หลังจากที่โดนตัดออกจากรายการ ก็ได้ไปรายการ Make Up My Way อีกรอบ และได้เล่าถึงชีวิตส่วนตัวของตนเอง
ก่อนจะมาเข้ารายการ จูลี่เคยทำงานเป็นนางแบบมาก่อน หลังจากที่เดินสายประกวดนางงาม จูลี่เริ่มต้นด้วยการเดินแบบชุดแต่งงาน แล้วก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ อันที่จริงในการเดินสายประกวดนางงาม จูลี่ไม่ได้ชอบ หรือใจรักที่จะประกวด แต่ประกวดเพื่อหาเงินจ่ายค่าเทอมเรียนการบิน เทอมละ 40,000 บาท
แต่ก่อนพ่อแม่ยังสามารถซัพพอร์ตจูลี่ได้ ซึ่งจูลี่ก็ช่วยพ่อแม่บ้าง ด้วยการทำงานพาร์ทไทมส์จ่ายค่าหอ แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง พ่อจูลี่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องทำบายพาสราคาแพง จนแม่เอ่ยปากกับจูลี่ว่า "เมื่อไหร่จูลี่จะเรียนจบ พ่อกับแม่ไม่ไหวแล้ว" และจูลี่ก็เพิ่งรู้ว่าพ่อแม่ต้องกู้เงินมาจ่ายค่าเทอม ซึ่งทำให้จูลี่พยายามหาวิธีหาเงินให้เยอะขึ้น ทั้งหาขายของ จนกระทั่งคิดจะเป็นเด็กเสี่ย แต่จูลี่ก็ไม่ได้ทำ
จุดที่ดาวน์สุดในชีวิตจูลี่คือไม่มีเงินสักบาท จนต้องไปขอยืมคนอื่น ทำให้จูลี่คิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายจูลี่ไม่ถอย และเริ่มทำงานร้านแมค ได้เดือนละ 5,000 บาท และวันหนึ่งจูลี่ก็ได้มีโอกาสประกวดนางงาม แลพได้เงินมา 5000 ซึ่งเท่ากับเงินเดือนๆนึงในร้านแมค ทำให้จูลี่เริ่มเดินสายประกวดนางงาม และทำงานนางแบบตามลำดับ
ตอนนี้จูลี่มีเงินมากพอที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง และจ่ายค่าเทอมเล่าเรียน ตอนนี้จูลี่ใกล้จบด้วยเกียรตินิยมอันดับที่2 ส่วนพ่อแม่ก็ไปทำงานต่างประเทศ เพื่อส่งเงินมาให้น้องๆของจูลี่ ในอนาคตจูลี่อยากซื้อบ้านสักหลังให้พ่อกับแม่ จูลี่อยากดูแลท่าน เพื่อตอบแทนทุกสิ่งที่ท่านทำให้จูลี่
และจูลี่ได้พูดถึงความรู้สึกในห้องดำ จูลี่บอกว่ารู้ตัวดีว่าต้องออก เพราะลูกเกดพูดไว้ว่า ถ้าเห็นจูลี่ในนี้อีกจะเอาออก แต่ก็ยังหวังว่าลูกเกดจะเห็นใจ ตอนที่กอดลูกเกด จูลี่บอกว่าอบอุ่นมาก รู้สึกว้าลูกเกดไม่ได้อยากตัดจูลี่ออก แต่มันเป็นเกมส์ จูลี่ก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะออกมายังไงก็มีงาน เพราะถึงยังก็มีชื่อเดอะเฟสห้อยท้าย
ปล.ขอแท็ก วิลาวรรณ แอนเดอร์สัน(จูลี่ The Face Thailand) ด้วยนะคะ
คลิปในรายการ
ชีวิตดราม่าของ"จูลี่" ที่ดราม่ายิ่งกว่า The Face
หลังจากที่โดนตัดออกจากรายการ ก็ได้ไปรายการ Make Up My Way อีกรอบ และได้เล่าถึงชีวิตส่วนตัวของตนเอง
ก่อนจะมาเข้ารายการ จูลี่เคยทำงานเป็นนางแบบมาก่อน หลังจากที่เดินสายประกวดนางงาม จูลี่เริ่มต้นด้วยการเดินแบบชุดแต่งงาน แล้วก็มีงานเข้ามาเรื่อยๆ อันที่จริงในการเดินสายประกวดนางงาม จูลี่ไม่ได้ชอบ หรือใจรักที่จะประกวด แต่ประกวดเพื่อหาเงินจ่ายค่าเทอมเรียนการบิน เทอมละ 40,000 บาท
แต่ก่อนพ่อแม่ยังสามารถซัพพอร์ตจูลี่ได้ ซึ่งจูลี่ก็ช่วยพ่อแม่บ้าง ด้วยการทำงานพาร์ทไทมส์จ่ายค่าหอ แต่พอมาถึงจุดหนึ่ง พ่อจูลี่ป่วยเป็นโรคหัวใจ ต้องทำบายพาสราคาแพง จนแม่เอ่ยปากกับจูลี่ว่า "เมื่อไหร่จูลี่จะเรียนจบ พ่อกับแม่ไม่ไหวแล้ว" และจูลี่ก็เพิ่งรู้ว่าพ่อแม่ต้องกู้เงินมาจ่ายค่าเทอม ซึ่งทำให้จูลี่พยายามหาวิธีหาเงินให้เยอะขึ้น ทั้งหาขายของ จนกระทั่งคิดจะเป็นเด็กเสี่ย แต่จูลี่ก็ไม่ได้ทำ
จุดที่ดาวน์สุดในชีวิตจูลี่คือไม่มีเงินสักบาท จนต้องไปขอยืมคนอื่น ทำให้จูลี่คิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่สุดท้ายจูลี่ไม่ถอย และเริ่มทำงานร้านแมค ได้เดือนละ 5,000 บาท และวันหนึ่งจูลี่ก็ได้มีโอกาสประกวดนางงาม แลพได้เงินมา 5000 ซึ่งเท่ากับเงินเดือนๆนึงในร้านแมค ทำให้จูลี่เริ่มเดินสายประกวดนางงาม และทำงานนางแบบตามลำดับ
ตอนนี้จูลี่มีเงินมากพอที่จะอยู่ได้ด้วยตัวเอง และจ่ายค่าเทอมเล่าเรียน ตอนนี้จูลี่ใกล้จบด้วยเกียรตินิยมอันดับที่2 ส่วนพ่อแม่ก็ไปทำงานต่างประเทศ เพื่อส่งเงินมาให้น้องๆของจูลี่ ในอนาคตจูลี่อยากซื้อบ้านสักหลังให้พ่อกับแม่ จูลี่อยากดูแลท่าน เพื่อตอบแทนทุกสิ่งที่ท่านทำให้จูลี่
และจูลี่ได้พูดถึงความรู้สึกในห้องดำ จูลี่บอกว่ารู้ตัวดีว่าต้องออก เพราะลูกเกดพูดไว้ว่า ถ้าเห็นจูลี่ในนี้อีกจะเอาออก แต่ก็ยังหวังว่าลูกเกดจะเห็นใจ ตอนที่กอดลูกเกด จูลี่บอกว่าอบอุ่นมาก รู้สึกว้าลูกเกดไม่ได้อยากตัดจูลี่ออก แต่มันเป็นเกมส์ จูลี่ก็ไม่ได้ซีเรียส เพราะออกมายังไงก็มีงาน เพราะถึงยังก็มีชื่อเดอะเฟสห้อยท้าย
ปล.ขอแท็ก วิลาวรรณ แอนเดอร์สัน(จูลี่ The Face Thailand) ด้วยนะคะ
คลิปในรายการ