สวัสดีครับชาวพันทิปทุกๆคน วันนี้ผมก็มีเรื่องราวอยากจะมาแชร์ประสบการณ์และอยากทราบข้อคิดเห็นของแต่ละคน ( ใครมีประสบการณ์แนวนี้ก็มาแลกเปลี่ยนได้นะ ฮ่าๆๆ )
...ต้องบอกก่อนนะครับว่านี่เป็นกระทู้แรกเลยจริงๆที่ได้มาพิมพ์เรื่องราวช้ำๆของตัวเอง แต่คือแบบผมไม่รู้ว่าจะระบายกับใครแล้ว
ต้องมาอาศัยระบายให้กับคนที่เราไม่รู้จักหน้าค่าตากันนี่แหล่ะ ( ไม่อยากเอาเรื่องราวพวกนี้ไปรบกวนพ่อกับแแม่ครับ ไม่อยากให้ท่านต้องมาเครียดกับเรา )
เอาล่ะครับ ขอเริ่มเรื่องเลยนะ ^^
เรื่องนี้มันคือเรื่องราวของผมกับผู้หญิงคนนึงที่ตอนนี้เป็นอดีตแฟน ( ขอไม่ใช้คำว่าแฟนเก่าครับ เพราะปัจจุบันไม่มีแฟนเลยไม่มีเก่าหรือปัจจุบัน ฮ่าๆๆ )
แต่ทีนี้กลัวจะช้ำใจตัวผมเองไม่พอ ต้องขอเกริ่นไปถึงรักแรกคนอื่นๆเลยแล้วกัน... ( แต่ขอแค่สรุปๆล่ะกัน เพราะประเด็นหลักคืออดีตแฟนคนล่าสุดนี่ )
part 1 : เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยผมอายุราวๆ 9 ขวบล่ะมั้งครับ ที่บังเอิญผมได้ไปตกหลุมรักเด็กหญิงคนนึง และพยายามเข้าหาเธอตามสไตล์เด็กน้อยใสๆสมัยนั้น (?)
...พิมพ์มาขนาดนี้บางคนคงนึกว่า " แล้วไง? ก็คงแค่ชอบตามประสาเด็กๆ "
จะบอกว่าไม่ใช่แบบที่หลายๆคนคิดเลยครับ เพราะผมดันแอบรักเธอคนนั้นมาถึง... " 9 ปีเต็มๆ !! "
และที่มันช้ำที่สุดคือตอนที่ตัดสินใจจะบอกชอบเธอและขอคบกันในวันสุดท้ายก่อนจะจบ ม.6 ผมดันมารู้ว่า... เธอมีใจให้คนอื่นอยู่แล้ว
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก %%$&%@&*^@^#^#(_(%^
^
^
^
นั่นคือเสียงตะโกนเงียบๆอยู่ภายในผมครับ ฮ่าๆๆๆ
และนั่นคือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของตัวผมเลยครับ ซึ่งต้องย้อนไปขอบคุณเขานะที่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองจนดูดีขึ้นมาได้ในระดับนึง (?) ฮ่าๆๆๆ
part 2 : พอเข้าสู่วัยมหาลัย ช่วงนั้นผมเปลี่ยนจากหลังเท้ามาหน้ามือเลยครับ เลยทำให้มีความนิยมในกลุ่มสาวๆทั้งแท้และเทียมพอสมควร ( หน้าตาไม่ได้ดีครับ แค่พอไปวัดไปวาได้แล้วคนไม่ทักว่าผี ^^ ) แต่ด้วยความฝังใจกับเหตุการณ์สมัยเด็กๆมันเลยทำให้ผมไม่กล้าที่จะชอบหรือรักใครเลยน่ะนะ
จนมาช่วงนึงที่ผมกำลังจะไปฝึกงานเพื่อเตรียมเรียนจบ และหลายๆคนเริ่มรู้จักผมผ่านโลกโซเชียลในรูปแบบแรงบันดาลใจให้หลายๆคน ( รู้จักกันเยอะในบางกลุ่มครับ )
ผมก็ได้พบเจอกับผู้หญิงในวัยใกล้กันอีก 1 คน ซึ่งผมรู้สึกชอบเลยครับแม้เธอจะไม่ได้สวยหรือน่ารักอะไรมาก ( เธอมาติดตามและคอยสอบถามเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพน่ะครับ ) ผมก็เลยเอาวะลองจีบดูซักตั้ง ผมก็เลยนัดเจอไรงี้เลยครับ ลุยเต็มเหนี่ยวเลย พาหาอะไรกิน พาไปเดินเที่ยวเล่น ชวนคุยตลอดเท่าที่มีเวลาได้ ไปหาที่มหาลัยตลอดที่ว่าง ( ตอนนั้นผมติดงานในมหาลัยและติดแข่งให้กับมหาลัยก่อนจะเริ่มฝึกงานน่ะครับ ) สรรหาของดีๆไปให้ เวลาเธออ้อนอยากกินอะไร ...อ่ะทำให้ , เวลานางทำงานหนักๆผิวเสีย อ้อนไปคลินิค ...อ่ะพาไป ออกให้
จนกระทั่งวันนึงผมตัดสินใจขอคบเป็นแฟนกับเธอแบบเป็นทางการ กลับได้รับคำตอบมาว่า " ไม่อ่ะ เธอมาๆหายๆ "
...ช็อคสิครับ ช็อคไปแปบนึง แต่ก็คือเข้าใจนะเพราะว่าช่วงนั้นผมติดงานและงานยุ่งมากๆด้วย ก็เลยตัดสินใจว่าจะลุยต่อจนกว่าเธอจะเชื่อใจ
หลังจากนั้นสักพักอยู่มาวันหนึ่ง ผมก็ดันไปจ๊ะเอ๋เข้าโดยบังเอิญกับรูปๆหนึ่งที่มีแฮชแท็กประมาณว่า... #ขอบคุณนะที่รักและดูแลกันมา
ซึ่งในรูปนั้นเป็นผช.คนนึงยืนจับมือส่งสายตาปิ๊งๆกับผญ.ที่ผมกำลังคุยอยู่คนนั้น........
อ่ะเฮือกกกกกกกกกกกกกก เจ็บรอบสองสิครับท่านผู้ชม แล้วพอผมทักเธอไปว่ามันมีอะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่บอก
ผลปรากฏว่าเธออ่านอย่างเดียวครับ แล้วบล็อกผมเลย บล็อกทุกช่องทางในโซเชียล และโทรศัพท์ พอผมไปดักรอคุยด้วยที่มหาลัยนางก็ไม่เคยโผล่มาให้ผมเจอครับ
...คือผมไม่ได้เสียดายเงินหรือเสียดายเวลาอะไรเลยครับ " เสียใจ " ล้วนๆครับ แบบโดนหักหลังแล้วแถมด้วยเอาส้นสูงฟาดสันหน้าอีก
ในใจคิดแค่ว่า " ทำไมมีคนอื่นอยู่แล้วถึงไม่ยอมบอก ทำไมถึงแอบๆคุยกับผม ? คือตัวสำรองกับเผื่อเลือกเวลาเหงาว่างั้น ? "
ช่วงนั้นผมสติแตกไปเลยครับ แต่โชคดีที่ไม่ทำให้การเรียนและงานผมเสีย ( ผมเป็นพวกยิ่งสติแตก จะยิ่งบ้างานและมีความติสลงในงานนั้นๆสูงขึ้นครับ )
แล้วผมก็เผลอลงสเตตัสแบบกึ่งเหน็บกึ่งด่าแบบลอยๆไม่พาดพิงไปรอบนึงครับ ( ปกติผมไม่ชอบโพสต์อะไรส่วนตัวลงโซเชียลของตัวเองครับ มันจะทำให้กระทบกับงานได้ด้วย ) แล้วทีนี้เพื่อนนางก็ดันมาเห็นครับ กดไลค์ครับ แล้วไงต่อครับ ? ...ภายใน 7 นาทีนางทักผมมาเลยครับท่านผู้ชมมม ( หลังจากหนีหายจากผมไป 2 อาทิตย์ได้มั้ง ) ก็คุยกันแบบกระอักกระอ่วนนิดนึง แถมมีหน้ามาถามว่า " โกรธเหรอ ? " อีกแหน่ะ หึหึหึ
สรุปก็เลยแยกจากทางของใครทางของมัน บล็อกกันทั้งชีวิตจริงและโซเชียลไปเลย
--------------- ระหว่างการเดินทางไป part 3 ----------------------
อ่าาาาา ก็ตัดมาที่ผมก็สติแตกเลยเลือกที่จะไม่อยู่ในกทม. แล้วเลือกบินไปฝึกงานอยู่ทางภาคเหนือประมาณครึ่งปีน่ะครับ
ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆผมเห็นการเปลี่ยนแปลงของผมชัดที่สุด...
คราวนี้ไม่ได้ดีขึ้นแบบครั้งก่อนๆครับ ...กลายเป็นคนเลวมาเลย ( เพื่อนๆที่ไปด้วยกันยังแอบช็อค ) ง่ายๆเลยนะครับ ก็ตามนี้
- จากเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ -> ดื่มเป็น และดื่มคล่องมาก ( แต่ผมไม่สูบบุหรี่นะครับ ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบัน อนาคต... ผมไม่ชอบอ่ะไม่มีเหตุผลอื่น )
- รักใครรักจริงและคนเดียว ไม่พร่ำเพรื่อ -> เพลย์บอยที่ไม่สนเรื่องความรัก และชอบหิ้วสาวๆติดวาร์ปหายไป ...โผล่มาหาเพื่อนๆอีกทีก็ตอนเช้า
- ไม่ชอบเที่ยวผับหรือบาร์ -> ไปได้ชิลๆครับ สายนั่งจ้องเหยื่อเลย
....บอกเลยว่าช่วงเวลานั้นตัวผมแย่มากครับ ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกใครเลย ทำตัวเหมือนสัตว์ป่าใช้สัญชาติญาณดิบ " กิน _ี้ ป.สระอีไม้โท นอน "
( แต่ก็คงคอนเซ็ปต์เดิมไว้ได้ นั่นคือการงานไม่เสียและยังทำได้ดีขึ้นๆ จนหัวหน้าในที่ฝึกงานยังชมและให้คะแนนพิเศษตลอด )
แล้วเดชะบุญไม่รู้ไปทำอะไรไว้ อยู่ๆก็มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้คนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายๆคนได้รู้จักผม ( ในแง่ดีนะจ้ะ ด้านแรงบันดาลใจอีกเช่นเคย ) ทีนี้ก็มีคนมาติดตามผมเยอะเลยสิ ก็มีคนมาปรึกษาปัญหาต่างๆมากมาย ( แบบที่ว่าแชทค้างเลยครับ และขนาดตอบไปหลายร้อยแล้วก็ยังค้างตอบ 600กว่าแชท ซึ่งตอนนี้ผ่านมาหลายปีผมก็ยังไม่ได้ไปตอบเลย ฮ่าๆๆ ) จนผมไปสะดุดตาน้องคนนึงแต่ไม่ได้คิดจะจีบอะไร ซึ่งน้องเขาก็กรี้ดผมมากในตอนนั้นที่ผมรับแอดเฟสส่วนตัวกับเขา.....
------------------------------- เอาล่ะครับจบการพักผ่อนเพียงแค่นี้ ต่อไปนี้จะเข้าสู่พาร์ทถัดๆไปละนะ ------------------------
part 3 : ด้วยความที่ช่วงนี้ผมต้องเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคน มันเลยทำให้ตัวผมคนเก่ากลับมาอีกครั้งครับ ตัวผมต้องผลิตพลังงานด้านบวกออกมาเยอะเลยทำให้กลับมานั่งคิดกับตัวเองในสิ่งที่ผ่านมาว่าทำไมผมต้องทำแบบนั้น มันใช่ตัวผมเหรอ ทำไมผมถึงทำบาปให้กับตัวเองและคนอื่นแบบนั้น
...ทีนี้ก็กลับตัวสิครับ และคิดว่าอยากลองเริ่มต้นใหม่ดูสักที และด้วยที่ผมได้สะดุดตาหน้าทิ่มกับน้องคนนั้นในช่วงพักเบรคระหว่างพาร์ทก็เลยอยากลองจีบดูแบบจริงจังกับชีวิตอีกครั้งนึง ผมก็เลยชวนคุยกับน้องเขามาเรื่อยๆแต่ไม่กล้าขอเป็นแฟนไรงี้นะครับ ( อีกอย่างคือน้องเขาเรียนและอาศัยอยู่ต่างประเทศด้วย เลยไม่คาดหวังอะไร ) แต่แล้วเดชะบุญเหมือนสวรรค์เห็นใจและให้อภัยบาป อยู่ๆน้องเขาขอผมเป็นแฟนครับ !!
...เฮ้ยยยยยยยยยย ไม่คาดหวังอะไร แต่ได้คำๆนี้ที่อยากบอกเองแต่ไม่กล้าเฉยเลย !! แบบนี้จะรออะไรล่ะครับ ? ตอบตกลงสิ !! แฟนคนแรกในชีวิตด้วย !
ทีนี้ผมเป็นผู้เป็นคนลอยล่องเลยครับ แล้วช่วงเวลาบังเอิญพอดีที่ผมกำลังจะบินกลับมาที่กทม. และน้องเขาจะบินกลับมาไทยในช่วงเวลาเดียวกัน !!
ทีนี้ก็นัดเจอกันสิครับ ก็ไปเที่ยวด้วยกัน ทำอะไรตามประสาแฟนจะทำกัน สวีทมาก ( น้องมีผ่าตัดผมก็ไปเฝ้าทั้งคืนครับ )
และในช่วงวีคสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันก่อนน้องเขาจะบินกลับไปต่างประเทศนั้น ผมก็อยู่กับน้องเขาแบบสองต่อสอง 2-3 คืนครับ ( ...แต่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นครับ น้องเขานอนบนเตียงไปส่วนผมนั่งคุกเข่ากับพื้นหลับตรงขอบเตียงโดยจับมือน้องเขาทั้งคืน ...บอกเลยว่าต้องฆ่าสัญชาติญาณดิบของผู้ชายกันเลยทีเดียว )
แต่แล้ววันเลิกราก็มาถึงครับ หลังจากน้องเขาบินกลับไปได้ 3 - 4 เดือน น้องเขาก็ขอเป็นฝ่ายขอเลิกกับผม ด้วยสาเหตุที่ว่า... " เราห่างไกลกันเกินไป "
ผมก็ติดสตั๊นนิดนึงครับ แต่ไม่บ้าเพราะตอนนั้นโตแล้ว และด้วยตอนนี้ผมเข้าสู่วัยทำงานเต็มตัวแล้วเลยมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย
แต่ในตอนจบสุดท้ายจนปัจจุบันนี้ ผมกับน้องเขาก็ยังคงเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันครับ มีทักทายไปกวน_ีนกันบ้างตามประสา เพราะว่าเลิกกันด้วยดีครับ เคลียร์กันเข้าใจ ( เพราะน้องเขาไม่ได้คิดจะกลับมาอยู่ไทยครับ พ่อแม่น้องเขาอยู่ที่ต่างประเทศ ...ส่วนพ่อแม่ผมก็เสียดายสิครับ ลูกอดโกอินเตอร์เลย ฮ่าๆๆๆ )
part 4 : มาถึงช่วงที่สำคัญที่สุดในชีวิตผมเลยครับ เพราะมันคือช่วงที่พึ่งผ่านมาและทำให้ผมสติแตกได้มากที่สุดจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะอะไรน่ะเหรอ ?
...เพราะคนในพาร์ทนี้คือผู้หญิงที่ผมรักที่สุดครับ และยังคงรักอยู่ในปัจจุบัน
เรื่องมันเริ่มโดยที่ผมบังเอิญได้เจอกับผญ.คนนี้โดยบังเอิญ ( ปัจจุบันนางยังเรียนมหาลัยอยู่ครับ แต่อายุน้อยกว่าผมไม่มาก ) และเหมือนโดนอะไรสะกดว่า " เฮ้ย ปล่อยผ่านไม่ได้นะ "
ผมก็พยายามจีบมาเรื่อยๆครับ จนวันนึงวันที่เจอกันจริงๆ ผญ.คนนี้มาลองวัดใจผมครับว่าถ้ารู้ความลับของเธอแล้วจะทำยังไง ?
........แต่หารู้ไม่ว่า ผมรู้อยู่แล้วครับเรื่องนั้น !! แต่ผมไม่สนใจครับ วันนั้นก็เลยตัดสินใจคบกันเลยครับ
แล้วทีนี้ในระหว่างทางนั้นก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายครับ เกือบเลิกกันไปก็หลายที แต่ด้วยคนๆนี้คือคนที่ผมอยากสร้างอนาคตด้วยพวกเราเลยพยายามเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น ประคับประคองกันไป และผญ.คนนี้คือคนที่ทำให้ผมเป็นคนที่ดีกว่าเดิมครับในด้านนิสัยน่ะนะ ( ผมติดนิสัยชอบเอาชนะ และโลกส่วนตัวสูงครับ ซึ่งเธอคนนี้เข้ามาปรับทัศนคติของผมใหม่หมดเลย ...แต่บางทีผมก็หลุดปากเถียงโดยไม่ตั้งใจน่ะนะ )
สำหรับผมแล้วผญ.คนนี้สำคัญมากครับ มากขนาดเป็นแฟนคนที่สองแต่พาไปเปิดตัวกับพ่อแม่เป็นคนแรกของชีวิต , หลังเลิกงานก็ไปหาทุกวัน บางวันก็นอนค้างเป็นเพื่อนด้วยแล้วค่อยดิ่งรถกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไปทำงาน , ในวันหยุดของตัวเองก็ทำอาหารและมาคอยอยู่ด้วยทั้งวันไม่ไปไหนไกล , เป็นผญ.คนแรกเลยครับที่รู้ว่าผมขับรถไม่แข็งก็คอยขับรถมารับผมกลับหลังผมเลิกงานเสมอๆเพราะรู้ว่างานผมมันหนักและเหนื่อย ( ผมมีรถนะ... แต่ไม่ขับ จอดนิ่งๆทิ้งไว้ในบ้าน ฮ่าๆๆๆ ) ...แล้วช่วงนั้นพลังงานด้านบวกผมมาเต็มครับ ทำงานดีขึ้นแบบชัดเจนมาก ได้ออกรายการหลายรายการและหลายสื่อทั้งออกกับที่ทำงานและออกส่วนตัว มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นอีกแต่รอบนี้ไม่มีปัญหาเพราะโตแล้ว คอนโทรลชีวิตตัวเองได้ ฮ่าๆๆ ( แต่บางทีนางก็แอบหึงผมนะเวลาแชทกับสาวๆที่ไหนไม่รู้ที่มาสอบถามปัญหาด้านต่างๆกับผม )
จนมาวันนึงผมตัดสินใจมาเรียนต่อที่ต่างประเทศครับ เพื่อที่จะกลับไปสร้างอนาคตที่ดีกว่าและเพื่อทำอนาคตของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้น ( พ่อกับแม่เป็นอีกเหตุผลครับ ที่ผมต้องการทำอนาคตที่ชัดเจนไว้ให้ ) ทีนี้ก็ดราม่าสิครับ นางไม่อยากให้ผมไป กว่าจะทำความเข้าใจกันโดยไม่ให้ทะเลาะกันและเลิกกันนี่ก็เหนื่อยกันทั้งคู่ แต่สุดท้ายนางก็ยอมครับ มีข้อแม้ว่าให้ตั้งใจเรียนแล้วรีบๆกลับมาหา พร้อมสัญญาใจกันว่า " กลับมาแล้วจะแต่งงานกัน "
และปัญหามันก็เริ่มจากการที่ผมไปเรียนต่อนี่แหล่ะครับ... มีเลิกกัน 1-2 รอบมั้งเพราะนางรู้สึกห่างไกลกับผม รู้สึกผมไม่มีเวลาให้ แต่สุดท้ายผมก็พยายามจนเรากลับมาเป็นแฟนกันอีก ( วันสำคัญๆผมไม่เคยลืมนะครับ แถมมีส่งข้องข้ามประเทศให้ด้วย )
และจนล่าสุดนี่เลิกกัน เพราะเหตุหลักๆคือความรู้สึกรักของนางมันลดลงเหลือพี่น้อง และหลายๆทีผมชอบหลุดกวน_ีนใส่นางไป แต่มันออกมาในแบบเถียงนางจะเอาชนะนาง ซึ่งนางไม่ชอบผมในจุดนี้
...แต่ผมก็ยังไม่ล้มเลิกยอมแพ้นะครับ ยังพยายามจีบใหม่อยู่และจะรอกลับไปเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งเมื่อผมถึงเวลากลับไทย ( ซึ่งนางก็เป็นคนบอกเองว่าตอนนี้ยังรักและอยากใช้ชีวิตกับผมอยู่ )
----------------------- เดี๋ยวมีต่อครับ --------------
" เมื่อชีวิตเหมือนกับละครตลกร้ายเรื่องนึง "
...ต้องบอกก่อนนะครับว่านี่เป็นกระทู้แรกเลยจริงๆที่ได้มาพิมพ์เรื่องราวช้ำๆของตัวเอง แต่คือแบบผมไม่รู้ว่าจะระบายกับใครแล้ว
ต้องมาอาศัยระบายให้กับคนที่เราไม่รู้จักหน้าค่าตากันนี่แหล่ะ ( ไม่อยากเอาเรื่องราวพวกนี้ไปรบกวนพ่อกับแแม่ครับ ไม่อยากให้ท่านต้องมาเครียดกับเรา )
เอาล่ะครับ ขอเริ่มเรื่องเลยนะ ^^
เรื่องนี้มันคือเรื่องราวของผมกับผู้หญิงคนนึงที่ตอนนี้เป็นอดีตแฟน ( ขอไม่ใช้คำว่าแฟนเก่าครับ เพราะปัจจุบันไม่มีแฟนเลยไม่มีเก่าหรือปัจจุบัน ฮ่าๆๆ )
แต่ทีนี้กลัวจะช้ำใจตัวผมเองไม่พอ ต้องขอเกริ่นไปถึงรักแรกคนอื่นๆเลยแล้วกัน... ( แต่ขอแค่สรุปๆล่ะกัน เพราะประเด็นหลักคืออดีตแฟนคนล่าสุดนี่ )
part 1 : เรื่องมันเกิดขึ้นตั้งแต่สมัยผมอายุราวๆ 9 ขวบล่ะมั้งครับ ที่บังเอิญผมได้ไปตกหลุมรักเด็กหญิงคนนึง และพยายามเข้าหาเธอตามสไตล์เด็กน้อยใสๆสมัยนั้น (?)
...พิมพ์มาขนาดนี้บางคนคงนึกว่า " แล้วไง? ก็คงแค่ชอบตามประสาเด็กๆ "
จะบอกว่าไม่ใช่แบบที่หลายๆคนคิดเลยครับ เพราะผมดันแอบรักเธอคนนั้นมาถึง... " 9 ปีเต็มๆ !! "
และที่มันช้ำที่สุดคือตอนที่ตัดสินใจจะบอกชอบเธอและขอคบกันในวันสุดท้ายก่อนจะจบ ม.6 ผมดันมารู้ว่า... เธอมีใจให้คนอื่นอยู่แล้ว
อ้ากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก %%$&%@&*^@^#^#(_(%^
^
^
^
นั่นคือเสียงตะโกนเงียบๆอยู่ภายในผมครับ ฮ่าๆๆๆ
และนั่นคือจุดเปลี่ยนครั้งใหญ่ของตัวผมเลยครับ ซึ่งต้องย้อนไปขอบคุณเขานะที่ทำให้ผมเปลี่ยนแปลงตัวเองจนดูดีขึ้นมาได้ในระดับนึง (?) ฮ่าๆๆๆ
part 2 : พอเข้าสู่วัยมหาลัย ช่วงนั้นผมเปลี่ยนจากหลังเท้ามาหน้ามือเลยครับ เลยทำให้มีความนิยมในกลุ่มสาวๆทั้งแท้และเทียมพอสมควร ( หน้าตาไม่ได้ดีครับ แค่พอไปวัดไปวาได้แล้วคนไม่ทักว่าผี ^^ ) แต่ด้วยความฝังใจกับเหตุการณ์สมัยเด็กๆมันเลยทำให้ผมไม่กล้าที่จะชอบหรือรักใครเลยน่ะนะ
จนมาช่วงนึงที่ผมกำลังจะไปฝึกงานเพื่อเตรียมเรียนจบ และหลายๆคนเริ่มรู้จักผมผ่านโลกโซเชียลในรูปแบบแรงบันดาลใจให้หลายๆคน ( รู้จักกันเยอะในบางกลุ่มครับ )
ผมก็ได้พบเจอกับผู้หญิงในวัยใกล้กันอีก 1 คน ซึ่งผมรู้สึกชอบเลยครับแม้เธอจะไม่ได้สวยหรือน่ารักอะไรมาก ( เธอมาติดตามและคอยสอบถามเกี่ยวกับปัญหาสุขภาพน่ะครับ ) ผมก็เลยเอาวะลองจีบดูซักตั้ง ผมก็เลยนัดเจอไรงี้เลยครับ ลุยเต็มเหนี่ยวเลย พาหาอะไรกิน พาไปเดินเที่ยวเล่น ชวนคุยตลอดเท่าที่มีเวลาได้ ไปหาที่มหาลัยตลอดที่ว่าง ( ตอนนั้นผมติดงานในมหาลัยและติดแข่งให้กับมหาลัยก่อนจะเริ่มฝึกงานน่ะครับ ) สรรหาของดีๆไปให้ เวลาเธออ้อนอยากกินอะไร ...อ่ะทำให้ , เวลานางทำงานหนักๆผิวเสีย อ้อนไปคลินิค ...อ่ะพาไป ออกให้
จนกระทั่งวันนึงผมตัดสินใจขอคบเป็นแฟนกับเธอแบบเป็นทางการ กลับได้รับคำตอบมาว่า " ไม่อ่ะ เธอมาๆหายๆ "
...ช็อคสิครับ ช็อคไปแปบนึง แต่ก็คือเข้าใจนะเพราะว่าช่วงนั้นผมติดงานและงานยุ่งมากๆด้วย ก็เลยตัดสินใจว่าจะลุยต่อจนกว่าเธอจะเชื่อใจ
หลังจากนั้นสักพักอยู่มาวันหนึ่ง ผมก็ดันไปจ๊ะเอ๋เข้าโดยบังเอิญกับรูปๆหนึ่งที่มีแฮชแท็กประมาณว่า... #ขอบคุณนะที่รักและดูแลกันมา
ซึ่งในรูปนั้นเป็นผช.คนนึงยืนจับมือส่งสายตาปิ๊งๆกับผญ.ที่ผมกำลังคุยอยู่คนนั้น........
อ่ะเฮือกกกกกกกกกกกกกก เจ็บรอบสองสิครับท่านผู้ชม แล้วพอผมทักเธอไปว่ามันมีอะไร เกิดอะไรขึ้น ทำไมไม่บอก
ผลปรากฏว่าเธออ่านอย่างเดียวครับ แล้วบล็อกผมเลย บล็อกทุกช่องทางในโซเชียล และโทรศัพท์ พอผมไปดักรอคุยด้วยที่มหาลัยนางก็ไม่เคยโผล่มาให้ผมเจอครับ
...คือผมไม่ได้เสียดายเงินหรือเสียดายเวลาอะไรเลยครับ " เสียใจ " ล้วนๆครับ แบบโดนหักหลังแล้วแถมด้วยเอาส้นสูงฟาดสันหน้าอีก
ในใจคิดแค่ว่า " ทำไมมีคนอื่นอยู่แล้วถึงไม่ยอมบอก ทำไมถึงแอบๆคุยกับผม ? คือตัวสำรองกับเผื่อเลือกเวลาเหงาว่างั้น ? "
ช่วงนั้นผมสติแตกไปเลยครับ แต่โชคดีที่ไม่ทำให้การเรียนและงานผมเสีย ( ผมเป็นพวกยิ่งสติแตก จะยิ่งบ้างานและมีความติสลงในงานนั้นๆสูงขึ้นครับ )
แล้วผมก็เผลอลงสเตตัสแบบกึ่งเหน็บกึ่งด่าแบบลอยๆไม่พาดพิงไปรอบนึงครับ ( ปกติผมไม่ชอบโพสต์อะไรส่วนตัวลงโซเชียลของตัวเองครับ มันจะทำให้กระทบกับงานได้ด้วย ) แล้วทีนี้เพื่อนนางก็ดันมาเห็นครับ กดไลค์ครับ แล้วไงต่อครับ ? ...ภายใน 7 นาทีนางทักผมมาเลยครับท่านผู้ชมมม ( หลังจากหนีหายจากผมไป 2 อาทิตย์ได้มั้ง ) ก็คุยกันแบบกระอักกระอ่วนนิดนึง แถมมีหน้ามาถามว่า " โกรธเหรอ ? " อีกแหน่ะ หึหึหึ
สรุปก็เลยแยกจากทางของใครทางของมัน บล็อกกันทั้งชีวิตจริงและโซเชียลไปเลย
--------------- ระหว่างการเดินทางไป part 3 ----------------------
อ่าาาาา ก็ตัดมาที่ผมก็สติแตกเลยเลือกที่จะไม่อยู่ในกทม. แล้วเลือกบินไปฝึกงานอยู่ทางภาคเหนือประมาณครึ่งปีน่ะครับ
ซึ่งตอนนั้นเพื่อนๆผมเห็นการเปลี่ยนแปลงของผมชัดที่สุด...
คราวนี้ไม่ได้ดีขึ้นแบบครั้งก่อนๆครับ ...กลายเป็นคนเลวมาเลย ( เพื่อนๆที่ไปด้วยกันยังแอบช็อค ) ง่ายๆเลยนะครับ ก็ตามนี้
- จากเป็นคนไม่ดื่มแอลกอฮอล์ -> ดื่มเป็น และดื่มคล่องมาก ( แต่ผมไม่สูบบุหรี่นะครับ ไม่ว่าจะอดีต ปัจจุบัน อนาคต... ผมไม่ชอบอ่ะไม่มีเหตุผลอื่น )
- รักใครรักจริงและคนเดียว ไม่พร่ำเพรื่อ -> เพลย์บอยที่ไม่สนเรื่องความรัก และชอบหิ้วสาวๆติดวาร์ปหายไป ...โผล่มาหาเพื่อนๆอีกทีก็ตอนเช้า
- ไม่ชอบเที่ยวผับหรือบาร์ -> ไปได้ชิลๆครับ สายนั่งจ้องเหยื่อเลย
....บอกเลยว่าช่วงเวลานั้นตัวผมแย่มากครับ ไม่ได้ใส่ใจความรู้สึกใครเลย ทำตัวเหมือนสัตว์ป่าใช้สัญชาติญาณดิบ " กิน _ี้ ป.สระอีไม้โท นอน "
( แต่ก็คงคอนเซ็ปต์เดิมไว้ได้ นั่นคือการงานไม่เสียและยังทำได้ดีขึ้นๆ จนหัวหน้าในที่ฝึกงานยังชมและให้คะแนนพิเศษตลอด )
แล้วเดชะบุญไม่รู้ไปทำอะไรไว้ อยู่ๆก็มีเหตุการณ์นึงที่ทำให้คนไทยทั้งในประเทศและต่างประเทศหลายๆคนได้รู้จักผม ( ในแง่ดีนะจ้ะ ด้านแรงบันดาลใจอีกเช่นเคย ) ทีนี้ก็มีคนมาติดตามผมเยอะเลยสิ ก็มีคนมาปรึกษาปัญหาต่างๆมากมาย ( แบบที่ว่าแชทค้างเลยครับ และขนาดตอบไปหลายร้อยแล้วก็ยังค้างตอบ 600กว่าแชท ซึ่งตอนนี้ผ่านมาหลายปีผมก็ยังไม่ได้ไปตอบเลย ฮ่าๆๆ ) จนผมไปสะดุดตาน้องคนนึงแต่ไม่ได้คิดจะจีบอะไร ซึ่งน้องเขาก็กรี้ดผมมากในตอนนั้นที่ผมรับแอดเฟสส่วนตัวกับเขา.....
------------------------------- เอาล่ะครับจบการพักผ่อนเพียงแค่นี้ ต่อไปนี้จะเข้าสู่พาร์ทถัดๆไปละนะ ------------------------
part 3 : ด้วยความที่ช่วงนี้ผมต้องเป็นแรงบันดาลใจให้หลายๆคน มันเลยทำให้ตัวผมคนเก่ากลับมาอีกครั้งครับ ตัวผมต้องผลิตพลังงานด้านบวกออกมาเยอะเลยทำให้กลับมานั่งคิดกับตัวเองในสิ่งที่ผ่านมาว่าทำไมผมต้องทำแบบนั้น มันใช่ตัวผมเหรอ ทำไมผมถึงทำบาปให้กับตัวเองและคนอื่นแบบนั้น
...ทีนี้ก็กลับตัวสิครับ และคิดว่าอยากลองเริ่มต้นใหม่ดูสักที และด้วยที่ผมได้สะดุดตาหน้าทิ่มกับน้องคนนั้นในช่วงพักเบรคระหว่างพาร์ทก็เลยอยากลองจีบดูแบบจริงจังกับชีวิตอีกครั้งนึง ผมก็เลยชวนคุยกับน้องเขามาเรื่อยๆแต่ไม่กล้าขอเป็นแฟนไรงี้นะครับ ( อีกอย่างคือน้องเขาเรียนและอาศัยอยู่ต่างประเทศด้วย เลยไม่คาดหวังอะไร ) แต่แล้วเดชะบุญเหมือนสวรรค์เห็นใจและให้อภัยบาป อยู่ๆน้องเขาขอผมเป็นแฟนครับ !!
...เฮ้ยยยยยยยยยย ไม่คาดหวังอะไร แต่ได้คำๆนี้ที่อยากบอกเองแต่ไม่กล้าเฉยเลย !! แบบนี้จะรออะไรล่ะครับ ? ตอบตกลงสิ !! แฟนคนแรกในชีวิตด้วย !
ทีนี้ผมเป็นผู้เป็นคนลอยล่องเลยครับ แล้วช่วงเวลาบังเอิญพอดีที่ผมกำลังจะบินกลับมาที่กทม. และน้องเขาจะบินกลับมาไทยในช่วงเวลาเดียวกัน !!
ทีนี้ก็นัดเจอกันสิครับ ก็ไปเที่ยวด้วยกัน ทำอะไรตามประสาแฟนจะทำกัน สวีทมาก ( น้องมีผ่าตัดผมก็ไปเฝ้าทั้งคืนครับ )
และในช่วงวีคสุดท้ายที่อยู่ด้วยกันก่อนน้องเขาจะบินกลับไปต่างประเทศนั้น ผมก็อยู่กับน้องเขาแบบสองต่อสอง 2-3 คืนครับ ( ...แต่ไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นครับ น้องเขานอนบนเตียงไปส่วนผมนั่งคุกเข่ากับพื้นหลับตรงขอบเตียงโดยจับมือน้องเขาทั้งคืน ...บอกเลยว่าต้องฆ่าสัญชาติญาณดิบของผู้ชายกันเลยทีเดียว )
แต่แล้ววันเลิกราก็มาถึงครับ หลังจากน้องเขาบินกลับไปได้ 3 - 4 เดือน น้องเขาก็ขอเป็นฝ่ายขอเลิกกับผม ด้วยสาเหตุที่ว่า... " เราห่างไกลกันเกินไป "
ผมก็ติดสตั๊นนิดนึงครับ แต่ไม่บ้าเพราะตอนนั้นโตแล้ว และด้วยตอนนี้ผมเข้าสู่วัยทำงานเต็มตัวแล้วเลยมีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นด้วย
แต่ในตอนจบสุดท้ายจนปัจจุบันนี้ ผมกับน้องเขาก็ยังคงเป็นพี่น้องที่ดีต่อกันครับ มีทักทายไปกวน_ีนกันบ้างตามประสา เพราะว่าเลิกกันด้วยดีครับ เคลียร์กันเข้าใจ ( เพราะน้องเขาไม่ได้คิดจะกลับมาอยู่ไทยครับ พ่อแม่น้องเขาอยู่ที่ต่างประเทศ ...ส่วนพ่อแม่ผมก็เสียดายสิครับ ลูกอดโกอินเตอร์เลย ฮ่าๆๆๆ )
part 4 : มาถึงช่วงที่สำคัญที่สุดในชีวิตผมเลยครับ เพราะมันคือช่วงที่พึ่งผ่านมาและทำให้ผมสติแตกได้มากที่สุดจนถึงปัจจุบันนี้ เพราะอะไรน่ะเหรอ ?
...เพราะคนในพาร์ทนี้คือผู้หญิงที่ผมรักที่สุดครับ และยังคงรักอยู่ในปัจจุบัน
เรื่องมันเริ่มโดยที่ผมบังเอิญได้เจอกับผญ.คนนี้โดยบังเอิญ ( ปัจจุบันนางยังเรียนมหาลัยอยู่ครับ แต่อายุน้อยกว่าผมไม่มาก ) และเหมือนโดนอะไรสะกดว่า " เฮ้ย ปล่อยผ่านไม่ได้นะ "
ผมก็พยายามจีบมาเรื่อยๆครับ จนวันนึงวันที่เจอกันจริงๆ ผญ.คนนี้มาลองวัดใจผมครับว่าถ้ารู้ความลับของเธอแล้วจะทำยังไง ?
........แต่หารู้ไม่ว่า ผมรู้อยู่แล้วครับเรื่องนั้น !! แต่ผมไม่สนใจครับ วันนั้นก็เลยตัดสินใจคบกันเลยครับ
แล้วทีนี้ในระหว่างทางนั้นก็มีเรื่องราวเกิดขึ้นมากมายครับ เกือบเลิกกันไปก็หลายที แต่ด้วยคนๆนี้คือคนที่ผมอยากสร้างอนาคตด้วยพวกเราเลยพยายามเรียนรู้ซึ่งกันและกันให้มากขึ้น ประคับประคองกันไป และผญ.คนนี้คือคนที่ทำให้ผมเป็นคนที่ดีกว่าเดิมครับในด้านนิสัยน่ะนะ ( ผมติดนิสัยชอบเอาชนะ และโลกส่วนตัวสูงครับ ซึ่งเธอคนนี้เข้ามาปรับทัศนคติของผมใหม่หมดเลย ...แต่บางทีผมก็หลุดปากเถียงโดยไม่ตั้งใจน่ะนะ )
สำหรับผมแล้วผญ.คนนี้สำคัญมากครับ มากขนาดเป็นแฟนคนที่สองแต่พาไปเปิดตัวกับพ่อแม่เป็นคนแรกของชีวิต , หลังเลิกงานก็ไปหาทุกวัน บางวันก็นอนค้างเป็นเพื่อนด้วยแล้วค่อยดิ่งรถกลับบ้านไปอาบน้ำเปลี่ยนชุดไปทำงาน , ในวันหยุดของตัวเองก็ทำอาหารและมาคอยอยู่ด้วยทั้งวันไม่ไปไหนไกล , เป็นผญ.คนแรกเลยครับที่รู้ว่าผมขับรถไม่แข็งก็คอยขับรถมารับผมกลับหลังผมเลิกงานเสมอๆเพราะรู้ว่างานผมมันหนักและเหนื่อย ( ผมมีรถนะ... แต่ไม่ขับ จอดนิ่งๆทิ้งไว้ในบ้าน ฮ่าๆๆๆ ) ...แล้วช่วงนั้นพลังงานด้านบวกผมมาเต็มครับ ทำงานดีขึ้นแบบชัดเจนมาก ได้ออกรายการหลายรายการและหลายสื่อทั้งออกกับที่ทำงานและออกส่วนตัว มีคนรู้จักเพิ่มขึ้นอีกแต่รอบนี้ไม่มีปัญหาเพราะโตแล้ว คอนโทรลชีวิตตัวเองได้ ฮ่าๆๆ ( แต่บางทีนางก็แอบหึงผมนะเวลาแชทกับสาวๆที่ไหนไม่รู้ที่มาสอบถามปัญหาด้านต่างๆกับผม )
จนมาวันนึงผมตัดสินใจมาเรียนต่อที่ต่างประเทศครับ เพื่อที่จะกลับไปสร้างอนาคตที่ดีกว่าและเพื่อทำอนาคตของเราให้มั่นคงยิ่งขึ้น ( พ่อกับแม่เป็นอีกเหตุผลครับ ที่ผมต้องการทำอนาคตที่ชัดเจนไว้ให้ ) ทีนี้ก็ดราม่าสิครับ นางไม่อยากให้ผมไป กว่าจะทำความเข้าใจกันโดยไม่ให้ทะเลาะกันและเลิกกันนี่ก็เหนื่อยกันทั้งคู่ แต่สุดท้ายนางก็ยอมครับ มีข้อแม้ว่าให้ตั้งใจเรียนแล้วรีบๆกลับมาหา พร้อมสัญญาใจกันว่า " กลับมาแล้วจะแต่งงานกัน "
และปัญหามันก็เริ่มจากการที่ผมไปเรียนต่อนี่แหล่ะครับ... มีเลิกกัน 1-2 รอบมั้งเพราะนางรู้สึกห่างไกลกับผม รู้สึกผมไม่มีเวลาให้ แต่สุดท้ายผมก็พยายามจนเรากลับมาเป็นแฟนกันอีก ( วันสำคัญๆผมไม่เคยลืมนะครับ แถมมีส่งข้องข้ามประเทศให้ด้วย )
และจนล่าสุดนี่เลิกกัน เพราะเหตุหลักๆคือความรู้สึกรักของนางมันลดลงเหลือพี่น้อง และหลายๆทีผมชอบหลุดกวน_ีนใส่นางไป แต่มันออกมาในแบบเถียงนางจะเอาชนะนาง ซึ่งนางไม่ชอบผมในจุดนี้
...แต่ผมก็ยังไม่ล้มเลิกยอมแพ้นะครับ ยังพยายามจีบใหม่อยู่และจะรอกลับไปเริ่มต้นกันใหม่อีกครั้งเมื่อผมถึงเวลากลับไทย ( ซึ่งนางก็เป็นคนบอกเองว่าตอนนี้ยังรักและอยากใช้ชีวิตกับผมอยู่ )
----------------------- เดี๋ยวมีต่อครับ --------------