คิดยังไงกับการที่ครอบครัวสาวช็อคที่เกาหลีไม่เปิดเผยยอดเงินบริจาค

อัพเดตจาก ข่าวสด 10/04/17



- เงินบริจาคได้ใช้อะไรไปบ้าง

" ทั้งนี้เงินบริจาคที่ได้รับมานั้นส่วนหนึ่งจ่ายค่ารักษาให้กับโรงพยาบาลที่เกาหลีใต้ไปแล้ว ที่เหลือจะนำไปผ่อนจ่ายค่ารักษาให้กับกงสุลและใช้รักษาน้องมิน ต่อไป ตอนนี้ได้ปิดรับบริจาคไปแล้ว "




- ค่าใช้จ่ายโรงพยาบาลในไทยนั้นเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลราชวิถี

" สำหรับค่าใช้จ่ายนั้น ผู้ป่วยอยู่ในระบบประกันสังคมก็จะเบิกจ่ายตามนั้น แต่ไม่ครอบคลุมการรักษาทั้งหมด เพราะต้องใช้ยาที่ราคาสูง แต่ส่วนที่เกินมาโรงพยาบาลราชวิถีเป็นผู้รับผิดชอบ "




ขอบคุณข้อมูลจาก ข่าวสด 10/04/17

https://www.khaosod.co.th/special-stories/news_291684




สุดท้าย

เราคิดว่าคงไม่อัพเดตอะไรแล้ว
ก็ตามข่าวนั่นแหละค่ะ...



การที่เรามาตั้งกระทู้นั้นเพราะเราคิดว่าคนที่บริจาคมีก็สิทธิที่จะรู้ไม่ใช่เหรอคะ เพราะในตอนแรกก็ทางเขาไม่ใช่เหรอคะที่เปิดเผยเรื่องราว แล้วคนไทยก็บริจาคช่วยเหลือค่ารักษาพยาบาลไปแค่นี้แหละค่ะ




--------------------------------------------------------


ตามข่าว thaipbs 09/04/17

ครอบครัวจะไม่เปิดเผยยอดเงินบริจาค
แต่บอกจะนำเงินไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


เราคิดว่าควรเปิดเผยยอดเหมือนกับหลายๆเคสที่เปิดบริจาคเพราะมันดุแสดงถึงความบริสุทธิ์ใจหรืออย่างน้อยก็ควรชี้แจงบ้าง
ไม่ใช่บอกแค่จะใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด


เพราะว่าตามข่าวก่อนหน้านี้
มีหลายหน่วยงานเข้ามาช่วย
ไหนจะเงินบริจาคจากคนไทย
และเงินจาก JYJ คิมแจจุง อีก20 ล้านวอน หรือประมาณ 6.5 แสน



เรามองว่าตอนที่เดือดร้อนเขาก็เปิดเผยข้อมูลเพื่อให้คนช่วยเหลือได้เลย และคนก็พร้อมช่วย พอมาตอนนี้คนก็อยากทราบยอดมันก็ไม่ผิดไมาใช่หรอคะ เพราะสุดท้ายในอนาคตหรือตอนนี้พอไม่พอยังไงเราคิดว่าหลายคนก็พร้อมช่วยเขานะคะ


ท้ายที่สุดก็ขอให้เธอฟื้นขึ้นมาเป็กปกติเพราะอายุยังน้อยยังสามารถมีอนาคตและไปได้ไกลมากกวาานี้


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



สุดท้าย

กรณีสาวช็อคที่ตปทนี้ถือเป็นอุทาหรณ์ของคนที่เดินทางแต่ไม่ได้ซื้อประกันมากๆ
เรื่องนี้สามารถทำให้หลายคนเห็นถึงความสำคัญของการซื้อประกันการเดินทางมากๆอย่างน้อยเราก็คนนึงที่จะไม่ลืมซื้อถ้าหากได้เดินทาง
แก้ไขข้อความเมื่อ

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เมื่อสักครู่ดูข่าว แม่เค้าบอกว่ายอดบริจาคแสนกว่าบาทอ่ะค่ะ
แอบงง ไม่พูดถึงยอดที่แจจุงให้เลยหรอ ==
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 5
พอเอามาเทียบกับคุณพ่อคุณหมอไผ่ที่พยายามขายบ้าน คนจะบริจาคก็ไม่ขอรับ ต่างกันจริงๆ
ความคิดเห็นที่ 1
จริงด้วย ส่วนตัวเรามองเคสนี้คือ คีอบครัวไม่ได้ยากจนมาก เพราะ เรียนเอกชนไปเที่ยวเกาหลีได้ แถม ที่เกิดเหตุนี่คือ ไปเที่ยวผับ ตั้งอยู่บนความไม่สมเหตุสมผลทั้งมวลของการมาขอรับบริจาค และยังไม่เปิดเผยจำนวนเงินอีก เอาไปใช้ทำอะไรก็ไม่บอก สังคมสมัยนี้ เอะอะอะไร ก็ขอความช่วยเหลือจากคนอื่นซะหมด ไม่ใช่เราไม่เห็นใจเค้านะ เห็นใจเค้า สงสารเค้า แต่มันคนละเรื่องกับ การขอรับบริจาคแบบนี้ไง
ความคิดเห็นที่ 28
เฮ้ย บางคนที่มาแถว่ายอดบริจาคเป็นเรื่องส่วนตัว เขามีสิทธิ์ปิดข้อมูลได้
บ้าป่าว

ตอนร้องขอเงิน ร้องขอผ่านสังคม คนเลยช่วยเหลือ พอเขาถามถึงยอด จะมาอ้างว่าเรื่องส่วนตัว
แบบนี้ไม่เรียกว่า เอาเปรียบสังคมไปหน่อยรึงัย

วันหน้าร้องขอความช่วยเหลือผ่าน notepad สิ จะได้ไม่เป็นภาระสังคม
ความคิดเห็นที่ 11
จากที่ได้คุยกับเพื่อนมินเมื่อหลายวันก่อน เพื่อนมินบอกเราว่าคุณแม่เตรียมสมุดบัญชีมาชี้แจงแล้ว เราก็รอ สรุปก็ไม่ค่ะ อุบอิบ ถ้าบริสุทธิ์ใจจริงต้องชี้แจงได้สิคะว่ารับบริจาคมาเท่าไร ใช้ไปเท่าไร

บอกตามตรง เราไม่ค่อยสงสารกรณีแบบนี้ค่ะ ไปเที่ยวเอง ไม่ซื้อประกัน ป่วยแล้วยังพาตัวเองไปที่เสี่ยงอันตรายอย่างผับ (จากการถามเพื่อนมิน ได้ความว่าเพื่อนๆจะกลับห้องพัก แต่มินอยากเข้า เลยต้องพากันเข้าทั้งแก๊งค์ ขอบคุณค่าา) พอน็อคก็มาขอรับบริจาค ทั้งที่บ้านตัวเองก็มีเงิน จะแต่งเรื่องให้จน ให้น่าสงสารทำไมคะ

เรามองว่าไม่สมควรได้รับความช่วยเหลือ ยังมีผู้ป่วยในโรงพยาบาลที่ต้องเสียชีวิตเพราะไม่มีเงินค่ารักษาอีกเยอะค่ะ เพียงเพราะเขาไม่มีโอกาสได้ออกสื่อ

เรื่องเงินที่แจจุงบริจาคใหั ถือเป็นความรัก ความใส่ใจที่คิมแจจุงมีต่อแฟนคลับ ถือเป็นเรื่องราวดีๆ : )
ความคิดเห็นที่ 8
รู้สึกว่า ครอบครัวนี้โชคดีมากๆๆ ค่ะ แม้จะตั้งอยู่ในความประมาท เดินทางโดยไม่ซื้อประกันการเดินทาง แต่มีคนช่วยเหลือมากมาย  คนไทยใจดีมากๆๆ ถ้าเป็นในต่างประเทศ  อย่างประเทศที่เราอยู่ ถ้าไม่ซื้อประกัน ถือว่ายอมรับความเสี่ยงเอง เป็นอะไรไป ถ้ามาขอบริจาค เจอด่าซ้ำแน่นอน

     เวลาเราซื้อตั๋วเครื่องบิน เอเจ้นต์ขายตั๋วจะถามทุกครั้งว่าจะซื้อประกันด้วยหรือไม่  ถ้าไม่ซื้อ เขาจะให้เราเซ็นต์รับทราบว่าเขาบอกเรื่องประกันแล้ว แต่เราไม่ซื้อเอง

      เราไม่ได้บอกหรอกว่า ได้ซื้อกับบริษัทประกันอีกแห่ง ที่เบี้ยประกันถูกกว่าเรียบร้อยแล้ว  ทุกครั้งที่เดินทาง เราจะซื้อประกันเสมอ และประกันราคาไม่ถูกเหมือนเมืองไทยเลย ได้ยินว่าไม่กี่ร้อยบาท  ครั้งล่าสุดที่เรากลับไทยสามอาทิตย์ ค่าเบี้ยประกันประมาณเจ็ดพันบาท  ก็ต้องจ่าย ซื้อความอุ่นใจ ถือคติ ว่าถ้าไม่ได้ใช้ ก็ดีไป แต่ถ้าจะใช้ แล้วไม่มี เดือดร้อนแน่

       เคสแบบนี้ (บินไปตามนักร้องถึงเกาหลี ยิ่งข้อความที่โพสต์ในโซเชียลนี่ เอิ่ม พูดไม่ออก แถมเข้าผับกินเหล้า คนสุขภาพแข็งแรงอย่างเรายังไม่อยากเข้าไปสูดดมควันบุหรี่ กินเหล้าเลย แล้วนี่เคยป่วยเป็นมะเร็ง น่าจะรักตัวเองสักหน่อย  คนแถวบ้านเป็นมะเร็ง หลังรักษาตัวแล้ว ระวังเรื่องสุขภาพมาก ออกกำลังกาย กินแต่ของดีมีประโยชน์ ไม่กินเหล้าเข้าผับ) เราไม่คิดบริจาคหรอก  ปกติ เราบริจาคสร้างโรงพยาบาล ซื้อเครื่องมือแพทย์ ช่วยผู้ป่วยยากไร้ หมาแมวจรจัด ฯลฯ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่