สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 1
ดาวเคราะห์ที่มีชีวิตอยู่ได้
Goldilocks Zone หรือช่วงบริเวณที่ดาวเคราะห์อาจมีชีวิตอยู่ได้ ได้ชื่อจากนิทานเรื่อง หนูน้อยโกลดิล็อคและหมีพูห์ 3 ขาเอ๊ยลูกหมี 3 ตัว เป็นอาณาบริเวณของระบบสุริยะที่น้ำสามารถมีอยู่ได้ทั้งสามสถานะ ของแข็ง ของเหลว และ ก๊าซ เป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดชีวิตคาร์บอนในรูปแบบที่โลกเราเป็นอยู่ และก็เป็นกรณีเดียวกับที่มนุษย์เชื่อว่า ดาวอังคาร อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง อาจมีชีวิตดำรงอยู่ ในช่วงที่ดาวยังไม่เย็นจนสนามแม่เหล็กหยุดทำงานและโดนพายุสุริยะพัดชั้นบรรยากาศหลุดหายไปเสียหมด
ระบบดาว Trappist-1 ที่นาซ่าเพิ่งแถลงถึงผลการค้นพบดาวเคราะห์ในโซนที่อาจมีชีวิตดำรงอยู่ได้ ก็มาจากการที่พบดาวเคราะห์ในระบบดาวดังกล่าวอยู่ใน Goldilocks Zone ของดาวฤกษ์ Trappist-1 และการศึกษาสเปคตรัมของดาวเคราะห์ในระบบ Trappist -1มีสเปคตรัมของไฮโดรเจนในชั้นบรรยากาศอย่างน้อย 4 ดวง แสดงถึงความเป็นไปได้ที่จะมีน้ำอยู่บนดาวเคราะห์ในระบบดังกล่าวนี้
ระบบดาว Trappist-1 มีลักษณะที่สำคัญคือ มันเป็นดาวฤกษ์แคระ มีมวลเพียง 8% ของดวงอาทิตย์ของเรา นั่นคือ อุณหภูมิของดาวนั้นจะต่ำกว่าดวงอาทิตย์เรามาก และการที่มวลน้อย วงโคจรของดาวเคราะห์ใน Goldilocks Zone นั้นก็แคบมาก โดยดาวเคราะห์วงนอกสุดนั้นก็ยังใกล้ดวงอาทิตย์กว่าวงโคจรดาวพุธของเราเสียอีก
สำหรับโอกาสที่ดาวเคราะห์ใดๆจะมีน้ำอยู่ทั้ง 3 สถานะ มันก็ไม่ได้ยากเย็นขนาดว่าดาวนั้นต้องมีขนาดพอดีกับโลกวงโคจรระดับเดียวกัน เพราะ ในทางเทอร์โมไดนามิกส์ ที่ช่วงความดัน 0.06 – 200 ความดันบรรยากาศ และอุณหภูมิตั้งแต่ – 20 ถึง 373 องศาเซลเซียส น้ำ สามารถปรากฏได้ทั้ง 3 สถานะ เราคงเคยได้ยินถึงปูในทะเลลึกที่อาศัยอยู่ในแถบปล่องภูเขาไฟใต้ทะเลและอุณหภูมิน้ำสูงถึง 100 องศาเซลเซียส ที่ปูพวกนั้นไม่สุกเลือดเดือด ก็เพราะใต้ทะเลลึกมีความดันสูงที่ทำให้จุดเดือดของน้ำสูงขึ้น มันจึงยังคงอยู่ได้โดยไม่ตาย (แต่ถ้าเอาขึ้นมาบนบกแล้วจับลงหม้อต้ม มันก็สุกเหมือนกันละนะ) ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอื่นๆ แม้ปริมาณก๊าซจะน้อย แต่ถ้ามวลดาวมากก็อาจเกิดแรงดันบรรยากาศพอจะค้ำจุนให้ชีวิตเกิดได้ เหมือนถ้าดาวอังคารที่มีมวลเพียง 1/10 ของโลก แต่ถ้ามีปริมาณก๊าซในบรรยากาศสัก 5 เท่า ก็จะมีความดันบรรยากาศเท่ากับโลกได้แม้แรงโน้มถ่วงจะแค่นิดเดียว พื้นที่เกิดชีวิต ในดาวเคราะห์บางดวงก็อาจแคบๆอยู่เพียงที่ขั้วโลก หรือถ้ามี Tidal lock ก็อาจเกิดได้เพียงแค่วงรอบระหว่างด้านกลางวันและกลางคืน แต่ มันก็ยังมีความเป็นไปได้ใช่ไหมล่ะ
และนั่นละที่เป็นความตื่นเต้นที่จะค้นหาระบบดาวที่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ แม้ระยะทาง 40 ปีแสง อาจดูเหมือนห่างไกล แต่ด้วย EM drive และความดื้อด้านใฝ่รู้ของเหล่านักวิทยาศาสตร์ แม้จะไม่มีวาร์ป เราก็อาจมีโครงการ 1000 ปีที่จะส่งยานสำรวจไปกลับระบบดาวนั้น และอาจใช้ระบบ Generation ship เหมือนยานมาครอส เดินทางข้ามระยะทางอันยาวนานเพื่อไปสำรวจดาวเคราะห์ในระบบอันไกลโพ้นนี้ได้
"ชามนี้เย็นไป ชามนี้ร้อนไป ชามนี้กำลังดี" – หนูน้อยโกลดิล็อคกล่าวขณะชิมมาม่าของพวกหมี
Goldilocks Zone หรือช่วงบริเวณที่ดาวเคราะห์อาจมีชีวิตอยู่ได้ ได้ชื่อจากนิทานเรื่อง หนูน้อยโกลดิล็อคและหมีพูห์ 3 ขาเอ๊ยลูกหมี 3 ตัว เป็นอาณาบริเวณของระบบสุริยะที่น้ำสามารถมีอยู่ได้ทั้งสามสถานะ ของแข็ง ของเหลว และ ก๊าซ เป็นปัจจัยสำคัญในการเกิดชีวิตคาร์บอนในรูปแบบที่โลกเราเป็นอยู่ และก็เป็นกรณีเดียวกับที่มนุษย์เชื่อว่า ดาวอังคาร อย่างน้อยก็ครั้งหนึ่ง อาจมีชีวิตดำรงอยู่ ในช่วงที่ดาวยังไม่เย็นจนสนามแม่เหล็กหยุดทำงานและโดนพายุสุริยะพัดชั้นบรรยากาศหลุดหายไปเสียหมด
ระบบดาว Trappist-1 ที่นาซ่าเพิ่งแถลงถึงผลการค้นพบดาวเคราะห์ในโซนที่อาจมีชีวิตดำรงอยู่ได้ ก็มาจากการที่พบดาวเคราะห์ในระบบดาวดังกล่าวอยู่ใน Goldilocks Zone ของดาวฤกษ์ Trappist-1 และการศึกษาสเปคตรัมของดาวเคราะห์ในระบบ Trappist -1มีสเปคตรัมของไฮโดรเจนในชั้นบรรยากาศอย่างน้อย 4 ดวง แสดงถึงความเป็นไปได้ที่จะมีน้ำอยู่บนดาวเคราะห์ในระบบดังกล่าวนี้
อุณหภูมิผิวดาวเคราะห์ในระบบของ Trappist-1 เทียบกับดาวเคราะห์ในระบบสุริยะของเรา
ระบบดาว Trappist-1 มีลักษณะที่สำคัญคือ มันเป็นดาวฤกษ์แคระ มีมวลเพียง 8% ของดวงอาทิตย์ของเรา นั่นคือ อุณหภูมิของดาวนั้นจะต่ำกว่าดวงอาทิตย์เรามาก และการที่มวลน้อย วงโคจรของดาวเคราะห์ใน Goldilocks Zone นั้นก็แคบมาก โดยดาวเคราะห์วงนอกสุดนั้นก็ยังใกล้ดวงอาทิตย์กว่าวงโคจรดาวพุธของเราเสียอีก
สำหรับโอกาสที่ดาวเคราะห์ใดๆจะมีน้ำอยู่ทั้ง 3 สถานะ มันก็ไม่ได้ยากเย็นขนาดว่าดาวนั้นต้องมีขนาดพอดีกับโลกวงโคจรระดับเดียวกัน เพราะ ในทางเทอร์โมไดนามิกส์ ที่ช่วงความดัน 0.06 – 200 ความดันบรรยากาศ และอุณหภูมิตั้งแต่ – 20 ถึง 373 องศาเซลเซียส น้ำ สามารถปรากฏได้ทั้ง 3 สถานะ เราคงเคยได้ยินถึงปูในทะเลลึกที่อาศัยอยู่ในแถบปล่องภูเขาไฟใต้ทะเลและอุณหภูมิน้ำสูงถึง 100 องศาเซลเซียส ที่ปูพวกนั้นไม่สุกเลือดเดือด ก็เพราะใต้ทะเลลึกมีความดันสูงที่ทำให้จุดเดือดของน้ำสูงขึ้น มันจึงยังคงอยู่ได้โดยไม่ตาย (แต่ถ้าเอาขึ้นมาบนบกแล้วจับลงหม้อต้ม มันก็สุกเหมือนกันละนะ) ดาวเคราะห์ในระบบสุริยะอื่นๆ แม้ปริมาณก๊าซจะน้อย แต่ถ้ามวลดาวมากก็อาจเกิดแรงดันบรรยากาศพอจะค้ำจุนให้ชีวิตเกิดได้ เหมือนถ้าดาวอังคารที่มีมวลเพียง 1/10 ของโลก แต่ถ้ามีปริมาณก๊าซในบรรยากาศสัก 5 เท่า ก็จะมีความดันบรรยากาศเท่ากับโลกได้แม้แรงโน้มถ่วงจะแค่นิดเดียว พื้นที่เกิดชีวิต ในดาวเคราะห์บางดวงก็อาจแคบๆอยู่เพียงที่ขั้วโลก หรือถ้ามี Tidal lock ก็อาจเกิดได้เพียงแค่วงรอบระหว่างด้านกลางวันและกลางคืน แต่ มันก็ยังมีความเป็นไปได้ใช่ไหมล่ะ
Phase Diagram ของน้ำ และแสดงช่วงสถานะของน้ำในช่วงอุณหภูมิและความดันของโลก ดาวอังคาร และดาวศุกร์ กรณีดาวอังคาร ถ้าความดันบรรยากาศสูงกว่านี้ละก็ การมีน้ำทั้งสามสถานะปรากฏก็เป็นไปได้
และนั่นละที่เป็นความตื่นเต้นที่จะค้นหาระบบดาวที่อาจจะมีชีวิตอยู่ได้ แม้ระยะทาง 40 ปีแสง อาจดูเหมือนห่างไกล แต่ด้วย EM drive และความดื้อด้านใฝ่รู้ของเหล่านักวิทยาศาสตร์ แม้จะไม่มีวาร์ป เราก็อาจมีโครงการ 1000 ปีที่จะส่งยานสำรวจไปกลับระบบดาวนั้น และอาจใช้ระบบ Generation ship เหมือนยานมาครอส เดินทางข้ามระยะทางอันยาวนานเพื่อไปสำรวจดาวเคราะห์ในระบบอันไกลโพ้นนี้ได้
silentkung ถูกใจ, มิตรภาพกับความกล้าหาญ ถูกใจ, sawatcafe ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 2625487 ถูกใจ, Ogeejung ถูกใจ, Zenmaster_T ถูกใจ, TPhetB ถูกใจ, NC_ME ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 950573 ถูกใจ, Little_playboy ถูกใจรวมถึงอีก 5 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
แสดงความคิดเห็น
NASA จะรู้ได้อย่างไรว่า Trappist-1 จะมีสิ่งมีชีวิต ในเมื่อไกลเกิน ต้องส่องกล้องเท่านั้น
ในเมื่อไกลขนาดต้องส่องกล้องดูเท่านั้น แล้วจะเห็นสิ่งมีชีวิตเป็นตัวๆ เลยหรือ ปรกตินาซ่าจะพิสูจน์อย่างไร