สังเวียนรัก สังเวียนร้าง......3

กระทู้สนทนา
.



             เชิญยืนตากยุงทั้งคืนเถอะยัยตัวแสบ....ไม่โหดไม่ใช่ชาย  ให้รู้ไปว่าอย่าบังอาจมาเทียบรัศมีเชิงชายอย่างธารา

             เอาล่ะ..  มาวัดใจกัน ชายหนุ่มนึกพลางวางตัวเองบนโซฟาด้วยลีลาท่าทางจงใจให้ใครก็ตามเดินเข้ามามองเห็นว่ากำลังสุขสบายใจเหลือแสน เพราะสถานการณ์เป็นต่ออยู่หลายขุม ชนิดที่ว่าถ้าภรรยาผู้กำลังจะกลายเป็นอดีตเปิดประตูบ้านเข้ามาเจอ จงต้องเดือดดาลแทบไฟลุกท่วมตัวเป็นแน่แท้
เวลาผ่านไปครู่ใหญ่ นิจพรยังไม่ยอมเดินเข้ามาติดกับ  แต่ธาราไม่รู้สึกกังวลอะไรเพียงรอเวลาอันเหมาะสมเท่านั้น

             มีเสียงประตูเปิดแผ่วเบา จะเป็นใครไม่ได้เพราะลูกกุญแจบ้านหลังนี้มีเพียงเขากับภรรยาเท่านั้น เสร็จฉันล่ะ.. ยัยตัวแสบ  คิดพลางแสร้งทำเป็นนอนหลับตาเอาเชิง ไม่คิดแม้แต่จะหันไปมอง

             ทันใดนั้น ชายหนุ่มก็รู้สึกมีใครดึงแขนทั้งสองข้างให้ลุกจากโซฟาด้วยเรี่ยวแรงมากเกินกว่าจะเป็นการกระทำของผู้หญิงทำเอาใจหายวาบ แถมด้วยเสียงห้วนห้าวจริงจัง

             “เอาล่ะคุณธารา ขอเชิญคุณออกจากบ้านไปกับพวกเราเดี๋ยวนี้เลยครับ”

             ชายหนุ่มสะดุ้งสุดตัวหันซ้ายแลขวาอย่างงุนงง กับชายสองคนกำลังออกแรงดึงให้เขาออกจากห้องไปอย่างสุภาพแต่เด็ดขาด

             ตำรวจ....

             ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าตำรวจจะกล้าบุกเข้ามา ไม่ต้องสงสัยอะไรเลย คนคิดวิธีโต้กลับแบบนึกไม่ถึงได้รวดเร็วทันควันเห็นจะมีแต่ยัยตัวแสบของเขาเท่านั้น

             “นี่บ้านของผมเองนะครับ คุณตำรวจ”   ธาราร้องโวยวายทั้งตกใจทั้งโมโห แต่ตำรวจทั้งสองนายไม่ฟังเสียงลากตัวของเขาออกไปนอกบ้านจนได้ นั่นไง...นิจพรยืนพิงรถเอามือกอดอกจ้องมองด้วยสีหน้าเรียบเฉย  ไม่ต้องบอกก็รู้แน่แก่ใจเขาพลาดท่าให้กับนิจพรเข้าให้แล้วชนิดน่าเจ็บใจ

             “ฝากไว้ก่อนเถอะนิด  คุณตายคาเวทีแน่”   เขาตะโกนใส่หน้าคนรักขณะโดนตำรวจผลักให้เข้าไปในรถของตัวเอง ผู้เป็นภรรยายิ้มเล็กน้อยพลางยักไหล่เหมือนไม่ใส่ใจกับคำข่มขู่มุ่งร้ายหมายขวัญ

             และจากเหตุการร์วันนั้นเอง ธาราก็รู้ว่าเขาพลาดท่าเข้าอย่างจังเพราะวันรุ่งขึ้นทนายฝ่ายภรรยาไปหาเขาถึงที่ทำงานพร้อมกับหลักฐานสำคัญในการทำผิดของเขา นั่นคือแผ่นดีวีดีบันทึกภาพจากกล้องวงจรปิดแสดงว่าเขาเป็นฝ่าย “เคลื่อนตำแหน่ง” เข้าหาภรรยาก่อนแม้จะไม่เต็มใจก็ตามเพราะโดนตำรวจควบคุมตัว แต่ถึงจะหาเหตุผลเอาตัวรอดจากข้อนี้ก็ยังเจอข้อหาว่าเป็นฝ่ายสื่อสารกับนิจพรก่อนอยู่ดี เพราะเผลอตัวพูดกับเธอก่อนนั่นเอง ในเมื่อหลักฐานพยานชัดเจนขนาดนี้ ชายหนุ่มจำใจต้องโอนเงินหนึ่งแสนบาทเข้าบัญชีของภรรยาเป็นค่าปรับอย่างหมดทางเลี่ยง  และมีข้อแม้ใหม่แถมให้อีกหนึ่งข้อคือห้ามเขาไปเหยียบบ้านตัวเองโดยเด็ดขาดจนกว่าการชกจะสิ้นสุด ยังไม่ทันขึ้นเวทีชายหนุ่มรู้สึกเหมือนโดนหมัดเด็ดเข้าให้ก่อนแล้ว เพราะจำนวนเงินค่าปรับไม่ใช่น้อย ถ้าชกแพ้มีหวังแทบหมดตัว และด้วยสาเหตุดังกล่าว ทำให้ตัดสินใจลางานกะทันหันติดต่อกันยาวไปจนถึงวันชกทันที  เพื่อจะได้เอาเวลามาฝึกซ้อมร่างกายให้พร้อมต่อการชนะภรรยาคู่อาฆาตให้ได้

             เริ่มต้นด้วยการไปหาซื้อชุดนักกีฬามาพร้อมสรรพ ลุกขึ้นจากเตียงนอนตั้งแต่ตีห้า แต่งตัวชุดออกกำลังกายเต็มยศออกจากบ้านวิ่งเหยาะๆไปตามถนนในหมู่บ้านด้วยความกระตือรือร้นด้วยเปลวไฟแห่งความอยากเอาชนะ  แต่เพราะความเป็นนักวิ่งหน้าใหม่ ทำให้บรรดาน้องหมาในหมู่บ้านไม่คุ้นหน้าคุ้นตาผิดสีผิดกลิ่น วิ่งไปแถวไหนน้องหมาก็พากันออกมาเห่าหอนต้อนรับกันเป็นแถวจนเป็นที่แตกตื่นของชาวบ้าน หลายตัววิ่งประกบซ้ายขวาหน้าหลังเป็นเพื่อนร่วมทางจากต้นซอยถึงท้ายซอย เจ้าของบ้านบางหลังถึงกับคว้าปืนเดินออกมาดูเพราะคิดว่าหมากำลังเห่าผู้ร้ายโจรขโมย ทำให้วันแรกของการฟิตซ้อมล่มสลายกลางคันเพราะเกรงว่าถ้าไม่โดนหมารุมกัดตายคงโดนยิงตายด้วยความเข้าใจผิดเป็นแน่แท้  การเริ่มต้นการฝึกซ้อมไม่ดีเท่าที่ควร จะออกไปฝึกคาราเต้ยูโดก็ไม่อยากไปเพราะคิดว่ามันน่าอายชอบกล มีอย่างที่ไหนไปฝึกวิชาการต่อสู้เพื่อมาสู้กับภรรยาตัวเอง

             เอกชัยเพื่อนรักยังคงโทรศัพท์มาสอบถามอาการเป็นระยะเพราะกลัวว่าธาราจะเป็นบ้าไปเสียก่อนจะทันได้ชก และมีข่าวดีมาบอกว่า วันชกจริงจะมีผู้ช่วยพี่เลี้ยงเป็นครูสอนวิชาคาราเต้ระดับเทพมาให้คำแนะนำข้างเวที นั่นทำให้รู้สึกว่าโลกมนุษย์ยังไม่ได้ทอดทิ้งเขาไปจนหมดสิ้นเสียเลยทีเดียว

             ขอเพียงมีกำลังใจ ต่อให้มีมือข้างเดียวก็จะเอาชนะได้   การฝึกปรือระดับสูงสุดไม่จำเป็นต้องออกแรงถาโถมเหงื่อโซมกาย เพียงฝึกด้วยใจก็บรรลุเคล็ดวิชา ดังนั้นธาราจึงใช้เวลาแต่ละวันผ่านไปกับการนั่งๆนอนๆ ดูหนังฟังเพลงไปจนถึงวันชก



             การชกมีขึ้นในบ่ายของวันศุกร์  ภายในสนามมวยชั่วคราวในค่ายมวยอิเกิ้ง ธารากับเอกชัยพี่เลี้ยงจำเป็นเดินทางไปถึงก่อนเวลาประมาณครึ่งชั่วโมงและต้องแปลกใจเป็นอย่างมาก เมื่อพบว่าลานจอดรถเนืองแน่นไปด้วยรถรามากมายจนแทบหาที่จอดไม่ได้ หน้าโรงยิมมีป้ายขนาดใหญ่เขียนมองเห็นเด่นชัดว่า


                        “เรียนเชิญเพื่อเป็นเกียรติในงานมงคลทะเลาะกัน
                        ระหว่าง นาง(สาว)นิจพร  วงค์เมฆาอรกานต์
                                          และ
                        นายธารา  วงค์เมฆาอรกานต์
                        ค่าบัตร 300 บาททุกที่ยืนและที่นั่ง


             ธาราอยู่ในชุดนักมวยไทยยืนมองป้ายอย่างเคืองๆ เพราะใจไม่อยากให้เป็นเรื่องราวใหญ่โต การชกชนะผู้หญิงก็ไม่ได้มีเกียรติมีศักดิ์ศรีอะไร ถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาก็อับอายขายหน้าเท่านั้น ไม่มีเลือกทางไหนดีกับภาพลักษณ์เลยสักอย่าง แต่ยังไม่ทันได้ทำอะไรสาวสวยกลุ่มหนึ่งกึ่งวิ่งกึ่งเดินจากหน้าโรงยิมตรงเข้ามาหาอย่างดีอกดีใจ

            “เจี้ยบ...มาได้ไงนี่”    ธาราหลุดปากอย่างไม่เชื่อสายตาเมื่อมองเห็นสาวสวยคนเดินนำหน้าพร้อมดอกไม้ช่อใหญ่

             “พวกหนูพากันลางานมาเชียร์คุณทาค่ะ”เจี้ยบยิ้มหวานส่งช่อดอกไม้ให้ พลางหันไปแนะนำเพื่อนร่วมงานที่เหลือ

             “ดูสิคะ น้องอุ๊  น้องเมย์  น้องกบ ก็มาด้วย พวกเรามาเพื่อให้กำลังใจเอาชนะเมียให้ได้เลยนะคะ”

             ธารารับดอกไม้มาอย่างงงๆ เพราะไม่เคยบอกรายละเอียดการชกครั้งนี้ให้พนักงานสโมสรรู้เลย ความเป็นไปได้น่าจะเป็นมีคนเดียวเท่านั้นเป็นตัวต้นเรื่อง

             “ไอ้เอก ฝีมือแกหรือเปล่า”   ชายหนุ่มหันไปมองหน้าพี่เลี้ยงจำเป็นด้วยน้ำเสียงคาดคั้นเอาเรื่อง อีกฝ่ายยืดอกยักคิ้วพยักหน้ารับอย่างสง่าผ่าเผย

             “เออ  ข้านี่ละ  บอกน้องพวกนี้ให้มาเชียร์  ไม่ต้องห่วงข้าเสียค่าล่วงเวลาชดเชยให้เรียบร้อย  แกจะได้มีแรงใจในการชกให้ชนะ มีสาวๆ มาให้กำลังใจขนาดนี้ แพ้ได้ก็ให้รู้ไป”

             ฟังแล้วได้แต่โคลงหัวอย่างระอาใจ ทำไมต้องทำเรื่องใหญ่ให้มันใหญ่ขึ้นไปอีกโดยไม่จำเป็น แต่พอหันไปมองดูกองเชียร์อารมณ์ขุ่นมัวก็หายวับไปกับตาในทันที เพราะปกติพนักงานสโมสรเห็นอยู่ในชุดประจำร้านจนชินตา พอมาอยู่ข้างนอกมีโอกาสแต่งเนื้อแต่งตัวเต็มพิกัดทำให้แต่ละนางสวยสดงดงามน่ารักน่าหยิกจนหัวใจสูบฉีดแรงราวกับจะล่องลอยไปบนฟากฟ้า

             และยังไม่ทันจะได้พูดคุยอะไรกองเชียร์สาวสวยก็แย่งกันควงแขนลากจูงนักมวยจำเป็นเข้าไปในโรงยิมทันที

             ก้าวแรกเหยียบย่างเข้าประตู เสียงเพลง war  จากอัลบัมชุดThe Extremist ของ  Joe Satriani  ดังกระหึ่มเร้าใจขึ้นทันทีราวเตรียมการล่วงหน้า  เวทีมวยอยู่ตรงกลางฝูงชนมากมายคนแน่นขนัดนับพันคน ไม่ต่างจากสภาพสนามมวยที่เคยเห็นในทางทีวีเลย  เครื่องปรับอากาศการทำงานเต็มที่แต่ธารายังรู้สึกเหงื่อเริ่มซึมแผ่นหลังเพราะความตื่นเต้น เสียงโฆษกประกาศด้วยน้ำเสียงเปี่ยมอารมณ์เมามันไม่แพ้มืออาชีพ

             “ทุกท่านครับ  ขณะนี้นักมวยฝ่ายชาย มาถึงเวทีแล้วครับ พร้อมด้วยกองเชียร์สาวสวยประจำตัว น่าอิจฉาเสียจริง  เอ้า.. พวกเรา ปรบมือต้อนรับเป็นกำลังใจ  ธารา ฉายาหมัดซ้ายทลายเมีย สถิติการชกไม่เคยแพ้ไม่เคยชนะไม่เคยเสมอ เพราะไม่เคยชก”

             “เฮ”

             เสียงร้องให้กำลังใจกึกก้อง สังเกตว่าเป็นเสียงผู้ชายเสียเป็นส่วนใหญ่ หลังจากนั้นก็มีเสียงโห่ฮาดังตามมาและน่าสังเกตว่าเป็นเสียงผู้หญิงแทบทั้งนั้น   ธารานึกขอบคุณตัวเองที่มากับสภาพชุดนักมวย เพราะถ้ามาในชุดอื่นคงลำบากกับการเปลี่ยนชุดเนื่องจากมองไม่เห็นห้องพักนักกีฬาเลย  ไม่น่าเชื่อว่าจะมีคนสนใจศึกครอบครัวขนาดนี้  ผู้ชมมีทั้งนั่งเก้าอี้กันเป็นระเบียบและยืนจับกลุ่มคุยกันซึ่งก็เป็นเรื่องพนันขันต่อนั่นเอง จำนวนคนทำให้โรงยิมดูคับแคบไปถนัดตา

             ธาราขึ้นไปนั่งเก้าอี้รออยู่มุมน้ำเงิน เพราะไม่รู้จะไปไหน ด้านล่างเอกชัยเป็นพี่เลี้ยง สาวสโมสรเป็นผู้ช่วยจำเป็น พากันขึ้นมาเคียงข้างเอาผ้าเช็ดน้ำเย็นลูบตามใบหน้าแขนขาทั้งที่ยังไม่ได้ออกหมัดให้เหนื่อยเลย ทำให้มีเสียงร้องอย่างสนุกสนานของกองเชียร์ฝ่ายชาย บางคนเห็นแล้วอยากขึ้นมาชกแทนก็มี  เจี๊ยบและเพื่อนมีหยุกยาติดตัวกันตามมีตามเกิดเพราะไม่ใช่พี่เลี้ยงมืออาชีพ  ความเซ็กซี่น่ารักของพี่เลี้ยงสาวสวยทำให้บรรยากาศคึกคักขึ้นมาทันที  มองหาคู่ต่อสู้แต่ยังไม่เห็น หัวใจเต้นระทึกไม่ป็นจังหวะเพราะเริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าจะเอาชนะนิจพรได้หรือไม่ มองหาครูคาราเต้ที่เอกชัยบอกว่าจะมาแก้ทางมวยให้ก็ยังไม่เจอ เอกชัยเพียงบอกว่าให้ใจเย็นๆรอไปก่อน

             เสียงเพลงในโรงยิมเปลี่ยนเป็นเพลง  Eye Of The Tiger  ของ Survivor  พร้อมกับการเล่นแสงสีวูบวาบละลานตาเสียงโฆษกประกาศท่ามกลางเสียงกรีดร้องกึกก้องของผู้ชม

             “มาแล้วครับ มุมแดงนักชกสาวสวยฝ่ายหญิง นิจพร ลูกอิเกิ้ง ตัวแทนฝ่ายหญิงผู้จะกอบกู้เอกราชและคืนความเป็นธรรมให้แก่สังคมสตรี เธอมาแล้ว......”

             ประตูด้านข้างเปิดออก นิจพรในชุดกางเกงขาสั้นเสื้อยืดตัวเล็กเปิดไหล่สีดำรองเท้าผ้าใบ เดินนำหน้าคณะออกมาด้วยท่าทางทะมัดทะแมง สังเกตได้ว่ามีหนุ่มหน้าหล่อเดินประกบมาด้วย  ธารามองเห็นก็รู้สึกเดือดปูดขึ้นมาทันที จำได้ชัดว่าเป็นหนุ่มผู้แสดงความคุ้นเคยกับนิจพรแบบไม่เกรงใจในหน้าเฟซบุ๊คอย่างน่าเตะให้ตายนั่นเอง ตัวจริงดูเด็กกว่าหล่อกว่าในภาพเสียอีก

             เสียงบรรดากองเชียร์ดังขึ้นอย่างถล่มทลายทั้งแฟนมวยฝ่ายหญิงและฝ่ายชาย ไม่มีใครจะไม่ชอบนิจพรเพราะความเป็นผู้หญิงทำให้ได้คะแนนสงสารไปมากกว่าครึ่ง ไหนจะมีคะแนนชีกอจากพวกผู้ชายเพิ่มมาเป็นกรณีพิเศษอีกต่างหาก

             “นิดสู้ขาดใจ  นิดไว้ลาย นิดสู้ๆ”

             “นิดสู้ ๆ  ซ้ายสู้ ขวาสู้  นิดสู้ตาย”

             หนุ่มหน้ามลเป็นคนขึ้นเวทีมาก่อนแล้วดึงเชือกขึ้นเปิดทางให้นักชกฝ่ายหญิงก้าวขึ้นมาบนเวทีอย่างสะดวก หญิงสาวขึ้นมาโบกไม้โบกมือให้ท่านผู้ชมรอบทิศด้วยรอยยิ้มเก็บคะแนนความสวยน่ารักเข้ากระเป๋าไปอีก  ชุดสีดำขับผิวขาวให้กระจ่างสะดุดตาชวนมอง แต่กับผู้เป็นสามีมองแล้วขวางหูขวางตาอย่างบอกไม่ถูก

             “กรรมการของมวยคู่นี้เป็นกรรมการรับเชิญพิเศษได้แก่คุณกำจรเจ้าของค่ายมวยอิเกิ้ง รับรองว่าตัดสินอย่างยุติธรรมแน่นอนครับ”

             เสียงปรบมือต้อนรับสนั่นเมื่อคุณลุงกำจรก้าวขึ้นมาบนเวที ด้วยชื่อเสียงของครูมวยและเจ้าของค่ายมวยย่อมเป็นหลักประกันว่าตัดสินอย่างยุติธรรมแน่แท้ แต่นักชกฝ่ายชายไม่แน่ใจเอาเสียเลยเพราะไม่เชื่อว่าความเป็นญาติสนิทกันจะไม่ทำให้ตาชั่งแห่งความเที่ยงตรงเอนเอียง
และไม่แน่ใจมากขึ้นเมื่อเห็นลุงกำจรเดินตรงเข้ามาหาพร้อมเชือกเส้นยาวในมือ

             “ตามกฏกติกา คุณธาราต้องมัดมือขวาติดตัวไว้นะครับ”


.คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  แต่งเรื่องสั้น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่