เพลี่ยงพล้ำที่ลังกาวี
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราก็จะมารีวิว ‘เกาะลังกาวี’

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งในประเทศมาเลเซียซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยติดกับจังหวัดสตูล
ซึ่งพวกเราของตั้งชื่อทริปนี้ว่า “เพลี่ยงพล้ำที่ลังกาวี”55555 จะเป็นอย่างไรลองมาอ่านกันเลยครับ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด แนะนำ หรือติเตียนได้เลยนะครับ ^^


ทริปนี้พวกเราไปกันทั้งหมด 3 คน เป็นชายหมดนะครับ55555
เริ่มแรกก็ต้องไปทำพาสปอร์ตก่อน พวกเราแนะนำให้ทำที่ MRT คลองเตยนะครับ ราคา 1060 บาท(ราคานี่รวมค่า EMS แล้วนะครับจะส่งถึงบ้านเลย)
เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์//8.30-15.30 น. เว้นวันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์
(พวกเราได้ไปถามพี่เจ้าหน้าที่มาเขาบอกว่าควรมาทำวันพุธนะครับคนจะน้อยต่อคิวไม่นาน)
**หาข้อมูลเพิ่มเติมอีกทีนะครับ
ราคาเงิน 1 ริงกิต = 8 บาท
จากนั้นเราก็ได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินจาก กรุงเทพ-หาดใหญ่ ราคา 1267.87 บาท/คน ออกเวลา 11 โมงนะครับ

แล้วเราก็จองโรงแรมกันนะครับ ชื่อโรงแรม Sunderland motel ราคา 629.07 บาท/คืน
พวกเราจองไว้ 3 คืนนะครับราคา 1887.21 บาท (รูปขอไม่บอกข้อมูลส่วนตัวนะครับ)

แล้วเราก็ไปแลกเงินที่ superrich นะครับแลกก่อนไป คนละ 3500 บาท = 440 ริงกิต
คราวนี้พวกเราก็ได้ศึกษาเส้นทางของเกาะลังกาวีและก็วางแผนเที่ยวกันครับ(แต่ตารางโคตรคลาดเคลื่อนเลย55555555 )

นี่ก็เป็นรูปแผนที่นะครับ
(ผู้อ่านก็น่าจะรู้สึกเหมือนพวกเราเห็นแล้วกูจะไปไหนว่ะ 555555 เดี๋ยวมาบอกในรีวิวสถานที่ในแต่ละวันนะครับ)



แล้วรูปนี้ก็เป็นแผนเวลาตามหลักฮวงจุ้ยของพวกเรานะครับ555555
วันที่ 1
เอาละครับหลังจากที่วางแผนกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันเลย พวกเราทั้ง 3 คนอยู่แถวพระประแดง จ.สมุทรปราการ
วันแรกเราก็นัดกันตอน 7.00 น. ที่ป้ายรถเมล์แล้วนั่งแท็กซี่กันไปดอนเมืองนะครับ ถึงที่หมายเวลา 8.30 น.


ถึงแล้วครับ 555555
เรามาถึงเราก็หาอะไรทำไปเรื่อยนะครับ เล่นเกม,หาอาหารทาน,ถ่ายรูป เราก็มาเช็คอินแล้วก็เตรียมพร้อมขึ้นเครื่องนะครับ

นี่ก็เป็นบอร์ดเวลาเครื่องบินครับ(พวกเราก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันอยู่ไหนของบอร์ด 5555555 เอาเป็นว่าดูที่ตั๋วเวลา 11.00 โมงละกัน แฮะๆ)



ครับ..ตลอดเดือนมีอากาศร้อนแต่ตอนเราจะไปเที่ยวฝนดันตก(โหวงเฮงดีจริงๆ555555)เลยกว่าจะได้บินเรทจากเวลาเดิม 1 ชั่วโมง 30 นาที
เอาล่ะครับเราก็ขึ้นเครื่องบินสักที

จากที่เครื่องบินเรทนะครับเราก็มาถึงที่หาดใหญ่เวลา 14.00 โมงนะครับ
จากนั้นเราก็ออกมาตรงสนามบินก็นั่งรถสองแถวไปยังท่ารถตู้หาดใหญ่นะครับ
เพื่อที่จะไป ท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล ก็คือเรานั่งรถตู้ไปสตูลก่อนนั่นเอง
เมื่อถึงท่ารถตู้พวกเราก็ได้บอกพี่พนักงานว่าจะไปสตูลเพื่อไปท่าเรือตำมะลัง
พี่เค้าบอกว่า เรือหมด 4 โมงถึงจะไปตอนนี้ก็ไม่ทันเรือแล้ว พี่พนักงานก็แนะนำให้เราพักแถวๆสตูลก่อน



รูปท่ารถตู้นะครับบบ
ความซวยบังเกิด 555555 พวกเราก็ตัดสินใจไปสตูลแล้วไปหาที่พักแถวๆนั้นเอา(ตายเอาด่านหน้าแล้วกัน555555)
พวกเราก็มาถึงสตูลละครับ55555 ถึงเวลา 16.12 น.(เอาไงต่อดีเนี่ยย ?)

หลังจากที่ถึงแล้วนะครับพวกเราก็เปิด google map หาที่พักเลย 5555555
ก็ได้ที่พัก เพชรแพรวรีสอร์ท นะครับ

ใช่ป่ะว่ะเนี่ยย555555
ก็ถึงแล้วนะครับที่พัก บรรยากาศเปลี่ยวเหงา น่าอยู่ดีนะครับ55555

ก็ที่พักนะครับ 1 เตียงใหญ่สามารถนอนได้ 2 คน มีไวไฟฟรี ติดแอร์ ราคา 450บาท/คืน
หลังจากที่ได้ที่พักแล้วพวกเราก็ออกไปหาของทานยามเย็นกันนะครับ
พวกเราก็ออกจากที่พักเดินไปสักระยะนึงตรงหน้าปากซอย กินข้าวมันไก่ย่างกัน555555 (ราคา 40 บาท)

จากที่เรากินข้าวกันเสร็จก็กลับที่พักครับ นั่งวางแผนในวันต่อไปโดย ออกจากที่พักเวลา 7.00 น.
โดยเหมารถ 2 แถวราคา 200 บาทโดยติดต่อกับเจ้าของรีสอร์ทเพราะ ของเราเยอะด้วยครับ อีกอย่างรอรถ2แถวก็ใช้เวลานานและบอกเวลาไม่ได้
พอตกกลางคืนก็ดูหนัง นอนเล่น ก็จบแล้ววันแรกกก
วันที่2 
พวกเราก็ตื่นตอน 6.00 น. อาบน้ำแต่งตัวมารอขึ้นรถที่ได้ติดต่อไว้ขึ้นรถเวลา 7.20 น.

พอเตรียมของเสร็จก็ออกรถ บรรยากาศระหว่างทางไปท่าเรือตำมะลังบรรยากาศดีมากเลยครับ
พวกเราเดินทางใช้เวลาประมาณ 20 นาที

พวกเราก็มาถึงท่าเรือตำมะลัง เวลาประมาณ 8.00 น. ซึ่งท่าเรือจะเปิดขายบัตรในเวลา 8.30 น.
และเรือจะออกในช่วงเช้าเวลา 9.30 น. ซึ่งจะมีเวลาและราคาตั๋วตามตารางตามนี้ครับ

รูปนี้เป็นราคาของตั๋วนะครับ

รูปนี้จะเป็นเวลานะครับ ฝั่งซ้ายของท่าเรือขึ้นจากฝั่งไทย ส่วนฝั่งขวาขึ้นจากมาเลเซียนะครับ



พวกเราขอแนะนำพี่ รปภ.นะครับถ้าเรามาถึงแล้วสงสัยว่าทำแบบไหนยังไง
ในการขึ้นเรือหรืออื่นๆที่ท่าเรือก็สอบถามได้เลยนะครับ

นี่เป็นพี่ รปภ. นะครับ ใจดีและอัธยาศัยดีมาก
ระหว่างที่เรารอก็เก็บภาพบรรยากาศกันครับ







พวกเราก็บังเอิญถ่ายรูปนี้มาได้พอดีเป็นรูปที่เห็นแล้วน่าประทับใจครับ

ผมได้เดินเข้าไปสอบถามพี่ในรูป พี่เขาก็บอกว่าเป็นการทักทายของคนอิสลามทั้งโลก
โดยนำมือทั้ง2มาจับกันแล้วนำมือนั้นมาแตะที่หน้าอก(ถ้าผู้อายุน้อยกว่าทักทายผู้ใหญ่
ผู้ที่อายุน้อยก็นำมือนั้นมาแตะสูงเหนือขึ้นไปจากอก เช้า ยกมือไหว้ หน้าผาก)



จากนั้นเราก็ขึ้นเรือกันเลยนะครับ (พวกเราลืมเก็บรูปเรือมา555555 เปิดใน google ละกันนะครับ อิอิ )
แต่ภายในเรือกว้างนะครับชมภาพกัน



เอาล่ะครับเราก็ถึงลังกาวีกันแล้ว(ท่าเรือห้ามถ่ายรูปนะครับเพราะจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเตือน โดนมาแล้ว TT)
หลังจากที่พวกเราได้เดินออกมาจากท่าเรือก็มาหารถเช่ากันเลย
จะมีทั้งมอเตอร์ไซด์และรถยนต์(พวกเราแนะนำให้เช่ารถยนต์นะครับเพราะเกาะลังกาวีใหญ่ อากาศร้อน นั่งมอเตอร์ไซด์อาจมีวูบได้555555)
เช่าอยู่ที่ 90 ริงกิต/วัน



นี่ครับรถของพวกเราเห็นแล้วน่าขับขี่
เอาล่ะครับหลังจากที่เราได้รถแล้วก็ไปยังที่พักกันเลยครับ

รูปนี้เป็นบรรยากาศบริเวณที่พักนะครับ5555 จะไม่มีพวกร้าน bar&bistro
เพราะบ้างเมืองเค้าเป็นศาสนาอิสลามนะครับ
แต่ตามร้านขายของมีเหล้าเบียร์ขาย
และแล้วเราก็มาถึงห้องตอนประมาณบ่ายโมงแต่ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน 555555 (ซวยอีกละ)
พวกเราก็เลยวางแผนไปเที่ยวที่สุสานพระนางมัสสุหรีกันก่อนนะครับก่อนอื่นก็มาซื้อซิมโทรศัพท์กัน
พวกผมใช้แค่ซิมเดียวนะครับแล้วแชร์เน็ตเอา55555 เป็นแบบ 4 G ราคา 10ริงกิต (80 บาท)


ครับร้านที่ซื้อพวกเราให้ชื่อร้านว่า `ร้านป้าสารพัดนึก’ คือมีหมดเหมือนรู้ว่าเราต้องการอะไร555555 (ร้านนี้

สุดจริง5555+)
ผมแนะนำอีกซื้อเต้ารับด้วยนะครับ บ้านเค้ากับบ้านเราไม่เหมือนกันซื้อแถวบ้านหม้ออ่ะครับราคาถูกกว่ากันเยอะเลย(ถือว่าเราพลาด555555)
โดนไป 15 ริงกิตแหนะ

รูปด้านซ้ายคือที่จะต้องซื้อนะครับ

เราก็ออกเดินทางกันครับโดยใช้ Google map เปิดเส้นทางเอา555555
ไม่หลงแน่นอนเพราะทางเป็นถนนเส้นหลักเส้นเดียวจะไม่มีพวกซอยยิบย่อยเหมือนบ้านเรานะครับ
เอาล่ะครับเราก็มาถึงแล้วประวัติต่างๆเดี๋ยวพวกเราแปะลิ้งไว้ให้ละกันนะครับ55555
ราคาตั๋วเข้าอยู่ที่ 120บาท/คน
ลิ้งข้อมูลนะครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://sites.google.com/site/prawlangkawi/tanan-nang-leuxd-khaw-massu-h-ri



เป็นการแสดงดนตรีนะครับจะมีลักษณะคล้ายดนตรีไทยแต่เสียงจะอยู่ในโทนต่ำกว่า

นี่ก็เป็นสถานที่ของสุสานของจริงนะครับ



จากนั้นเราก็ขับรถไปที่พิพิธภัณฑ์ข้าวนะครับก็นั่งหาข้าวกินแถวๆนั้นทางเข้าก็จะเป็นตลาดนัดเล็กๆ


เราก็มาถึงแล้วนะครับจากที่เราอ่านในพันทิปของคนก่อนๆมีข้าวปลูกมีโชว์เมล็ดพันธุ์ข้าว
แต่ ณ ตอนนี้ไม่มีไรเลย555555(นี่กุมาทำไมเนี่ย..)
เราก็ไหนๆก็มาละที่ที่มันน่าจะเป็นการเปิดหูเปิดตาเราบ้าง ก็เจอกับโรงเรียนของเกาะพอดีเป็นโรงเรียนประถม
พวกเราก็อยากรู้ว่า จะเป็นยังไง เลยขอให้พี่ รปภ พาเราไปชมรูปแบบจะก็
[CR] "เพลี่ยงพล้ำที่ลังกาวี"
สวัสดีครับเพื่อนๆ วันนี้พวกเราก็จะมารีวิว ‘เกาะลังกาวี’
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจอีกที่หนึ่งในประเทศมาเลเซียซึ่งอยู่ทางภาคใต้ของประเทศไทยติดกับจังหวัดสตูล
ซึ่งพวกเราของตั้งชื่อทริปนี้ว่า “เพลี่ยงพล้ำที่ลังกาวี”55555 จะเป็นอย่างไรลองมาอ่านกันเลยครับ
หากมีข้อผิดพลาดประการใด แนะนำ หรือติเตียนได้เลยนะครับ ^^
ทริปนี้พวกเราไปกันทั้งหมด 3 คน เป็นชายหมดนะครับ55555
เริ่มแรกก็ต้องไปทำพาสปอร์ตก่อน พวกเราแนะนำให้ทำที่ MRT คลองเตยนะครับ ราคา 1060 บาท(ราคานี่รวมค่า EMS แล้วนะครับจะส่งถึงบ้านเลย)
เวลาทำการ วันจันทร์-วันศุกร์//8.30-15.30 น. เว้นวันหยุดราชการและนักขัตฤกษ์
(พวกเราได้ไปถามพี่เจ้าหน้าที่มาเขาบอกว่าควรมาทำวันพุธนะครับคนจะน้อยต่อคิวไม่นาน)
**หาข้อมูลเพิ่มเติมอีกทีนะครับ
ราคาเงิน 1 ริงกิต = 8 บาท
จากนั้นเราก็ได้ทำการจองตั๋วเครื่องบินจาก กรุงเทพ-หาดใหญ่ ราคา 1267.87 บาท/คน ออกเวลา 11 โมงนะครับ
แล้วเราก็จองโรงแรมกันนะครับ ชื่อโรงแรม Sunderland motel ราคา 629.07 บาท/คืน
พวกเราจองไว้ 3 คืนนะครับราคา 1887.21 บาท (รูปขอไม่บอกข้อมูลส่วนตัวนะครับ)
แล้วเราก็ไปแลกเงินที่ superrich นะครับแลกก่อนไป คนละ 3500 บาท = 440 ริงกิต
คราวนี้พวกเราก็ได้ศึกษาเส้นทางของเกาะลังกาวีและก็วางแผนเที่ยวกันครับ(แต่ตารางโคตรคลาดเคลื่อนเลย55555555 )
(ผู้อ่านก็น่าจะรู้สึกเหมือนพวกเราเห็นแล้วกูจะไปไหนว่ะ 555555 เดี๋ยวมาบอกในรีวิวสถานที่ในแต่ละวันนะครับ)
แล้วรูปนี้ก็เป็นแผนเวลาตามหลักฮวงจุ้ยของพวกเรานะครับ555555
วันที่ 1
เอาละครับหลังจากที่วางแผนกันเรียบร้อยก็ออกเดินทางกันเลย พวกเราทั้ง 3 คนอยู่แถวพระประแดง จ.สมุทรปราการ
วันแรกเราก็นัดกันตอน 7.00 น. ที่ป้ายรถเมล์แล้วนั่งแท็กซี่กันไปดอนเมืองนะครับ ถึงที่หมายเวลา 8.30 น.
เรามาถึงเราก็หาอะไรทำไปเรื่อยนะครับ เล่นเกม,หาอาหารทาน,ถ่ายรูป เราก็มาเช็คอินแล้วก็เตรียมพร้อมขึ้นเครื่องนะครับ
ครับ..ตลอดเดือนมีอากาศร้อนแต่ตอนเราจะไปเที่ยวฝนดันตก(โหวงเฮงดีจริงๆ555555)เลยกว่าจะได้บินเรทจากเวลาเดิม 1 ชั่วโมง 30 นาที
เอาล่ะครับเราก็ขึ้นเครื่องบินสักที
จากที่เครื่องบินเรทนะครับเราก็มาถึงที่หาดใหญ่เวลา 14.00 โมงนะครับ
จากนั้นเราก็ออกมาตรงสนามบินก็นั่งรถสองแถวไปยังท่ารถตู้หาดใหญ่นะครับ
เพื่อที่จะไป ท่าเรือตำมะลัง จ.สตูล ก็คือเรานั่งรถตู้ไปสตูลก่อนนั่นเอง
เมื่อถึงท่ารถตู้พวกเราก็ได้บอกพี่พนักงานว่าจะไปสตูลเพื่อไปท่าเรือตำมะลัง
พี่เค้าบอกว่า เรือหมด 4 โมงถึงจะไปตอนนี้ก็ไม่ทันเรือแล้ว พี่พนักงานก็แนะนำให้เราพักแถวๆสตูลก่อน
ความซวยบังเกิด 555555 พวกเราก็ตัดสินใจไปสตูลแล้วไปหาที่พักแถวๆนั้นเอา(ตายเอาด่านหน้าแล้วกัน555555)
พวกเราก็มาถึงสตูลละครับ55555 ถึงเวลา 16.12 น.(เอาไงต่อดีเนี่ยย ?)
ก็ได้ที่พัก เพชรแพรวรีสอร์ท นะครับ
ก็ถึงแล้วนะครับที่พัก บรรยากาศเปลี่ยวเหงา น่าอยู่ดีนะครับ55555
หลังจากที่ได้ที่พักแล้วพวกเราก็ออกไปหาของทานยามเย็นกันนะครับ
พวกเราก็ออกจากที่พักเดินไปสักระยะนึงตรงหน้าปากซอย กินข้าวมันไก่ย่างกัน555555 (ราคา 40 บาท)
โดยเหมารถ 2 แถวราคา 200 บาทโดยติดต่อกับเจ้าของรีสอร์ทเพราะ ของเราเยอะด้วยครับ อีกอย่างรอรถ2แถวก็ใช้เวลานานและบอกเวลาไม่ได้
พอตกกลางคืนก็ดูหนัง นอนเล่น ก็จบแล้ววันแรกกก
วันที่2
พวกเราก็ตื่นตอน 6.00 น. อาบน้ำแต่งตัวมารอขึ้นรถที่ได้ติดต่อไว้ขึ้นรถเวลา 7.20 น.
พวกเราเดินทางใช้เวลาประมาณ 20 นาที
พวกเราก็มาถึงท่าเรือตำมะลัง เวลาประมาณ 8.00 น. ซึ่งท่าเรือจะเปิดขายบัตรในเวลา 8.30 น.
และเรือจะออกในช่วงเช้าเวลา 9.30 น. ซึ่งจะมีเวลาและราคาตั๋วตามตารางตามนี้ครับ
พวกเราขอแนะนำพี่ รปภ.นะครับถ้าเรามาถึงแล้วสงสัยว่าทำแบบไหนยังไง
ในการขึ้นเรือหรืออื่นๆที่ท่าเรือก็สอบถามได้เลยนะครับ
ระหว่างที่เรารอก็เก็บภาพบรรยากาศกันครับ
พวกเราก็บังเอิญถ่ายรูปนี้มาได้พอดีเป็นรูปที่เห็นแล้วน่าประทับใจครับ
โดยนำมือทั้ง2มาจับกันแล้วนำมือนั้นมาแตะที่หน้าอก(ถ้าผู้อายุน้อยกว่าทักทายผู้ใหญ่
ผู้ที่อายุน้อยก็นำมือนั้นมาแตะสูงเหนือขึ้นไปจากอก เช้า ยกมือไหว้ หน้าผาก)
จากนั้นเราก็ขึ้นเรือกันเลยนะครับ (พวกเราลืมเก็บรูปเรือมา555555 เปิดใน google ละกันนะครับ อิอิ )
แต่ภายในเรือกว้างนะครับชมภาพกัน
เอาล่ะครับเราก็ถึงลังกาวีกันแล้ว(ท่าเรือห้ามถ่ายรูปนะครับเพราะจะมีเจ้าหน้าที่ตำรวจมาเตือน โดนมาแล้ว TT)
หลังจากที่พวกเราได้เดินออกมาจากท่าเรือก็มาหารถเช่ากันเลย
จะมีทั้งมอเตอร์ไซด์และรถยนต์(พวกเราแนะนำให้เช่ารถยนต์นะครับเพราะเกาะลังกาวีใหญ่ อากาศร้อน นั่งมอเตอร์ไซด์อาจมีวูบได้555555)
เช่าอยู่ที่ 90 ริงกิต/วัน
เอาล่ะครับหลังจากที่เราได้รถแล้วก็ไปยังที่พักกันเลยครับ
เพราะบ้างเมืองเค้าเป็นศาสนาอิสลามนะครับ
แต่ตามร้านขายของมีเหล้าเบียร์ขาย
และแล้วเราก็มาถึงห้องตอนประมาณบ่ายโมงแต่ยังไม่ถึงเวลาเช็คอิน 555555 (ซวยอีกละ)
พวกเราก็เลยวางแผนไปเที่ยวที่สุสานพระนางมัสสุหรีกันก่อนนะครับก่อนอื่นก็มาซื้อซิมโทรศัพท์กัน
พวกผมใช้แค่ซิมเดียวนะครับแล้วแชร์เน็ตเอา55555 เป็นแบบ 4 G ราคา 10ริงกิต (80 บาท)
ผมแนะนำอีกซื้อเต้ารับด้วยนะครับ บ้านเค้ากับบ้านเราไม่เหมือนกันซื้อแถวบ้านหม้ออ่ะครับราคาถูกกว่ากันเยอะเลย(ถือว่าเราพลาด555555)
โดนไป 15 ริงกิตแหนะ
เราก็ออกเดินทางกันครับโดยใช้ Google map เปิดเส้นทางเอา555555
ไม่หลงแน่นอนเพราะทางเป็นถนนเส้นหลักเส้นเดียวจะไม่มีพวกซอยยิบย่อยเหมือนบ้านเรานะครับ
เอาล่ะครับเราก็มาถึงแล้วประวัติต่างๆเดี๋ยวพวกเราแปะลิ้งไว้ให้ละกันนะครับ55555
ราคาตั๋วเข้าอยู่ที่ 120บาท/คน
ลิ้งข้อมูลนะครับ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นเราก็ขับรถไปที่พิพิธภัณฑ์ข้าวนะครับก็นั่งหาข้าวกินแถวๆนั้นทางเข้าก็จะเป็นตลาดนัดเล็กๆ
เราก็มาถึงแล้วนะครับจากที่เราอ่านในพันทิปของคนก่อนๆมีข้าวปลูกมีโชว์เมล็ดพันธุ์ข้าว
แต่ ณ ตอนนี้ไม่มีไรเลย555555(นี่กุมาทำไมเนี่ย..)
เราก็ไหนๆก็มาละที่ที่มันน่าจะเป็นการเปิดหูเปิดตาเราบ้าง ก็เจอกับโรงเรียนของเกาะพอดีเป็นโรงเรียนประถม
พวกเราก็อยากรู้ว่า จะเป็นยังไง เลยขอให้พี่ รปภ พาเราไปชมรูปแบบจะก็
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น