ความช่วยเหลือ 20 ล้านวอน ที่มิน สาวช๊อคในเกาหลีได้รับ หากินแบบนี้ก็ได้ด้วยเหรอ?

จากข่ว เมื่อวันที่ 26 มี.ค. ผู้สื่อข่าวได้รับการประสานจากนายทองอ่อน หนองโสดา อดีตกำนันตำบลหนองแวง อ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ เพื่อเรียกร้องขอความช่วยเหลือ โดยระบุว่าน.ส.ระภีภรณ์ นาสะอ้าน หรือน้องมิน อายุ 25 ปี บัณฑิตสาวมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นหลานและได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลี ระหว่างวันที่ 20-24 มี.ค.ที่ผ่านมา เกิดช็อกหมดสติกลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา และทางญาติที่อยู่ประเทศเกาหลีและในประเทศไทยได้โทรศัพท์สายตรง 1567 ศูนย์ดำรงธรรมประเทศไทย ประสานให้ความช่วยเหลือ

ในตอนนั้นคนไทยหลายคนที่ได้ฟังข่าวต่างตกใจไม่น้อย แล้วความช่วยเหลือก็หลั่งไหลไปหาเธอในเวลาต่อมา ก่อนที่เราคนไทยจะรู้ความจริงในเวลาต่อมา
จากข้อมูลในกระทู้พันทิปเรื่อง
“สาวกาฬสินธุ์ที่ช๊อคคาผับที่เกาหลี ควรปิดรับบริจาคได้แล้วไหมคะ ”https://pantip.com/topic/36284447

หลายคนจึงได้ทราบความจริงที่ปกปิดไว้ และเรียกการกระทำคร้ังนี้ว่า 'ขอทานออนไลน์'
โดยมีรายละเอียดดังต่อไปนี้ค่ะ

1.    มิน อายุ 22  ปี จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เมื่อเรียนจบได้เดินทางไปเที่ยวเกาหลีกับเพื่อน ด้วยเงินส่วนตัว (อาจจะขอผู้ปกครอง)
2.    มินออกเดินทางโดยที่ไม่ทำประกันการเดินทาง ???
3.    มิน เคยเป็นมะเร็งและรักษาจนหาย
4.    ในวันเกิดเหตุ มินได้เข้าไปเที่ยวเธคในย่านดงแฮ ซึ่งเป็นย่านบันเทิงของเกาหลีใต้
5.    ด้วยความแออัดของเธค ควันบุหรี่ เสียงเพลงดัง และสภาพร่างกายของมิน จึงทำให้เธอเกิดอาการช๊อคหมดสิต และต้องรีบนำส่งโรงพยาบาลให้ความช่วยเหลือเป็นการด่วน จึงมียอดค่าใช้จ่ายสูง ตามรายงานข่าวของ
6.    ผู้ปกครองของมินจึงร้องขอความช่วยเหลือไปตามสถานที่ราชการต่างๆ รวมทั้งออกสื่อ และผลที่ได้ตามมาคือ

หน่วยงานให้ความช่วยเหลือ การบินไทยให้ผู้ปกครองบินฟรีไปรับเธอกลับเมืองไทย
และ......
ขอเพิ่มเติม ความช่วยเหลืออีกด้านที่มินได้รับ จากรายงานข่าวหน้าบันเทิงของหนังสือพิมพ์ไทยรัฐ
“ ตอนนี้คนไทยถึงรักดาราเกาหลีจริง เพราะน้องมิน นางสาวพีระภรณ์ คนไทยอาการโคม่าอยู่ นักร้องหนุ่ม คิม แจ จุง แห่งวงเจวายเจ เมื่อรู้ว่าน้องเป็นแฟนคลับ คิม แจ จุง มาเยี่ยมถึงโรงพยาบาลที่กรุงโซล พร้อมบริจาคเงินให้ถึง 20 ล้านวอน ให้กับพ่อน้องมิน รู้แล้วว่าทำไมคนไทยถึงรักศิลปินเกาหลี โดยทิ้งประโยคน่ารักๆ เอาไว้ว่า ถ้าไม่มีแฟนเพลงเกาหลีก็คงไม่มีวันนี้ “

หากพิจารณาให้ดีจะเห็นว่า เคสนี้เป็นเคสที่ทำตัวเองทุกอย่าง อยากไปเที่ยวเอง ประมาทไม่ทำประกันก่อนเดินทางและเข้าไปในสถานที่ต้องห้ามสำหรับสภาวะร่างกายตัวเอง ส่วนผู้ปกครองไม่มีความบริสุทธิ์ใจในการขอความช่วยเหลือเพราะปกปิดความจริงตั้งแต่ต้น โดยเฉพาะเรื่องช๊อคหมดสติในเธค แต่ทางครอบครัวมินยังกล้ามาขอความช่วยเหลือตามหน่วยงานราชการ ออกสื่อ เปิดหน้าบัญชีรับบริจาคช่วยเหลือคนไทยที่ไปเที่ยวเธคในเกาหลีแล้วหมดสติ  ฉลาดมาก !!!!!
แต่คุณทราบไหมว่า ความฉลาดของคุณมันทำให้คนที่เขาเดือดร้อนจริงๆ จะไม่ได้รับความช่วยเหลือเมื่อถึงคราวจำเป็นจริงๆ

ฝากคำถามทิ้งท้ายให้กับครอบครัวมิน 20 ล้านวอน
1. ต่อไปถ้าไปเที่ยวแล้วช๊อคอีก จะมาขอบริจาคอีกไหม ?
2. ใช้เงินที่ได้มาอย่างมีความสุขหรือเปล่า ?
3. สังคมไทยได้บทเรียนอะไรจากเรื่องนี้บ้าง ?

หมายเหตุ หลังเหตุการณ์ข่าวนี้ไม่กี่วัน มีข่าวนายตำรวจที่พิการจากเหตุการณ์สามจังหวัดชายแดนใต้ขอรับเงินบริจาคช่วยเหลือ แปลกที่เราอ่านข่าวนี้ ด้วยความเฉยชา

ขออนุญาตตัดประเด็นเรื่องคิมแจจุงออกนะคะ เพราะหลายคนเข้ามาแสดงความคิดด้วยอารมณ์ ทำลายบรรยากาศในการแสดงความคิดเห็น และทำให้ประเด็นผิดเพี้ยน
ส่วนคนที่บอกว่า เรื่องมันผ่านไปแล้ว จบไปแล้วก็ให้มันจบไป จขกทกลับมองว่า เรื่องนี้เป็นบทเรียนให้เราระมัดระวังในการเสพสื่อมากขึ้น โดยเฉพาะข่าวประเภทตกใจแล้วรีบขอรับบริจาคเนี่ย จะมีตามมาอีกไหม?
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่