ความหวังดี ทำให้เราเดือดร้อนซะงั้น ลุกลามจนต้องเลิกกัน

สวัสดีครับ นี้เป็นกระทู้ที่สองของผมนะครับ หวังว่ากระทู้นี้จะเป็นอุทาหรให้ใครหลายๆคนที่กำลังคบหาดูใจกันอยู่ ก็ควรระมัดระวังเรื่องพวกนี้ให้ดีนะครับ

    เรื่องนี้มีอยู่ว่า ผมกับแฟนคบกันมา สองปีพอดิบพอดี โดยเริ่มจากการที่เราทำงานบริษัทเดียวกัน คุยกันไปกันมา เรารู้สึกว่า น้องเค้าค่อนข้างโอเค หรือเราแพ้ผู้หญิงขี้อ้อนก็ไม่รู้ เราอายุมากกว่าแฟน ปีครึ่ง แฟนเราเป็นลูกคนเดียวที่ถูกเลี้ยงดูแบบตามใจมาตั้งแต่เด็ก ต่างกับเราซึ่งต้องปากกัดตีนถีบเพื่อให้ได้เรียนหนังสือจนจบ จนเวลาล่วงเลยมา ทำให้มีเรื่องราวต่างๆเข้ามามากมาย ทั้งดี และ ไม่ดี แต่เราก็ผ่านมันมันด้วยกันทุกครั้ง จนครั้งนี้แหละ ผมรู้สึกว่ามันไม่ไหวจริงๆ
          เราทำงานเป็น วิศวกร มาประมาณ ปีกว่าก่อนที่เราจะคบกัน มีเงินเก็บอยู่ประมาณนึง (ผมค่อนข้างจะเป็นคนมีวินัยเรื่องการเก็บเงิน ไม่ใช้จ่ายสุรุ่ยสุร่าย ไม่ค่อยเที่ยว ไม่เจ้าชุ้ เพราะตอนเด็กที่บ้านลำบากมากถึงมากที่สุดทำให้เรารู้คุณค่าของเงิน ทั้งชีวิตเรา เรารู้สึกภูมิใจมากที่เรียนจบมาได้ ทำงานมีเงินเก็บขนาดนี้) พอเราคบกันได้ไม่ถึงปี ผมรู้สึกรักและเคารพพ่อแม่แฟนมากๆ พ่อแม่แฟนใจดีกับเราทุกอย่างจนท่านรู้สึกว่าท่านอยากฝากชีวิตลูกสาวคนเดียวของท่านไว้กับเรา ท่านจึงซื้อบ้านอีกหลังซึ่งเป็นบ้านมือ 2  เนื้อที่ค่อนข้างกว้าง ท่านพูดว่า "อยากเอาไว้ให้เราสองคนอยู่ด้วยกัน" จนทุกวันนี้ยังจำคำพูดนั้นได้ดี มันก้องอยู่ในหัวผมมาก (ผมขอบคุณจริงๆ ที่ให้โอกาสผมเข้าไปในชีวิตลูกสาวท่านทั้งสอง) เราก็เลยเอาวะ!! ไม่เคยทุ่มให้ใครขนาดนี้เลย (ลองนึกสภาพคนเพิ่งทำงานได้ปีกว่าๆหลังเรียนจบ มีเงินเก็บอยู่ก้อนนึง อยากซื้อความสะดวกสบายให้แฟน) เราก็เลยจัดเลยครับ!!! เอาเงินเก็บมาซื้อเฟอนิเจอร์ ทีวี โซฟา นู่นนี่นั่น เอามาไว้ที่บ้านใหม่ เพราะคิดแล้วว่าคนนี้แหละคนที่เราจะใช้ขีวิตด้วยไปตลอดชีวิต (แอบใจสั่นเล็กน้อย เพราะไม่เคยใช้เงินมากขนาดนี้เลย 555) หลังจากนั้นที่บ้านเรามีปัญหาเรื่องเงิน แม่เราไปสร้างหนี้สร้างสินจนแม่เราต้องโทรมายืมเงินแม่แฟน ซึ่งเรารู้สึกแย่มากๆ แม่แฟนก็ไม่ได้ให้หรอก แต่แฟนเราให้ยืมไป (แม่เราไม่ยอมบอกเราเรื่องหนี้ก้อนนี้ เพราะแม่กลัวว่าเราจะโกรธแม่) สุดท้ายเราก็เลยเอาเงินไปคืนแฟน และต่อมาก็มีเหตุการณ์แบบนี้อีกครั้งนึง คราวนี้หนักเลย หนี้ประมาณเกือบแสน ครั้งนี้เราไม่โอเคกับแม่เรามากๆ เรารุ้สึกโคตรแย่เลย คิดในใจ "ทำไมต้องมาตามใช้หนี้วะ หนี้ก็ไม่ใช่หนี้เรา แล้วเมื่อไรจะสร้างเนื้อสร้างตัวได้สักที" สุดท้ายเราก็ไปยืมเงินจากยายเรามาใช้หนี้นอกระบบให้แม่ ก็ได้แต่โทษเวรโทษกรรมของตัวเองไป เราคืนเงินที่เรายืมจากแฟนจนหมด เงินเก็บเราก็เหลือน้อยลงทุกที แต่เพื่อไม่ให้ชีวิตหยุดเดินหน้า ได้แต่ให้กำลังใจตัวเองว่า เอาวะ!!! เริ่มกันใหม่ มันคงเป็นเวรกรรมของเรา
            มาต่อกันที่เรื่องบ้านใหม่  เนื่องจากบ้านมันค่อนข้างเก่าแล้ว พ่อของแฟนเลยอยากรีโนเวทบ้านให้น่าอยู่มากขึ้น ประเด็นมันเริ่มตรงนี้ ผมก็เลยอาสาเพราะมีญาติทำงานรับเหมาอยู่แล้ว (เป็นผู้รับเหมารายย่อยเล็กๆ ซึ่งเราได้เห็นผลงานจากโซเชียลของลูกชายเค้า ว่าเค้าไปทำบ้านนู้นนี้เต็มไปหมด ด้วยความหวังดี เราจึงแนะนำใหเ้ทางครอบครัวแฟนรู้จัก สุดท้ายญาติเราก็ได้งานมาทำ อาจจะด้วยความเกรงใจชองพ่อแม่แฟน ซึ่งเราไม่มีส่วนได้ส่วนเสียกับญาติเราทั้งสิ้น ทำด้วยความหวังดีล้วนๆ) แต่ๆๆๆๆๆ ไคลแมกซ์อยู่ตรงที่งานไม่จบ ถึงขึ้นฟ้องร้องขึ้นโรงขึ้นศาลเพราะเงินก็จ่ายไปให้เกือบหมดแล้ว เรากับญาติตัดขาดกันเพราะเราคิดว่าญาติเราทำแบบนี้ไม่ถูก งาไม่จบ ทิ้งงาน ฟ้องร้องหน่ะถูกแล้ว ก็ทำร้องฟ้องร้องกันมาจะปีแล้ว พักหลังๆ เรากับแฟนทะเลาะเรื่องนี้กันบ่อยมาก และทะเลาะกันที่ก็แรง (เราไม่เขียนเอกสารค้ำประกันอะไรสำหรับญาติเราเข้ามาทำงานทั้งนั้น เพราะคิดว่าคนกันเอง) เรารู้สึกผิดกับที่บ้านแฟนมาก เพราะเราเป็นคนพาญาติเราเข้ามาทำงาน แล้วงานไม่จบ เราจึงพูดกับแฟนว่า เดี๋ยวเรารับผิดชอบ เราจะไปกูเงินแบงค์มาคืนพ่อกับแม่เธอให้นะ ไม่ต้องห่วง  จนสุดท้าย ณ วันนี้ ตอนนี้ เวลานี้  เราสองคนเลิกกันแล้ว เพราะเราทนไม่ได้ ที่มา บีบเราว่าต้องรีบหาเงินมาคืนนะ เค้าไม่รอจนฟ้องร้องจบหรอกนะ มาว่าแม่เราสารพัด เรื่องไปยืมเงิน ดูไม่ให้เกียรติแม่เราเลย เพราะแฟนเราไม่เคยรู้ว่าก่อนเราเรียนจบ แม่เราลำบากเพื่อเราขนาดไหน เงินแค่ไม่ถึงแสนทำไมเราจะเป็นหนี้แทนแม่เราไม่ได้ ไม่น่าเชื่อว่าเรื่องเงินสามารถซื้อความซื้อความรักไปจากแฟนเราได้ ( ใช้อารมคุยกันทั้งคู่)  ณ ตอนนี้05.51 ของวันที่ 18 เมษายน เรายังนอนไม่หลับเลย นั่งคิดเรื่องนี้วนเวียนตลอด แต่ก็นะโทษใครไม่ได้ (เวรกรรมอีกแล้ว) ทำใจให้สบาย แล้วสู้ต่อไป ได้แต่บอกตัวเองแค่นั้น สำหรับความรัก มันก็คงหมดไปแล้ว  ถ้าได้ใช้ชิวิตด้วยกันจริง ก็คงไม่มีความสุขหรอก คงได้แต่เฝ้ารอ "คนคนเดียวที่มาเติมเต็มในชีวิตอีกครั้ง และหวังว่าจะเป็นคนสุดท้ายจริงๆ ที่เข้าใจชีวิตเรา"



ได้ระบายก็รู้สึกดี Pantipจะกลายเป็นไดอารี่ความทรงจำของเราตลอดไป...... ขอบคุณครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่