เรื่องดินสอ

9 เมษายน 2560 เมื่อเด็กๆเรียนศิลปะกันในวันหยุด อะไรที่เด็กควรได้เรียนรู้ เริ่มจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดภาพ เล่าให้เด็กฟังถึง ลักษณะของกระดาษที่ใช้ในการวาดภาพ คุณภาพ เนื้อกระดาษ ชนิดของกระดาษแบบต่างๆ สิ่งที่ทำให้เกิดภาพในกระดาษที่คุ้นเคยคือ ดินสอ ลักษณะของดินสอก็มิใช่ให้ได้รู้แค่ว่านี่คือดินสอ ที่เป็นเครื่องเขียนมีไส้ทําด้วยถ่าน หรือแกรไฟต์ผสมดินเหนียว ใช้ไม้หุ้มไว้เป็นแท่งยาวๆ เรียกว่า ดินสอ หรือ ดินสอดํา

แต่ได้เล่าถึงตัวอย่างชนิดของดินสอที่ใช้ในการวาดภาพ ปรกติแล้วเด็กๆจะคุ้นชินอยู่กับดินสอที่ใช้ในการเรียนใช้ขีดๆเขียนๆตัวอักษรตัวเลข ลงสมุดจะใช้ดินสอที่มีความเข้มระดับ HB ซึ่งมีขายทั่วไป แต่ดินสอที่จะใช้วาดภาพนั้นจะเป็นดินสอดำ ที่มีระดับมาตรฐานความเข้มอ่อนของไส้ดินสอไว้ถึง 20 ระดับ และมีตัวตัวอักษร H และ B พร้อมตัวเลขพิมพ์ติดไว้บนแท่งดินสอ

H นั้น หมายถึงความแข็ง Hardness ส่วน B หมายถึงความดำ Blackness แต่ในวันนี้ ดินสอสำหรับระบายลงบนกระดาษจะใช้ความเข้มระดับ 2B ขึ้นไป และที่ควรมีไว้ประจำหลักๆ สักสามสี่แท่ง สี่ระดับ คือ HB, 2 B, 4 B, 6B, และ EE นักวาดภาพ นิยมใช้ความเข้มระดับ EE ในการวาดเขียน EE - Extra Extra สำหรับดินสอในกลุ่ม H ก็มีระดับความแข็งของใส้ดินสอช่วยทำให้ภาพจางลงได้เช่นกัน เล่าเรื่องดินสอกันพอเข้าใจสั้นๆในวันนี้
สำหรับอุปกรณ์อย่างอื่น ชนิดของยางลบ ยางอ่อน ยางแข็ง ไม้บรรทัด กระดาษ ผ้า ไม้เขี่ยหู อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนมีประโยชน์ต่อการวาดรูปเช่นกัน และที่สำคัญในการใช้ดินสอคือ การเหลาดินสอให้ถูกต้อง เพื่อจะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ดินสอแบบไหน ควรเหลาอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้ ตัวอย่างเช่น 6B , EE ช่างมักจะเหลาให้ใส้โผล่ออกมายาวๆสักหนึ่งนิ้วเพื่อช่วยให้การวาดการแรเงาภาพสะดวกรวดเร็วและง่ายขึ้น

ในการจับถือ ดินสอก็เช่นกันที่ใช้จะ มี 2 วิธีหลักๆคือ หนึ่งจับแบบเขียนหนังสือ หรือหลักสามเหลี่ยมใช้ข้อมือติดพื้นให้ความมั่นคงในระว่างการเขียน สองจับดินสอแบนคว่ำมือลงหรือหงายก็ได้แล้วใช้วิธีแกว่งข้อมือพร้อมแขนหมุนข้อศอกให้หัวไหล่เป็นที่ยึดเหมาะสำหรับการวาดภาพที่ใช้ขาตั้ง

ตอนนี้มาถึงเทคนิคแนวทางในการระบายดินสอลงกระดาษให้เกิดเป็นรูปร่างรูปทรงตลอดจนแสงเงา เบื้องต้นมีเทคนิควิธีง่ายๆมักจะใช้เสมออยู่ 10 วิธี คือ

1.การระบายให้เรียบแบบที่ 1 ระบายปัดไปทางซ้ายหรือทางขวาทางใดทางหนึ่งให้ตวัดปลายดินสอขึ้นเกิดเส้นหนักเบา เป็นแสงและเงา เสร็จแล้วใช้ผ้า หรือแปรง หรือไม้ปั่นหูปั่นเส้นสีดินสอให้เรียบ(Smooth 1)

2.จับดินสอแบนๆลากให้เป็นเงาจากซ้ายไปขวา ให้เรียบๆ(Smooth 2) ใช้สำหรับการระบายพื้น


3.แรเงาให้เป็นเส้นจากซ้ายไปขวา เน้นน้ำหนักเบาให้เกิดน้ำหนักของสีดินสอใช้วิธีแกว่งข้อมือหรือแขน(Hatching)


4.ตัดเส้นไปมา กากบาทให้เกิดแสงเงา(Cross Hatching)


5.วนเส้นไปรอบๆ(Circles) หนักเบา ใช้วาดพุ่มไม้กลุ่มต้นไม้


6.วนสุ่มๆไม่ต่อเนื่อง(Random Lines) ใช้วาดใบไม้ เน้นพุ่ม ทรง กลุ่มใบ


7.จุดๆแต้มๆให้เต็ม หนักเบา(Stipping) ใช้วาดการให้แสงเงา


8.ลากเส้นเลือกให้เป็นกลุ่มๆตัดกันไปมา(Choice) ใช้วาดพื้น ผนัง ลายสาน


9.ลากเส้นไปทางใดทางหนึ่งเป็นเค้าโครงร่างมีเส้นขอบ(Contour)


10.ลากเส้นตัดกันไปมาเป็นเค้าโครงร่างมีเส้นขอบ(Cross Contour)


เมื่อลองทำได้ครบสิบแบบ ก็ทดลองวาดกิ่งไม้ ใบไม้ ให้แสงเงาผลไม้ ทำได้ดี มีความเช้าใจในการใช้ดินสอมากขึ้น การใช้ประโยชน์ของดินสอมีมากกว่าการใช้เขียนตัวหนังสือ ตัวเลข หรือร่างภาพเรียบๆ


สามารถทำภาพให้ดูสองมิติ สามิติขึ้นมาเสมือนจริงเพิ่มขึ้น ยังไม่จบเพียงเท่านี้คงต้องฝึกฝนกันไปอีกนานจนกว่าจะจับดินสอเป้นธรรมชาติกับมือลากเส้นแรแสงออกมาได้ดั่งใจและตาเห็น

พบกันใหม่ในโพสหน้า ตามประสาตาหลาน หนูจ๋าและหนูหอม วันอาทิตย์ เรียนศิลปะแบบชาวบ้าน
ดินสอ
9 เมษายน 2560 เมื่อเด็กๆเรียนศิลปะกันในวันหยุด อะไรที่เด็กควรได้เรียนรู้ เริ่มจากอุปกรณ์ที่ใช้ในการวาดภาพ เล่าให้เด็กฟังถึง ลักษณะของกระดาษที่ใช้ในการวาดภาพ คุณภาพ เนื้อกระดาษ ชนิดของกระดาษแบบต่างๆ สิ่งที่ทำให้เกิดภาพในกระดาษที่คุ้นเคยคือ ดินสอ ลักษณะของดินสอก็มิใช่ให้ได้รู้แค่ว่านี่คือดินสอ ที่เป็นเครื่องเขียนมีไส้ทําด้วยถ่าน หรือแกรไฟต์ผสมดินเหนียว ใช้ไม้หุ้มไว้เป็นแท่งยาวๆ เรียกว่า ดินสอ หรือ ดินสอดํา
แต่ได้เล่าถึงตัวอย่างชนิดของดินสอที่ใช้ในการวาดภาพ ปรกติแล้วเด็กๆจะคุ้นชินอยู่กับดินสอที่ใช้ในการเรียนใช้ขีดๆเขียนๆตัวอักษรตัวเลข ลงสมุดจะใช้ดินสอที่มีความเข้มระดับ HB ซึ่งมีขายทั่วไป แต่ดินสอที่จะใช้วาดภาพนั้นจะเป็นดินสอดำ ที่มีระดับมาตรฐานความเข้มอ่อนของไส้ดินสอไว้ถึง 20 ระดับ และมีตัวตัวอักษร H และ B พร้อมตัวเลขพิมพ์ติดไว้บนแท่งดินสอ
H นั้น หมายถึงความแข็ง Hardness ส่วน B หมายถึงความดำ Blackness แต่ในวันนี้ ดินสอสำหรับระบายลงบนกระดาษจะใช้ความเข้มระดับ 2B ขึ้นไป และที่ควรมีไว้ประจำหลักๆ สักสามสี่แท่ง สี่ระดับ คือ HB, 2 B, 4 B, 6B, และ EE นักวาดภาพ นิยมใช้ความเข้มระดับ EE ในการวาดเขียน EE - Extra Extra สำหรับดินสอในกลุ่ม H ก็มีระดับความแข็งของใส้ดินสอช่วยทำให้ภาพจางลงได้เช่นกัน เล่าเรื่องดินสอกันพอเข้าใจสั้นๆในวันนี้
สำหรับอุปกรณ์อย่างอื่น ชนิดของยางลบ ยางอ่อน ยางแข็ง ไม้บรรทัด กระดาษ ผ้า ไม้เขี่ยหู อุปกรณ์ทุกอย่างล้วนมีประโยชน์ต่อการวาดรูปเช่นกัน และที่สำคัญในการใช้ดินสอคือ การเหลาดินสอให้ถูกต้อง เพื่อจะได้นำไปใช้ให้เกิดประโยชน์มากที่สุด ดินสอแบบไหน ควรเหลาอย่างไรให้เหมาะสมกับการใช้ ตัวอย่างเช่น 6B , EE ช่างมักจะเหลาให้ใส้โผล่ออกมายาวๆสักหนึ่งนิ้วเพื่อช่วยให้การวาดการแรเงาภาพสะดวกรวดเร็วและง่ายขึ้น
ในการจับถือ ดินสอก็เช่นกันที่ใช้จะ มี 2 วิธีหลักๆคือ หนึ่งจับแบบเขียนหนังสือ หรือหลักสามเหลี่ยมใช้ข้อมือติดพื้นให้ความมั่นคงในระว่างการเขียน สองจับดินสอแบนคว่ำมือลงหรือหงายก็ได้แล้วใช้วิธีแกว่งข้อมือพร้อมแขนหมุนข้อศอกให้หัวไหล่เป็นที่ยึดเหมาะสำหรับการวาดภาพที่ใช้ขาตั้ง
ตอนนี้มาถึงเทคนิคแนวทางในการระบายดินสอลงกระดาษให้เกิดเป็นรูปร่างรูปทรงตลอดจนแสงเงา เบื้องต้นมีเทคนิควิธีง่ายๆมักจะใช้เสมออยู่ 10 วิธี คือ
1.การระบายให้เรียบแบบที่ 1 ระบายปัดไปทางซ้ายหรือทางขวาทางใดทางหนึ่งให้ตวัดปลายดินสอขึ้นเกิดเส้นหนักเบา เป็นแสงและเงา เสร็จแล้วใช้ผ้า หรือแปรง หรือไม้ปั่นหูปั่นเส้นสีดินสอให้เรียบ(Smooth 1)
2.จับดินสอแบนๆลากให้เป็นเงาจากซ้ายไปขวา ให้เรียบๆ(Smooth 2) ใช้สำหรับการระบายพื้น
3.แรเงาให้เป็นเส้นจากซ้ายไปขวา เน้นน้ำหนักเบาให้เกิดน้ำหนักของสีดินสอใช้วิธีแกว่งข้อมือหรือแขน(Hatching)
4.ตัดเส้นไปมา กากบาทให้เกิดแสงเงา(Cross Hatching)
5.วนเส้นไปรอบๆ(Circles) หนักเบา ใช้วาดพุ่มไม้กลุ่มต้นไม้
6.วนสุ่มๆไม่ต่อเนื่อง(Random Lines) ใช้วาดใบไม้ เน้นพุ่ม ทรง กลุ่มใบ
7.จุดๆแต้มๆให้เต็ม หนักเบา(Stipping) ใช้วาดการให้แสงเงา
8.ลากเส้นเลือกให้เป็นกลุ่มๆตัดกันไปมา(Choice) ใช้วาดพื้น ผนัง ลายสาน
9.ลากเส้นไปทางใดทางหนึ่งเป็นเค้าโครงร่างมีเส้นขอบ(Contour)
10.ลากเส้นตัดกันไปมาเป็นเค้าโครงร่างมีเส้นขอบ(Cross Contour)
เมื่อลองทำได้ครบสิบแบบ ก็ทดลองวาดกิ่งไม้ ใบไม้ ให้แสงเงาผลไม้ ทำได้ดี มีความเช้าใจในการใช้ดินสอมากขึ้น การใช้ประโยชน์ของดินสอมีมากกว่าการใช้เขียนตัวหนังสือ ตัวเลข หรือร่างภาพเรียบๆ
สามารถทำภาพให้ดูสองมิติ สามิติขึ้นมาเสมือนจริงเพิ่มขึ้น ยังไม่จบเพียงเท่านี้คงต้องฝึกฝนกันไปอีกนานจนกว่าจะจับดินสอเป้นธรรมชาติกับมือลากเส้นแรแสงออกมาได้ดั่งใจและตาเห็น
พบกันใหม่ในโพสหน้า ตามประสาตาหลาน หนูจ๋าและหนูหอม วันอาทิตย์ เรียนศิลปะแบบชาวบ้าน