สวัสดีค่า กลับมาพบปะกันอีกรอบตามฤดูกาลของญี่ปุ่น เห็นชื่อกระทู้แล้วท่อนฮุกแว่วมาทันที 555
ทำไมถึงตั้งชื่อแบบนี้ 7 วันมีสามฤดูได้ยังไง เอาล่ะ เดี๋ยวจะมารีวิวให้ชมกัน *คำเตือนก่อนเข้ากระทู้ : กระทู้นี้มีรูปภาพที่แน่นมากกกก
ครั้งก่อน จขกท. พาเพื่อนๆ ใน Pantip ไปล้างแค้นใบไม้เปลี่ยนสีที่ฟูจิกันอย่างสาสมมาแล้ว
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/35861852
ตอนนี้เป็นตาของซากุระ แต่ๆๆ เหมือนโดนเอาคืน... เพราะทั้งคาวากุชิโกะ เจออยู่ราวๆ 2 ต้น แค่นี้ยังไม่พีคนะะะะะ เพราะที่พีคกว่าคือเจอหิมะตกที่ฟูจิแบบงงๆ ตบด้วยฝน และอากาศที่อยู่ๆ ก็ร้อนขึ้นของโตเกียวเล่นเอาปรับตัวไม่ทันกันเลย
ครั้งนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด 4 คน นั่นก็คือ โอโนะซัง(เราเอง) โจนาธาน นกกานต์ และหมีกบ ออกเดินทางราวๆ ตีหนึ่งของคืนวันที่ 31 มีนาคม 2560 สนามบินดอนเมือง ด้วยเที่ยวบิน DMK > NRT ของ Nok scoot
ซึ่งกว่าจะมาเช็คอินที่เค้าท์เตอร์สนามบินกันได้ สมาชิกแต่ล่ะคนก็ต้องประกอบร่างกันพอสมควร เรียกได้ว่าบินคืน 31 เพิ่งจะได้เก็บกระเป๋ากันตอนสองทุ่ม สามทุ่มก็บึ่งมายังสนามบินกันแบบรีบๆ และด้วยความที่รีบจัดหมีกบเลยลืมหยิบโน้ตบุ๊คค์ส่วนตัวมา พกมาแต่สายชาร์จ ก็เลยต้องเอาสายชาร์จอันนั้นตั้งไว้ดูต่างหน้าตลอดทริป...
ก่อนจะมาทริปในครั้งนี้ เราแพลนกันนานพอควรว่าช่วงไหนเหมาะแก่การมาถ่ายรูป 'ซากุระ' มากที่สุด ก่อนจะตกลงปลงใจประกอบกับตั๋วโปรมาพอดีเลยมือลั่นจองไปวันที่ 1-7 เมษา เพราะดูจากสถิติแล้วช่วงนี้ไม่มีพลาดแน่นอน!
แพลนของเราใน 7 วันนั้นคือ
วันแรก : DMK - NRT - Kawaguchiko
วันที่สอง : Fuji - Chureito
วันที่สาม : Fuji - Tokyo - Shinjuku
วันที่สี่ : Ueno Park - Koishikawa Korakuen Gardens - Shinjuku Gyoen Park - Meguro River
วันที่ห้า : Saitama Omiya Park - Gongendo Park - Akihabara - Ueno
วันที่หก : ทีมแรก > Shinjuku - Harajuku - Roppongi - Shibuya
ทีมที่สอง > Yoyogi park - Sumida River - Asakusa Temple
วันที่เจ็ด : NRT - DMK
เครื่องของพวกเราแลนด์ถึงสนามบินนาริตะราวๆ 8.30 น.
ต่อด้วยการทำยังไงก็ได้ ให้ไปซื้อตั๋ว Bus Kawaguchiko Express ในรอบ 12.45 น. ให้ทัน (ซึ่งต้อง Booking Ticket ออนไลน์ในเว็บมาก่อนนน ถ้าเรา Walk in มาที่เค้าท์เตอร์เลย ตั๋วอาจจะเต็มไปก่อนก็ได้ เพราะเราเคยโดนมาแล้ววววว T_______T)
การเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนาริตะมีหลายวิธีมาก
แต่พวกเรา เลือกที่จะนั่ง Skyliner ใช้เวลาราวๆ 45 นาที จากสนามบินนาริตะไปถึงสถานี Nippori
แล้วก็ต่อรถไฟสาย Yamanote (สายสีเขียวอ่อน) ไปยังสถานี Shinjuku (ใช้เวลา 20 นาทีได้) จากนั้นออกประตูทิศใต้ พอเดินข้ามถนนไป เราก็จะพบกับ Bus Station ที่ที่เราจะต้องซื้อตั๋วไปยังคาวากุชิโกะ
ก่อนจะมาทริปเราก็เช็คอากาศซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนจะพบว่า 'เห้ยยยยย ปีนี้บานเร็วมากกก ต้นแรกในโตเกียวเริ่มมาตั้งแต่ปลายกุมภา!!'
ซวยแหล่ววววว!!
แต่ด้วยการทำการบ้านอันหนักแน่นของหมีกบ นางจึงได้กล่าวว่า 'ยังไงโตเกียวไม่ได้ แต่ฟูจิเรารอดแน่นอน!!'
และนี่คือ ภาพแรกที่เราเห็นเมื่อลงจากรถบัสคาวากุชิโกะ...
หมี!! ไหนหมีบอกรอดไงงงง~
หนักกว่าซากุระไม่บานก็หิมะตกนี่แหละ หิมะในเดือนเมษา เห้ยยยยย มันมายังไงวะะะะ!?
เราลากกระเป๋าเข้าไปหลบอยู่ในสถานีกันแบบงงๆ ก่อนที่โจนาธาน กับหมีกบจะฝ่าหิมะไปรับรถเช่าที่อยู่ห่างจากสถานีไปราวๆ 5 นาที (โดยการเดิน)
อ้ออออ ลืมบอกไปว่าทริปนี้เราใช้กล้องถ่ายภาพจากทั้งกล้องใหญ่ กล้องคอมแพค รวมไปถึงกล้องมือถือ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะใช้กล้องมือถือ เพราะขี้เกียจหยิบกล้องใหญ่
ทริปนี้ความยากลำบากของเราคือการที่ขายังเป๋อยู่ เนื่องมากจากทริปก่อนเราไปเล่นเซิร์ฟที่อินโดแล้วเกิดอุบัติเหตุบอร์ดตีข้อเท้า เอ็นฉีก... ซึ่งจริงๆ หมอสั่งงดเดิน ทริปนี้เลยต้องแบกไม้เทรกกิ้งไปด้วยตลอดทริป
เราขนของขึ้นรถก่อนจะไปเช็คอินเข้าที่พัก ด้วยความที่หิมะตกแบบไม่ทันตั้งตัวแพลนทั้งหมดที่เตรียมไว้เลยพังทลายไปในพริบตา...
(วิวจากห้องพัก)
'เอาไงดี?' เราหันไปถามคนในทีม ซึ่งทุกคนก็ลงความเห็นกันว่า ไปสำรวจหิมะรอบๆ ที่พักกันก่อนดีกว่า... เครๆ ไปก็ไป...
ขับรถตามหาซากุระกัน หมีกบกล่าว... จากนั้นเราก็ขับรถกันไปรอบๆ ทะเลสาบ... ซึ่งไม่มีวี่แววซากุระเลยจาาาาา น้ำตาจะไหลลล T___T
ชมภาพประหนึ่งว่าเป็นหน้าหนาวไปพลางๆ...
เมื่อขับรถวนไปได้พักหนึ่ง เราก็แวะกินซอฟครีม ฮอทดอก และจิบเบียร์ท้องถิ่นกันที่สวนโออิชิปาร์ค ท่ามกลางฝน และหิมะที่โปรยปรายลงมาสลับกันไป...
ที่โออิชิปาร์คแห่งนี้ สำหรับนักดื่มเรามีของดีมาแนะนำนะะะ แหะๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นเราก็ขับรถเล่นกันต่อ วันแรกจบไปแบบโง่ๆ และไม่มีการหยิบกล้องใหญ่ออกมาถ่ายเลย มีแต่ภาพจากกล้องมือถือล้วนๆ แง่มมมมม
พอตกค่ำๆ เราก็ขับรถไปรอซื้อซูชิลดราคาจาก Kawaguchiko Supermarket กัน
ถือโอกาสเก็บบรรยากาศมาให้ดูไปพลางๆ ก่อนจะเจอกับซากุระ...
เช้าวันที่สอง
แพลนของพวกเราในตอนแรกคือจะไปถ่ายฟูจิพร้อมฝูงหงส์ หรือไม่ก็เงาฟูจิสะท้อนน้ำ แต่จนแล้วจนรอด ตีสามก็แล้ว ตีสี่ก็แล้ว ตีห้าก็แล้ว...
ฟ้าก็ยังไม่เปิด...
ถ้าเมฆจะเยอะขนาดนี้ล่ะก็นอนต่อเถ๊อะะะะะ
และเมื่อถึงเวลาเก้าโมง...
ก็เลยปลุกทุกคนพร้อมกับบอกว่า ฟูจิซังมาแล้ววววว! ด้วยความรวดเร็วและรักสะอาดของพวกเราทั้งสี่คน เค้าว่ากันว่าเมื่อจิตใจเราสะอาดเราก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ! (ใช่เหรอ!?) รีบลุกจากเตียง แต่งตัวและล้างหน้าแปรงฟัน ขับรถมุ่งไปเจดีย์ชูเรอิโตะ (Chureito) ภายในห้านาที...
พอเข้าบ่ายแก่ๆ ก็เริ่มหิว เลยแวะมากิน Hoto Fudo ร้านขึ้นชื่อเจ้าเก่า เจ้าเดิมมมม~
วันที่สามของเราไม่ค่อยมีอะไรมาก เนื่องจากนัดกับรุ่นน้องกิตติมศักดิ์ไว้ว่าจะถ่ายรูปให้พวกนางเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่เราจะเข้าโตเกียวกันในช่วงบ่าย
ออกไปถ่ายรูปแต่เช้า > กลับมาเช็คเอ้าท์ > คืนรถตอน 14.00 น. > ขึ้นรถบัสขากลับรอบ 14.45 น.
ที่พักในโตเกียวของเราอยู่ใกล้ๆ กับ Shinjuku คืนแรกก็เลยออกมาหาข้าวกินแถวที่พัก และวางแพลนการถ่ายภาพซากุระในวันรุ่งขึ้น...
ต่อจากนี้จะจัดหนักจัดเต็มและได้พบเจอกับ ‘ซากุระ’ กันแล้ววว พร้อมกันรึยังงงง!!??
เช้า
วันที่สี่ ตอนแรกเรานัดกันว่าจะตื่นตอนตีห้าครึ่ง... แต่คงด้วยความเหนื่อยจึงไม่มีใครตื่น... จนกระทั่งหมีกบรู้สึกตัวตอนราวๆ เจ็ดโมง นางจึงคว้ากระเป๋ากล้องออกไปเก็บภาพ เทพวกเราทั้งสามคน ไม่มีการปลุกใดๆ ทั้งสิ้นนนน ฮือออออออ
ที่แรกของนางคือ 'สวนอุเอโนะ’ จ้า
การเดินทาง : Ueno Station
วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Ueno ออกทาง Park Gate (เข้าสู่กลางสวนสาธารณะ)
วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีส้ม), H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี G16/H17-Ueno ทางออก 6 (Exit 6)
วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟสาย Keisei Line ลงสถานี Keisei-Ueno (ปลายทาง) ออกทางออกหลัก
หมีกบบอกว่าตอนเช้าๆ เราจะเจอได้กับมนุษย์ลัง... ผู้ซึ่งมานอนเฝ้าที่กันตั้งแต่เมื่อวานซืน โดยเอาลังมาตั้งป้อม บังลมไว้ตอนนอน
มาดูบรรยากาศรอบๆ สวนอูเอโนะกัน
พอสายๆ พวกเราก็ตามไปสมทบกันที่
สวน Koishikawa Korakuen Gardens
การเดินทาง : เดินทางได้ 3 สถานีด้วยกัน
* รถไฟ JR : สถานี JR Suidobashi ทางออก West Exit หรือ JR Iidabashi ทางออก East Exit เดินต่อ 8 นาที
* รถไฟ Subway : ลงที่สถานี Iidabashi ทางออก C3 เดินต่ออีก 3 นาที
ตอนที่เราไปเมื่อวันที่ 4 เมษายน ดูเหมือนว่าจะยังไม่ค่อยบานมากเท่าไหร่ ก็เลยเดินเล่นรอบๆ อยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง ก่อนจะย้ายไปที่ 'Shinjuku Gyoen Park'
(มีต่อนะคะ...)
[CR] ซากุระอินเจแปน 7 วัน 3 ฤดู อ้าวเฮ้ยยย ไม่เหมือนที่คุยกันไว้นี่นาาาา~
ทำไมถึงตั้งชื่อแบบนี้ 7 วันมีสามฤดูได้ยังไง เอาล่ะ เดี๋ยวจะมารีวิวให้ชมกัน *คำเตือนก่อนเข้ากระทู้ : กระทู้นี้มีรูปภาพที่แน่นมากกกก
ครั้งก่อน จขกท. พาเพื่อนๆ ใน Pantip ไปล้างแค้นใบไม้เปลี่ยนสีที่ฟูจิกันอย่างสาสมมาแล้ว [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตอนนี้เป็นตาของซากุระ แต่ๆๆ เหมือนโดนเอาคืน... เพราะทั้งคาวากุชิโกะ เจออยู่ราวๆ 2 ต้น แค่นี้ยังไม่พีคนะะะะะ เพราะที่พีคกว่าคือเจอหิมะตกที่ฟูจิแบบงงๆ ตบด้วยฝน และอากาศที่อยู่ๆ ก็ร้อนขึ้นของโตเกียวเล่นเอาปรับตัวไม่ทันกันเลย
ครั้งนี้มีสมาชิกร่วมเดินทางทั้งหมด 4 คน นั่นก็คือ โอโนะซัง(เราเอง) โจนาธาน นกกานต์ และหมีกบ ออกเดินทางราวๆ ตีหนึ่งของคืนวันที่ 31 มีนาคม 2560 สนามบินดอนเมือง ด้วยเที่ยวบิน DMK > NRT ของ Nok scoot
ซึ่งกว่าจะมาเช็คอินที่เค้าท์เตอร์สนามบินกันได้ สมาชิกแต่ล่ะคนก็ต้องประกอบร่างกันพอสมควร เรียกได้ว่าบินคืน 31 เพิ่งจะได้เก็บกระเป๋ากันตอนสองทุ่ม สามทุ่มก็บึ่งมายังสนามบินกันแบบรีบๆ และด้วยความที่รีบจัดหมีกบเลยลืมหยิบโน้ตบุ๊คค์ส่วนตัวมา พกมาแต่สายชาร์จ ก็เลยต้องเอาสายชาร์จอันนั้นตั้งไว้ดูต่างหน้าตลอดทริป...
ก่อนจะมาทริปในครั้งนี้ เราแพลนกันนานพอควรว่าช่วงไหนเหมาะแก่การมาถ่ายรูป 'ซากุระ' มากที่สุด ก่อนจะตกลงปลงใจประกอบกับตั๋วโปรมาพอดีเลยมือลั่นจองไปวันที่ 1-7 เมษา เพราะดูจากสถิติแล้วช่วงนี้ไม่มีพลาดแน่นอน!
แพลนของเราใน 7 วันนั้นคือ
วันแรก : DMK - NRT - Kawaguchiko
วันที่สอง : Fuji - Chureito
วันที่สาม : Fuji - Tokyo - Shinjuku
วันที่สี่ : Ueno Park - Koishikawa Korakuen Gardens - Shinjuku Gyoen Park - Meguro River
วันที่ห้า : Saitama Omiya Park - Gongendo Park - Akihabara - Ueno
วันที่หก : ทีมแรก > Shinjuku - Harajuku - Roppongi - Shibuya
ทีมที่สอง > Yoyogi park - Sumida River - Asakusa Temple
วันที่เจ็ด : NRT - DMK
เครื่องของพวกเราแลนด์ถึงสนามบินนาริตะราวๆ 8.30 น.
ต่อด้วยการทำยังไงก็ได้ ให้ไปซื้อตั๋ว Bus Kawaguchiko Express ในรอบ 12.45 น. ให้ทัน (ซึ่งต้อง Booking Ticket ออนไลน์ในเว็บมาก่อนนน ถ้าเรา Walk in มาที่เค้าท์เตอร์เลย ตั๋วอาจจะเต็มไปก่อนก็ได้ เพราะเราเคยโดนมาแล้ววววว T_______T)
การเดินทางเข้าเมืองจากสนามบินนาริตะมีหลายวิธีมาก
แต่พวกเรา เลือกที่จะนั่ง Skyliner ใช้เวลาราวๆ 45 นาที จากสนามบินนาริตะไปถึงสถานี Nippori
แล้วก็ต่อรถไฟสาย Yamanote (สายสีเขียวอ่อน) ไปยังสถานี Shinjuku (ใช้เวลา 20 นาทีได้) จากนั้นออกประตูทิศใต้ พอเดินข้ามถนนไป เราก็จะพบกับ Bus Station ที่ที่เราจะต้องซื้อตั๋วไปยังคาวากุชิโกะ
ก่อนจะมาทริปเราก็เช็คอากาศซ้ำแล้วซ้ำอีกก่อนจะพบว่า 'เห้ยยยยย ปีนี้บานเร็วมากกก ต้นแรกในโตเกียวเริ่มมาตั้งแต่ปลายกุมภา!!'
ซวยแหล่ววววว!!
แต่ด้วยการทำการบ้านอันหนักแน่นของหมีกบ นางจึงได้กล่าวว่า 'ยังไงโตเกียวไม่ได้ แต่ฟูจิเรารอดแน่นอน!!'
และนี่คือ ภาพแรกที่เราเห็นเมื่อลงจากรถบัสคาวากุชิโกะ...
หมี!! ไหนหมีบอกรอดไงงงง~
หนักกว่าซากุระไม่บานก็หิมะตกนี่แหละ หิมะในเดือนเมษา เห้ยยยยย มันมายังไงวะะะะ!?
เราลากกระเป๋าเข้าไปหลบอยู่ในสถานีกันแบบงงๆ ก่อนที่โจนาธาน กับหมีกบจะฝ่าหิมะไปรับรถเช่าที่อยู่ห่างจากสถานีไปราวๆ 5 นาที (โดยการเดิน)
อ้ออออ ลืมบอกไปว่าทริปนี้เราใช้กล้องถ่ายภาพจากทั้งกล้องใหญ่ กล้องคอมแพค รวมไปถึงกล้องมือถือ ซึ่งส่วนใหญ่เราจะใช้กล้องมือถือ เพราะขี้เกียจหยิบกล้องใหญ่
ทริปนี้ความยากลำบากของเราคือการที่ขายังเป๋อยู่ เนื่องมากจากทริปก่อนเราไปเล่นเซิร์ฟที่อินโดแล้วเกิดอุบัติเหตุบอร์ดตีข้อเท้า เอ็นฉีก... ซึ่งจริงๆ หมอสั่งงดเดิน ทริปนี้เลยต้องแบกไม้เทรกกิ้งไปด้วยตลอดทริป
เราขนของขึ้นรถก่อนจะไปเช็คอินเข้าที่พัก ด้วยความที่หิมะตกแบบไม่ทันตั้งตัวแพลนทั้งหมดที่เตรียมไว้เลยพังทลายไปในพริบตา...
'เอาไงดี?' เราหันไปถามคนในทีม ซึ่งทุกคนก็ลงความเห็นกันว่า ไปสำรวจหิมะรอบๆ ที่พักกันก่อนดีกว่า... เครๆ ไปก็ไป...
ขับรถตามหาซากุระกัน หมีกบกล่าว... จากนั้นเราก็ขับรถกันไปรอบๆ ทะเลสาบ... ซึ่งไม่มีวี่แววซากุระเลยจาาาาา น้ำตาจะไหลลล T___T
ชมภาพประหนึ่งว่าเป็นหน้าหนาวไปพลางๆ...
เมื่อขับรถวนไปได้พักหนึ่ง เราก็แวะกินซอฟครีม ฮอทดอก และจิบเบียร์ท้องถิ่นกันที่สวนโออิชิปาร์ค ท่ามกลางฝน และหิมะที่โปรยปรายลงมาสลับกันไป...
ที่โออิชิปาร์คแห่งนี้ สำหรับนักดื่มเรามีของดีมาแนะนำนะะะ แหะๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
จากนั้นเราก็ขับรถเล่นกันต่อ วันแรกจบไปแบบโง่ๆ และไม่มีการหยิบกล้องใหญ่ออกมาถ่ายเลย มีแต่ภาพจากกล้องมือถือล้วนๆ แง่มมมมม
พอตกค่ำๆ เราก็ขับรถไปรอซื้อซูชิลดราคาจาก Kawaguchiko Supermarket กัน
ถือโอกาสเก็บบรรยากาศมาให้ดูไปพลางๆ ก่อนจะเจอกับซากุระ...
เช้าวันที่สอง
แพลนของพวกเราในตอนแรกคือจะไปถ่ายฟูจิพร้อมฝูงหงส์ หรือไม่ก็เงาฟูจิสะท้อนน้ำ แต่จนแล้วจนรอด ตีสามก็แล้ว ตีสี่ก็แล้ว ตีห้าก็แล้ว...
ฟ้าก็ยังไม่เปิด...
ถ้าเมฆจะเยอะขนาดนี้ล่ะก็นอนต่อเถ๊อะะะะะ
และเมื่อถึงเวลาเก้าโมง...
ก็เลยปลุกทุกคนพร้อมกับบอกว่า ฟูจิซังมาแล้ววววว! ด้วยความรวดเร็วและรักสะอาดของพวกเราทั้งสี่คน เค้าว่ากันว่าเมื่อจิตใจเราสะอาดเราก็ไม่จำเป็นต้องอาบน้ำ! (ใช่เหรอ!?) รีบลุกจากเตียง แต่งตัวและล้างหน้าแปรงฟัน ขับรถมุ่งไปเจดีย์ชูเรอิโตะ (Chureito) ภายในห้านาที...
พอเข้าบ่ายแก่ๆ ก็เริ่มหิว เลยแวะมากิน Hoto Fudo ร้านขึ้นชื่อเจ้าเก่า เจ้าเดิมมมม~
วันที่สามของเราไม่ค่อยมีอะไรมาก เนื่องจากนัดกับรุ่นน้องกิตติมศักดิ์ไว้ว่าจะถ่ายรูปให้พวกนางเล็กๆ น้อยๆ ก่อนที่เราจะเข้าโตเกียวกันในช่วงบ่าย
ออกไปถ่ายรูปแต่เช้า > กลับมาเช็คเอ้าท์ > คืนรถตอน 14.00 น. > ขึ้นรถบัสขากลับรอบ 14.45 น.
ที่พักในโตเกียวของเราอยู่ใกล้ๆ กับ Shinjuku คืนแรกก็เลยออกมาหาข้าวกินแถวที่พัก และวางแพลนการถ่ายภาพซากุระในวันรุ่งขึ้น...
ต่อจากนี้จะจัดหนักจัดเต็มและได้พบเจอกับ ‘ซากุระ’ กันแล้ววว พร้อมกันรึยังงงง!!??
เช้าวันที่สี่ ตอนแรกเรานัดกันว่าจะตื่นตอนตีห้าครึ่ง... แต่คงด้วยความเหนื่อยจึงไม่มีใครตื่น... จนกระทั่งหมีกบรู้สึกตัวตอนราวๆ เจ็ดโมง นางจึงคว้ากระเป๋ากล้องออกไปเก็บภาพ เทพวกเราทั้งสามคน ไม่มีการปลุกใดๆ ทั้งสิ้นนนน ฮือออออออ
ที่แรกของนางคือ 'สวนอุเอโนะ’ จ้า
การเดินทาง : Ueno Station
วิธีที่ 1 : นั่งรถไฟ JR Line สายวงกลม Yamanote Line (สีเขียว), สาย Keihin-Tohoku Line (สายสีฟ้า) ลงสถานี Ueno ออกทาง Park Gate (เข้าสู่กลางสวนสาธารณะ)
วิธีที่ 2 : นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro สาย G-Ginza Line (สีส้ม), H-Hibiya Line (สีเทา) ลงสถานี G16/H17-Ueno ทางออก 6 (Exit 6)
วิธีที่ 3 : นั่งรถไฟสาย Keisei Line ลงสถานี Keisei-Ueno (ปลายทาง) ออกทางออกหลัก
หมีกบบอกว่าตอนเช้าๆ เราจะเจอได้กับมนุษย์ลัง... ผู้ซึ่งมานอนเฝ้าที่กันตั้งแต่เมื่อวานซืน โดยเอาลังมาตั้งป้อม บังลมไว้ตอนนอน
พอสายๆ พวกเราก็ตามไปสมทบกันที่ สวน Koishikawa Korakuen Gardens
การเดินทาง : เดินทางได้ 3 สถานีด้วยกัน
* รถไฟ JR : สถานี JR Suidobashi ทางออก West Exit หรือ JR Iidabashi ทางออก East Exit เดินต่อ 8 นาที
* รถไฟ Subway : ลงที่สถานี Iidabashi ทางออก C3 เดินต่ออีก 3 นาที
ตอนที่เราไปเมื่อวันที่ 4 เมษายน ดูเหมือนว่าจะยังไม่ค่อยบานมากเท่าไหร่ ก็เลยเดินเล่นรอบๆ อยู่ราวๆ ครึ่งชั่วโมง ก่อนจะย้ายไปที่ 'Shinjuku Gyoen Park'
(มีต่อนะคะ...)