ชมซากุระที่โตเกียว บัตรเดียวคุ้ม

สืบเนื่องมาจากเมื่อต้นเดือนเมษาที่ผ่านมา ผมได้มีโอกาสไปเที่ยวญี่ปุ่น(อีกครั้ง) ทริปครั้งนี้ เป็นทริปชมซากุระ มาญี่ปุ่นก็หลายครั้งละ แต่นี้เป็นครั้งแรก ที่ตั้งใจมาดูซากุระครับ ประหลาดใจประหลาดใจประหลาดใจ

ขออวดนิดนึงว่า ด้วยการวางแผนล่วงหน้ามาเป็นปี จองตั๋วตั้งแต่เดือนมีนาของปีก่อนหน้า (2016) เพื่อเดินทางในเดือนเมษาปีนี้ (2017) ทำให้ได้ตั๋วราคาค่อนข้างถูกครับ ไปกลับ 6700 บาท (แอร์เอเชีย) ทั้งหมด 3 คน ก็ 20100 ครับ (ไม่รวมน้ำหนัก เพราะว่าตอนแรกกะจะไปเที่ยวเฉยๆ ไม่อยากซื้อของมาฝาก และไม่อยากรับฝากซื้อของ แต่สุดท้าย ก็อดไม่ได้ครับร้องไห้  (คิดถึงประโยคนี้เลย "โทษฐานที่รู้จักกัน" สุดท้ายก็ต้องซื้อน้ำหนักเพิ่มอีก 2500 บาทครับ 555)

เนื่องจากได้ซื้อตั๋วในราคาถูก จึงพยายามคุมค่าใช้จ่ายอื่นๆให้ถูกตามไปด้วย ได้ห้องพักจาก airbnb ในราคา 9000 บาทครับ (3 คน 5 คืน) เฉลี่ยแล้ว 600 บาท/คน/1 คืนครับ ถือว่าโอเค ห้องพักมีเตียงนอนขนาดใหญ่ 1 เตียง(นอนสองคน) ขนาดเล็ก 1 เตียง(นอน 1 คน) มีห้องน้ำ ห้องอาบน้ำแยกกัน มีอ่างแช่น้ำร้อนขนาดเล็กให้ด้วยครับ คือต้องนั่งงอเข่า ถึงจะแช่ได้ทั้งตัว 555 โดยรวมๆถือว่าคุ้มค่าครับ เพราะมีตู้เย็น ไมโครเวฟ เครื่องใช้ไฟฟ้าต่างๆครบครัน สามารถทำอาหารกินได้เลยครับ(อุปกรณ์ครัวครบทุกอย่าง) เสียดายไม่ได้ถ่ายรูปห้องพักมาครับ

ทีนี้จะเข้าประเด็นหลักของกระทู้นะครับ 555 (เวิ่นเว้อมาซะนาน) คือแฟนผมที่ไปด้วยกัน เค้าวางแพลนว่าจะไปดูซากุระหลายที่มากๆ มีทั้งในโตเกียว และนอกโตเกียว ตอนแรกก็วางแพลนว่าจะซื้อเป็น JR-PASS แต่ราคามันแพง(มาก)เลยไม่เอา ก็เลยช่วยๆกันหาข้อมูล ก็มาเจอบัตรนี้ครับ แท่น แทน แท๊นนนน มันคือบัตร tokyo subway ครับผม มีให้เลือก 3 แบบ 1วัน 800 เยน, 2 วัน 1200 เยน, 3 วัน 1500 เยน นับเป็นชั่วโมงเลยครับ สมมติเราซื้อบัตร 1 วัน(24 ชั่วโมง) เราใช้วันนี้ตอน 13.00 น. บัตรก็จะหมดอายุวันพรุ่งนี้ 13.00 น. ครับ โดยวันหมดอายุจะแจ้งเตือนที่ด้านหลังบัตร ดังรูปครับ  บัตรประเภทนี้ จะใช้ได้กับรถไฟสายโตเกียวเมโทรทั้งหมดเลยครับ ซึ่งการจะใช้บัตรใบนี้ ผมแนะนำว่าควรมีแอพนี้ประกอบการใช้งานครับ จะดีมากๆ (อันนี้แนะนำว่าควรไปเที่ยวโดยมีสัญญาณอินเตอร์เน็ตนะครับ จะเป็น pocket-wifi หรือจะซื้อซิมไปก็แล้วแต่สะดวกครับ ที่ต้องใช้เน็ตเพราะว่าเวลาเดินหาร้านอาหารที่อยากกิน หรือสถานที่ที่อยากไป อาจจะต้องเปิด google map กับ foursquare ช่วยครับ) จะขออธิบายการใช้แอพนี้คร่าวๆนะครับ
- เมื่อเปิดแอพนี้เข้ามา เราจะเห็นเส้นทางรถไฟทั้งหมดที่เราสามารถเดินทางได้(กี่เที่ยวก็ได้ครับ ภายในระยะเวลาที่กำหนด) ช่องบนสุด จะเป็นสถานีต้นทางที่เราอยู่ ช่องด้านล่าง จะเป็นสถานีปลายทางที่เราจะไปครับ (ถ้าเราไม่แน่ใจว่าเราอยู่ต้นทางที่สถานีไหน กดปุ่ม location ด้านล่างขวาเลยครับ มันจะบอกสถานีที่เราอยู่ใกล้ๆ (ถ้าต้องเดินไปสถานีต้นทางที่ใกล้ๆ และกลัวหลงทาง เปิด google map เลยครับ พิมพ์สถานีต้นทาง มันจะบอกเส้นทางเดินให้เราครับ) ดูรูปประกอบนะครับ พอเรากด search มันก็จะขึ้นตารางการเดินทางดังนี้ครับ สำหรับการเดินทางตามตาราง เราต้องดูแผนที่ในสถานีรถไฟด้วยนะครับ ว่าสายสีแดงเดินไปทางไหน พอเจอชานชาลา ก็ต้องเลือกให้ถูกฝั่งด้วยครับ เช่น ถ้าเราอยู่ M16 และเราจะไป M5 เราต้องเลือกฝั่งที่ไปทาง M1 ครับ (ที่ชานชาลาจะมีบอก) และเวลาเดินทาง ในรถโดยสารก็จะมีจอภาพบอกสถานีที่กำลังจะถึงครับ เพราะฉะนั้นน่าจะเข้าใจง่ายอยู่ครับ.
- ที่มุมด้านล่างซ้าย จะมีสถานที่ท่องเที่ยวแนะนำนะครับ ลองกดดู มันจะบอกสถานีที่เราต้องไปครับ ในรูปประกอบ ผมจะไปที่ Koishikawa Korakuen Gardens นะครับ พอไปถึงสถานีปลายทาง เราก็ใช้เจ้า google map เพื่อบอกเส้นทางเราอีกทีครับ ส่วนสถานที่ไหนน่าไป อันนี้ต้องพิจารณาเองครับ เพราะความชอบแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่เราสามารถเอาสถานที่ที่ปรากฎในแอพ ไปเซิร์ซดูจาก กูเกิล โฟร์สแควร์ เพื่อประกอบการตัดสินใจครับ ผมพักอยู่แถวอิเคบุคุโระ ใช้แอพนี้บวกกับโฟร์สแควร์ ทำให้เจอสวนสาธารณะที่มีแมวจรอยู่หลายตัวเลยครับ ฟินนน (ทาสแมว) ไหนๆก็พูดถึงเรื่องแมวละ อวดแมวจรที่ญี่ปุ่นสักหน่อย. หัวเราะ

อ่อ ลืมบอกชื่อบัตรเลยครับ แหะๆ บัตรชื่อ tokyo metro pass ครับ สามารถหาซื้อได้ที่สนามบินครับ หรือตามสถานีใหญ่ๆ ร้าน bic camera (ผมซื้อจากร้าน bic camera สถานีอิเคบุคุโระครับ) ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้จากเว็บนี้ครับ http://www.tokyometro.jp/th/ticket/value/airport_bus/index.html
และเนื่องจากบัตรนี้เค้ามีไว้ให้เฉพาะนักท่องเที่ยวต่างชาติใช้เท่านั้น เวลาซื้อ จึงต้องแสดงพาสปอร์ตของคนซื้อ(ทุกคน)ด้วยครับ

โอเค จบเรื่องบัตรแล้ว ก็จะขอแนะนำสถานที่กิน ที่เที่ยว ที่ผมประทับใจจากการไปเที่ยวครั้งนี้ครับ (ขออวดนิดนึง 555)

โดยส่วนตัวชอบกินปลาดิบและซูชิครับ ทริปนี้เลยเน้นพวกนี้เป็นพิเศษ ก็เจอทั้งอร่อยและไม่อร่อยครับ โชคร้ายมากๆ ร้องไห้ร้องไห้ร้องไห้ วิธีป้องกันไม่ให้เจอร้านไม่อร่อย คือแอพตัวนี้เลยครับ foursquare เซิร์จซื่อร้าน หรือดูจากร้านอาหารละแวกที่เราอยู่ เปรียบเทียบรูปในแอพกะรูปร้าน ว่าเหมือนกันมั้ย จากนั้น ดูคะแนนรีวิวครับ ถ้าเกิน 7.5 ถือว่าอร่อยใช้ได้ แต่ถ้าต่ำกว่านั้นไม่โอเค (ผมเจอร้านที่มีคะแนนรีวิว 7.1 ตอนแรกคิดว่าคงพอได้แหละ เพราะร้านที่คะแนนเยอะๆ คนต่อคิวเยอะมากกกกก ที่ไหนได้ พอกินซูซิคำแรก แทบอยากเดินออกจากร้านเลยครับ ทั้งคาว ทั้งไม่อร่อย (อยากร้องไห้)
แต่ร้านที่ประทับใจก็มีครับ ตามนี้เลย (ไม่มีรูปประกอบนะครับ อร่อยจนลืมถ่ายรูป 555)
- ซูชิ 100 เยน จำชื่อร้านไม่ได้ครับ แต่จำที่ตั้งได้ อยู่ที่ตึก round1 (ชั้น B2) สถานี ikebukuro ครับ เป็นซูชิสายพาน แต่มันจะทำตามออเดอร์เราครับ กดสั่งซูชิจากหน้าจอไอแพดของที่ร้าน ก็จะมีรถไฟวิ่งมาส่งที่โต๊ะ สนุกดีครับ
- ซูชิ 100 เยน ที่สถานี ชิบุย่า ชื่อร้าน  Uobei Sushi ออกจากสถานี เปิด foursquare เลยครับ แล้วมันจะพาเราไป ร้านนี้เป็นสายพานเหมือนร้านแรกเลยครับ อร่อยคนละแบบ แต่อร่อยมากๆ ทั้งคู่ครับ

ส่วนซากุระที่ไปเจอมา เสียดายนิดนึงครับ ที่มันยังไม่บานเต็มที่ (ถ้าไปช้ากว่านี้สัก 4-5 วัน จะสวยกว่านี้เยอะครับ) แต่ก็ถ่ายมาหลายรูปมาเยอะครับ ที่จำสถานที่ไม่ได้ก็มี เพราะบางทีก็เดินมั่วๆแล้วไปเจอครับ ที่นี่เค้าปลูกซากุระทั่วบ้านทั่วเมืองเลย

สวนอูเอโนะ (ueno park) แม่น้ำเมงูโระ (Meguro River)[/img] สุสานอาโอยาม่า(Aoyama Cemetery)[/img]
ขอปิดท้ายด้วยรูปตัวผมเองครับ แฟนถ่ายให้ กำลังยืนถ่ายต้นซากุระเลยจุ๊บๆจุ๊บๆจุ๊บๆ (จริงๆแล้วยังมีรูปอีกเยอะเลยครับ แต่ขี้เกียจลงละ 555) ถ้ามีอะไรสงสัย หรืออยากสอบถามอะไรเพิ่มเติม คอมเมนต์มาถาม หรือจะหลังไมค์มาก็ได้ครับ เท่เท่

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่