ผมได้มีโอกาสพาลูกชายไปใช้สิทธิบัตรทอง(สปสช.)ผ่านคลินิคปฐมภูมิ บางเขน กรุงเทพฯ ในวันเสาร์ที่ผ่านมาโดยเมื่อพบคุณหมอๆมีความเห็นควรส่งต่อไปพบแพทย์แผนกศัลยกรรม รพ. แต่เนื่องจากเป็นวันหยุด จนท.จึงนัดมารับใบส่งตัวในวันจันทร์ ซึ่งใช้ระยะเวลารอคิวและดำเนินการออกเอกสารส่งตัวประมาณ ½ ชม. จึงได้เดินทางไปพบคุณหมอ ณ โรงพยาบาล รอคิวตรวจตามระบบ แต่เนื่องจากคุณหมอแผนกศัลยกรรมมีความเห็นควรส่งต่อให้คุณหมอศัลยกรรมเด็กเป็นผู้วินิจฉัย ซึ่งต้องรอนัดในวันอื่น จึงต้องนำเอกสารใบส่งตัวกลับมาส่งคืนยังคลินิคปฐมภูมิและรอออกใบส่งตัวใหม่ ซึ่งปรากฏว่าในวันนั้นคุณหมอที่คลินิคติดประชุมและต้องรอคุณหมอคนใหม่เดินทางมาซึ่ง จนท.ไม่ทราบว่าจะมาถึงเมื่อไหร่ ผมจึงแจ้งขอมารับในวันรุ่งขึ้น และในวันรุ่งขึ้น ต้องรอคิวออกใบส่งตัวใหม่อีกกว่า 1 ชม. จึงตัดสินใจขอแจ้งยกเลิกการใช้สิทธิดังกล่าวและขอไปพบแพทย์ที่สถานพยาบาลอื่นแทน
จากเหตุที่ประสบ โดยส่วนตัวผมไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อคุณหมอคลินิคปฐมภูมิมีความเห็นส่งต่อแล้ว ระบบ สปสช. จะต้องให้ผู้ป่วยมาทำเรื่องส่งตัวกลับไปกลับมากันทุกเช้า-เย็น ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยไม่จำเป็น ทั้งๆที่ หากผู้ป่วยรับการรักษาที่ รพ. ที่ส่งต่อจนหายและส่งบันทึกรายงานผลการรักษากลับมาในทีเดียวก็น่าจะทำได้ ไม่จึงอยากขอแชร์ประสบการณ์จากท่านผู้ทำงานเกี่ยวกับระบบ สปสช. ที่อาจจะมีเหตุผลของขั้นตอนการทำงานและทุกท่านที่ใช้บริการผ่านคลินิคปฐมภูมิที่อื่นๆว่าประสบปัญหาแบบเดียวกันหรือไม่ครับ
สอบถามประสบการณ์ขั้นตอนการส่งต่อสิทธิบัตรทอง(สปสช.)และปัญหาความล่าช้าครับ
จากเหตุที่ประสบ โดยส่วนตัวผมไม่เข้าใจว่าทำไมเมื่อคุณหมอคลินิคปฐมภูมิมีความเห็นส่งต่อแล้ว ระบบ สปสช. จะต้องให้ผู้ป่วยมาทำเรื่องส่งตัวกลับไปกลับมากันทุกเช้า-เย็น ซึ่งทำให้ผู้ป่วยเสียทั้งเวลาและค่าใช้จ่ายในการเดินทางโดยไม่จำเป็น ทั้งๆที่ หากผู้ป่วยรับการรักษาที่ รพ. ที่ส่งต่อจนหายและส่งบันทึกรายงานผลการรักษากลับมาในทีเดียวก็น่าจะทำได้ ไม่จึงอยากขอแชร์ประสบการณ์จากท่านผู้ทำงานเกี่ยวกับระบบ สปสช. ที่อาจจะมีเหตุผลของขั้นตอนการทำงานและทุกท่านที่ใช้บริการผ่านคลินิคปฐมภูมิที่อื่นๆว่าประสบปัญหาแบบเดียวกันหรือไม่ครับ