วันนี้กระผมจะมาแนะนำดอกไม้ญี่ปุ่นอีกชนิดหนึ่งที่สวยงามมากๆ ไม่แพ้ดอกซากุระตัวแทนประเทศญี่ปุ่นเลย ที่บางคนอาจจะเคยเห็นกันมาบ้างแล้วในโลกโซเชี่ยล แต่อาจจะไม่รู้จักชื่อนะครับ
สำหรับชื่อเจ้าดอกนี้ก็คือ "ดอกวิสทีเรีย" หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "ดอกฟุจิ" ดอกชนิดนี้มีสีม่วง ชมพูและขาว ลักษณะดอกเป็นพุ่มย้อยลงมายาวอย่างสวยงาม ช่วงที่จะได้เป็นความสวยของดอกชนิดนี้ก็จะเป็นช่วงเดือน เมษายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่ถ้าหากอากาศร้อนมากๆ เจ้าดอกนี้ก็จะเหี่ยวเร็วมากๆ ฉะนั้น ถ้าจะให้ดีก็ควรน่าจะไปดูช่วงกลางเดือนเมษายนน่าจะดีที่สุด ประกอบกับตรงกับช่วงสงกรานต์ของบ้านเรา เพื่อนๆ ที่จะมาญี่ปุ่นในช่วงนี้ก็น่าจะมีเพิ่มขึ้น ก็น่าจะลองมาดูเจ้าดอกนี้แทนกันได้นะครับ ถ้าหากใครพลาดชมดอกซากุระไป ก็ลองมาสัมผัสกับความสวยกับดอกฟุจินี้ ได้ที่ญี่ปุ่นในช่วงที่กล่าวไปข้างต้นได้ และวันนี้ก็ได้นำประสบการณ์จากเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ไปสัมผัสความสวยงามของดอกวิสทีเรีย ณ จังหวัดฟุกุโอกะ
"ฉันได้แวะมาที่นี่กับลูกๆ ในช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค การเดินทางจากโตเกียวมาที่นี่ก็สามารถนั่งรถไฟชินคังเซ็นมาลงที่สถานีโอกุระได้เลยค่ะ สวนแห่งนี้ต้องขึ้นเขาไปเล็กน้อย ระหว่างทางเราก็จะได้ชมวิวสวยๆ ของจังหวัดฟุกุโอกะด้วย ดอกวิสทีเรียที่เรามาชมวันนี้จะบานเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้นเองค่ะ หากต้องการมาชมต้องมาในช่วงปลายเดือนเมษายน-ต้นพฤษภาคม ใครมาได้เห็นความสวยงามจะต้องประทับใจมากๆ ค่ะ แน่นอนว่าวันหยุดยาวแบบนี้ สถานที่ท่องเที่ยวก็มักมีผู้คนไปเยือนเป็นจำนวนมากและรถก็จะติดค่ะ หากเดินทางด้วยรถยนต์ ควรจะรีบออกจากบ้านเช้าๆ หน่อยก็ดีค่ะ เพื่อจะได้มีที่จอดรถด้วย และต้องเดินมากก็ควรใส่รองเท้าผ้าใบแทนรองเท้าส้นสูงนะคะ"
"ใครได้มาจะต้องตะลึงกับความสวยงามของอุโมงค์ดอกไม้ สวยจนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะค่ะ ดอกวิสทีเรียจะมีทั้งสีม่วง ชมพู และสีขาว เดินผ่านทางอุโมงค์ก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ราวกับเข้าไปอยู่อีกโลกนึงเลยค่ะ ทางเดินอาจจะขรุขระบ้าง เวลาเดินก็ต้องคอยระวังทาง และต้องคอยระวังผึ้งด้วยนะคะ"
"ค่าเข้าชมสวนปกติจะอยู่ที่ 300 เยน แต่ในช่วงดอกไม้บานค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 1000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กนักเรียนถึงระดับมัธยมปลายค่าเข้าฟรีค่ะ" อันนี้อาจจะเป็นแถบคิวชูกันเลยนะครับ รับรองเลยครับที่นี่ยกให้เป็นอันดัย 1 ของคิวชูเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าหากมาที่แถบคันโต (แถบตะวันออก) ก็จะมีที่จังหวัดโทจิกิ อิบาระกิ กุมมะ หากได้มาแถบคันไซ (แถบตะวันตก) ก็นี่เลยจังหวัดเฮียวโกะ เกียวโต สำหรับใครที่ได้มาที่โตเกียวแล้วละก็ ก็คงจะแนะนำให้ไปดูที่ศาลเจ้าคาเมะโดะเทน (Kameidoten Shrine) ที่นอกจากจะได้ชมความสวยของเจ้าดอกวิสทีเรียนี้แล้วก็ยังจะได้ถ่ายรูปวิวด้านหลังเป็น "โตเกียวสกายทรี" ได้อีกด้วยเพราะจากศาลเจ้านี้สามารถมองเห็นสกายทรีได้ด้วย แล้วถ้าครั้งหน้ามีข่าวสารดีๆ แบบนี้จะนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดูได้อ่านกันนะครับ
แหล่งข้อมูล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://thailand.fun-japan.jp/Articles/2017/01/18/TH_20170122-15-Wisteria-KitaKyushu
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://www.pref.fukuoka.lg.jp/somu/multilingual/thailand/top.html
มาชม"ดอกวิสทีเรีย"ในฟุกุโอกะกันเถอะ
สำหรับชื่อเจ้าดอกนี้ก็คือ "ดอกวิสทีเรีย" หรือภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า "ดอกฟุจิ" ดอกชนิดนี้มีสีม่วง ชมพูและขาว ลักษณะดอกเป็นพุ่มย้อยลงมายาวอย่างสวยงาม ช่วงที่จะได้เป็นความสวยของดอกชนิดนี้ก็จะเป็นช่วงเดือน เมษายนไปจนถึงเดือนพฤษภาคม แต่ถ้าหากอากาศร้อนมากๆ เจ้าดอกนี้ก็จะเหี่ยวเร็วมากๆ ฉะนั้น ถ้าจะให้ดีก็ควรน่าจะไปดูช่วงกลางเดือนเมษายนน่าจะดีที่สุด ประกอบกับตรงกับช่วงสงกรานต์ของบ้านเรา เพื่อนๆ ที่จะมาญี่ปุ่นในช่วงนี้ก็น่าจะมีเพิ่มขึ้น ก็น่าจะลองมาดูเจ้าดอกนี้แทนกันได้นะครับ ถ้าหากใครพลาดชมดอกซากุระไป ก็ลองมาสัมผัสกับความสวยกับดอกฟุจินี้ ได้ที่ญี่ปุ่นในช่วงที่กล่าวไปข้างต้นได้ และวันนี้ก็ได้นำประสบการณ์จากเพื่อนผู้หญิงคนหนึ่งที่ได้ไปสัมผัสความสวยงามของดอกวิสทีเรีย ณ จังหวัดฟุกุโอกะ
"ฉันได้แวะมาที่นี่กับลูกๆ ในช่วงวันหยุดยาวโกลเด้นวีค การเดินทางจากโตเกียวมาที่นี่ก็สามารถนั่งรถไฟชินคังเซ็นมาลงที่สถานีโอกุระได้เลยค่ะ สวนแห่งนี้ต้องขึ้นเขาไปเล็กน้อย ระหว่างทางเราก็จะได้ชมวิวสวยๆ ของจังหวัดฟุกุโอกะด้วย ดอกวิสทีเรียที่เรามาชมวันนี้จะบานเพียงแค่ปีละครั้งเท่านั้นเองค่ะ หากต้องการมาชมต้องมาในช่วงปลายเดือนเมษายน-ต้นพฤษภาคม ใครมาได้เห็นความสวยงามจะต้องประทับใจมากๆ ค่ะ แน่นอนว่าวันหยุดยาวแบบนี้ สถานที่ท่องเที่ยวก็มักมีผู้คนไปเยือนเป็นจำนวนมากและรถก็จะติดค่ะ หากเดินทางด้วยรถยนต์ ควรจะรีบออกจากบ้านเช้าๆ หน่อยก็ดีค่ะ เพื่อจะได้มีที่จอดรถด้วย และต้องเดินมากก็ควรใส่รองเท้าผ้าใบแทนรองเท้าส้นสูงนะคะ"
"ใครได้มาจะต้องตะลึงกับความสวยงามของอุโมงค์ดอกไม้ สวยจนบรรยายไม่ถูกเลยล่ะค่ะ ดอกวิสทีเรียจะมีทั้งสีม่วง ชมพู และสีขาว เดินผ่านทางอุโมงค์ก็ได้กลิ่นหอมของดอกไม้ราวกับเข้าไปอยู่อีกโลกนึงเลยค่ะ ทางเดินอาจจะขรุขระบ้าง เวลาเดินก็ต้องคอยระวังทาง และต้องคอยระวังผึ้งด้วยนะคะ"
"ค่าเข้าชมสวนปกติจะอยู่ที่ 300 เยน แต่ในช่วงดอกไม้บานค่าเข้าชมจะอยู่ที่ 1000 เยน สำหรับผู้ใหญ่ ส่วนเด็กนักเรียนถึงระดับมัธยมปลายค่าเข้าฟรีค่ะ" อันนี้อาจจะเป็นแถบคิวชูกันเลยนะครับ รับรองเลยครับที่นี่ยกให้เป็นอันดัย 1 ของคิวชูเลยก็ว่าได้ แต่ถ้าหากมาที่แถบคันโต (แถบตะวันออก) ก็จะมีที่จังหวัดโทจิกิ อิบาระกิ กุมมะ หากได้มาแถบคันไซ (แถบตะวันตก) ก็นี่เลยจังหวัดเฮียวโกะ เกียวโต สำหรับใครที่ได้มาที่โตเกียวแล้วละก็ ก็คงจะแนะนำให้ไปดูที่ศาลเจ้าคาเมะโดะเทน (Kameidoten Shrine) ที่นอกจากจะได้ชมความสวยของเจ้าดอกวิสทีเรียนี้แล้วก็ยังจะได้ถ่ายรูปวิวด้านหลังเป็น "โตเกียวสกายทรี" ได้อีกด้วยเพราะจากศาลเจ้านี้สามารถมองเห็นสกายทรีได้ด้วย แล้วถ้าครั้งหน้ามีข่าวสารดีๆ แบบนี้จะนำมาแชร์ให้เพื่อนๆ ได้ดูได้อ่านกันนะครับ
แหล่งข้อมูล
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้