[CR] Review ที่พัก The Legend Maeklong บ้านตึกแห่งแรกริมแม่น้ำแม่กลอง

สวัสดีค่ะ กระทู้นี้เป็นการรีวิวครั้งแรกของจขกท.
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยมา ณ ที่นี้ด้วยนะคะ
________________________________________________

จขกท. และเพื่อนๆ วางแผนจะไปพักผ่อนกัน แต่ด้วยความที่พวกเรามีข้อจำกัด ในเรื่องงบ ระยะทาง และเรื่องเวลา
ทุกคนเลยลงความเห็นกันว่า อยากได้ที่พักที่ใกล้กรุงเทพ สะดวก สวย ธรรมชาติ ไม่แพงมากและเป็นส่วนตัว  
สุดท้ายก็เจอ The Legend Maeklong เป็นสถานที่ที่ตอบโจทย์ของจขกท.และเพื่อนมากที่สุด

ความน่าสนใจอยู่ที่ ก่อนจะเป็น The Legend Maeklong
แต่เดิมเป็นบ้านตึกริมน้ำที่แรกของแม่กลองในสมัยรัชกาลที่ ๖
เจ้าของเดิมชื่อ ขุนทวี ราชทรัพย์ เป็นคุณตาทวดของเจ้าของ The Legend

ซึ่งขุนทวีเนี่ย ได้รับพระราชทานบ้านตึกริมน้ำเป็นสมบัติส่วนบุคคล หลังเกษียณอายุราชการ
เป็นสถาปัตยกรรมที่ผสมผสานระหว่างไทยกับตะวันตก ปัจจุบันอายุประมาณ ๑๓๗ ปี
เจ้าของ The Legend นำบ้านเก่าริมน้ำมา Renovate เป็นที่พักโดยใช้ Concept ย้อนยุค
แสดงให้เห็นวิถีชีวิตริมแม่น้ำ อนุรักษ์ความเป็นไทย

ถ้าคิดว่ามันเก่าแล้วจะน่ากลัว บอกเลยค่ะว่าคุณคิดผิด!! ที่นี่ไม่ได้น่ากลัวเลยย เพื่อนของจขกท. ขี้กลัวผียังอยู่ได้สบายมากก


The Legend Maeklong
ต้องบอกก่อนเลยว่า ที่นี่ไม่ใช่แค่ รีสอร์ท แต่ยังเปิดเป็นร้านอาหารริมน้ำแม่กลอง ชื่อร้านอาหารบ้านขุนทวี

พอเข้ามาก็เจอลานจอดรถเลย สำหรับแขกที่มาพักหรือใช้บริการร้านอาหาร
ไม่ต้องกลัวว่าที่จอดจะไม่พอ ด้านนอกยังมีที่จอดสำรองอีกเยอะ

ทางเดินเข้าไปที่ Lobby ตลอดทางมีต้นไม้ค่อนข้างเยอะ อากาศข้างในเลยไม่ค่อยร้อนมาก

ที่นี่จะมีเรือน 3 แบบ คือ เรือนอัมพวา เรือนบางคนที และเรือนแม่กลอง ในรูปนี้คือเรือนอัมพวา อยู่ด้านหน้าสุด
   
ที่นั่งเล่นรับลมหน้าเรือนอัมพวา
         
พอเดินเข้ามาด้านในสุดก็จะเจอ เรือนอัมพวา เป็น ทั้งห้องพัก และ Lobby เรือนไทยสีขาวสวยสุดๆ
    
ใน Lobby ด้านขวามือ จะเป็นที่นั่งรอ สไตล์ไทยโบราณ ที่สำคัญไม่ร้อนเลย ทั้งๆที่เป็นหน้าร้อน

ตรงนี้พี่เจ้าของ The Legend บอกว่าเป็นภาพของขุนทวี ราชทรัพย์ เจ้าของบ้านหลังนี้ค่ะ

ด้านซ้ายมือ จะเป็นโต๊ะอาหารและโซฟารับรองแขก หรูหราสุดๆ ~

บริเวณภายใน Lobby มีของเก่าตั้งโชว์ค่อนข้างเยอะ เหมือนพิพิธภัณฑ์ขนาดย่อมๆ
เดินระวังกันสุดๆ กลัวไปทำอะไรใน Lobby เขาพังงง

ด้านในสุดเป็น counter สำหรับ check-in , check out  สอบถามข้อมูลต่างๆ
อยากรู้อะไรถามเลยค่ะ รหัส Wifi บริการ หรือข้อสงสัย เจ้าหน้าที่ดูแลดี ไม่ต้องห่วง

ด้านขวามือจาก counter จะเป็นทางขึ้นห้องพักชั้น 2
ไม่ได้พักด้านบนเลยไม่กล้าขอเขาขึ้นไปถ่าย T^T
  
และแล้วววว ~~~~  เราก็ได้เวลาเข้าห้อง
ห้องที่เราจองไว้ คือ แม่กลอง 5 ค่ะ อยู่ในตัวเรือนแม่กลอง
เป็นแบบ 2 ห้องนอน 1 ห้องน้ำ  

พอเปิดประตูเข้ามาจะมีพื้นที่ว่างสำหรับทำกิจกรรมภายในห้องให้ด้วยค่ะ
อันนี้ไม่รู้มาก่อนเลยย นึกว่ามีแต่ห้องนอน

มีผนังกั้นเล็กน้อยระหว่างห้องว่างกับห้องนอน

มาถึงที่นอนกันบ้างงง เตียงหนานุ่ม นอนสบายมากๆ ผ้านวมหนา ไม่ต้องกลัวหนาว

มีทั้งแอร์ โทรทัศน์ ตู้เย็น ด้านหลังฉากไม้กั้นก็จะเป็นห้องน้ำ และอ่างล้างมือ

ประตูทางปลายเตียง เป็นประตูที่จะเชื่อมไปยังห้องนอนอีกห้อง

เตียงนอนในห้องนี้จะเป็น 2 เตียงเดี่ยว ขนาดกำลังดีเลยค่ะ

อีกมุมนึงบ้างงงงง ประตูเปิดออกด้านนอกได้เหมือนกับห้องแรก


วันนั้นพี่เจ้าของ The Legend เดินมาบอกว่า มีเรือบริการไปส่งที่ตลาดน้ำอัมพวาและพาชมหิ่งห้อย
เรือจะมาถึงตอนประมาณ 4 โมงเย็น และจะมาส่งที่พักตอน ประมาณ 3 ทุ่ม
ที่สำคัญคือ ฟรีจ้าาาาา ของฟรีแบบนี้ใครจะพลาด ฮิฮิ ไปสิคะ รออะไร


พอ 4 โมงเย็นปุ้บ เรือก็มาเทียบท่า รอรับ ตรงเวลาสุดๆ

หลังจากเที่ยวตลาดน้ำอัมพวาจนขาล้า แล้วก็ไปดูหิ่งห้อย กว่าจะเสร็จก็ปาเข้าไปเกือบ 3 ทุ่ม
พอกลับมาถึงที่พัก ร้านอาหารบ้านขุนทวีก็เปิดแล้ว กลางคืนเปิดไฟสวยมากๆ แล้วคนก็เยอะพอสมควรเลย

บริเวณรอบๆที่พักตอนกลางคืนกันบ้าง

ตอนช่วงเช้านี่เป็นอะไรที่ฟินสุดๆเลยค่ะ อากาศดีมากๆ ลมพัดริมน้ำ น่านอนต่อสุดๆ

หน้าเรือนแม่กลองตอนเช้าก็สวย

ตื่นมารับลม นั่งเม้าท์มอยถ่ายรูปเล่นกับเพื่อนๆ สักพักท้องก็ร้อง - -'
นั่งรอกินข้าวมันซะเลยยย

รอแค่พักเดียว เวลาอาหารก็มาถึงงง ~~~
การรับประทานอาหารที่นี่ ค่อนข้างสบายๆเป็นกันเอง อยากกินอะไรก็ตักเลยจ้า
มีตั้งแต่สลัด น้ำสม ข้าวต้ม ขนมครก ปาท่องโก๋จิ้มนม ><  ฟินแต่เช้า

เหมือนปอบลง กินอะไรกันขนาดนั้นนนนนน
แต่อย่างที่เขาว่ากัน มื้อเช้าสำคัญที่สุด แฮ่ ^^"


หลังจากกินกันจนพุงกลาง อีกสักพักก็ Check-out ออกจากที่พัก เพราะวางแผนจะไปไหว้พระกันต่อ