กระทู้สองค่ะ
https://pantip.com/topic/36333752
กระทู้สามค่ะ
https://pantip.com/topic/36336376
5-6 เดือนที่แล้ว ดิฉันไปเดินเล่นแถวศูนย์การค้า 55 ที่เปิดใหม่ย่านศรีนครินทร์ เจอออฟฟิศที่ทำเรื่องเกี่ยวกับศึกษาต่อต่างประเทศชื่อ Windsor ก็เลยเดินเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับคอร์สซัมเมอร์สั้น ๆ ที่ต่างประเทศสำหรับลูก ๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของกระทู้นี้ค่ะ
ครอบครัวเรามีแพลนจะลองส่งลูกไปต่างประเทศช่วงปิดเทอม เพื่อฝึกภาษาอังกฤษและเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ หลังจากเลือกอยู่หลายที่ ในที่สุดเราก็ตัดสินใจลงเอยกับที่ Windsor เพราะที่นี่มีรูปแบบของซัมเมอร์คอร์สที่ตรงกับใจเราพอดี
ปกติ ซัมเมอร์คอร์สที่เห็นส่วนใหญ่ มักจะเป็นแบบ 3 อาทิตย์ ที่เด็ก ๆ ได้เรียนตอนเช้า และไปเที่ยวตอนบ่าย ส่วนตอนเย็นก็กลับมาพักอยู่กับ host family แต่ดิฉันเอง อยากให้ลูกได้ลองไปอยู่โรงเรียนประจำ หัดใช้ชีวิตเอง รับผิดชอบตัวเอง ฝึกทำอะไรเองบ้าง
ประเด็นหลักของโจทย์เราคือ ภายในราคาที่เราพอจ่ายได้ เราต้องการหาโรงเรียนที่อยู่นอกเมือง อากาศดี มีกิจกรรมให้ทำหรือมีกีฬาให้เล่น และสำคัญที่สุด คือ ต้องปลอดภัยสำหรับเด็กผู้หญิงทั้ง 2 คน
ท้ายสุด เราก็เลือกโรงเรียนหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ
ซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ เราไม่ได้ดูที่ rank หรืออะไรมากมายของโรงเรียน แต่เราวัดจากความเห็น ความรู้สึกของลูกที่ได้ไปเรียนที่นี่ 5 สัปดาห์
ลูกคนกลางเล่าให้ฟังว่า ที่นี่บังคับให้ต้องเล่นกีฬาหรือไม่ก็ต้องไปเข้ายิม กระโดดเชือก ปั่นจักรยานแบบ spinning เล่น net ball อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ข้อสอบที่นี่เน้นเขียนและให้แสดงความคิดเห็น ลูกได้เข้าเรียนภาษาสเปนร่วมกับเพื่อน ๆ ในชั้นด้วย และโรงเรียนมักมีอีเมล์ชมเชยมาทุกครั้งที่ลูกทำได้ดีหรือแสดงให้เห็นว่าใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดในการเรียน
ลูกคนโตอยู่ชั้นโตกว่า ก็มีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ แต่เด็กชั้นโตจะมีนักเรียนนานาชาติมาเรียนด้วยมากกว่าเด็กชั้นเล็ก สำหรับเด็กชั้นโต ที่นี่มีการฝึกคล้าย ๆ ฝึกทหารด้วยนะคะ
โรงเรียนเคยอีเมล์มาขออนุญาตกับพ่อแม่ว่า ในการฝึกทหารช่วงสุดสัปดาห์หนึ่ง จะขอให้ลูกไปฝึกด้วย พ่อแม่จะอนุญาตให้ลูกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ Chinook ไหม ?
พ่อนี่กุมขมับคิดหนัก ส่วนอิแม่นี่ตื่นเต้นกระดี๊กระด๊ามาก
บอกว่า “อนุญาตไปเล้ยป๋า ... ชีวิตคนเราจะได้ขึ้น Chinook กันสักกี่ครั้งเชียว ?”
แต่ท้ายที่สุด ลูกก็ตัดสินใจไม่เข้าร่วมเพราะไม่ชอบฝึกอะไรแบบนี้ แต่ก็ต้องไปบำเพ็ญประโยชน์อย่างอื่นแทน
เราดูสภาพโรงเรียน ห้องเรียน และสิ่งแวดล้อมรวม ๆ จากภาพที่ Windsor ไปถ่ายมา brief ให้ผู้ปกครองฟังแล้ว ในที่สุดเราก็ตัดสินใจเลือกที่นี่ เพราะมีสนามกว้าง หอพัก ห้องเรียน ดูรัดกุมปลอดภัย
เด็ก ๆ เรียนกัน 5 อาทิตย์
ในวันสุดท้าย เราก็ยกโขยงกันไปรับลูกทั้งครอบครัว เสร็จแล้วขับรถพาลูกเที่ยวอังกฤษต่ออีกอาทิตย์กว่า ๆ แล้วค่อยกลับเมืองไทย
เราไปด้วยสายการบินแห่งชาติ TG ของเราค่ะ เครื่องออกตอนเที่ยงคืน ถึงอังกฤษประมาณ 7 โมงเช้า
แม้จะราคาแพงกว่าสายการบินอื่นไปหน่อยแต่ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ะ
หลายปีก่อนเคยไปมิลาน แล้วนั่งเอมิเรตส์ ถึงตอน 4 โมงเย็นกว่า ๆ เท่ากับเสียไป 1 วัน ค่าตั๋วที่ประหยัดได้ก็ต้องไปจ่ายค่าที่พัก
คิด ๆ แล้วไม่คุ้มเลย
นั่งการบินไทยสะดวกที่สุด ถึงตอน 7 โมงเช้า นอนบนเครื่อง 10 กว่าชั่วโมง ลงเครื่องปุ๊บออกเที่ยวได้เลย พนักงานการบินไทยก็บริการดีมาก คนเต็มลำ บริการได้รวดเร็ว เรียบร้อย เสริ์ฟอาหารไวแต่นุ่มนวล ไม่โฉ่งฉ่างพรวดพราดเป็นเซิ้งกระติ๊บ
พี่แอร์บอกว่า flight ของ TG ที่ไป London, Paris, Frankfurt ใช้เครื่อง Airbus
เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งบน upper deck ตอนเดินขึ้นบันไดในตัวเครื่องบินไปบนชั้น 2 ลูกถามว่า “หม่ามี้ บนเครื่องบินมีอีกชั้นหนึ่งด้วยหรือ ?”
ส่วนตัว ดิฉันรู้สึกว่า ระยะห่างระหว่างที่นั่งกว้างกว่าปกตินิดนึงด้วย
วันนั้น เครื่องดีเลย์เล็กน้อย ด่านตรวจคนเข้าเมืองคนก็เยอะมาก
ลงเครื่องมา พวกเราก็ไปขึ้นลิฟต์ต่อไปยังจุดที่รถ bus ของบริษัทรถเช่าจะขับพาไปจุดรับรถ
เราใช้บริการของ Europcar ค่ะ
เพื่อความสบายใจเราซื้อประกันที่ cover ทุกอย่างเสร็จสรรพเอาไว้ เช่า GPS เอาไว้อีกต่างหาก
ไม่อยากยุ่งยากหรือหวังพึ่ง Google Map มากเกินไป เพราะบางจุด net ก็กากมากค่ะ
ได้รถแล้ว เราก็ขับรถตามทางหลวงของอังกฤษเลย ที่นี่ ขับเลนซ้าย พวงมาลัยอยู่ทางขวาแบบบ้านเรา เลยไม่ค่อยงงเท่าไร
ช่วงที่ไปสิบกว่าวันที่แล้ว อากาศดีมาก พวกเราโชคดีที่เกือบสิบวันที่อยู่อังกฤษ ไม่เจอฝนตกหนัก ๆ เลย อาจมีบางวันที่เจอปรอย ๆ บ้าง แต่ก็น้อยมาก ส่วนใหญ่อากาศจะดี เย็น สดชื่น
เราแวะพักตรงจุดพักรถ เพื่อหาอะไรรองท้อง ช่วงนี้ดอกไม้บานเต็มไปหมดค่ะ
จุดแวะพักของที่อังกฤษ ก็จะมี supermarket, Starbucks, KFC, Subway กับร้านอะไรกระจุ๊กกระจิ๊ก คล้าย ๆ ตลาดบ้านสวนของเราแต่เป็น version ที่หรูกว่าหน่อย ที่อิชั้นว่าสู้ตลาดบ้านสวนไม่ได้ ก็ตรงราคากับการไม่มีอะไรแซ่บ ๆ แบบไทย ๆ นี่ล่ะค้า
อ้อ... ขับรถที่นี่ ดิฉันสังเกตว่า จะไม่มีจุดให้ยูเทิร์นแบบบ้านเราเลย แต่จะมีวงเวียนเป็นระยะ ๆ เวลาถึงทางแยก ก็จะมีวงเวียน เราก็ต้องเลือกให้ถูกว่า จะออกจากวงเวียนตรงทางออกที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 5 เคยออกผิดไปครั้งสองครั้ง กว่าจะเจอวงเวียนหน้าให้ย้อนกลับมาที่เดิมได้นี่ขับรถเพิ่มรวม ๆ อีก 20 กว่ากิโล
ระหว่างทางบางทีออกทางออกตรงวงเวียนผิด ก็หลงไปบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็ยังสนุกค่ะ เพราะหน้านี้อากาศดี ดอกไม้สวย บ้านรูปทรงแปลกตาก็ทำให้ไม่เบื่อ แดฟโฟดิลสีเหลืองบานให้เห็นทั่วไปหมด แมกโนเลียสะพรั่งเต็มต้นสวยมาก หรือ บางที เราก็ขับผ่านทุ่ง rapeseed สวยเหลืองพราวไปหมด
ขับไป 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงโรงเรียนลูก
เอารูปบางส่วนของที่โรงเรียนมาฝากนะคะ
อันนี้เป็นสภาพห้องนอนของลูกนะคะ
ดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มที่เพิ่งบานรับสปริง
รับลูกออกมาแล้ว เราก็มุ่งสู่จุดหมายแรกของเราเลยค่ะ คือ Liverpool เพราะคุณพ่อบ้าน เป็นหงส์แดงมาตั้งแต่สมัยมัธยม อันนี้จึงเป็น mission แรกที่เราต้องไป
คืนแรก เราแวะพักที่ Staycity นะคะ
ใครมา Liverpool ขอแนะนำที่นี่ เพราะสะดวกมาก ๆ อยู่ติดกับแหล่งช้อปปิ้งอย่าง Liverpool One ซึ่งจะนั่งรถต่อไป Stadium ได้สะดวกมาก ๆ หรือจะเดินไปสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ อย่าง Albert Dock ก็สะดวก
แถว ๆ Liverpool One
ทีแรก เราตั้งใจจะไปทานข้าวเย็นที่ร้าน Jamie Oliver แต่โต๊ะเต็มและเด็ก ๆ ก็หิวจนจะงับหัวกันเองแล้ว
เราเลยเดินไปร้านอื่น ที่นี่มีร้านไทยอยู่ 2-3 ร้านนะคะ ร้านใหญ่ทีเดียว ชื่อ ร้านยี่หร่า ร้านเจ้าพระยา ร้านบุษบา (ถ้าจำไม่ผิด)
อันนี้ ก็อยู่ด้านบนของแถว ๆ Liverpool One ค่ะ
เราเดินเล่น กินข้าวกันเสร็จก็กลับเข้าที่พัก
อันนี้เป็นรูปใน Staycity นะคะ เราเช่าห้องแบบที่อยู่ได้ 5 คน มีครัว มีอะไรพร้อมสรรพ เตา หม้อ ถ้วย ชามรามไห ช้อน ส้อม แก้วไวน์ แก้วกาแฟ น้ำยาล้างจาน ครบเซ็ตหมด
ถ้าจะมีอะไรที่ไม่ชอบเกี่ยวกับ Staycity อยู่บ้าง ก็น่าจะเป็นเรื่องห้องน้ำ เราไม่ชอบอาบน้ำแบบที่ต้องก้าวลงไปในอ่าง แล้วอ่างลึกมาก ขาสั้น ๆ อย่างเราก้าวเข้าก้าวออกลำบากมาก หุหุหุ
คืนนั้น บ้านเราสลบไสลกันหมด ตื่นเช้ามา คุณเคทกับคุณพีทที่ Windsor ที่มาประชุมกับมหาวิทยาลัยแถวนั้นพอดี ก็มานัดเจอกับพวกเราที่ Staycity แล้วก็พาเราไปเดินเล่นในเมือง
วิวในเมืองลิเวอร์พูล
นก Liver บนยอดตึก
เคทอธิบายให้พวกเราฟังว่า นกที่เราเห็นบนยอดตึก คือ นก Liver ค่ะ
เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองของลิเวอร์พูล และทีมฟุตบอลก็เอาตัวนกนี้เป็นสัญลักษณ์ของทีม
แต่ไทยเราแปลว่า “หงส์” มาตั้งแต่ต้น ลิเวอร์พูลเลยเป็นหงส์แดงสำหรับแฟนบอลชาวไทย
Albert Dock ค่ะ ท่าที่เรือ Titanic ออกค่ะ
วิวจากมุมอื่น ๆ ของ Albert Dock นะคะ
แนะนำให้มาเดินเล่นที่นี่ค่ะ มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายลูกกวาด และบรรยากาศที่สดชื่น สวยงาม
อันนี้ คือ ร้านที่เราแวะทานข้าวเช้ากันค่ะ ดูบรรยากาศเหมือนผับเนอะ
ร้านขายลูกกวาด ที่เอาลูกอมหลากสี มาเรียงเป็นรูปสมาชิกวง The Beatles ซึ่งเป็น Liverpool boys จ้า
ประติมากรรมแถว ๆ Albert Dock
แถวนี้ชิลล์มาก เราเดินเล่นวน ๆ ไป เพลินดีค่ะ
แฟชั่นแขวนแม่กุญแจแถวนี้ก็มีนะจ๊ะ
แวะรับลูกจากโรงเรียนประจำที่อังกฤษและพาขับรถเที่ยวอังกฤษแบบบ้าน ๆ ตอนที่ 1
https://pantip.com/topic/36333752
กระทู้สามค่ะ
https://pantip.com/topic/36336376
5-6 เดือนที่แล้ว ดิฉันไปเดินเล่นแถวศูนย์การค้า 55 ที่เปิดใหม่ย่านศรีนครินทร์ เจอออฟฟิศที่ทำเรื่องเกี่ยวกับศึกษาต่อต่างประเทศชื่อ Windsor ก็เลยเดินเข้าไปสอบถามเกี่ยวกับคอร์สซัมเมอร์สั้น ๆ ที่ต่างประเทศสำหรับลูก ๆ และนั่นคือจุดเริ่มต้นของกระทู้นี้ค่ะ
ครอบครัวเรามีแพลนจะลองส่งลูกไปต่างประเทศช่วงปิดเทอม เพื่อฝึกภาษาอังกฤษและเปิดโอกาสให้เด็ก ๆ ได้เรียนรู้ประสบการณ์ใหม่ ๆ หลังจากเลือกอยู่หลายที่ ในที่สุดเราก็ตัดสินใจลงเอยกับที่ Windsor เพราะที่นี่มีรูปแบบของซัมเมอร์คอร์สที่ตรงกับใจเราพอดี
ปกติ ซัมเมอร์คอร์สที่เห็นส่วนใหญ่ มักจะเป็นแบบ 3 อาทิตย์ ที่เด็ก ๆ ได้เรียนตอนเช้า และไปเที่ยวตอนบ่าย ส่วนตอนเย็นก็กลับมาพักอยู่กับ host family แต่ดิฉันเอง อยากให้ลูกได้ลองไปอยู่โรงเรียนประจำ หัดใช้ชีวิตเอง รับผิดชอบตัวเอง ฝึกทำอะไรเองบ้าง
ประเด็นหลักของโจทย์เราคือ ภายในราคาที่เราพอจ่ายได้ เราต้องการหาโรงเรียนที่อยู่นอกเมือง อากาศดี มีกิจกรรมให้ทำหรือมีกีฬาให้เล่น และสำคัญที่สุด คือ ต้องปลอดภัยสำหรับเด็กผู้หญิงทั้ง 2 คน
ท้ายสุด เราก็เลือกโรงเรียนหนึ่งทางตะวันตกเฉียงเหนือของอังกฤษ
ซึ่งก็ไม่ผิดหวังค่ะ เราไม่ได้ดูที่ rank หรืออะไรมากมายของโรงเรียน แต่เราวัดจากความเห็น ความรู้สึกของลูกที่ได้ไปเรียนที่นี่ 5 สัปดาห์
ลูกคนกลางเล่าให้ฟังว่า ที่นี่บังคับให้ต้องเล่นกีฬาหรือไม่ก็ต้องไปเข้ายิม กระโดดเชือก ปั่นจักรยานแบบ spinning เล่น net ball อาทิตย์ละ 2-3 ครั้ง ข้อสอบที่นี่เน้นเขียนและให้แสดงความคิดเห็น ลูกได้เข้าเรียนภาษาสเปนร่วมกับเพื่อน ๆ ในชั้นด้วย และโรงเรียนมักมีอีเมล์ชมเชยมาทุกครั้งที่ลูกทำได้ดีหรือแสดงให้เห็นว่าใช้ความพยายามอย่างเต็มที่ที่สุดในการเรียน
ลูกคนโตอยู่ชั้นโตกว่า ก็มีกิจกรรมหลายอย่างให้ทำ แต่เด็กชั้นโตจะมีนักเรียนนานาชาติมาเรียนด้วยมากกว่าเด็กชั้นเล็ก สำหรับเด็กชั้นโต ที่นี่มีการฝึกคล้าย ๆ ฝึกทหารด้วยนะคะ
โรงเรียนเคยอีเมล์มาขออนุญาตกับพ่อแม่ว่า ในการฝึกทหารช่วงสุดสัปดาห์หนึ่ง จะขอให้ลูกไปฝึกด้วย พ่อแม่จะอนุญาตให้ลูกขึ้นเฮลิคอปเตอร์ Chinook ไหม ?
พ่อนี่กุมขมับคิดหนัก ส่วนอิแม่นี่ตื่นเต้นกระดี๊กระด๊ามาก
บอกว่า “อนุญาตไปเล้ยป๋า ... ชีวิตคนเราจะได้ขึ้น Chinook กันสักกี่ครั้งเชียว ?”
แต่ท้ายที่สุด ลูกก็ตัดสินใจไม่เข้าร่วมเพราะไม่ชอบฝึกอะไรแบบนี้ แต่ก็ต้องไปบำเพ็ญประโยชน์อย่างอื่นแทน
เราดูสภาพโรงเรียน ห้องเรียน และสิ่งแวดล้อมรวม ๆ จากภาพที่ Windsor ไปถ่ายมา brief ให้ผู้ปกครองฟังแล้ว ในที่สุดเราก็ตัดสินใจเลือกที่นี่ เพราะมีสนามกว้าง หอพัก ห้องเรียน ดูรัดกุมปลอดภัย
เด็ก ๆ เรียนกัน 5 อาทิตย์
ในวันสุดท้าย เราก็ยกโขยงกันไปรับลูกทั้งครอบครัว เสร็จแล้วขับรถพาลูกเที่ยวอังกฤษต่ออีกอาทิตย์กว่า ๆ แล้วค่อยกลับเมืองไทย
เราไปด้วยสายการบินแห่งชาติ TG ของเราค่ะ เครื่องออกตอนเที่ยงคืน ถึงอังกฤษประมาณ 7 โมงเช้า
แม้จะราคาแพงกว่าสายการบินอื่นไปหน่อยแต่ส่วนตัวคิดว่าคุ้มค่ะ
หลายปีก่อนเคยไปมิลาน แล้วนั่งเอมิเรตส์ ถึงตอน 4 โมงเย็นกว่า ๆ เท่ากับเสียไป 1 วัน ค่าตั๋วที่ประหยัดได้ก็ต้องไปจ่ายค่าที่พัก
คิด ๆ แล้วไม่คุ้มเลย
นั่งการบินไทยสะดวกที่สุด ถึงตอน 7 โมงเช้า นอนบนเครื่อง 10 กว่าชั่วโมง ลงเครื่องปุ๊บออกเที่ยวได้เลย พนักงานการบินไทยก็บริการดีมาก คนเต็มลำ บริการได้รวดเร็ว เรียบร้อย เสริ์ฟอาหารไวแต่นุ่มนวล ไม่โฉ่งฉ่างพรวดพราดเป็นเซิ้งกระติ๊บ
พี่แอร์บอกว่า flight ของ TG ที่ไป London, Paris, Frankfurt ใช้เครื่อง Airbus
เป็นครั้งแรกที่ได้นั่งบน upper deck ตอนเดินขึ้นบันไดในตัวเครื่องบินไปบนชั้น 2 ลูกถามว่า “หม่ามี้ บนเครื่องบินมีอีกชั้นหนึ่งด้วยหรือ ?”
ส่วนตัว ดิฉันรู้สึกว่า ระยะห่างระหว่างที่นั่งกว้างกว่าปกตินิดนึงด้วย
วันนั้น เครื่องดีเลย์เล็กน้อย ด่านตรวจคนเข้าเมืองคนก็เยอะมาก
ลงเครื่องมา พวกเราก็ไปขึ้นลิฟต์ต่อไปยังจุดที่รถ bus ของบริษัทรถเช่าจะขับพาไปจุดรับรถ
เราใช้บริการของ Europcar ค่ะ
เพื่อความสบายใจเราซื้อประกันที่ cover ทุกอย่างเสร็จสรรพเอาไว้ เช่า GPS เอาไว้อีกต่างหาก
ไม่อยากยุ่งยากหรือหวังพึ่ง Google Map มากเกินไป เพราะบางจุด net ก็กากมากค่ะ
ได้รถแล้ว เราก็ขับรถตามทางหลวงของอังกฤษเลย ที่นี่ ขับเลนซ้าย พวงมาลัยอยู่ทางขวาแบบบ้านเรา เลยไม่ค่อยงงเท่าไร
ช่วงที่ไปสิบกว่าวันที่แล้ว อากาศดีมาก พวกเราโชคดีที่เกือบสิบวันที่อยู่อังกฤษ ไม่เจอฝนตกหนัก ๆ เลย อาจมีบางวันที่เจอปรอย ๆ บ้าง แต่ก็น้อยมาก ส่วนใหญ่อากาศจะดี เย็น สดชื่น
เราแวะพักตรงจุดพักรถ เพื่อหาอะไรรองท้อง ช่วงนี้ดอกไม้บานเต็มไปหมดค่ะ
จุดแวะพักของที่อังกฤษ ก็จะมี supermarket, Starbucks, KFC, Subway กับร้านอะไรกระจุ๊กกระจิ๊ก คล้าย ๆ ตลาดบ้านสวนของเราแต่เป็น version ที่หรูกว่าหน่อย ที่อิชั้นว่าสู้ตลาดบ้านสวนไม่ได้ ก็ตรงราคากับการไม่มีอะไรแซ่บ ๆ แบบไทย ๆ นี่ล่ะค้า
อ้อ... ขับรถที่นี่ ดิฉันสังเกตว่า จะไม่มีจุดให้ยูเทิร์นแบบบ้านเราเลย แต่จะมีวงเวียนเป็นระยะ ๆ เวลาถึงทางแยก ก็จะมีวงเวียน เราก็ต้องเลือกให้ถูกว่า จะออกจากวงเวียนตรงทางออกที่ 1 หรือ 2 หรือ 3 หรือ 4 หรือ 5 เคยออกผิดไปครั้งสองครั้ง กว่าจะเจอวงเวียนหน้าให้ย้อนกลับมาที่เดิมได้นี่ขับรถเพิ่มรวม ๆ อีก 20 กว่ากิโล
ระหว่างทางบางทีออกทางออกตรงวงเวียนผิด ก็หลงไปบ้าง อะไรบ้าง แต่ก็ยังสนุกค่ะ เพราะหน้านี้อากาศดี ดอกไม้สวย บ้านรูปทรงแปลกตาก็ทำให้ไม่เบื่อ แดฟโฟดิลสีเหลืองบานให้เห็นทั่วไปหมด แมกโนเลียสะพรั่งเต็มต้นสวยมาก หรือ บางที เราก็ขับผ่านทุ่ง rapeseed สวยเหลืองพราวไปหมด
ขับไป 3 ชั่วโมงกว่า ๆ ก็ถึงโรงเรียนลูก
เอารูปบางส่วนของที่โรงเรียนมาฝากนะคะ
อันนี้เป็นสภาพห้องนอนของลูกนะคะ
ดอกไม้กระจุ๋มกระจิ๋มที่เพิ่งบานรับสปริง
รับลูกออกมาแล้ว เราก็มุ่งสู่จุดหมายแรกของเราเลยค่ะ คือ Liverpool เพราะคุณพ่อบ้าน เป็นหงส์แดงมาตั้งแต่สมัยมัธยม อันนี้จึงเป็น mission แรกที่เราต้องไป
คืนแรก เราแวะพักที่ Staycity นะคะ
ใครมา Liverpool ขอแนะนำที่นี่ เพราะสะดวกมาก ๆ อยู่ติดกับแหล่งช้อปปิ้งอย่าง Liverpool One ซึ่งจะนั่งรถต่อไป Stadium ได้สะดวกมาก ๆ หรือจะเดินไปสถานที่ท่องเที่ยวดัง ๆ อย่าง Albert Dock ก็สะดวก
แถว ๆ Liverpool One
ทีแรก เราตั้งใจจะไปทานข้าวเย็นที่ร้าน Jamie Oliver แต่โต๊ะเต็มและเด็ก ๆ ก็หิวจนจะงับหัวกันเองแล้ว
เราเลยเดินไปร้านอื่น ที่นี่มีร้านไทยอยู่ 2-3 ร้านนะคะ ร้านใหญ่ทีเดียว ชื่อ ร้านยี่หร่า ร้านเจ้าพระยา ร้านบุษบา (ถ้าจำไม่ผิด)
อันนี้ ก็อยู่ด้านบนของแถว ๆ Liverpool One ค่ะ
เราเดินเล่น กินข้าวกันเสร็จก็กลับเข้าที่พัก
อันนี้เป็นรูปใน Staycity นะคะ เราเช่าห้องแบบที่อยู่ได้ 5 คน มีครัว มีอะไรพร้อมสรรพ เตา หม้อ ถ้วย ชามรามไห ช้อน ส้อม แก้วไวน์ แก้วกาแฟ น้ำยาล้างจาน ครบเซ็ตหมด
ถ้าจะมีอะไรที่ไม่ชอบเกี่ยวกับ Staycity อยู่บ้าง ก็น่าจะเป็นเรื่องห้องน้ำ เราไม่ชอบอาบน้ำแบบที่ต้องก้าวลงไปในอ่าง แล้วอ่างลึกมาก ขาสั้น ๆ อย่างเราก้าวเข้าก้าวออกลำบากมาก หุหุหุ
คืนนั้น บ้านเราสลบไสลกันหมด ตื่นเช้ามา คุณเคทกับคุณพีทที่ Windsor ที่มาประชุมกับมหาวิทยาลัยแถวนั้นพอดี ก็มานัดเจอกับพวกเราที่ Staycity แล้วก็พาเราไปเดินเล่นในเมือง
วิวในเมืองลิเวอร์พูล
นก Liver บนยอดตึก
เคทอธิบายให้พวกเราฟังว่า นกที่เราเห็นบนยอดตึก คือ นก Liver ค่ะ
เป็นสัญลักษณ์ประจำเมืองของลิเวอร์พูล และทีมฟุตบอลก็เอาตัวนกนี้เป็นสัญลักษณ์ของทีม
แต่ไทยเราแปลว่า “หงส์” มาตั้งแต่ต้น ลิเวอร์พูลเลยเป็นหงส์แดงสำหรับแฟนบอลชาวไทย
Albert Dock ค่ะ ท่าที่เรือ Titanic ออกค่ะ
วิวจากมุมอื่น ๆ ของ Albert Dock นะคะ
แนะนำให้มาเดินเล่นที่นี่ค่ะ มีร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายลูกกวาด และบรรยากาศที่สดชื่น สวยงาม
อันนี้ คือ ร้านที่เราแวะทานข้าวเช้ากันค่ะ ดูบรรยากาศเหมือนผับเนอะ
ร้านขายลูกกวาด ที่เอาลูกอมหลากสี มาเรียงเป็นรูปสมาชิกวง The Beatles ซึ่งเป็น Liverpool boys จ้า
ประติมากรรมแถว ๆ Albert Dock
แถวนี้ชิลล์มาก เราเดินเล่นวน ๆ ไป เพลินดีค่ะ
แฟชั่นแขวนแม่กุญแจแถวนี้ก็มีนะจ๊ะ