วันนี้เราจะมารีวิวเที่ยวโตเกียวฉบับสั้นๆค่ะ เนื่องจากเป็นไฟลต์ที่บินต่อจากการไปเกาหลีมา 5 วันเลยมีเวลาอยู่ญี่ปุ่นแค่แป๊บเดียว
เราบินจาก โซล flight 10:40 และเดินทางมาถึงราวๆ ดี1 ค่ะ ซึ่งแผนเดิมที่ตั้งไว้คือ กะจะนอนสนามบินเอาเพราะมันไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว แต่ปรากฏว่าด้วยความเที่ยวเล่นจากโซลมาทั้งวันแล้ว พอมาถึงเกิดเหนื่อยขึ้นมา เลยหาดูโรงแรมแถว airport ก็มาเจอว่า มี รร first cabin อยู่แต่ต้องนั่งรถออกไป domestic terminal ก็เลยออกไปเพื่อพบว่า รถบัสหมดและ Uber มีแต่แบบ black!! เลยต้องพาร่างตัวเองกลับเข้ามานอนเก้าอี้สนามบินเหมือนเดิม ฮาาาา
เราเริ่มต้นวันด้วยการเอากระเป๋าเข้าไปเก็บที่โรงแรมโดย รร. ที่เราจองไว้ครั้งนี้คือ "Shinjuku Granbell Hotel" ค่ะ
็Hotel: Shinjuku Granbell Hotel
Stn.: Shinjuku stn. East exit
cr. จากเว็บไซต์ของโรงแรมค่ะ
สำหรับโรงแรมนี้ เราต้องบอกว่าห้องที่เราเลือกพักนั้นคือ เล็กมากกกกกกก แทบไม่มีที่ให้หมุนกันเลยทีเดียว แต่ถ้าเทียบกับ ช่วงเวลา full bloom ของน้องซากุระ และอยู่ย่านชินจูกุจ่ายคืนละ 4xxx ก็รับได้ค่ะ อันนี้ที่เราถ่ายเองในห้องพักค่ะ
คือพื้นที่ที่เห็นนี่ไม่นับห้องน้ำนี่แทบจะเต็มห้องแล้วนะคะ อยากจะร้องไห้ 555 แถมระยะทางการเดินจากสถานีมาก็ค่อนข้างไกลประมาณ 10 นาที up ถ้าเทียบกับ รร. ประจำที่เราชอบไปพักเวลาไปโดเกียวคือ JR BLossom Hotel Shinjuku นี่ผิดกันลิบลับเลยทีเดียว ลองไปดู รีวิวอันเก่าของเราได้ที่นี่ค่ะ
https://pantip.com/topic/34894641
หลังฝากของเราก็ไปเดินเล่นแถว Isetan เนื่องจากอยู่ใกล้มากก เจอกับเครื่องสำอางค์ Laduree ซึ่งหวานและดึงดูดมาก สวยงามเกินกว่าจะกล้าใช้
เดินเล่นช้อปปิ้งอยู่แถวๆห้างจนได้เวลา เช็คอิน ขอเข้าไปอาบน้ำซะหน่อยรู้สึกเหม็นตุ 555 อาบน้ำเสร็จก็ไปเดินช้อปปิ้งต่อที่ย่าน "Shibuya" ค่ะ ป่ะ!!!!
ซึ่งหลายๆคนก็อาจรู้กันแล้วว่า ญี่ปุ่นนั้น เต็มไปด้วยร้านมือสองมากมาย ซึ่งเรามี่ร้านเด็ดในดวงใจอยู่ค่ะ คือร้าน "2nd Street Reuse Shop" ค่ะ ร้านนี้จะเน้นเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายนะคะ ราคาของเสื้อผ้ามือสองญี่ปุ่นไม่ถูก แต่ถ้าเทียบกับ คุณภาพนั้น ก็จัดว่าดีทีเดียวค่ะ ร้านนี่ที่ชิบูยะ มี 2 สาขาเท่าที่เราเห็น อยู่หน้าถนนใหญ่กับในหลืบ ถ้าอันที่อยู่ในหลืบ จะเต็มไปด้วย brand hi-end สภาพนางฟ้ามากมายเลยจ้า แต่เนื่องจากเราไม่ได้ถ่ายรูปร้านนี้ไว้ ลองใช้ google map search หาดูกันนะค้า รับรองว่าต้องได้ของติดไม้ติดมือกันมาแน่ๆค่ะ ดูจากหลักฐานได้ 555
หิวละ ไปหาไรกินกันดีกว่าค่ะ กับร้าน "Cafe Manduka"
ร้านนี้ไม่รู้จะเรียกว่าขายอาหารชาติไหน เพราะที่สั่งมาบนโต๊ะนี่มีทั้ง เกาหลี ญี่ปุ่น และ เวียดนาม 555 แต่อร่อยเกือบทุกอย่างเลยนะคะ แถมราคาไม่แพงด้วย ตัวที่เค้า recommend ก็คือตัวนี้ค่ะ Roast Beef ก็โอเคนะ
เหมือนทางร้านจะมี เมนูเครปขายด้วยแต่ปิดแค่ 2 ทุ่ม เราไปช้า เลยอดทานเลย
วันที่ 2 เรามีมิชชั่นที่ต้องไปตามหาน้องซากุระะะะะะ เราเลือกที่จะออกนอกเมืองไปเพราะอยากไปสัมผัสวิถีสโลไลฟ์แบบคนโลคอลดู จากการหาข้อมูลเราก็เจอกับ "Gongendo Park" ค่ะ
ก่อนนอนเราก็หาทางไปจากในเน็ตว่าเดินทางไปยังไง ในส่วนของ Gongendo Park นั้นจะใช้เวลาเดินทาง ค่อนข้างไกลมากกกก ประมาณ 2 ชั่วโมง metro กับอีกครึ่งชั่วโมงเดินค่ะ
พิกัด: Gongendo Park
สถานี: Satte Station
เริ่มต้นจาก shinjuku station นั่งรถวนไปข่ะ!!!
วิธีเดินทาง metro ก็ใช้ googel map เลือกการเดินทางโดย metro เอาค่ะ เค้าจะบอกเลยว่าเราต้องไปเปลี่ยนสายอะไรที่สถานีไหน ง่ายมากถึงสถานี เราก็ search Gongendo Park แล้วเดินตาม map ไปค่ะ ราวๆครึ่งชั่วโมงก็ถึงแล้ว เดินต่อไปค่ะ
เดินตามทางและฝูงชนมาเรี่อยๆค่ะ เราก็จะเดินมาเจอกับบบบบ
โอ๊ยตายแล้วววววววววว สวยอะไรขนาดนี้ สมกับที่อุตส่าห์ดั้นด้นเดินมามากๆๆ
ไม่รู้จะพูดอะไรอ่ะ ปลื้มปริ่มอยู่ ^_^ มีขายอาหารตามทาง ฟีลกู้ดมากกกกก
เดินเหนื่อยแล้ว ได้เวลากลับบ้าน ตอนนี้เริ่มฉลาดขึ้น เริ่มเห็นว่ามันมี bus stop 555 ก็เลยเดินตามทางไป จนเจอร้าน Tonkatsu เลยแวะซะหน่อยกับร้าน
"Katsu Tairo"
อร่อยสมราคามากๆค่ะ ฟินเลยยยยย search หา Tonkutsu restaurant ตอนอยู่แถวนั้นนะคะ
วันสุดท้ายของการเดินทาง วันนี้เรามีร้านแนะนำ 2 ร้านด้วยกันคือ "Kisoji Shinjuku"
พิกัด: Shinjuku Station east exit อาคาร
Shinjuku New Fuji Bldg.
ต้องบอกว่าร้านนี้ เค้าว่ากันว่ามันยอดมากกกกก เลยอยากมาลองดู ร้านอยู่ทาง east side ของ shinjuku นะคะ มองหา Uniqlo ด้านขวามือเอาไว้ค่ะ
ด้วยความที่ร้านนี้ จริงๆแล้วควรจองไปก่อน แต่เราพักอยู่ใกล้ และไปทานตั้งแต่เที่ยงเลยไปเสี่ยงดูค่ะ โทรไปจองก่อนก็ดีนะคะ
เราสั่งมาเป็น set เนื้อมัสซึซากะ(9xxx เยน) กับเนื้อวากิว (4xxxเยน) ค่ะ ทานเยอะกว่านี้ไม่ไหว เกรงใจ(กระเป๋าตังค์) 555
เราสั่ง สุกี้มา พนง เค้าจะเป็นคนทำจี่ๆให้เรานะคะตอนเริ่มแรก เราก็คีบเอากับชามไข่ ต้องบอกว่า ละลายในปากของจริงมันเป็นหยั่งงี้นี่เองอ่าาา
น้ำซุปมีมาแบบ ข้นกับใส
พวกนี้เป็นเครื่องเคียงต่างๆที่มากับ set ค่ะ
ทานเสร็จก็มีไอศครีมตบท้ายให้ด้วย เป็นรสซากุระ อร่อยยย
สรุป: ร้านนี้ราคาสูงมาก แต่ก็ฟินมากเช่นกันค่ะ คนรักเนื้อ ไม่ควรพลาดด้วยประการทั้งปวงค่ะ พูดเลย
วันสุดท้ายของการเดินทาง เราไปแถว
ฮาราจูกุ ค่ะ ซึ่งทุกครั้งที่ไปโตเกียว เราต้องไปตึกนี้ เพราะมันเป็นแหล่งของเรา 555
ห้างนี้ จะเป็นแหล่งรวม indi brand ทั้งหลายแหล่ item แปลกๆ เก๋ๆ เราก็ได้มาจากที่นี่แหล่ะค่ะ
โอยยยย มีความอยากเหมากลับบ้านนนนนน
หมดตังไปเยอะ และมีความเห่อนิดหน่อยยยยยยยย
เด๋วมาต่อนะคะ
โตเกียว...เที่ยวที่เท่าไหร่?? พาไปดูซากุระแบบคนโลคอล แนะนำร้านเด็ดที่นักเดินทางสายชิวต้องไปโดน พร้อมริวิวที่พักชินจูกุ
เราบินจาก โซล flight 10:40 และเดินทางมาถึงราวๆ ดี1 ค่ะ ซึ่งแผนเดิมที่ตั้งไว้คือ กะจะนอนสนามบินเอาเพราะมันไม่กี่ชั่วโมงก็เช้าแล้ว แต่ปรากฏว่าด้วยความเที่ยวเล่นจากโซลมาทั้งวันแล้ว พอมาถึงเกิดเหนื่อยขึ้นมา เลยหาดูโรงแรมแถว airport ก็มาเจอว่า มี รร first cabin อยู่แต่ต้องนั่งรถออกไป domestic terminal ก็เลยออกไปเพื่อพบว่า รถบัสหมดและ Uber มีแต่แบบ black!! เลยต้องพาร่างตัวเองกลับเข้ามานอนเก้าอี้สนามบินเหมือนเดิม ฮาาาา
็Hotel: Shinjuku Granbell Hotel
Stn.: Shinjuku stn. East exit
พิกัด: Gongendo Park
สถานี: Satte Station
เดินเหนื่อยแล้ว ได้เวลากลับบ้าน ตอนนี้เริ่มฉลาดขึ้น เริ่มเห็นว่ามันมี bus stop 555 ก็เลยเดินตามทางไป จนเจอร้าน Tonkatsu เลยแวะซะหน่อยกับร้าน "Katsu Tairo"
พิกัด: Shinjuku Station east exit อาคาร Shinjuku New Fuji Bldg.
ต้องบอกว่าร้านนี้ เค้าว่ากันว่ามันยอดมากกกกก เลยอยากมาลองดู ร้านอยู่ทาง east side ของ shinjuku นะคะ มองหา Uniqlo ด้านขวามือเอาไว้ค่ะ
เราสั่งมาเป็น set เนื้อมัสซึซากะ(9xxx เยน) กับเนื้อวากิว (4xxxเยน) ค่ะ ทานเยอะกว่านี้ไม่ไหว เกรงใจ(กระเป๋าตังค์) 555
สรุป:
วันสุดท้ายของการเดินทาง เราไปแถว ฮาราจูกุ ค่ะ ซึ่งทุกครั้งที่ไปโตเกียว เราต้องไปตึกนี้ เพราะมันเป็นแหล่งของเรา 555
เด๋วมาต่อนะคะ