คือเรากับแฟนคบกันได้สักระยะหนึ่งแล้ว ประมาณ7เดือน8เดือนแล้ว อยู่มาวันหนึ่งแฟนเราเฉยช้ามากเราพยายามถามว่าทำไมถึงเปลี่ยนไป หรือเพราะเขาเหนื่อยที่ทำงานเราเลยคิดว่าคงเหนื่อยแหละต่อมาเขาเริ่มคุยกับเราน้อยลงม่โทรหาม่ค่อยทักแชท ตอนแรกก็คิดว่าเขาคงเหนื่อยแต่นานๆไปมันไม่ใช่ไม่ใช่ว่าเขามีคนอื่นเหรอแต่เพราะเขาหมดรักเราแล้วมั่ง ตอนแรกๆที่เข้ามาคุยที่เข้ามาตามจีบก็ดีแสนดีเอาใจใส่ดูแล ทั้งๆที่ตอนนั้นเขาก็ทำงานด้วยเรียนด้วยเขายังเจียดเวลามาเอาใจใส่ ตอนนี้เขาแค่ทำงานอย่างเดียวแต่กลับมีเวลาให้น้อยลง ม่สนใจอย่างเก่า ไม่โทรหา ไม่ทักแชท ตอนนั้นบอกตรงๆว่าอึดอัดมาก เราไม่อยากเลิกรู้ว่ายังไงเราก็ทำใจยอมรับไม่ได้ เสียใจ เพราะเขาคือคนแรกและคนที่เรารักที่สุด เราหวังที่จะสร้างอนาคตกับเขา แต่แล้ววันหนึ่งเราทนอยู่แบบนี้ไม่ไหว เลยถามเขาไปเขาตอบมาว่าเขา ทำงานไม่มีเวลามาใส่ใจเทอหรอก พอเริ่มทำงาน ได้เรียนรู้ที่จะคิดสร้างครอบครัว ซึ่งเทอกับเรายังไงก็เป็นไปไม่ได้ที่จะได้แต่งงานกัน ความรักของเราก้าวไปข้างหน้าไม่ได้หรอก เราคิดในใจเมื่อได้ยินประโยคนี้น้ำตาไหลเป็นแม่น้ำแตกเลย ถ้าเขาไม่รักเรารู้ว่าอนาคตเป็นยังไงแล้วทำไม่ต้องมาคบมารักมาให้ความไว้ใจมาให้ฉันคิดมากทำไม เราเป็นคนที่อ่อนไหวง่าย แค่คำขอโทษของเขาไม่ได้ช่วยอะไรเราได้เลยแม้แต่นิด เขาเป็นผู้ชายมีความคิด ขยัน อดทน แต่เราต้องมาจบเพราะคำว่าอนาคต เพราะเรากับเขาคนละศาสนาเพราะอย่างงี้ใช้ไหมหรือว่าเขาแค่หาข้ออ้างมาเพื่อจะให้เราเป็นคนบอกเลิก ก่อนหน้านี้เรารักกันดีแต่อยู่มาวันหนึ่งมันก็เกิดเหตุการณ์ที่เราคิดไว้ว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น เขาแค่รอให้เราเป็นคนบอกเลิกเอง เราอาจจะทำตัวไม่เอาไหนงี่เง่าเอาแต่ใจด้วยแหละแต่เราก็พยายามเป็นแฟนที่ดีเสมอดูแลเขาไม่เคยคิดนอกใจเลยแม้แต่นิดเดียว เขาเคยบอกว่าเรื่องของอนาคตปล่อยให้เป็นอนาคตทำปัจจุบันให้ดีที่สุด พอเราคิดปัจจุบันเขากลับคิดถึงอนาคต เพราะคนมันหมดรักกันหรือเพราะความม่เข้าใจกัน.....
สุดท้ายเลิกกัน เพราะเรื่องอนาคต???