[CR] Review Singapore ในแบบฉบับนักเรียนปิดเทอม+ลุยเดี่ยว ในราคารวม 7,680 บาท!!!

-สวัสดีครับพี่ๆเพื่อนๆชาวพันทิปทุกท่าน
กระทู้นี้ผมอนุญาตมาแชร์ประสบการณ์การท่องเที่ยวในแบบ Backpack ตามแบบฉบับที่ผมได้ไปท่องเที่ยวมาในช่วงปิดเทอมเทอมที่แล้ว
**ขออภัยล่วงหน้าสำหรับภาพถ่ายนะครับ เพราะใช้มือถือถ่ายมันเลยออกมาชัดบ้าง มัวบ้างครับ**


ก่อนอื่นเลย ผมขออนุญาตเกริ่นถึงความเป็นมาของทริปนี้นิดนึงนะครับ ทริปนี้เกิดขึ้นเมื่อเดือนมีนาคม ปี 2016 สาเหตุที่ไม่ได้ลงตั้งแต่ตอนนั้นคือผมติดเรียนเลยลืมๆ จนตอนนี้ว่างจากช่วงสงกรานต์เลยมานั่งเขียนกระทู้ครับ ทริปนี้เป็นทริปที่ผมออกเดินทางคนเดียวด้วยงบประมาณที่ผมเก็บเงินจากค่าขนมที่คุณพ่อคุณแม่ให้มาเรื่อยๆจนถึงจำนวนที่ผมคิดว่าเที่ยวได้ก็เลยเลือกช่วงเวลาตอนปิดเทอมในการไปเที่ยวสิงคโปร์ในการออกไปหาประสบการณ์ชีวิต+เพื่อนใหม่

******

แผนการเดินทางและค่าใช้จ่าย

อย่างที่ผมบอกไปว่า ผมยังเป็นนักเรียนอยู่ ฉะนั้นค่าใช้จ่ายต่างๆจะต้องใช้อย่างจำกัด โดยการเฟ้นหาทุกสิ่งอย่างให้ ถูกและดีในเวลาเดียวกัน5555


1.ค่าตั๋วเครื่องบิน :ผมได้โปรโมชั่นมาจากสายการบิน Jetstar ซึ่ง BKK-SIN-BKK ในราคาประมาณ 2,500 บาท ผมได้ราคานี้มาจากเพจอาแปะใน Facebook ครับ ต้องขอขอบคุณเพจนี้จริงๆที่ช่วยชี้แนะเป้าในการเลือกซื้อตั๋วเครื่องบิน

2.ที่พัก :ผมใช้เว็บ Booking.com ในการหาที่พัก ซึ่งส่วนตัวแล้ว ผมเน้นการนอน Hostel ซึ่งปัจจัยหลักๆคือ ถูก.. ผมได้ที่พัก Pillow Talk สนนราคา 2 คืนอยู่ที่ = 1,180 ไทยบาท เห้อมมม รอไรล่ะครับ กดจองโลดด
*ที่พักที่นี่จะคล้ายๆกับเป็นโรงแรมแคปซูล แต่ค่อนข้างใหญ่กว่าตามความรู้สึกผม มีม่านปิด ห้องพักสะอาด มีที่ใส่กระเป๋าเดินทางชั้นล่างค่อนข้างใหญ่ ห้องน้ำอยู่ในระดับที่โอเค

3.ค่าอาหาร : ตรงนี้ผมตั้งงบไว้เลยว่าไว้ 3,000 บาท เพราะไป 3 วันก็กินวันล่ะ 1,000 บาทพอ แต่พอเอาเข้าจริงๆมันเหลือครับ ผมจำได้ว่ามันประมาณ 2 พันกว่าบาทด้วยซ้ำ กินแบบไม่อดอยากนะครับ ไว้เดี๋ยวผมจะบอกราคาอาหารข้างล่างไปเรื่อยๆนะครับ

4.ค่าเดินทาง : ผมใช้บริการเจ้าบัตร Ez-link ในการเดินทางในสิงคโปร์ครับ ในบัตรจำได้ว่าใช้ไปประมาณ 20 ดอลล่าห์สิงคโปร์ ตีเป็นตัวเลขไทยกลมๆก็ 500 บาทได้ ส่วนมากผมเน้นเดินสุดๆ นานๆทีจะใช้เจ้าบัตรนี้

5.ค่า Internet / โทร :สายโซเชี่ยล ติดอัพเดท(แม่บังคับ)แบบผม เลยเลือกซื้อซิมใน 7-11 ครับ เข้าไปบอกพี่พนักงานว่าอยู่กี่วัน แล้วที่นี่เขาก็ลเลือกเพคเกจให้ครับ ซิมอยู่ที่ประมาณ 400 บาทไทย
**แนะนำให้เขาจัดการเลือกให้เลยครับ ผมบอกให้พี่เขากดเลือกแพคเกจให้หมดเลย เปลี่ยนซิมให้ด้วย เพราะทำไอตัวถอดซิมหาย555**

สรุปค่าใช้จ่าย 3 วัน 2 คืน = 7,680 บาท จริงๆแล้วมันน้อยกว่านี้ครับ แต่ผมปัดเป็นตัวเลขกลมๆ




***********************

Day 1 สนามบินสุวรรณภูมิ-Hostel-Merlion

ผมบินกับ Jetstar ซึ่งจะต้องมาขึ้นเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ หลังจาก Check-in แล้วผมก็ต้องผ่ารการสแกน-ตรวจเช็คกระเป๋า carry-on ของผม หลังจากนั้นก็จะต้องลงไปตรวจหนังสือเดินทาง เสร็จสรรพขั้นตอนทางด้านเอกสารแล้ว ก็ถึงเวลาเดินสำรวจความอลังการของสนามบินประจำชาติกันแว้ววว ข้างในจะมีสินค้าปลอดภาษีให้เลือกซื้อเยอะมากกกกก เยอะจริงๆครับ แต่ผมก็ได้แต่มองๆ55555 หลังจากนั้นก็ออกอาการหิว+เมื่อย ตอนแรกก็เดินมองๆร้านอาหาร แต่ด้วยความที่ผมมีงบจำกัดจึงต้องเลือกดูร้านที่ราคาอยู่ในงบประมาณ

แต่ลืมไปว่า............ผมมีบัตรเข้า lounge ของ King Power : Navy card ซึ่งผมเคยสมัครฟรีจากเว็บไซต์ตอนช่วงนึงที่ทาง King Power ให้สมัครฟรีด้วย ต้องขอขอบคุณ king power มา ณ.ที่นี่ด้วยนะครับ เพราะล่าสุดผมเดินทางไปฮ่องกงช่วงปีใหม่ ได้ถามทางพี่พนักงานว่าถ้าบัตรหมดอายุจะต้องมีขั้นตอนยังไง ทางพี่พนักงานบอกว่าต้องมียอดซื้อขั้นต่ำ ซึ่งผมก็จำไม่ได้แล้วเท่าไหร่....


หลังจากฝากกระเป๋าไว้ที่ด้านหน้า lounge แล้ว ผมก็เดินเข้ามานั่งพักด้านใน ซึ่งบรรยากาศสบายมากครับ เบาะนุ่มสุดๆ ผมเดินเลือกอาหารแทบจะไม่ถูก เพราะทุกอย่างน่าทาน  แล้วพี่พนักงานดูแล ป้าแม่บ้าน ดูสุภาพและเป็นมิตรกับผมมากๆ รู้สึกดี๊ดีมากที่ผมบินราคาตั๋ว 2500 แต่มานั่งใน lounge กินฟรี+บริการดีงาม คุ้มซะยิ่งกว่าคุ้มอีกครับ เปิดวันแรกด้วยความสบายใน lounge ของ King power นี่นับว่าเป็นการเริ่มต้นการประหยัดที่ดีมาก555555



หลังจากนั่งพัก+ทานอาหารว่างที่ lounge ของ King Power แล้ว ผมก็เหินฟ้าสู่สิงคโปร์แล้ววว ระหว่างอยู่บนเครื่องก็มีเรื่องให้เซ็งหรือฮาก็ไม่รู้เหมือนกัน ตอนอยู่บนเครื่อง ผมได้สั่งอาหาร ก็นั่งทานปกติ นั่งทานอยู่ดีๆ ก็เกิดอาการข้าวหกเนื่องจากมือผมไปปัด tray table พับเฉยเลย ทำให้ข้าวหกเต็มกางเกงผมเลย เซ็งมากกก พอมีสจ๊วตท่านนึงเดินผ่าน ผมก็บอกว่าขอทิชชู่หน่อยได้มั๊ยครับเพราะทำอาหารหก เขาก็บอกว่าได้ๆ สรุปทุกวันนี้เป้นเวลาปีกว่าๆผมก็ยังไม่ได้ทิชชู่เลยอ่า T^T ผมก็นั่งปัดๆข้าวลงพื้นไป



อันนี้เป็นภาพตอนใกล้ landing ภาพนี้ผมขอให้คู่รักชาวอินเดีย 2 ท่านที่นั่งติดกับผมเป็นคนถ่ายรูปให้ผมเพราะเขานั่งตรง window seat


หลังจากเครื่อง Landing ผมก็ต้องเดินไปที่ Immigration เพื่อตรวจหนังสือเดินทาง
**ผมได้ยินมาว่าทาง ตม.ของสิงคโปร์เขาค่อนข้างเข้มงวด ตัวผมเองก็เตรียมเอกสาร ทั้งใบจองโรงแรมปริ้นออกมา ตั๋วขากลับ เงินสด บัตรต่างๆที่ผมพอจะมีออกมาสู้ได้5555 ระหว่างต่อคิว ตม.เขาก็จะเดินมามอง มาดูคน ไฟลท์ผมที่บินมาจากกรุงเทพฯ ตม.ก็เรียกออกไปหลายคนอยู่ แต่ผมก็ไม่ได้ออกอาการแต่อย่างใด เพราะทางที่ดีคือเตรียมตัวเองให้พร้อมครับ พอถึงคิวผม ทุกอย่างเรียบร้อย ตม.ไม่พูดอะไรกับผมเลย ผมก็เลยทักทาย hello แล้วก็ยิ้มให้ ตม. ตม.ก็ยิ้มคืน ฮ่าๆ เจ๊ากันเด้อ**

อันนี้เป็นสถานีรถไฟฟ้าจากสนามบินเข้าเมือง สถานีใหญ่มาก มีป้าย-ข้อมูลต่างบอกเป็นภาษาอังกฤษชัดเจนครับ ก่อนอื่นเลยผมจะต้องซื้อบัตร Ez-link ซึ่งเป็นบัตรสำหรับเดินทางในสิงคโปร์ ไปได้ทั่วเลยครับ สะดวกสบายสุดๆ






รูปร่างหน้าตาบัตรก็เป็นแบบนี้ครับ




หลังจากนั้นผมก็นั่งรถไฟฟ้าจากสนามบินไปลงที่สถานี lavender Hostel ผมนั้นอยู่แถวๆสถานีนี้ครับ ระหว่างเดินไป Hostel ผมก็นึกขึ้นได้ว่า เอ้อออ ต้องใช้ซิมหนิ ก็เลยแวะ 7-11 เพื่อซื้อซิมครับ ในราคา 15 เหรียญ พี่พนักงาน 7-11 ใจดีมากๆครับ เขาช่วยเลือกเพคเกจให้ผม แนะนำ แล้วก็บริการใส่ซิมให้ผมด้วย



หลังจากซื้อซิมแล้วก็เดินๆมาที่ Hostel ผมพักที่ Pillow talk อยู่บนถนน Hamilton สนนราคา 2 คืนผมจ่ายไป 1,180 ผ่านทาง booking.com ห้องพักสะอาด สดใส และค่อนข้างเป็นส่วนตัวเมื่อเทียบกับ Hostel ราคาเดียวกัน พนักงานก็เฟรนลี่มากครับ อายุเท่าๆกับผมเลย มาทำงาน part-time เพราะยังเรียนอยู่  

ในรูปไฟสีสดใสแบบนี้จริงๆครับ แอร์เย็นมากตอนกลาง ผมได้ชั้น 2 ครับ นอนเหมือนโดนแช่แข็งเลย
www.pillowtalkhostel.com



หลังจากจัดการที่นอน อาบน้ำ ก็เป็นเวลาเย็นแล้วครับ ทำอะไรเรียบร้อยก็เกิดอาการหิวครับ ผมโชคดีมากที่เลือกที่พักอยู่ตรงใกล้กับ food court มีอาหารหลากหลายเชื้อชาติให้เลือกซื้อทานกันเลย ผมก็เลยเลือกซื้ออาหารที่ทางเจ้าของร้านเป็นอินโดนีเซีย เขาบอกว่ารสชาติมันจะเผ็ดๆนิดหน่อย อะไรประมาณนี้ ผมเห็นมันเหมือนข้าวซอยก็เลยซื้อครับ มื้อนี้ราคา 3 เหรียญเองครับ! ถูกดีอ่ะ


หลังจากทานเสร็จ ผมมองนาฬิกา มันเพิ่งจะทุ่มนึงเอง ผมเลยตัดสินใจนั่งรถไฟฟ้าเพื่อที่จะไปดู Merlion ตอนแรกไปลงสถานีอะไรก็ไม่รู้ เพราะผมดู google map ก็เดินๆตาม ไม่รู้ไปโผล่ตรงไหน อยู่ดีๆเข้าไปในบริษัทอะไรก็ไม่รู้ ก็เลยต้องเดินออก เดินย้อนไปย้อนมาจนปวดขา หลงมากๆ ผมถามคนแถวนั้น เขาก็ชี้ให้บอกไปตรงนู้นๆ กว่าจะถึงนะครับเวียนหัวมาก พอไปถึงแล้ว คนเยอะมาก ผมอยู่ตรงนั้นประมาณ 2-3 ชั่วโมง เดินๆไปมา ถ่ายรูปตั้งแต่ยังมีแสงพระอาทิตย์ จนไม่มี ผมก็ไปนั่งทานน้ำแข็งใสใต้สะพานข้างๆ Merlion ราคาถ้วยล่ะ 18 ดอล(ลืมถ่าย)



เสร็จแล้วก็กลับ Hostel นอน แต่...............มันไม่ได้นอนดีๆไงครับ ผมเองได้นอนชั้น 2 ของ Hostel คือนอนได้สักพัก เกิดอาการท้องเสียอย่างหนัก ผมปีนขึ้นปีนลง 4 รอบ เพื่อที่จะเข้าห้องน้ำ โชคดีที่เตียงข้างล่างผมไม่มีคนนอน เพราะถ้ามีผมคนโดนทุบแน่ๆ... คือท้องผมเสียหนักมาก และคาดว่าจะเป็นเพราะมื้อแรกที่ผมทานที่ร้านอาหารชาวอินโดนีเซีย ผมกังวลใจมากตอนนั้นจะทำยังไงดี เพราะเวลาผมท้องเสีย ผมจะทานยาธาตุน้ำขาว แต่ผมไม่มีไง! ตอนนั้นก็ได้แต่กินน้ำเยอะๆ อย่างเดียว สักพักอาการก็เริ่มดีขึ้น หลังจากนั้นผมก็นอนหลับไปด้วยความเหนื่อย Zzzzz.

**เดี๋ยวมาต่อ Day 2 ครับ**

ชื่อสินค้า:   Singapore
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่