[CR] 15 เรื่องที่ลูกควรคำนึง เมื่อพาพ่อแม่เที่ยวยุโรป

พาพ่อแม่ไปเที่ยวยุโรปซักครั้ง คือความฝันในชีวิตเรา เวลาเดินทางคนเดียว ไปเห็นที่สวยๆ ก็อยากพาเค้ามาด้วย ก่อนนั้นทำได้แค่ส่ง Postcard กลับมาแล้วบอกว่า เดี่ยววันหลังพามานะ

ครั้งนี้มีโอกาส พามาทั้งครอบครัว กับทริป 14 วันใน Europe พ่อแม่ตื่นเต้นมาก เตรียมตัวกันยกใหญ่ กว่าจะผ่านกระบวนการซื้อตั๋ว ขอวีซ่ามาได้ ก็วุ่นวายพอสมควร



แต่ๆ นั่นยังไม่ใช่ทั้งหมดที่เราควรคำนึงเวลาพาพ่อแม่มาเที่ยวค่ะ เจี๊ยบรวบรวมเอาไว้บางส่วน ที่เราประสบกันมาเองในครอบครัวเรา ซึ่งพ่อแม่รีวิวทุกข้อแล้วบอกว่า ใช่เลย!!!

เลยเอามาฝากกัน เผื่อบ้านไหนที่กำลังจะเดินทาง สามารถเอาไปปรับใช้ได้ค่ะ

ปล. ทุกข้อที่เขียนมาเป็นข้อจำกัดส่วนบุคคลและของครอบครัวเรา หลายท่านหรือครอบครัวอื่นอาจจะเคยเจอ หรือไม่เคยเป็นแบบนี้ก็ได้ค่ะ


1. ตั๋วเครื่องบิน

การนั่งเครื่องบินไกล เป็นเรื่องที่ทรมานแม้กับหนุ่มสาว ดังนั้นสำหรับพ่อแม่แล้วจะเหนื่อยมาก

ถ้าเป็นไปได้ ให้บินตรงให้ถึงจุดหมายปลายทาง ไม่ต้องแวะพักเปลี่ยนเครื่องที่ไหนเลยจะดี (ทั้งนี้ขึ้นกับเมืองที่จะไปด้วยนะคะ)

พอมาถึงที่หมายแล้ว ให้เวลาพ่อแม่ได้พักผ่อนให้สบาย ก็จะดีกว่า ยังไม่ต้องเที่ยวแบบเต็มกำลัง เพราะจะทำให้วันหลังๆไม่มีแรงเที่ยวแล้ว

Update: หลายท่านที่อ่านแล้ว มีแนะนำเข้ามาว่า พ่อแม่บางท่านชอบเปลี่ยนเครื่องมากกว่า เพราะอย่างน้อยได้ออกไปยืดเส้นยืดสาย เดินเล่นข้างนอกเครื่องบินบ้าง อันนี้ก็เป็นอีกประสบการณ์และความสะดวก ลองเลือกวิธีที่พ่อแม่เราสะดวกใจและสะดวกกายนะคะ


2. ที่พัก/โรงแรม

ควรจองใกล้สถานีรถไฟ หรือที่สามารถไปถึงได้โดยสะดวก เพราะต้องลากกระเป๋าเดินฝ่าฝูงชน หรือลากกระเป๋าหนักๆไปจนถึงโรงแรม พ่อแม่อาจจะไม่ไหว

เพิ่มเติมคือเรื่องลิฟท์ ตึกที่ยุโรปหลายตึกไม่มีลิฟท์ เคยได้ห้องที่พักอยู้ชั้น 5 แล้วไม่มีลิฟท์ ตอนนั้นกระเป๋าหนักมาก แบกคนเดียว แทบอยากจะเตะกระเป๋าลงมาด้านล่าง แล้วนอนมันชุดเดียวนั่นแหละ คือเหนื่อยมากกกก

รอบนี้โรงแรมมีลิฟท์ แต่ แต่ แต่!!!!

ลิฟท์เก่าและน่ากลัวมาก จนพ่อกับแม่ถึงกับบอกว่า ขอเดินขึ้นลงดีกว่า โชคดีที่ห้องพักอยู่ชั้น 3 เดินไหวอยู่


3. การเดินทาง
การเดินทางระหว่างเมือง เราใช้บริการรถไฟยุโรปซึ่งค่อนข้างสะดวกมากๆ ทริปนี้เราใช้บริการกันตลอดค่ะ

แต่ถ้าภายในเมืองไปยังสถานที่ต่างๆ พาขึ้นรถบัสหรือรถไฟใต้ดินก็ไม่ลำบากนัก สำหรับคนที่มีงบประมาณมากหน่อย ก็ใช้บริการแท็กซี่จะสะดวกมากขึ้น ยอมจ่ายแพงขึ้นหน่อยเพื่อความสบาย บางทีประหยัดมากไป อาจจะหมดสนุกได้ใน

หรือบ้านไหนที่สะดวกขับรถเที่ยว ก็สามารถเช่ารถขับได้ แต่ต้องดูแลเรื่องที่จอดรถเพิ่มขึ้นมาด้วย

บ้านเราไม่สะดวกขับรถเที่ยวเลยใช้รถไฟแทน ถึงแม้ว่าจะทำใบขับขี่สากลสำรองไว้แล้วเผื่อฉุกเฉินก็ตาม


4. ลิฟท์/บันได/บันไดเลื่อน
สถานีรถไฟใต้ดินบางแห่ง หาบันไดเลื่อนยากมาก ส่วนลิฟท์ก็คนแน่น ต้องเผื่อเวลา ถ้ารีบร้อนก็จำเป็นต้องเดินขึ้นลงบันได ดังนั้น การถือของหนักมากจะลำบาก

สถานที่ท่องเที่ยวส่วนใหญ่ต้องเดิน บางที่ต้องปีนบันไดหลายขั้น อาจจะท้อก่อนได้ชมสิ่งสวยงาม

ปล.รูปนี้คือบันไดทางขึ้นโบสถ์ Sacre Coeur ถ้าเหนื่อยไม่ต้องเดินขึ้นมานะคะ สามารถซื้อตั๋วรถรางขึ้นมาด้านบนได้ สนนราคาถ้าจำไม่ผิด 1.90 ยูโรค่ะ แต่ถ้าซื้อตั๋วรถไฟใต้ดินแบบBooklet 10 ใบ จะราคาใบละ 1.45 ยูโร เอามาใช้ได้เลย


5. สภาพร่างกาย
การเดิน เป็นการออกกำลังกายที่ทำให้แข็งแรง แต่การเดินเยอะๆอาจมีบ่นได้ เพราะพ่อกับแม่จะเมื่อยมาก

ดังนั้นควรหาที่พักตามทางไปเรื่อยๆ แบบเดินกิโลนึงพักทีนึง นวดไปทีนึงหรือจะแวะจิบชาจิบกาแฟ เข้าห้องน้ำ แล้วค่อยออกมาเดินต่อ

พ่อแม่เจี๊ยบพกยาแก้ปวด สเปรย์ฉีดขา ผ้าพันขามาด้วย ใช้ตลอดทริป เดินทั้งวันตกเย็นกลับมานอนแช่น้ำอุ่นคลายกล้ามเนื้อ นวดผ่อนคลาย เตรียมพร้อมเพื่อวันพรุ่งนี้


6. ถ่ายภาพ
พ่อกับแม่ ทุกวันนี้อยู่ในโลก social อยากถ่ายรูป upลงfacebook ส่งไลน์ไปให้เพื่อนฝูงดู ดังนั้นเมื่อพาเค้าแวะถ่ายรูปเยอะๆหน่อย จะเป็นปลื้ม (โดยเฉพาะช่วงที่เดินลากกระเป๋าผ่านจุดต่างๆ พ่อแม่อาจจะอยากได้รูปมีโมเม้นต์นั้นด้วย)

จะซื้อซิมใหม่มาใช้ที่ต่างประเทศ จะเปิด roaming internet มา หรือจะใช้ซิมของประเทศนั้นเลยก็จะได้ สามารถ connect กับโลกกว้างได้ตลอดเวลาที่นั่งรอ พ่อแม่ก็เล่นเพลินไป


7. เก็บ landmark

ถ้ามีเวลาน้อย รีบไปเก็บlandmark นี่เหมาะสำหรับหนุ่มสาว สำหรับพ่อแม่ต้องคิดนิดนึง พ่อกับแม่เดินค่อนข้างช้า ต้องวางแผนเวลาเผื่อไว้เลย จะจ้ำอ้าวรีบๆไม่ได้แน่ๆยกเว้นมาอยู่เมืองเดียวหลายวัน

อย่างเช่น Paris 3 วันนี่ ก็ต้องวางแผนจะเข้าพิพิธภัณฑ์ไหม ยืนรอคิวไหวไหม เดินชมข้างในที่ใหญ่มากๆไหวไหม

ระหว่างจุดนึงไปจุดนึงจะไปยังไง เดินหรือนั่งใต้ดิน ถ้าไม่เก็บlandmark ให้ครบ ควรไปดูอะไรบ้าง

หลักๆให้สะดวก ไม่เมื่อย มีที่นั่งพักให้เค้าระหว่างทาง


8. เวลาอาหาร และอาหารการกิน

ส่วนใหญ่ถ้าเราไม่หิว เราก็ไม่กิน แต่พ่อกับแม่เค้ามีมื้ออาหารเป็นเวลา ต้องคำนวนเผื่อไว้เลย ถ้ากินไม่ทันเที่ยง ต้องติดขนมนมเนยไว้รองท้อง

ที่ฝรั่งเศสเค้ากินข้าวช้ากว่าบ้านเรา ยิ่งอาหารเย็นยิ่งแล้วใหญ่ หลายครั้งกว่าจะได้กินหรือกว่าจะกินเสร็จ มีก็หาวแล้วหาวอีก แทบหลับคาโต๊ะ

ส่วนรสชาติอาหาร พ่อกับแม่อาจจะติดรสอาหารไทย รสชาติแซ่บๆ ที่นี้เวลามายุโรปกินแต่สเต็ก อาหารประจำท้องถิ่น  ชีส พาสต้า พิซซ่า แทบทุกวันก็เอือมเหมือนกัน

แนะนำให้เอาเครื่องปรุงอาหารไทยมาเผื่อด้วย ถ้าที่พักที่มีครัว ก็ทำกินกันเองได้ อร่อย ถูกปาก และอยู่ท้องกว่ากินอาหารในร้านเยอะ(อันนี้แม่คอนเฟิร์มมา โดยไม่มีปัจจัยเรื่องความถูกแพงมาเป็นตัวติดสิน เอารสชาติถูกปากล้วนๆ)


9. เวลานอน

หลายครั้งเรากลัวพ่อแม่เที่ยวไม่ครบ ไม่ได้เห็นอะไร ลืมไปว่าเค้าเหนื่อยมาก อยากพัก อยากงีบ เพราะอาจจะปรับเวลาไม่ทัน

ต้องบรีฟตารางเที่ยวและความสมัครใจไว้ก่อน จะเข้านอนประมาณไหน เหนื่อยไหม ไปต่อไหวไหม

เอาไว้ส่งพ่อแม่เข้าโรงแรมแล้ว เราค่อยออกมาเก็บตกก็ได้


10. กลัวหลง

เนื่องจากเค้าไม่รู้ภาษา ถ้าเกิดการพลัดหลงจะเกิดปัญหาใหญ่ได้ ดังนั้นบรีฟการเดินทางไว้ก่อน สอนการขึ้นลงรถไฟ พยายามให้เกาะกลุ่ม ถ้าหลงให้รอที่เดิม

ถ้าขึ้นรถไฟไม่ทัน ประตูปิดก่อน คนที่ขึ้นไปแล้วให้รอสถานีถัดไป คนที่ขึ้นใหม่ไปเจอกันข้างหน้า เป็นต้น นัดแนะสถานการณ์ฉุกเฉินกันให้ดี

update: เพื่อนสมาชิกพันทิปแนะนำมาว่า ให้พ่อแม่พกนามบัตรที่มีเบอร์โทรติดต่อได้ด้วย สมมติหลงทางก็โทรหา หรือให้คนแถวนั้นบอกทางให้เจอลูก ไอเดียนี้ดีนะ จะเพิ่มประโยคภาษาอังกฤษง่ายๆเข้าไปด้วยก็ได้ เผื่อพ่อกับแม่อ่าน หรือถ้าอ่านไม่ได้ก็ยื่นให้ดูเลย คนที่ช่วยเหลือคงพูดอังกฤษได้มากกว่าแน่ๆ


11. ไม่รู้ภาษา

พ่อกับแม่ไม่รู้ภาษาเลย ก็เที่ยวได้ แต่ต้องอาศัยผู้นำทางแบบเรา ทุกสิ่งที่นี่ดูจะเป็นเรื่องใหม่ทั้งหมดสำหรับเค้า เราก็ต้องทำให้ดู หรืออธิบายกันไป ให้คิดว่าว่ามาทัศนศึกษา ควรมีการบรรยายแบบละเอียด การใช้รถไฟ การซื้อตั๋ว การใช้ห้องน้ำสาธารณะ การเดินถนน ระวังเลนจักรยาน เป็นต้น

บางทีเป็นเรื่องเล็กๆ เราอาจจะคิดว่าเดี๋ยวลูกทำให้ก็ได้ แต่ถ้าเล่าหรืออธิบายให้เค้าฟัง พ่อแม่ก็จะรู้ไปด้วย


12. เครื่องกันหนาว

อากาศแต่ละที่ แต่ละปี เปลี่ยนแปลงบ่อยมาก เราไม่สามารถถามใครได้ว่าวันนี้อากาศดีไหม เอาเสื้อผ้าแบบไหนไปดี

ทางทีดี ถ้ามาหน้าหนาวต้องเตรียมมาให้พร้อม เอาเครื่องกันหนาวใส่ติดกระเป๋ามาดีกว่า เพราะแต่ละคนทนความหนาวได้ไม่เหมือนกัน ถ้าเดินเที่ยวแบบหนาวๆมันก็ไม่สนุก ทรมานคนแก่ไปอี๊ก

รอบนี้เรามาช่วงใบไม้ผลิ(Spring) พยากรณ์อากาศจากบ้านเราคิดว่าไม่น่าจะหนาวมาก แต่เอามาเผื่อไว้ แล้วก็ได้ใช้

แต่อย่างที่บอก บางวันมันหนาว ลมแรงมาก บางวันก็ร้อนตับแตกทีเดียว

อากาศเอาแน่เอานอนไม่ได้จริงๆค่ะ


13. พ่อแม่มีความเสียดายตังค์สูง

ที่ยุโรป ค่าใช้จ่ายสูงกว่าบ้านเรา อาหารที่ร้านอาหารมื้อนึงก็ตกคนละ20 ยูโรขึ้นไปแล้ว

เวลาออกมากินหรือซื้อของ พ่อแม่เค้าจะไม่อยากซื้อ เพราะพอคิดเป็นเงินบาท ก็ช็อค ไม่กล้ากิน ไม่กล้าหยิบ ไม่จับอะไรเลย

ทางที่ดีลูกๆ สั่งแาหารหรือซื้อมาให้เลยลองดีกว่า หรือไม่งั้นก็บอกไป "ไม่ต้องเสียดายตังค์ นานๆมาที เอาให้คุ้ม ลองให้สุด"


14. Pocket money

เคยพาแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วไม่ได้ให้ตังค์ไว้ส่วนตัว ทีนี้พอจะไปเดินตามร้าน Donkey ร้านขายของน่ารักๆ แม่อยากซื้อแต่เค้าไม่มีตังค์ ตอนนั้นนึกเลยว่า รอบไหนพาพ่อกับแม่ไปเที่ยวจะให้พ็อคเกตมันนี่พ่อกับแม่ติดตัวไว้บ้าง เวลาเค้าอยากได้อะไร เค้าก็ซื้อได้ทันที ไม่ต้องรอขอเงินจากลูกๆ เช่น อยากได้ของฝาก หรือ postcard ซักใบก็จ่ายเองได้เลย แต่แค่คอยดูเรื่องเก็บตังค์ให้ปลอดภัยจากโจรเท่านั้น


15. อื่นๆ

- น้ำดื่มจากก๊อกนี่ไม่ถนัดอย่างแรง ไม่ชิน เพราะรู้สึกว่ากินไม่ได้ เอาไว้ล้างหน้าแปรงฟันอย่างเดียว พ่อบอกว่าน้ำมันมีกลิ่นมีรสชาติประหลาด ดังนั้นเราอาจจะต้องซื้อน้ำขวดเผื่อไว้ ซึ่งมันก็ไม่ได้แพงมาก ราคาน้ำเปล่าหลากหลายยี่ห้อหรือแม้แต่น้ำแร่อย่าง Evian ขวดใหญ่ที่ซื้อใน super market ยังแค่ 0.65 ยูโรเท่านั้นเอง

- ร้านอาหารไม่มีช้อน ปกติเค้าใช้มีดกับส้อมกินข้าว  คราวนี้พ่อแม่ไม่ชิน เค้าก็รู้สึกกินลำบาก ขอช้อนมาเผื่อไว้ให้กินอาหารด้วย หรือจะซื้อช้อนพลาสติกติดกระเป๋าไว้ก็ได้ค่ะ (อันหลังนี่สมาชิกพันทิปแนะนำมาอีกเช่นกัน)

- ห้องน้ำ เป็นอีกเรื่องที่สำคัญมาก เพราะมันไม่ได้มีให้เข้าตลอดเวลาที่เราต้องการ ทานข้าวเสร็จให้เข้าห้องน้ำที่ร้านอาหารก่อนเลย ถ้าเจอสถานีรถไฟก็เข้าได้ เสียตังค์ไม่เกิน 1 ยูโรแล้วแต่สถานที่ ยกเว้นที่Swiss นี่เจอราคาเข้าห้องน้ำ 2 ฟรังค์ แพงมากกกกก ส่วนห้องน้ำสาธารณะก็มีค่ะ แต่เราต้องcheck location ให้ดี

ห้องน้ำสาธารณะความสะอาดพอประมาณ บางแหล่งท่องเที่ยวคนต่อคิวเยอะ บางที่ท่องเที่ยวห้องน้ำน้อย ส้วมเต็มแล้วเต็มอีกก็มี เคยเจอที่แย่ๆเลยตอนไป Chamonix ปวดฉี่มากแต่ส้วมเต็ม สภาพไม่ต่างจากส้วมจีน เข้าไม่ได้จริงๆ ต้องกลั้นไว้แล้ววิ่งไปร้านอาหารแทน สมมติเป็นพ่อกับแม่ ท่าทางจะกลั้นไม่ไหว

เอาเป็นว่าใช้concept ถ้าเจอเมื่อไหร่ เข้าตุนไว้ก่อนเลยดีกว่าค่ะ ดีที่สุดแล้ว