หลายๆคนเกิดอารมณ์ ไม่ว่าจะอารมณ์รัก อารมณ์เหงา อารมณ์เศร้า อารมณ์ฟิน อารมณ์ดี หรือแม้แต่อารมณ์......... ชิวว
ฮั่นแน่ๆๆๆ อย่าคิดลึกนะ พวกเราแค่รู้สึกชิวเท่านั้น ชิวที่ว่าเนี่ย คือ ชิวกับประเทศเวียดนาม.. ชิวกับฮานอยที่อากาศแสนจะเย็นสบ๊ายสบาย
พวกเราเลือกมาที่ประเทศนี้เพราะอยากไปเที่ยวนอกประเทศ (หลายคนก็คงคิดอย่างพวกเราแหละเน๊าะ) แต่ติดที่ว่างบต่ำ
การงานยังไม่มีทำ(พวกเราไม่ได้ตกงาน แต่ยังเป็นนักศึกษาอยู่นะ) ด้วยความที่ว่าค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเที่ยวในเวียดนาม
เราพอที่จะมีเงินไปได้ แถมประเทศเวียดนามก็ดูจะมีอะไรๆที่แตกต่างจากบ้านเราอยู่
เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันกับบ้านเรา เราจึงเลือกไปที่นี่ ที่ฮานอย เวียดนาม.....
พวกเรา 5 คน วางแผนจะไปเที่ยวฮานอย ประเทศเวียดนาม 5 วัน 4 คืน ด้วยการเหาะไปแบบนางฟ้า ฟิ้ววววววว
(ขอขอบคุณสายการบิน jetstar ) เครื่องออกตอน 14:40 น. ถึงฮานอยเวลา 16:30 น.
พูดถึงอากาศ ที่นี่เย็นสบายมากเลยยย มีหมอกลงด้วย ฟินมากสำหรับคนที่มาจากที่ร้อนๆอย่างเรา

พวกเราเหมารถจากสนามบินNoi Bai อ่านว่าโหน่ยบ่ายหรือนอยไบนะคะนักเรียนทุกคน โดยจองกับที่พักมาล่วงหน้า
ราคาประมาณ 20 USD ที่เราเลือกจองกับที่พักเพราะอ่านจากหลายๆกระทู้ โดนหลอกกันเยอะ เลยจองไว้ก่อน
เพราะไม่มีใครรู้ทางด้วย กันไว้ดีกว่า รถที่นี่จะวิ่งเลนซ้ายเหมือนกับในฝรั่งเศส
โดยคนขับจะอยู่ด้านซ้าย ต่างจากบ้านเรา เพราะที่นี่เคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน


ที่พักที่เราเลือกเป็นโฮสเทลชื่อว่า Central Backpackers Hostel อยู่ในย่าน Oldquarter เป็นห้องพักรวมชายหญิง 8 คน
(ราคาคืนละ 175 บาท/คน) ดีมาก มีอาหารเช้าฟรี บุฟเฟ่เบียร์ wifi ฟรี ที่นี่เหมาะสำหรับbackpackerที่มาเที่ยวนานๆ
แบบอยู่เป็นเดือน ซึ่งเราก็ได้พบกับเขา เพื่อนร่วมห้องชาวอังกฤษ หนุ่มเมืองผู้ดี มีนามว่า มาร์เคิล เขามีแพลนมาอยู่ที่เวียดนาม 4 เดือน
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับมาร์เคิลแล้ว เขาก็ถอดเสื้อออกทันทีเหมือนไม่มีใครอยู่ในห้อง สงสัยอากาศจะร้อน
(นี่เราสนิทกันแล้วสินะ คิดอะไรกับพวกเราอ๊ะป๊าววตัวเองงง)


การเดินทางที่ประเทศเวียดนาม ที่นี่ชื่อเสียงเรื่องมอเตอร์ไซค์มาก พวกเราได้ไปพิสูจน์กันมาแล้ว แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ว่า...
การจราจรของที่นี่ค่อนข้างวุ่นวาย มีเสียงแตรบีบทักทายตลอดเวลา อัธยาศัยดีกันจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นมอเตอร์ไซค์
ไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง รถยนต์ก็มีอยู่เยอะเหมือนกัน แต่คำนวณยังไง๊ ยังไง ก็สู้มอเตอร์ไซค์ไม่ได้อยู่ดี


ส่วนรถสาธารณะของที่นี่ มีทั้งแท็กซี่ รถเมล์ สามล้อ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง คล้ายๆบ้านเรา
ที่นี่เขามีทั้งGrabทั้งUberนะแก๊รรร มีวันหนึ่งเราได้นั่งแท็กซี่ของเวียดนามด้วย แต่…………………
(อยากรู้ใช่มะ!! ตามอ่านได้ที่ด้านล่างนะคะ ท่านผู้อ่าน)
การเดินทางในเมืองครั้งนี้ เราเลือกใช้การเดินเท้า เพราะเมืองฮานอยนั้นเป็นเมืองหลวงที่มีขนาดเล็ก
แต่ประชากรหนาแน่น การเดินเท้าคงจะทำให้เราเห็นวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองได้ชัดเจนกว่า และคิดว่าต้องได้เจออะไรเด็ดๆแน่
ตามที่เราได้เดินสำรวจนั้น สัญญาณไฟจราจรมีน้อย แทบนับได้ บางแยกไม่มีสัญญาณไฟ
ดูน่ากลัวมาก แต่พวกเราเป็นยอดนักเดินทาง เราไม่กลัว55555555555555555 เราสู้ตาย!!
บ้านเมือง ตัวอาคารที่นี่ มีขนาดเล็กๆ ร้านค้าที่นั่งส่วนใหญ่ จะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ตัวเล็กๆแบบติดพื้น
(แอบติดพุง โต๊ะ เก้าอี้ ไม่เห็นใจคนอ้วนเล๊ยยย) บันไดในตัวอาคารก็แคบและเล็กมาก
เนื่องจากตัวอาคารของที่นี่มีขนาดเล็กนั่นเอง ต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด


////////////////////////////////////////
[CR] เกิดอารมณ์ที่เวียดนาม...
ฮั่นแน่ๆๆๆ อย่าคิดลึกนะ พวกเราแค่รู้สึกชิวเท่านั้น ชิวที่ว่าเนี่ย คือ ชิวกับประเทศเวียดนาม.. ชิวกับฮานอยที่อากาศแสนจะเย็นสบ๊ายสบาย
พวกเราเลือกมาที่ประเทศนี้เพราะอยากไปเที่ยวนอกประเทศ (หลายคนก็คงคิดอย่างพวกเราแหละเน๊าะ) แต่ติดที่ว่างบต่ำ
การงานยังไม่มีทำ(พวกเราไม่ได้ตกงาน แต่ยังเป็นนักศึกษาอยู่นะ) ด้วยความที่ว่าค่าตั๋วเครื่องบิน ค่าเที่ยวในเวียดนาม
เราพอที่จะมีเงินไปได้ แถมประเทศเวียดนามก็ดูจะมีอะไรๆที่แตกต่างจากบ้านเราอยู่
เมื่อเทียบกับประเทศเพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันกับบ้านเรา เราจึงเลือกไปที่นี่ ที่ฮานอย เวียดนาม.....
(ขอขอบคุณสายการบิน jetstar ) เครื่องออกตอน 14:40 น. ถึงฮานอยเวลา 16:30 น.
พูดถึงอากาศ ที่นี่เย็นสบายมากเลยยย มีหมอกลงด้วย ฟินมากสำหรับคนที่มาจากที่ร้อนๆอย่างเรา
พวกเราเหมารถจากสนามบินNoi Bai อ่านว่าโหน่ยบ่ายหรือนอยไบนะคะนักเรียนทุกคน โดยจองกับที่พักมาล่วงหน้า
ราคาประมาณ 20 USD ที่เราเลือกจองกับที่พักเพราะอ่านจากหลายๆกระทู้ โดนหลอกกันเยอะ เลยจองไว้ก่อน
เพราะไม่มีใครรู้ทางด้วย กันไว้ดีกว่า รถที่นี่จะวิ่งเลนซ้ายเหมือนกับในฝรั่งเศส
โดยคนขับจะอยู่ด้านซ้าย ต่างจากบ้านเรา เพราะที่นี่เคยตกเป็นอาณานิคมของฝรั่งเศสมาก่อน
(ราคาคืนละ 175 บาท/คน) ดีมาก มีอาหารเช้าฟรี บุฟเฟ่เบียร์ wifi ฟรี ที่นี่เหมาะสำหรับbackpackerที่มาเที่ยวนานๆ
แบบอยู่เป็นเดือน ซึ่งเราก็ได้พบกับเขา เพื่อนร่วมห้องชาวอังกฤษ หนุ่มเมืองผู้ดี มีนามว่า มาร์เคิล เขามีแพลนมาอยู่ที่เวียดนาม 4 เดือน
หลังจากที่เราได้ทำความรู้จักกับมาร์เคิลแล้ว เขาก็ถอดเสื้อออกทันทีเหมือนไม่มีใครอยู่ในห้อง สงสัยอากาศจะร้อน
(นี่เราสนิทกันแล้วสินะ คิดอะไรกับพวกเราอ๊ะป๊าววตัวเองงง)
การเดินทางที่ประเทศเวียดนาม ที่นี่ชื่อเสียงเรื่องมอเตอร์ไซค์มาก พวกเราได้ไปพิสูจน์กันมาแล้ว แล้วก็เป็นจริงอย่างที่ว่า...
การจราจรของที่นี่ค่อนข้างวุ่นวาย มีเสียงแตรบีบทักทายตลอดเวลา อัธยาศัยดีกันจริงๆ ส่วนใหญ่จะเป็นมอเตอร์ไซค์
ไม่ว่าจะในเมืองหรือนอกเมือง รถยนต์ก็มีอยู่เยอะเหมือนกัน แต่คำนวณยังไง๊ ยังไง ก็สู้มอเตอร์ไซค์ไม่ได้อยู่ดี
ส่วนรถสาธารณะของที่นี่ มีทั้งแท็กซี่ รถเมล์ สามล้อ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง คล้ายๆบ้านเรา
ที่นี่เขามีทั้งGrabทั้งUberนะแก๊รรร มีวันหนึ่งเราได้นั่งแท็กซี่ของเวียดนามด้วย แต่…………………
(อยากรู้ใช่มะ!! ตามอ่านได้ที่ด้านล่างนะคะ ท่านผู้อ่าน)
การเดินทางในเมืองครั้งนี้ เราเลือกใช้การเดินเท้า เพราะเมืองฮานอยนั้นเป็นเมืองหลวงที่มีขนาดเล็ก
แต่ประชากรหนาแน่น การเดินเท้าคงจะทำให้เราเห็นวิถีชีวิตของผู้คนในเมืองได้ชัดเจนกว่า และคิดว่าต้องได้เจออะไรเด็ดๆแน่
ตามที่เราได้เดินสำรวจนั้น สัญญาณไฟจราจรมีน้อย แทบนับได้ บางแยกไม่มีสัญญาณไฟ
ดูน่ากลัวมาก แต่พวกเราเป็นยอดนักเดินทาง เราไม่กลัว55555555555555555 เราสู้ตาย!!
บ้านเมือง ตัวอาคารที่นี่ มีขนาดเล็กๆ ร้านค้าที่นั่งส่วนใหญ่ จะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ตัวเล็กๆแบบติดพื้น
(แอบติดพุง โต๊ะ เก้าอี้ ไม่เห็นใจคนอ้วนเล๊ยยย) บันไดในตัวอาคารก็แคบและเล็กมาก
เนื่องจากตัวอาคารของที่นี่มีขนาดเล็กนั่นเอง ต้องใช้พื้นที่ให้คุ้มค่าที่สุด
////////////////////////////////////////