[CR] DERNUNGDERxLAOSTAI ภายนอก/กลางวัน/ลาวใต้

DERNUNGDERxLAOSTAI  ภายนอก/กลางวัน/ลาวใต้ 5วัน4คืน

เราอยากไปเที่ยวที่ที่เป็นธรรมชาติเลยเลือกเดินทางไปลาวใต้ โดยจุดมุ่งหมายของเราคือ
ปากเซ-ดอนเดด-ดอนคอน-โบโลเวน ทริปนี้เรามีกันทั้งหมด 6 คน โดยทริปนี้เราตั้งงบไว้คนละ 6500 บาทไทย(รวมค่ากิน)
โดยออกทางตั้งแต่วันที่ 8 มีนาคม ตอนเย็นและกลับถึงกรุงเทพ 14 มีนาคม ตอนเช้า รวมเวลา  5 วัน 4 คืน
ช่วงที่จะไปไม่มีโปรโมชั่นค่าเครื่องราคาถูก เราเลยเลือกเดินทางไปลาวใต้ด้วยรถทัวร์ เราก็เลยศึกษาเส้นทาง
ว่าจะไปลาวใต้ด้วยรถทัวร์ยังไง เราเลือกจองตั๋วรถทัวร์ของนครชัยแอร์ เมื่อได้ตั๋วแล้วก็เริ่ม ออกเดินกันเลย !

8 มี.ค. 60  /หมอชิต / เย็น
เราเดินทางไปหมอชิต เพื่อไปขึ้นรถรอบ 21.20 น. ปลายทางของเราคือสถานนีขนส่งอุบล

ระหว่างรอรถเด้อ

ได้ขี้นรถแล้วจ้า

9 มี.ค. 60 / สถานีขนส่งอุบล /เช้า
ใช้เวลาเดินทางประมาณ 8 ชั่วโมงค่ะ นานจริงงง แต่บนรถมีหนังให้ดูมีเพลงให้ฟัง มีเกมส์ให้เล่น หรือถ้าใครไม่อยากดูก็หลับได้ค่ะมีผ้าห่มให้ ซักพักใหญ่ๆเราก็เดินมาถึงแล้วสถานีขนส่งอุบล

ระหว่างรอซื้อตั๋ว ขอนอนเอาแรงหน่อยเด้อ

ได้ตั๋วมาแล้วค่ะ

มีรถทัวร์ระหว่างประเทศจากอุบลไปปากเซ (ลาวใต้) โดยตั๋วจากอุบลไปปากเซ ขาไปมีสองรอบคือ 9.00 น. กับ 13.00 น. โดยตอนที่ซื้อตั๋วต้องใช้ passport ด้วยเด้อ เราซื้อตั๋วรอบ 9 โมง ใช้เวลาประมาณชั่วโมงครึ่งก็ถึงด่านช่องเม็ก

แถวด่านตรวจคนเข้าเมืองจะมีคนขายซิมเยอะแยะเลยค่ะ ลองต่อราคาดูนะคะ เราเสียค่าข้ามแดนด้วย คนละ 200 บาท
เพราะว่าเจ้าหน้าที่บอกว่าเป็นpassport ใหม่ แล้วแถวนั้นจะมีคนมาเดินชวนแลกเงินแนะนำว่าอย่าพึ่งแลก
เพราะว่าถ้าเราแลกในปากเซจะได้เยอะกว่าเด้อ หลังจากเราจัดการเรื่อง passport เสร็จแล้ว
รถทัวร์จะไปรอเราอยู่ฝั่งลาวเลย เราก็ขึ้นรถแล้วนั่งรถต่อไปปากเซได้เลย
ประมาณชั่วโมงครึ่งเราก็ถึงสถานีขนส่งปากเซเเล้วค่ะ

ระหว่างงงๆ จากการลงรถมา คนขับแท็กซี่ลาวประมาณ 5 คนก็เข้ามาถามว่าจะไปไหน เขาบอกว่าจะขับพาไปส่งแถวย่านที่พักให้
โดยคิดราคาคนละ 20000 กีบ  (ประมาณ 80 บาท) เนื่องจากเรายังไม่ได้แลกเงินบวกกับความหิวเลยบอกว่า
ไม่เป็นไรเดี๋ยวเราจะไปหาอะไรกินก่อน (คนที่นี่ฟังไทยออก ฟังอังกฤษรู้เรื่อง พูดอีสานปนเหนือยิ่งเข้าใจ)
จากนั้นเราก็พากันเดินออกมาได้นิดนึง มีรถคันนึงขับตามมา พร้อมบอกว่า คนละ 10000กีบ ไปไหมถูกสุดแล้ว

พวกเราเลยตัดสินใจขึ้นไป โดยจ่ายเป็นเงินไทย ราคา 250 บาท ซึ่งระยะทางจากขนส่งมาย่านที่พักก็ไกลจริงๆ
ถ้าจะเดินเพราะอากาศร้อนมาก แนะนำว่าขึ้นแท็กซี่ดีกว่าค่ะ

พอมาถึงย่านที่พัก เราก็กินข้าวและได้รู้จักกับเจ้าของร้านชื่อพี่วง
พี่วงแนะนำให้พักที่สะบายดี2 ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากที่ที่เรากินข้าวมากนัก

ร้านพี่วงค่ะ

บรรยากาศในห้องพักค่ะ ถ่ายไม่ทันจริงๆ เพื่อนๆได้ทำลายมันลงไปแล้วค่ะ 55555

ไม่ไกลจากที่พักมากเดินออกมาจะเจอธนาคารค่ะ สามารถแลกเงินได้เลยค่ะ ตอนแลกเงินออกมาได้เงินเป็นกอบเป็นกำเลยทีเดียว
แต่คือพอไปถามคนแถวนั้นเขาบอกว่าแบงค์เล็กสุดที่นี่คือ แบงค์ 500 กีบ แต่หายากแล้ว คือ 1000 กีบเนี่ยยังซื้อลูกอมให้เด็กกินไม่ได้เลย
แล้วเวลาเรียกปริมาณเงิน จะงงๆหน่อยค่ะ เขาจะเรียกกัน 60 พันกีบ 10 พันกีบ เราก็ยืนนับกันไป 555555

หลังจากเช็คอินเสร็จเรามีเวลาเหลือเลยถามคนแถวนั้นว่าแถวปากเซมีที่ไหนน่าไปบ้าง
เขาแนะนำให้ไปวัดภูสะเหล่า เราออกมาเช่าจักรยานปั่นไป ถามทางคนแถวนั้นไปเรื่อยๆ

สะพานลาวญี่ปุ่นค่ะ ปั่นข้ามสะพานนี้ไปก็จะถึงวัดแล้วค่ะ ที่เห็นองค์พระไกลๆบนเขาคือวัดภูสะเหล่า ด้านขวาของสะพานผู้คนเชื่อว่ามีถ้ำพญานาคอยู่ด้วย ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อก่อนมีคนมาเอาดินตรงถ้ำพญานาคไปอยู่ไฟ พอตกกลางคืนเมียก็หายไป หาอยู่หลายวันจนไปจุดธูปบอก เลยมีคนไปเจอเมียเขาลอยน้ำอยู่แถวนากระสัง คือลอยน้ำไปไกลมาก เจ้าตัวเล่าว่ารู้สึกเหมือนนอนอยู่บนหลังอะไรสักอย่างแต่ขยับตัวอะไรไม่ได้เลย จะตื่นก็ไม่ได้ ปัจจุบันพี่คนนี้ก็ยังมีชีวิตอยู่ค่ะ คือแอบขนลุกเบาๆ

บ้านเจ๊ดาวเรือง เจ้าของสัมปทานหลากหลายสิ่งที่ลาว ตลาดดาวเรือง กาแฟดาว และอื่นๆอีกเยอะมาก
ตอนแรกคิดว่าเป็นมัสยิดหรือแบบสถานที่สำคัญ แต่ไม่ใช่ เป็นบ้านเจ๊ดาวเรืองจ้าใหญ่มากกกกกกกกกกจริงๆค่ะ
พอปั่นมาสักพักก็ถึงแล้วค่ะวัดภูสะเหล่า

นี่คือทางขึ้นจ้า นับได้ประมาณ 232 ขั้น

10 มี.ค. 60 /ปากเซ-ดอนเดด