[CR] สองสาวแบกเป้ นั่งรถไฟฟรี สังขละบุรี 2 วัน 1 คืน :B รูปเยอะมากก

EDIT : ทริปนี้ 3 วัน 2 คืน นะค้าา แอบมึนเล็กน้อย เปลี่ยนชื่อกระทู้ไม่ทันแหล่ววววว

*** บอกก่อนว่ารีวิวนี้ดองเค็มข้ามปีค่ะ 5555 หากมีอะไรผิดพลาดไปขออภัยด้วยนะค้าาา***

ทริปนี้พาเพื่อนไปพักใจที่กาญจนบุรีวันที่ 20-21 กค 59 ค่ะ เพื่อนนก จนตอนนี้เพื่อนไม่นกแล้วววว ฮิ้ววว
เวลามีเรื่องไม่สบายใจหนักสมอง งานก็เครียด โดนผู้เท หาทางออกไม่เจอ
ทางออกเดียวที่เราเชื่อว่าเป็นวิธีที่ดีที่สุด ที่จะหนีและพักจากปัญหาเหล่านั้นก็คือ การออกไปเที่ยว!!!

ทริปนี้ไปช่วงวันหยุดนักขัตฤกษ์ที่คนเยอะมากกกกก ที่พักเต็มไวมากกกก แต่โชคดีที่ยังจองทันค่ะ

เราสองคนเริ่มจากการนั่งรถเมล์จากบ้านไปขึ้นรถไฟที่สถานีธนบุรี (บางกอกน้อย) สายธนบุรี-น้ำตก พอลงรถเมล์ก็เอ๋อ ไปต่อไม่ถูกจ้าาา เปิดกูเกิ้ลแมพเดินตามเลย555 หลงตั้งแต่ยังไม่เริ่ม แต่ก็เดินมาเรื่อยๆจนถึงสถานีรถไฟจนได้ ก็จัดแจงซื้อตั๋ว ใช้บัตรประชาชนยื่นที่เค้าเตอร์จำหน่ายตั๋วได้เลยค่ะ ได้มาแล้วววววว here we gooooooo!

บรรยากาศในรถไฟก็.....อืมมมม ร้อนนนนนนนนนนนนนนน!!!!! ลมพัดสบายมากแต่เป็นลมร้อน หัวร้อน ร้อนไปถึงสมองเลย แต่นั่งไปสักพักก็ชินนะคะ ลมตีเข้าหน้าจะหลับตลอดเลย แต่ก็ต้องพ่ายแพ้ให้กับกลิ่นอาหารที่เอามาขายบนรถไฟ ตื่นเต้นทุกครั้งที่มีพ่อค้าแม่ค้าเดินมาขายของ ลุ้นว่า เอ๊~จะเป็นอะไรนะ แล้วก็ซื้อมาลองเกือบทุกอย่าง 5555

แพนเค้กอาบังมีความดีงาม ชิ้นละ 10 บาท

ข้าวราดแกงกระทงละ 10 บาท อันนี้ดี อร่อยมาก

สาคูไส้หมูที่มีแต่สาคู แต่ถือว่าผ่าน บรรยากาศได้

ข้าวเหนียวหมูที่เค็มที่สุดในโลก มาลองกันได้ กินข้าวเหนียวหมดห่อ หมูยังเหลือครึ่งชิ้น เอาไปกินมื้อต่อไปได้อีกก เป็นการกินที่ประหยัดหมูมาก555

และด้วยความที่ที่นั่งเป็นไม้แข็งๆ นั่งไปนั่งมาเริ่มปวดหลังปวดก้นละ แต่วิวข้างทางสวยงามมากจริงๆ ต้นไม้หน้าฝนนี่มันเขียวจริงๆ กดชัตเตอร์รัวๆไป และโชคดีได้เจอเพื่อนร่วมทางที่ดีในรถไฟ เจอคุณป้าน่ารัก ใจดีมาก ให้ขนมกินตลอดทางเลย เขินจัง

งาตัดของคุณป้าใจดี (แต่กินไปหิวน้ำไปตลอดทาง 55555)

Heaven on earth มีอยู่จริง!

นั่งไปพักนึง เราก็ข้ามสะพานข้ามแม่น้ำแควกันแล้ววววว สวยงามตามท้องเรื่อง แต่เราไม่ได้ลงที่สถานีนี้นะคะ เดี๋ยวจะขึ้นรถไปสังขละกันไม่ทัน ไว้มาตามเก็บขากลับค่ะ ^^

นั่งไปอีกสักพัก (อีกแล้วเหรอ55) ก็ถึงสถานีถ้ำกระแซแล้วค่าาาาา ใกล้แล้วสินะะะะะะ "ทางรถไฟสายมรณะ" อันเลื่องชื่อลือนามของชั้นนน จำได้ว่าเคยมาสมัยเด็กๆกับพ่อแม่ แต่เด็กมากกกกกก ประมาณป.4 ซึ่งจำความไม่ได้ละ55 การมาครั้งนี้จึงตื่นเต้นมากกกก

(รถไฟเริ่มลดความเร็วลง พร้อมกับคนฝั่งขวาของขบวนพร้อมใจกันเดินเทมาฝั่งซ้าย รถไฟเอียงเลยค่ะ 5555)

ตื่นเต้นและประทับใจจริงๆ เรามาเยือนแล้วน้าาา ทางรถไฟสายมรณะ
นั่งต่อไปแปบนึงก็ถึงสถานีน้ำตกค่ะ จากนั้นเราก็นั่งรถสองแถวออกมาที่ไทรโยคน้อยเพื่อรอขึ้นรถบัสแดงไปสังขละบุรีกันค่ะ
ยืนรออยู่ประมาณ 30 นาที เห็นรถบัสสีแดงกำลังมาลิบๆ หาข้อมูลมาจากหลายๆกระทู้ เค้าบอกว่าเป็นรถพัดลม ร้อนมาก หวานเย็นมาก
แต่!!!! พวกเรานั้นโชคดีมากกกกกที่ได้รถบัสแอร์เว่ยยยยยยยย สวรรค์โปรดแล้ววววว กรี๊ดดดดดดดดดดดดดด นั่งสบายมากกกกก เย็นมากกกก โชคดีมากกกกกกกกกกกกกก
.....
....
...
..
.
...
....
.....
โชคดีponggggggggggggggg
ไปเปลี่ยนรถที่ทองผาภูมิเป็นรถพัดลม!!
หวานเย็นของจริง นรกเลยย ข้อมูลในพันทิปไม่เคยหลอกเรา 5555555 แล้วนั่งฝั่งแดดเข้าเต็มๆ เอาม่านลงก็ลมพัดตึงงงง ตึ่งๆๆๆ (แป้กอย่าเล่นนนนนน ขอซื้อเหอะมุกนี้) เออ ก็ลมพัดม่านตีเข้าหน้าอิ๊บอ๋ายหมด เลยช่างมันก็นั่งไปแบบร้อนๆ วิตามินดีไงวิตามินดี อิอิ
ระหว่างทางมีตรวจบัตรปชช.เป็นระยะๆ นั่งไปเบ็ดเสร็จรวม 5 ชม.จนถึงสังขละบุรีประมาณ 18.00 เปิดแมพเดินหาที่พัก เดินหมุนไปหมุนมาจนถึงที่พักจนได้ 55555 จะรอดมั้ย ที่พักของเราในวันนี้ คอฟฟี่เบอร์รี่ สังขละบุรี จ้าาาาา
ห้องพักที่นี่น่ารักมาก เป็นห้องแถวบ้านปูน ห้องเล็กกะทัดรัด มีแอร์ ไม่มีพัดลม ห้องแอบเหม็นอับ เพราะไม่มีรูระบายอากาศ จะเปิดหน้าต่างห้องทิ้งไว้ก็ไม่ได้ เดี๋ยวจิ้งจกเข้าห้อง ห้องอื่นอาจจะไม่เหม็นอับก็ได้นะคะ เราอาจโชคร้าย ส่วนห้องน้ำ เป็นแบบ open air ไม่ได้แยกส่วนเปียกส่วนแห้ง อาบทีเปียกหมดยันชักโครก 55555 และห้ามอาบตอนมืดๆน้า เดี๋ยวจิ้งจกมา จิ้งจกเยอะมากกกกก จุ๊ๆๆ ทักเตือนทั้งวันทั้งคืน
พอพักหายเหนื่อย เราก็ไปเดินเล่นที่สะพานมอญกันค่ะ ใช้คำว่าเดินเล่นเหรอ เหงื่อแตกเลยค่าาาาาาาา 5555 ระยะทางไม่ไกลจากที่พักเท่าไหร่นะ แต่เนินที่เดินลงไปยังสะพานมอญนี่เอาเรื่องมากๆ ตอนเดินขึ้นนี่ขาแข็งเลยค่ะ
คนเยอะมากค่ะ และบรรยากาศชิวมาก เพราะมีวงดนตรีสดมาเล่น นั่งชิวอยู่ตรงนี้นานมากกกกกกกก แอร๊ๆ
จากนั้นเราเดินต่อข้ามไปยังอีกฝั่งของสะพานค่ะ เป็นฝั่งของมอญค่า มีของขายเยอะแยะมากมาย
เดินทอดน่องไปสักแปบ พระอาทิตย์เริ่มตกดิน ก็เดินกลับมาฝั่งเรากันค่ะ
ไปถนนคนเดินกันต่อดีกว่าาาาาาาา เราเดินกลับไปยังที่พักเพราะทางที่พักมีจักรยานบริการฟรีด้วยจ้าาาา จักรยานฝืดๆไปนิด แต่โดยรวมก็ใช้ได้ไม่มีปัญหา
เราขี่จักรยานไปถนนคนเดินสังขละบุรี ไม่ไกลจากที่พักมากค่ะ ไปหาอาหารพม่ากินกันนนนนนน เย่
อาหารพม่าอันแรก "ขนมจีนน้ำยาหยวกกล้วย" รสชาติไม่เผ็ดเลย ไม่เหมือนน้ำยาบ้านเรา น้ำยาของเค้าคือขมิ้นๆอะหอมๆ แล้วมีหอมเจียวโรย ให้ความรู้สึกเหมือนกินไก่ทอดหาดใหญ่เลย อร่อยดีนะะะ
อาหารพม่าอันที่สอง "หมูจุ่มพม่า" ไม้ละบาท รสชาติเหมือนกินหมูหันน้ำก๋วยจั๊บ งงป่ะ 5555 แต่อร่อยดีนะะ อีกแล้ววว
อาหาระเหรี่ยงอันที่สาม "ทองโยะ" ข้าวเหนียวกับงาดำตำรวมกันแล้วทอด กินคู่กับนมข้นหวาน เอ่ออออ #แอบถ่ายรูปแล้วเดินจากไป 555 แต่ลองชิมแล้วน้าาา มันเหนียวๆงาๆหวานๆติดฟันด้วยอะ คนที่ชอบกินงาดำน่าจะชอบนะคะ
พอกินอิ่ม ก็ซื้อผลไม้ไปกินผอมๆคูลๆบนดาดฟ้าห้องพักค่ะ แต่!!!ดาดฟ้าสกปรกมาก ไม่เหมาะแก่การมานั่งมานอนดูดาวนะคะ ต้นไม้บัง ไม่เห็นอะไรเล้ย ก็ไปนอนดีกว่าค่ะ ง่วงจนลืมไปเลยว่าห้องเหม็นอับ

จบวันที่ 1 เดี๋ยวมาต่อวันที่สองค่าาาา