.
เชิญยืนตากยุงทั้งคืนเถอะยัยตัวแสบ....ไม่โหดไม่ใช่ชาย ให้รู้ไปว่าอย่าบังอาจมาเทียบรัศมีเชิงชายอย่างธารา
เอาล่ะ.. มาวัดใจกัน ชายหนุ่มนึกพลางวางตัวเองบนโซฟาด้วยลีลาท่าทางจงใจให้ใครก็ตามเดินเข้ามามองเห็นว่ากำลังสุขสบายใจเหลือแสน เพราะสถานการณ์เป็นต่ออยู่หลายขุม ชนิดที่ว่าถ้าภรรยาผู้กำลังจะกลายเป็นอดีตเปิดประตูบ้านเข้ามาเจอ จงต้องเดือดดาลแทบไฟลุกท่วมตัวเป็นแน่แท้
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ นิจพรยังไม่ยอมเดินเข้ามาติดกับ แต่ธาราไม่รู้สึกกังวลอะไรเพียงรอเวลาอันเหมาะสมเท่านั้น
มีเสียงประตูเปิดแผ่วเบา จะเป็นใครไม่ได้เพราะลูกกุญแจบ้านหลังนี้มีเพียงเขากับภรรยาเท่านั้น เสร็จฉันล่ะ.. ยัยตัวแสบ คิดพลางแสร้งทำเป็นนอนหลับตาเอาเชิง ไม่คิดแม้แต่จะหันไปมอง
ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกมีใครดึงแขนทั้งสองข้างให้ลุกจากโซฟาด้วยเรี่ยวแรงมากเกินกว่าจะเป็นการกระทำของผู้หญิงทำเอาใจหายวาบ แถมด้วยเสียงห้วนห้าวจริงจัง
“เอาล่ะคุณธารา ขอเชิญคุณออกจากบ้านไปกับพวกเราเดี๋ยวนี้เลยครับ”
ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวหันซ้ายแลขวาอย่างงุนงง กับชายสองคนกำลังออกแรงดึงให้เขาออกจากห้องไปอย่างสุภาพแต่เด็ดขาด
ตำรวจ....
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตำรวจจะกล้าบุกเข้ามา ไม่ต้องสงสัยอะไรเลย คนคิดวิธีโต้กลับแบบนึกไม่ถึงได้รวดเร็วทันควันเห็นจะมีแต่ยัยตัวแสบของเขาเท่านั้น
“นี่บ้านของผมเองนะครับ คุณตำรวจ” ธาราร้องโวยวายทั้งตกใจทั้งโมโห แต่ตำรวจทั้งสองนายไม่ฟังเสียงลากตัวของเขาออกไปนอกบ้านจนได้ นั่นไง...นิจพรยืนพิงรถเอามือกอดอกจ้องมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ต้องบอกก็รู้แน่แก่ใจเขาพลาดท่าให้กับนิจพรเข้าให้แล้วชนิดน่าเจ็บใจ
“ฝากไว้ก่อนเถอะนิด คุณตายคาเวทีแน่” เขาตะโกนใส่หน้าคนรักขณะโดนตำรวจผลักให้เข้าไปในรถของตัวเอง ผู้เป็นภรรยายิ้มเล็กน้อยพลางยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจกับคำข่มขู่มุ่งร้ายหมายขวัญ
และจากเหตุการร์วันนั้นเอง ธาราก็รู้ว่าเขาพลาดท่าเข้าอย่างจังเพราะวันรุ่งขึ้นทนายฝ่ายภรรยาไปหาเขาถึงที่ทำงานพร้อมกับหลักฐานสำคัญในการทำผิดของเขา นั่นคือแผ่นดีวีดีบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงว่าเขาเป็นฝ่าย “เคลื่อนตำแหน่ง” เข้าหาภรรยาก่อนแม้จะไม่เต็มใจก็ตามเพราะโดนตำรวจควบคุมตัว แต่ถึงจะหาเหตุผลเอาตัวรอดจากข้อนี้ก็ยังเจอข้อหาว่าเป็นฝ่ายสื่อสารกับนิจพรก่อนอยู่ดี เพราะเผลอตัวพูดกับเธอก่อนนั่นเอง ในเมื่อหลักฐานพยานชัดเจนขนาดนี้ ชายหนุ่มจำใจต้องโอนเงินหนึ่งแสนบาทเข้าบัญชีของภรรยาเป็นค่าปรับอย่างหมดทางเลี่ยง และมีข้อแม้ใหม่แถมให้อีกหนึ่งข้อคือห้ามเขาไปเหยียบบ้านตัวเองโดยเด็ดขาดจนกว่าการชกจะสิ้นสุด ยังไม่ทันขึ้นเวทีชายหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนหมัดเด็ดเข้าให้ก่อนแล้ว เพราะจำนวนเงินค่าปรับไม่ใช่น้อย ถ้าชกแพ้มีหวังแทบหมดตัว และด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้ตัดสินใจลางานกะทันหันติดต่อกันยาวไปจนถึงวันชกทันที เพื่อจะได้เอาเวลามาฝึกซ้อมร่างกายให้พร้อมต่อการชนะภรรยาคู่อาฆาตให้ได้
เริ่มต้นด้วยการไปหาซื้อชุดนักกีฬามาพร้อมสรรพ ลุกขึ้นจากเตียงนอนตั้งแต่ตีห้า แต่งตัวชุดออกกำลังกายเต็มยศออกจากบ้านวิ่งเหยาะๆไปตามถนนในหมู่บ้านด้วยความกระตือรือร้นด้วยเปลวไฟแห่งความอยากเอาชนะ แต่เพราะความเป็นนักวิ่งหน้าใหม่ ทำให้บรรดาน้องหมาในหมู่บ้านไม่คุ้นหน้าคุ้นตาผิดสีผิดกลิ่น วิ่งไปแถวไหนน้องหมาก็พากันออกมาเห่าหอนต้อนรับกันเป็นแถวจนเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้าน หลายตัววิ่งประกบซ้ายขวาหน้าหลังเป็นเพื่อนร่วมทางจากต้นซอยถึงท้ายซอย เจ้าของบ้านบางหลังถึงกับคว้าปืนเดินออกมาดูเพราะคิดว่าหมากำลังเห่าผู้ร้ายโจรขโมย ทำให้วันแรกของการฟิตซ้อมล่มสลายกลางคันเพราะเกรงว่าถ้าไม่โดนหมารุมกัดตายคงโดนยิงตายด้วยความเข้าใจผิดเป็นแน่แท้ การเริ่มต้นการฝึกซ้อมไม่ดีเท่าที่ควร จะออกไปฝึกคาราเต้ยูโดก็ไม่อยากไปเพราะคิดว่ามันน่าอายชอบกล มีอย่างที่ไหนไปฝึกวิชาการต่อสู้เพื่อมาสู้กับภรรยาตัวเอง
เอกชัยเพื่อนรักยังคงโทรศัพท์มาสอบถามอาการเป็นระยะเพราะกลัวว่าธาราจะเป็นบ้าไปเสียก่อนจะทันได้ชก และมีข่าวดีมาบอกว่า วันชกจริงจะมีผู้ช่วยพี่เลี้ยงเป็นครูสอนวิชาคาราเต้ระดับเทพมาให้คำแนะนำข้างเวที นั่นทำให้รู้สึกว่าโลกมนุษย์ยังไม่ได้ทอดทิ้งเขาไปจนหมดสิ้นเสียเลยทีเดียว
ขอเพียงมีกำลังใจ ต่อให้มีมือข้างเดียวก็จะเอาชนะได้ การฝึกปรือระดับสูงสุดไม่จำเป็นต้องออกแรงถาโถมเหงื่อโซมกาย เพียงฝึกด้วยใจก็บรรลุเคล็ดวิชา ดังนั้นธาราจึงใช้เวลาแต่ละวันผ่านไปกับการนั่งๆนอนๆ ดูหนังฟังเพลงไปจนถึงวันชก
การชกมีขึ้นในบ่ายของวันศุกร์ ภายในสนามมวยชั่วคราวในค่ายมวยอิเกิ้ง ธารากับเอกชัยพี่เลี้ยงจำเป็นเดินทางไปถึงก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงและต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าลานจอดรถเนืองแน่นไปด้วยรถรามากมายจนแทบหาที่จอดไม่ได้ หน้าโรงยิมมีป้ายขนาดใหญ่เขียนมองเห็นเด่นชัดว่า
“เรียนเชิญเพื่อเป็นเกียรติในงานมงคลทะเลาะกัน
ระหว่าง นาง(สาว)นิจพร วงค์เมฆาอรกานต์
และ
นายธารา วงค์เมฆาอรกานต์
ค่าบัตร 300 บาททุกที่ยืนและที่นั่ง
ธาราอยู่ในชุดนักมวยไทยยืนมองป้ายอย่างเคืองๆ เพราะใจไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต การชกชนะผู้หญิงก็ไม่ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอะไร ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาก็อับอายขายหน้าเท่านั้น ไม่มีเลือกทางไหนดีกับภาพลักษณ์เลยสักอย่าง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรสาวสวยกลุ่มหนึ่งกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากหน้าโรงยิมตรงเข้ามาหาอย่างดีอกดีใจ
“เจี้ยบ...มาได้ไงนี่” ธาราหลุดปากอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อมองเห็นสาวสวยคนเดินนำหน้าพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่
“พวกหนูพากันลางานมาเชียร์คุณทาค่ะ”เจี้ยบยิ้มหวานส่งช่อดอกไม้ให้ พลางหันไปแนะนำเพื่อนร่วมงานที่เหลือ
“ดูสิคะ น้องอุ๊ น้องเมย์ น้องกบ ก็มาด้วย พวกเรามาเพื่อให้กำลังใจเอาชนะเมียให้ได้เลยนะคะ”
ธารารับดอกไม้มาอย่างงงๆ เพราะไม่เคยบอกรายละเอียดการชกครั้งนี้ให้พนักงานสโมสรรู้เลย ความเป็นไปได้น่าจะเป็นมีคนเดียวเท่านั้นเป็นตัวต้นเรื่อง
“ไอ้เอก ฝีมือแกหรือเปล่า” ชายหนุ่มหันไปมองหน้าพี่เลี้ยงจำเป็นด้วยน้ำเสียงคาดคั้นเอาเรื่อง อีกฝ่ายยืดอกยักคิ้วพยักหน้ารับอย่างสง่าผ่าเผย
“เออ ข้านี่ละ บอกน้องพวกนี้ให้มาเชียร์ ไม่ต้องห่วงข้าเสียค่าล่วงเวลาชดเชยให้เรียบร้อย แกจะได้มีแรงใจในการชกให้ชนะ มีสาวๆ มาให้กำลังใจขนาดนี้ แพ้ได้ก็ให้รู้ไป”
ฟังแล้วได้แต่โคลงหัวอย่างระอาใจ ทำไมต้องทำเรื่องใหญ่ให้มันใหญ่ขึ้นไปอีกโดยไม่จำเป็น แต่พอหันไปมองดูกองเชียร์อารมณ์ขุ่นมัวก็หายวับไปกับตาในทันที เพราะปกติพนักงานสโมสรเห็นอยู่ในชุดประจำร้านจนชินตา พอมาอยู่ข้างนอกมีโอกาสแต่งเนื้อแต่งตัวเต็มพิกัดทำให้แต่ละนางสวยสดงดงามน่ารักน่าหยิกจนหัวใจสูบฉีดแรงราวกับจะล่องลอยไปบนฟากฟ้า
และยังไม่ทันจะได้พูดคุยอะไรกองเชียร์สาวสวยก็แย่งกันควงแขนลากจูงนักมวยจำเป็นเข้าไปในโรงยิมทันที
ก้าวแรกเหยียบย่างเข้าประตู เสียงเพลง war จากอัลบัมชุดThe Extremist ของ Joe Satriani ดังกระหึ่มเร้าใจขึ้นทันทีราวเตรียมการล่วงหน้า เวทีมวยอยู่ตรงกลางฝูงชนมากมายคนแน่นขนัดนับพันคน ไม่ต่างจากสภาพสนามมวยที่เคยเห็นในทางทีวีเลย เครื่องปรับอากาศการทำงานเต็มที่แต่ธารายังรู้สึกเหงื่อเริ่มซึมแผ่นหลังเพราะความตื่นเต้น เสียงโฆษกประกาศด้วยน้ำเสียงเปี่ยมอารมณ์เมามันไม่แพ้มืออาชีพ
“ทุกท่านครับ ขณะนี้นักมวยฝ่ายชาย มาถึงเวทีแล้วครับ พร้อมด้วยกองเชียร์สาวสวยประจำตัว น่าอิจฉาเสียจริง เอ้า.. พวกเรา ปรบมือต้อนรับเป็นกำลังใจ ธารา ฉายาหมัดซ้ายทลายเมีย สถิติการชกไม่เคยแพ้ไม่เคยชนะไม่เคยเสมอ เพราะไม่เคยชก”
“เฮ”
เสียงร้องให้กำลังใจกึกก้อง สังเกตว่าเป็นเสียงผู้ชายเสียเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็มีเสียงโห่ฮาดังตามมาและน่าสังเกตว่าเป็นเสียงผู้หญิงแทบทั้งนั้น ธารานึกขอบคุณตัวเองที่มากับสภาพชุดนักมวย เพราะถ้ามาในชุดอื่นคงลำบากกับการเปลี่ยนชุดเนื่องจากมองไม่เห็นห้องพักนักกีฬาเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสนใจศึกครอบครัวขนาดนี้ ผู้ชมมีทั้งนั่งเก้าอี้กันเป็นระเบียบและยืนจับกลุ่มคุยกันซึ่งก็เป็นเรื่องพนันขันต่อนั่นเอง จำนวนคนทำให้โรงยิมดูคับแคบไปถนัดตา
ธาราขึ้นไปนั่งเก้าอี้รออยู่มุมน้ำเงิน เพราะไม่รู้จะไปไหน ด้านล่างเอกชัยเป็นพี่เลี้ยง สาวสโมสรเป็นผู้ช่วยจำเป็น พากันขึ้นมาเคียงข้างเอาผ้าเช็ดน้ำเย็นลูบตามใบหน้าแขนขาทั้งที่ยังไม่ได้ออกหมัดให้เหนื่อยเลย ทำให้มีเสียงร้องอย่างสนุกสนานของกองเชียร์ฝ่ายชาย บางคนเห็นแล้วอยากขึ้นมาชกแทนก็มี เจี๊ยบและเพื่อนมีหยุกยาติดตัวกันตามมีตามเกิดเพราะไม่ใช่พี่เลี้ยงมืออาชีพ ความเซ็กซี่น่ารักของพี่เลี้ยงสาวสวยทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาทันที มองหาคู่ต่อสู้แต่ยังไม่เห็น หัวใจเต้นระทึกไม่ป็นจังหวะเพราะเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะเอาชนะนิจพรได้หรือไม่ มองหาครูคาราเต้ที่เอกชัยบอกว่าจะมาแก้ทางมวยให้ก็ยังไม่เจอ เอกชัยเพียงบอกว่าให้ใจเย็นๆรอไปก่อน
เสียงเพลงในโรงยิมเปลี่ยนเป็นเพลง Eye Of The Tiger ของ Survivor พร้อมกับการเล่นแสงสีวูบวาบละลานตาเสียงโฆษกประกาศท่ามกลางเสียงกรีดร้องกึกก้องของผู้ชม
“มาแล้วครับ มุมแดงนักชกสาวสวยฝ่ายหญิง นิจพร ลูกอิเกิ้ง ตัวแทนฝ่ายหญิงผู้จะกอบกู้เอกราชและคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคมสตรี เธอมาแล้ว......”
ประตูด้านข้างเปิดออก นิจพรในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดตัวเล็กเปิดไหล่สีดำรองเท้าผ้าใบ เดินนำหน้าคณะออกมาด้วยท่าทางทะมัดทะแมง สังเกตได้ว่ามีหนุ่มหน้าหล่อเดินประกบมาด้วย ธารามองเห็นก็รู้สึกเดือดปูดขึ้นมาทันที จำได้ชัดว่าเป็นหนุ่มผู้แสดงความคุ้นเคยกับนิจพรแบบไม่เกรงใจในหน้าเฟซบุ๊คอย่างน่าเตะให้ตายนั่นเอง ตัวจริงดูเด็กกว่าหล่อกว่าในภาพเสียอีก
เสียงบรรดากองเชียร์ดังขึ้นอย่างถล่มทลายทั้งแฟนมวยฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ไม่มีใครจะไม่ชอบนิจพรเพราะความเป็นผู้หญิงทำให้ได้คะแนนสงสารไปมากกว่าครึ่ง ไหนจะมีคะแนนชีกอจากพวกผู้ชายเพิ่มมาเป็นกรณีพิเศษอีกต่างหาก
“นิดสู้ขาดใจ นิดไว้ลาย นิดสู้ๆ”
“นิดสู้ ๆ ซ้ายสู้ ขวาสู้ นิดสู้ตาย”
หนุ่มหน้ามลเป็นคนขึ้นเวทีมาก่อนแล้วดึงเชือกขึ้นเปิดทางให้นักชกฝ่ายหญิงก้าวขึ้นมาบนเวทีอย่างสะดวก หญิงสาวขึ้นมาโบกไม้โบกมือให้ท่านผู้ชมรอบทิศด้วยรอยยิ้มเก็บคะแนนความสวยน่ารักเข้ากระเป๋าไปอีก ชุดสีดำขับผิวขาวให้กระจ่างสะดุดตาชวนมอง แต่กับผู้เป็นสามีมองแล้วขวางหูขวางตาอย่างบอกไม่ถูก
“กรรมการของมวยคู่นี้เป็นกรรมการรับเชิญพิเศษได้แก่คุณกำจรเจ้าของค่ายมวยอิเกิ้ง รับรองว่าตัดสินอย่างยุติธรรมแน่นอนครับ”
เสียงปรบมือต้อนรับสนั่นเมื่อคุณลุงกำจรก้าวขึ้นมาบนเวที ด้วยชื่อเสียงของครูมวยและเจ้าของค่ายมวยย่อมเป็นหลักประกันว่าตัดสินอย่างยุติธรรมแน่แท้ แต่นักชกฝ่ายชายไม่แน่ใจเอาเสียเลยเพราะไม่เชื่อว่าความเป็นญาติสนิทกันจะไม่ทำให้ตาชั่งแห่งความเที่ยงตรงเอนเอียง
และไม่แน่ใจมากขึ้นเมื่อเห็นลุงกำจรเดินตรงเข้ามาหาพร้อมเชือกเส้นยาวในมือ
“ตามกฏกติกา คุณธาราต้องมัดมือขวาติดตัวไว้นะครับ”
.
สังเวียนรัก สังเวียนร้าง......3
เชิญยืนตากยุงทั้งคืนเถอะยัยตัวแสบ....ไม่โหดไม่ใช่ชาย ให้รู้ไปว่าอย่าบังอาจมาเทียบรัศมีเชิงชายอย่างธารา
เอาล่ะ.. มาวัดใจกัน ชายหนุ่มนึกพลางวางตัวเองบนโซฟาด้วยลีลาท่าทางจงใจให้ใครก็ตามเดินเข้ามามองเห็นว่ากำลังสุขสบายใจเหลือแสน เพราะสถานการณ์เป็นต่ออยู่หลายขุม ชนิดที่ว่าถ้าภรรยาผู้กำลังจะกลายเป็นอดีตเปิดประตูบ้านเข้ามาเจอ จงต้องเดือดดาลแทบไฟลุกท่วมตัวเป็นแน่แท้
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ นิจพรยังไม่ยอมเดินเข้ามาติดกับ แต่ธาราไม่รู้สึกกังวลอะไรเพียงรอเวลาอันเหมาะสมเท่านั้น
มีเสียงประตูเปิดแผ่วเบา จะเป็นใครไม่ได้เพราะลูกกุญแจบ้านหลังนี้มีเพียงเขากับภรรยาเท่านั้น เสร็จฉันล่ะ.. ยัยตัวแสบ คิดพลางแสร้งทำเป็นนอนหลับตาเอาเชิง ไม่คิดแม้แต่จะหันไปมอง
ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกมีใครดึงแขนทั้งสองข้างให้ลุกจากโซฟาด้วยเรี่ยวแรงมากเกินกว่าจะเป็นการกระทำของผู้หญิงทำเอาใจหายวาบ แถมด้วยเสียงห้วนห้าวจริงจัง
“เอาล่ะคุณธารา ขอเชิญคุณออกจากบ้านไปกับพวกเราเดี๋ยวนี้เลยครับ”
ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวหันซ้ายแลขวาอย่างงุนงง กับชายสองคนกำลังออกแรงดึงให้เขาออกจากห้องไปอย่างสุภาพแต่เด็ดขาด
ตำรวจ....
ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตำรวจจะกล้าบุกเข้ามา ไม่ต้องสงสัยอะไรเลย คนคิดวิธีโต้กลับแบบนึกไม่ถึงได้รวดเร็วทันควันเห็นจะมีแต่ยัยตัวแสบของเขาเท่านั้น
“นี่บ้านของผมเองนะครับ คุณตำรวจ” ธาราร้องโวยวายทั้งตกใจทั้งโมโห แต่ตำรวจทั้งสองนายไม่ฟังเสียงลากตัวของเขาออกไปนอกบ้านจนได้ นั่นไง...นิจพรยืนพิงรถเอามือกอดอกจ้องมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย ไม่ต้องบอกก็รู้แน่แก่ใจเขาพลาดท่าให้กับนิจพรเข้าให้แล้วชนิดน่าเจ็บใจ
“ฝากไว้ก่อนเถอะนิด คุณตายคาเวทีแน่” เขาตะโกนใส่หน้าคนรักขณะโดนตำรวจผลักให้เข้าไปในรถของตัวเอง ผู้เป็นภรรยายิ้มเล็กน้อยพลางยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจกับคำข่มขู่มุ่งร้ายหมายขวัญ
และจากเหตุการร์วันนั้นเอง ธาราก็รู้ว่าเขาพลาดท่าเข้าอย่างจังเพราะวันรุ่งขึ้นทนายฝ่ายภรรยาไปหาเขาถึงที่ทำงานพร้อมกับหลักฐานสำคัญในการทำผิดของเขา นั่นคือแผ่นดีวีดีบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงว่าเขาเป็นฝ่าย “เคลื่อนตำแหน่ง” เข้าหาภรรยาก่อนแม้จะไม่เต็มใจก็ตามเพราะโดนตำรวจควบคุมตัว แต่ถึงจะหาเหตุผลเอาตัวรอดจากข้อนี้ก็ยังเจอข้อหาว่าเป็นฝ่ายสื่อสารกับนิจพรก่อนอยู่ดี เพราะเผลอตัวพูดกับเธอก่อนนั่นเอง ในเมื่อหลักฐานพยานชัดเจนขนาดนี้ ชายหนุ่มจำใจต้องโอนเงินหนึ่งแสนบาทเข้าบัญชีของภรรยาเป็นค่าปรับอย่างหมดทางเลี่ยง และมีข้อแม้ใหม่แถมให้อีกหนึ่งข้อคือห้ามเขาไปเหยียบบ้านตัวเองโดยเด็ดขาดจนกว่าการชกจะสิ้นสุด ยังไม่ทันขึ้นเวทีชายหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนหมัดเด็ดเข้าให้ก่อนแล้ว เพราะจำนวนเงินค่าปรับไม่ใช่น้อย ถ้าชกแพ้มีหวังแทบหมดตัว และด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้ตัดสินใจลางานกะทันหันติดต่อกันยาวไปจนถึงวันชกทันที เพื่อจะได้เอาเวลามาฝึกซ้อมร่างกายให้พร้อมต่อการชนะภรรยาคู่อาฆาตให้ได้
เริ่มต้นด้วยการไปหาซื้อชุดนักกีฬามาพร้อมสรรพ ลุกขึ้นจากเตียงนอนตั้งแต่ตีห้า แต่งตัวชุดออกกำลังกายเต็มยศออกจากบ้านวิ่งเหยาะๆไปตามถนนในหมู่บ้านด้วยความกระตือรือร้นด้วยเปลวไฟแห่งความอยากเอาชนะ แต่เพราะความเป็นนักวิ่งหน้าใหม่ ทำให้บรรดาน้องหมาในหมู่บ้านไม่คุ้นหน้าคุ้นตาผิดสีผิดกลิ่น วิ่งไปแถวไหนน้องหมาก็พากันออกมาเห่าหอนต้อนรับกันเป็นแถวจนเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้าน หลายตัววิ่งประกบซ้ายขวาหน้าหลังเป็นเพื่อนร่วมทางจากต้นซอยถึงท้ายซอย เจ้าของบ้านบางหลังถึงกับคว้าปืนเดินออกมาดูเพราะคิดว่าหมากำลังเห่าผู้ร้ายโจรขโมย ทำให้วันแรกของการฟิตซ้อมล่มสลายกลางคันเพราะเกรงว่าถ้าไม่โดนหมารุมกัดตายคงโดนยิงตายด้วยความเข้าใจผิดเป็นแน่แท้ การเริ่มต้นการฝึกซ้อมไม่ดีเท่าที่ควร จะออกไปฝึกคาราเต้ยูโดก็ไม่อยากไปเพราะคิดว่ามันน่าอายชอบกล มีอย่างที่ไหนไปฝึกวิชาการต่อสู้เพื่อมาสู้กับภรรยาตัวเอง
เอกชัยเพื่อนรักยังคงโทรศัพท์มาสอบถามอาการเป็นระยะเพราะกลัวว่าธาราจะเป็นบ้าไปเสียก่อนจะทันได้ชก และมีข่าวดีมาบอกว่า วันชกจริงจะมีผู้ช่วยพี่เลี้ยงเป็นครูสอนวิชาคาราเต้ระดับเทพมาให้คำแนะนำข้างเวที นั่นทำให้รู้สึกว่าโลกมนุษย์ยังไม่ได้ทอดทิ้งเขาไปจนหมดสิ้นเสียเลยทีเดียว
ขอเพียงมีกำลังใจ ต่อให้มีมือข้างเดียวก็จะเอาชนะได้ การฝึกปรือระดับสูงสุดไม่จำเป็นต้องออกแรงถาโถมเหงื่อโซมกาย เพียงฝึกด้วยใจก็บรรลุเคล็ดวิชา ดังนั้นธาราจึงใช้เวลาแต่ละวันผ่านไปกับการนั่งๆนอนๆ ดูหนังฟังเพลงไปจนถึงวันชก
การชกมีขึ้นในบ่ายของวันศุกร์ ภายในสนามมวยชั่วคราวในค่ายมวยอิเกิ้ง ธารากับเอกชัยพี่เลี้ยงจำเป็นเดินทางไปถึงก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงและต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าลานจอดรถเนืองแน่นไปด้วยรถรามากมายจนแทบหาที่จอดไม่ได้ หน้าโรงยิมมีป้ายขนาดใหญ่เขียนมองเห็นเด่นชัดว่า
“เรียนเชิญเพื่อเป็นเกียรติในงานมงคลทะเลาะกัน
ระหว่าง นาง(สาว)นิจพร วงค์เมฆาอรกานต์
และ
นายธารา วงค์เมฆาอรกานต์
ค่าบัตร 300 บาททุกที่ยืนและที่นั่ง
ธาราอยู่ในชุดนักมวยไทยยืนมองป้ายอย่างเคืองๆ เพราะใจไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต การชกชนะผู้หญิงก็ไม่ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอะไร ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาก็อับอายขายหน้าเท่านั้น ไม่มีเลือกทางไหนดีกับภาพลักษณ์เลยสักอย่าง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรสาวสวยกลุ่มหนึ่งกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากหน้าโรงยิมตรงเข้ามาหาอย่างดีอกดีใจ
“เจี้ยบ...มาได้ไงนี่” ธาราหลุดปากอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อมองเห็นสาวสวยคนเดินนำหน้าพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่
“พวกหนูพากันลางานมาเชียร์คุณทาค่ะ”เจี้ยบยิ้มหวานส่งช่อดอกไม้ให้ พลางหันไปแนะนำเพื่อนร่วมงานที่เหลือ
“ดูสิคะ น้องอุ๊ น้องเมย์ น้องกบ ก็มาด้วย พวกเรามาเพื่อให้กำลังใจเอาชนะเมียให้ได้เลยนะคะ”
ธารารับดอกไม้มาอย่างงงๆ เพราะไม่เคยบอกรายละเอียดการชกครั้งนี้ให้พนักงานสโมสรรู้เลย ความเป็นไปได้น่าจะเป็นมีคนเดียวเท่านั้นเป็นตัวต้นเรื่อง
“ไอ้เอก ฝีมือแกหรือเปล่า” ชายหนุ่มหันไปมองหน้าพี่เลี้ยงจำเป็นด้วยน้ำเสียงคาดคั้นเอาเรื่อง อีกฝ่ายยืดอกยักคิ้วพยักหน้ารับอย่างสง่าผ่าเผย
“เออ ข้านี่ละ บอกน้องพวกนี้ให้มาเชียร์ ไม่ต้องห่วงข้าเสียค่าล่วงเวลาชดเชยให้เรียบร้อย แกจะได้มีแรงใจในการชกให้ชนะ มีสาวๆ มาให้กำลังใจขนาดนี้ แพ้ได้ก็ให้รู้ไป”
ฟังแล้วได้แต่โคลงหัวอย่างระอาใจ ทำไมต้องทำเรื่องใหญ่ให้มันใหญ่ขึ้นไปอีกโดยไม่จำเป็น แต่พอหันไปมองดูกองเชียร์อารมณ์ขุ่นมัวก็หายวับไปกับตาในทันที เพราะปกติพนักงานสโมสรเห็นอยู่ในชุดประจำร้านจนชินตา พอมาอยู่ข้างนอกมีโอกาสแต่งเนื้อแต่งตัวเต็มพิกัดทำให้แต่ละนางสวยสดงดงามน่ารักน่าหยิกจนหัวใจสูบฉีดแรงราวกับจะล่องลอยไปบนฟากฟ้า
และยังไม่ทันจะได้พูดคุยอะไรกองเชียร์สาวสวยก็แย่งกันควงแขนลากจูงนักมวยจำเป็นเข้าไปในโรงยิมทันที
ก้าวแรกเหยียบย่างเข้าประตู เสียงเพลง war จากอัลบัมชุดThe Extremist ของ Joe Satriani ดังกระหึ่มเร้าใจขึ้นทันทีราวเตรียมการล่วงหน้า เวทีมวยอยู่ตรงกลางฝูงชนมากมายคนแน่นขนัดนับพันคน ไม่ต่างจากสภาพสนามมวยที่เคยเห็นในทางทีวีเลย เครื่องปรับอากาศการทำงานเต็มที่แต่ธารายังรู้สึกเหงื่อเริ่มซึมแผ่นหลังเพราะความตื่นเต้น เสียงโฆษกประกาศด้วยน้ำเสียงเปี่ยมอารมณ์เมามันไม่แพ้มืออาชีพ
“ทุกท่านครับ ขณะนี้นักมวยฝ่ายชาย มาถึงเวทีแล้วครับ พร้อมด้วยกองเชียร์สาวสวยประจำตัว น่าอิจฉาเสียจริง เอ้า.. พวกเรา ปรบมือต้อนรับเป็นกำลังใจ ธารา ฉายาหมัดซ้ายทลายเมีย สถิติการชกไม่เคยแพ้ไม่เคยชนะไม่เคยเสมอ เพราะไม่เคยชก”
“เฮ”
เสียงร้องให้กำลังใจกึกก้อง สังเกตว่าเป็นเสียงผู้ชายเสียเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็มีเสียงโห่ฮาดังตามมาและน่าสังเกตว่าเป็นเสียงผู้หญิงแทบทั้งนั้น ธารานึกขอบคุณตัวเองที่มากับสภาพชุดนักมวย เพราะถ้ามาในชุดอื่นคงลำบากกับการเปลี่ยนชุดเนื่องจากมองไม่เห็นห้องพักนักกีฬาเลย ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสนใจศึกครอบครัวขนาดนี้ ผู้ชมมีทั้งนั่งเก้าอี้กันเป็นระเบียบและยืนจับกลุ่มคุยกันซึ่งก็เป็นเรื่องพนันขันต่อนั่นเอง จำนวนคนทำให้โรงยิมดูคับแคบไปถนัดตา
ธาราขึ้นไปนั่งเก้าอี้รออยู่มุมน้ำเงิน เพราะไม่รู้จะไปไหน ด้านล่างเอกชัยเป็นพี่เลี้ยง สาวสโมสรเป็นผู้ช่วยจำเป็น พากันขึ้นมาเคียงข้างเอาผ้าเช็ดน้ำเย็นลูบตามใบหน้าแขนขาทั้งที่ยังไม่ได้ออกหมัดให้เหนื่อยเลย ทำให้มีเสียงร้องอย่างสนุกสนานของกองเชียร์ฝ่ายชาย บางคนเห็นแล้วอยากขึ้นมาชกแทนก็มี เจี๊ยบและเพื่อนมีหยุกยาติดตัวกันตามมีตามเกิดเพราะไม่ใช่พี่เลี้ยงมืออาชีพ ความเซ็กซี่น่ารักของพี่เลี้ยงสาวสวยทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาทันที มองหาคู่ต่อสู้แต่ยังไม่เห็น หัวใจเต้นระทึกไม่ป็นจังหวะเพราะเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะเอาชนะนิจพรได้หรือไม่ มองหาครูคาราเต้ที่เอกชัยบอกว่าจะมาแก้ทางมวยให้ก็ยังไม่เจอ เอกชัยเพียงบอกว่าให้ใจเย็นๆรอไปก่อน
เสียงเพลงในโรงยิมเปลี่ยนเป็นเพลง Eye Of The Tiger ของ Survivor พร้อมกับการเล่นแสงสีวูบวาบละลานตาเสียงโฆษกประกาศท่ามกลางเสียงกรีดร้องกึกก้องของผู้ชม
“มาแล้วครับ มุมแดงนักชกสาวสวยฝ่ายหญิง นิจพร ลูกอิเกิ้ง ตัวแทนฝ่ายหญิงผู้จะกอบกู้เอกราชและคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคมสตรี เธอมาแล้ว......”
ประตูด้านข้างเปิดออก นิจพรในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดตัวเล็กเปิดไหล่สีดำรองเท้าผ้าใบ เดินนำหน้าคณะออกมาด้วยท่าทางทะมัดทะแมง สังเกตได้ว่ามีหนุ่มหน้าหล่อเดินประกบมาด้วย ธารามองเห็นก็รู้สึกเดือดปูดขึ้นมาทันที จำได้ชัดว่าเป็นหนุ่มผู้แสดงความคุ้นเคยกับนิจพรแบบไม่เกรงใจในหน้าเฟซบุ๊คอย่างน่าเตะให้ตายนั่นเอง ตัวจริงดูเด็กกว่าหล่อกว่าในภาพเสียอีก
เสียงบรรดากองเชียร์ดังขึ้นอย่างถล่มทลายทั้งแฟนมวยฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ไม่มีใครจะไม่ชอบนิจพรเพราะความเป็นผู้หญิงทำให้ได้คะแนนสงสารไปมากกว่าครึ่ง ไหนจะมีคะแนนชีกอจากพวกผู้ชายเพิ่มมาเป็นกรณีพิเศษอีกต่างหาก
“นิดสู้ขาดใจ นิดไว้ลาย นิดสู้ๆ”
“นิดสู้ ๆ ซ้ายสู้ ขวาสู้ นิดสู้ตาย”
หนุ่มหน้ามลเป็นคนขึ้นเวทีมาก่อนแล้วดึงเชือกขึ้นเปิดทางให้นักชกฝ่ายหญิงก้าวขึ้นมาบนเวทีอย่างสะดวก หญิงสาวขึ้นมาโบกไม้โบกมือให้ท่านผู้ชมรอบทิศด้วยรอยยิ้มเก็บคะแนนความสวยน่ารักเข้ากระเป๋าไปอีก ชุดสีดำขับผิวขาวให้กระจ่างสะดุดตาชวนมอง แต่กับผู้เป็นสามีมองแล้วขวางหูขวางตาอย่างบอกไม่ถูก
“กรรมการของมวยคู่นี้เป็นกรรมการรับเชิญพิเศษได้แก่คุณกำจรเจ้าของค่ายมวยอิเกิ้ง รับรองว่าตัดสินอย่างยุติธรรมแน่นอนครับ”
เสียงปรบมือต้อนรับสนั่นเมื่อคุณลุงกำจรก้าวขึ้นมาบนเวที ด้วยชื่อเสียงของครูมวยและเจ้าของค่ายมวยย่อมเป็นหลักประกันว่าตัดสินอย่างยุติธรรมแน่แท้ แต่นักชกฝ่ายชายไม่แน่ใจเอาเสียเลยเพราะไม่เชื่อว่าความเป็นญาติสนิทกันจะไม่ทำให้ตาชั่งแห่งความเที่ยงตรงเอนเอียง
และไม่แน่ใจมากขึ้นเมื่อเห็นลุงกำจรเดินตรงเข้ามาหาพร้อมเชือกเส้นยาวในมือ
“ตามกฏกติกา คุณธาราต้องมัดมือขวาติดตัวไว้นะครับ”
.