ขอถามเพื่อนๆและท่านที่เคยประสพปัญหากับการใช้ชีวิตที่สับสนไม่มีระบบระเบียบในชีวิต แล้วเปลี่ยนแปลงจากการเข้าอบรมจากคอร์สที่ไหนบ้าง
ที่น่าเชื่อถือทำให้มีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น และกับคนวัยทองที่ต้องสู้กับลูกวัยรุ่นบ้างคะ พวกเขาอยู่ในต่างประเทศเมืองหนาวค่ะ ดิฉันมีส่วนรู้เห็นของเขาทั้งสองคนและเข้าใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ พวกเขามีปากเสียงกันทุกวันจนอาจต้องแยกบ้านกัน แม่ก็ทานข้าวคนเดียวทุกวันเพราะสามีของเขาเสียไปเกือบ3ปีแล้ว ตอนนี้คนเป็นแม่อยากแต่จะไปหาจิตแพทย์ที่ไทย หรือหาเพื่อนคุย บางครั้งดิฉันมองว่าเพื่อนของดิฉันอาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้า เขานั่งเปิดเน็ตทุกวัน บ้านก็ไม่มีระเบียบ กินข้าวและนอนไม่เคยเป็นเวลา ใครบอกหรือแนะอย่างไรก็เหมือนจะเข้าใจแต่....ก็ยังใช้ชีวิตเช่นเดิม ตั้งใจแต่จะไปหาที่สงบในเมืองไทย
คนเป็นแม่ถอดใจและเสียใจในคำพูดที่ก้าวร้าวของลูก คิดแต่ว่าต้องไปหาที่บำบัดทางใจ วันๆก็ดูแต่เน็ตหาที่จะไปอบรม เช่น ครูอ้อย ขุนเขา และอีกหลายๆท่านรวมทั้งพระชื่อดังอีกหลายแห่ง ส่วนลูกก็มีค่อยชอบอยู่บ้าน ไม่ช่วยทั้งในบ้านและทางใจผู้เป็นแม่ เขาเติบโตในต่างประเทศแต่แม่พูดไทยกับลูกค่ะ ทั้งสองเลยไม่มีเวลาที่ดีต่อกันตั้งแต่หัวหน้าครอบครัวจากไป "ถ้าเราได้ไปที่ไทยและอบรมคอร์สที่ใดสักแห่งในเมืองไทย เราคงมีความมั่นใจและเข้มแข็งพอที่จะยึดครอบครัวให้อบุอุ่นอีกครั้ง" เขาบอกดิฉันแบบนี้ค่ะ รบกวนเพื่อนๆแนะนำด้วยนะคะ เขาคงใช้เวลาในไทยได้ไม่กี่อาทิตย์ แต่ก็อยากให้เขาได้ไปตามหาสิ่งที่ปิดกั้นเขาไว้ค่ะ เอาบุญด้วยกันนะคะ...เขียนเยอะหน่อยแต่ก็ขอบคุณคำตอบล่วงหน้าด้วยค่ะ
เปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่แย่และกิจวัตรประจำวันที่ผิดให้ดีได้ใน21วันที่ไหนดี ( เรียกว่านาฬิกาชีวิต )
ที่น่าเชื่อถือทำให้มีพลังชีวิตเพิ่มขึ้น และกับคนวัยทองที่ต้องสู้กับลูกวัยรุ่นบ้างคะ พวกเขาอยู่ในต่างประเทศเมืองหนาวค่ะ ดิฉันมีส่วนรู้เห็นของเขาทั้งสองคนและเข้าใจทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลยค่ะ พวกเขามีปากเสียงกันทุกวันจนอาจต้องแยกบ้านกัน แม่ก็ทานข้าวคนเดียวทุกวันเพราะสามีของเขาเสียไปเกือบ3ปีแล้ว ตอนนี้คนเป็นแม่อยากแต่จะไปหาจิตแพทย์ที่ไทย หรือหาเพื่อนคุย บางครั้งดิฉันมองว่าเพื่อนของดิฉันอาจเข้าข่ายโรคซึมเศร้า เขานั่งเปิดเน็ตทุกวัน บ้านก็ไม่มีระเบียบ กินข้าวและนอนไม่เคยเป็นเวลา ใครบอกหรือแนะอย่างไรก็เหมือนจะเข้าใจแต่....ก็ยังใช้ชีวิตเช่นเดิม ตั้งใจแต่จะไปหาที่สงบในเมืองไทย
คนเป็นแม่ถอดใจและเสียใจในคำพูดที่ก้าวร้าวของลูก คิดแต่ว่าต้องไปหาที่บำบัดทางใจ วันๆก็ดูแต่เน็ตหาที่จะไปอบรม เช่น ครูอ้อย ขุนเขา และอีกหลายๆท่านรวมทั้งพระชื่อดังอีกหลายแห่ง ส่วนลูกก็มีค่อยชอบอยู่บ้าน ไม่ช่วยทั้งในบ้านและทางใจผู้เป็นแม่ เขาเติบโตในต่างประเทศแต่แม่พูดไทยกับลูกค่ะ ทั้งสองเลยไม่มีเวลาที่ดีต่อกันตั้งแต่หัวหน้าครอบครัวจากไป "ถ้าเราได้ไปที่ไทยและอบรมคอร์สที่ใดสักแห่งในเมืองไทย เราคงมีความมั่นใจและเข้มแข็งพอที่จะยึดครอบครัวให้อบุอุ่นอีกครั้ง" เขาบอกดิฉันแบบนี้ค่ะ รบกวนเพื่อนๆแนะนำด้วยนะคะ เขาคงใช้เวลาในไทยได้ไม่กี่อาทิตย์ แต่ก็อยากให้เขาได้ไปตามหาสิ่งที่ปิดกั้นเขาไว้ค่ะ เอาบุญด้วยกันนะคะ...เขียนเยอะหน่อยแต่ก็ขอบคุณคำตอบล่วงหน้าด้วยค่ะ