ตำบลท่าแร่ สกลนคร เป็นที่รู้จักกันทั่วไปว่าเป็นหมู่บ้านที่มีประชากรนับถือศาสนาคริสต์มากที่สุดในประเทศไทย เป็นชุมชนที่เก่าแก่มีอายุกว่า 100 ปี ชาวบ้านแทบทุกหลังคาเรือนนับถือศาสนาคริสต์ เป็นชุมชนที่มีกลิ่นอายวัฒนธรรมฝรั่งเศส สังเกตได้จากบ้านเรือนที่เรียงรายทั่วไป นับเป็นชุมชนที่มีความเงียบสงบ และมีระเบียบวินัย มีความสะอาดเรียบร้อยเป็นระเบียบมาก “ ท่าแร่ “ เพี้ยนมาจากคำว่า “ หินแฮ่ “ หรือว่าดินลูกรัง มีพื้นที่ไกล้กับหนองหาร ก็เลยเปลี่ยนเป็น “ ท่าแฮ่ “ จึงเพี้ยนมาเป็น “ ท่าแร่ “ ในปัจจุบัน

การเดินทางขอเริ่มจากอุดรธานี พอมาถึงถึงสี่แยก มหาลัยราชภัฏสกลนคร ครับ  ก็เลี้ยวซ้ายครับ เลี้ยวซ้ายผ่านตลอด มาเรื่อยๆครับ จะผ่านทางเข้า มหาลัยเกษตรศาตร์และอุทยานบัวครับ จากสี่แยกราชภัฏสกลนคร มาถึงท่าแร่ ระยะทางประมาณ 17 km ครับ

พอมาถึงท่าแร่ สถาณที่แรกที่อยากแนะนำครับซึ่งเอาจริงๆก็มีหลายที่ในชุมชนนั้นที่น่าไป แต่วันที่ไปนั้น มีเวลาไม่มากครับและไปกับคุณแม่เดินเยอะไม่ได้ครับและไกล้เที่ยงด้วย
สถานที่แรกครับ ที่จะพาไปชม
อาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล เป็นโบสถ์คริสต์ นิกายคาทอริคที่ใหญ่ที่สุดในเมืองไทย ที่นี่เปิดให้คนทั่วไปได้เข้ามาเที่ยวชมได้ตลอด
เสียดายวันที่ไปไม่ได้เข้าไปเก็บภาพด้านในมาให้ชมครับ เนื่องจากมีการประกอบพิธีอยู่ด้านใน ไม่อยากรบกวนครับ
ต่อจากนั้นไปต่อครับ เป้าหมายของผมจริงๆอยากมาสัมผัสกับอาคารบ้านเก่า เห็นเขาว่าสวยงามครับ เคยไปอีกที่คือที่ภูเก็ตครับ แต่นี่ก็ไม่เยอะเหมือนภูเก็ตแต่ก็สวยงามไม่แพ้กันครับ
อาคารนี้จะอยู่ไม่ไกลจากอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล มากนักครับ อยู่ด้านหลัง มองเห็นชัดเจน
จากอาสนวิหารอัครเทวดามีคาแอล มาประมาณ 300 เมตร ก็จะเจอกับคฤหาสน์ "อุดมเดชวัฒน์” หรื่อ ชาวบ้านเรียกว่า บ้านเศรษฐี ตอนนี้เป็นบ้านร้าง
สวยนะบอกเลย ดูแล้วไม่เบื่อ เพลินดี เดินถ่ายรู้ด้านนอกได้ ด้านในเข้าไม่ได้ จะมี 2 หลังข้างๆกัน ลองไปดู
คฤหาสน์ "อุดมเดชวัฒน์” จะมีอยู่ 2 หลังข้างๆกันครับ สวยงามเลย
คุณแม่ซักภาพครับ
มีแต่ภาพมาให้ชมนะครับ ส่วนรายละเอียดก็พยายามหาแล้วแต่จับต้นชนปลายไม่ถูกครับ กลับพลาดก็เลยไม่ขอลงและกันครับ จากคฤหาสน์ "อุดมเดชวัฒน์”  มาอีกประมาณ 400 m จะพาไปชมบ้านร้างครับ
ตึกร้าง ท่าแร่ อาคารเก่าแก่ที่สร้างมาเป็นร้อยปีหลังนี้ เป็นของนายหนูกัน และนางหนูทา โง่นคำ เป็นมรดกขององเฮียน แต่เดิมสร้างเป็นที่อยู่อาศัย ต่อมาในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 2 ทางราชการสั่งปิดโบสถ์ไม่ให้ประกอบพิธีกรรมใดๆ ทางศาสนา เจ้าของบ้านอนุญาตให้ใช้เป็นศาสนสถานประกอบพิธีกรรมทางศาสนาได้ อาคารหลังนี้เคยเป็นที่ประกอบพิธีบูชามิซซา พิธีรับศิลแต่งงาน พอต่อมาตึกถูกไฟไหม้ ชำรุดทรุดโทรมอาคารหลังนี้จึงถูกทิ้งร้างไม่มีผู้ดูแล จนมีสภาพเหมือนในปัจจุบัน
บรรยากาศด้านในร่มรื่นมากครับ

คือเอาจริงๆแค่อยากมาแนะนำสถาณที่ท่องเที่ยวในจังหวัดเล็กๆแห่งนี้ครับ ซึ่งเป็นจังหวัดบ้านเกิดของกระผมเอง ถ้าผิดพลาดประการใดหรือว่าสงสัยยังไงสอบถามกันได้นะครับ : https://www.facebook.com/GoWTF/

กระทู้ก่อนหน้าครับ สกลนคร เช่นกัน https://pantip.com/topic/36339375