนนใหญ่ด้วย
เราเช็คอินเข้าห้องพักนอนเล่นพักผ่อน กินมาม่าที่คนขับรถให้ 555 กะว่ารอแดดล่มๆจะออกไป เดินเล่น บ่ายกว่าๆ เราออกมาหน้าโรงแรมหาซื้อ ซิมใส่ Pocket Wifi ที่ซื้อมาจากไทยใส่ ไปประเทศไหนก็ซื้อซิมอินเตอร์เนตประเทศนั้นใส่ได้เลยสะดวกมาก เราซื้อแบบ 3GB ราคาประมาณ 1400 รูปี แอบแพงเหมือนกันนะ รู้งี้ซื้อซิมของ AIS จากไทยไปเลยดีกว่า แต่ก็หยวนๆ จากนั้นเราก็ยืนรอหารถหน้าโรงแรมจะไป Monkey Temple กัน ลุงยามหน้าโรงแรมก็เรียกให้ ตกลงราคากัน ไป และ รอ กลับด้วย ลุงแทคซี่คิดที่ราคา 1000 รูปี พอไปถึง ลุงก็ปล่อยลงตรงทางขึ้นเจดีย์ เรากับพี่สาวก็เดินกัยขึ้นบันไดไปเรื่อยๆ ขั้นยังไม่ถี่มาก ถ่ายรูปไปเรื่อยเปื่อย
เลยตัดสินใจเดินกลับไปหาลุงแทคซี่ที่รอ เดินกลับไปไม่เจอรถลุงก็คิดว่าแกคงไปไหนเดี๋ยวคงกลับมารับ เพราะยังไม่ได้จ่ายเงินกันไป สักพักลุงวิ่งมาจากไหนไม่รู้ ถามว่าทำไมลงมาเร็ว 555 เลยบอกว่ามันสูงมากลุง ขึ้นไม่ไหว แกบอกไม่ได้ๆ มาถึงแล้วต้องขึ้น เดี่ยวจะนำทางไปเอง ลุงพาเราขับรถไปอีกทางนึง ทางเส้นนี้ไม่ชันแถมได้เห็นวิวสวยๆ ของเมืองด้วย แต่จะเจอกลุ่มลิงทะเลาะกันเป็นพักๆ 555 ต้องคอยหลบ
พักแปปนะคะ ขอทำงานก่อน อิอิ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น