แชร์ประสบการณ์ ขอเล่าความประทับใจค่ะ รักพ่อแม่มากๆ
วันนี้ลองคุยกับพ่อแม่เรื่องแต่งงาน(แต่จขกทเองก็ยังไม่มีแฟนนะ) ถามไปว่าถ้าหนูแต่งงาน ที่บ้านจะเรียกค่าสินสอดเท่าไหร่ คำตอบก็คือ แม่บอกว่าจะไม่เรียกซักบาท ขอให้อยู่ด้วยกัน ช่วยทำมาหากินให้ชีวิตคู่อยู่รอดไปก็พอ
ถามต่อว่าถ้าไม่จัดงานแต่งงานจะเป็นไรไหม หนูอยากแค่จดทะเบียนสมรสก็พอ แม่ตอบกลับว่าแล้วแต่แกเลย ไม่จัดแม่ก็ไม่ว่า แกชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น แม่ไม่ปัญหา
เราเลยถามอีกว่า ไม่กลัวชาวบ้านนินทาหรอว่าลูกสาวคนเดียว งานแต่งก็ไม่มี สินสอดก็ไม่ได้ แม่บอกว่า ไม่แคร์ จะไปสนใจมันทำไมเอาที่ลูกของแม่มีความสุขก็พอ คนอื่นช่างมัน
อยากบอกว่าพอได้คุยเรื่องนี้เราโล่งใจมาก เพราะเราเองก็ไม่อยากเรียกสินสอดจากผู้ชาย ไม่อยากจัดงานแต่งเพราะดูยุ่งยากและสิ้นเปลือง อีกอย่างก็เคยได้ยินจากเพื่อนคนหนึ่งที่คณะที่พ่อเค้าบอกว่าว่าถ้าไม่ได้สินสอดล้านหนึ่งจะไม่ยอมให้แต่ง นั้นทำให้เรากังวลเพราะไม่เคยคุยเรื่องนี้กับที้บ้านเลย
แต่ตอนนี้เรารู้สึกโชคดีมากๆที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อกับแม่ เราเป็นลูกคนเดียวก็จริง แต่พ่อแม่เลี้ยงเราแบบไม่คาดหวังอะไร ไม่ได้หวังให้เรามาเลี้ยงตอนแก่ ปล่อยให้เราได้เลือกคณะเรียนเอง หรือการคบเพื่อนก็ไม่ว่า ทำงานกลับบ้านดึกๆก็ได้ เราอยากไปคอนเสิร์ตหรือไปเที่ยวไกลๆก็ไปได้ ทำงานพิเศษตอนกลางคืนก็ได้ ติดนิยายการ์ตูนก็ไม่ว่า เราอยากทำอะไรก็ได้ทำ ไม่เคยบังคับให้เราทำอะไรตามที่ตัวเองอยากให้เป็น
ส่วนที่พ่อแม่กล้าปล่อยขนาดนี้ แม่บอกว่าเองอยากให้เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง พอไม่มีพ่อแม่แล้วลูกจะได้อยู่ได้ อีกอย่างแม่เชื่อใจเรา เชื่อว่าลูกแม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อยากบอกเลยว่า นั้นทำให้เราคิดได้เองเลยว่าพ่อแม่เชื่อใจเราขนาดนี้เราไม่ควรทำอะไรที่ทำให้พ่อแม่เราเสียใจ เหมือนมันบอกให้เราทำอะไรที่ถูกที่ควรโดยที่พ่อแม่ไม่ได้บังคับเลยค่ะ
พิมพ์มาซะยาว สุดท้ายนี้อยากบอกว่ารู้สึกโชคดีมากๆที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่ รักพ่อแม่มากๆค่ะ
ป.ล.รู้สึกตื้นตันจนทนเก็บไว้ไม่ไหวจริงๆค่ะ ขอระบายในพันทิปแล้วกันนะคะ
รู้สึกดีมากๆที่ได้เป็นลูกของพ่อกับแม่
วันนี้ลองคุยกับพ่อแม่เรื่องแต่งงาน(แต่จขกทเองก็ยังไม่มีแฟนนะ) ถามไปว่าถ้าหนูแต่งงาน ที่บ้านจะเรียกค่าสินสอดเท่าไหร่ คำตอบก็คือ แม่บอกว่าจะไม่เรียกซักบาท ขอให้อยู่ด้วยกัน ช่วยทำมาหากินให้ชีวิตคู่อยู่รอดไปก็พอ
ถามต่อว่าถ้าไม่จัดงานแต่งงานจะเป็นไรไหม หนูอยากแค่จดทะเบียนสมรสก็พอ แม่ตอบกลับว่าแล้วแต่แกเลย ไม่จัดแม่ก็ไม่ว่า แกชอบแบบไหนก็เอาแบบนั้น แม่ไม่ปัญหา
เราเลยถามอีกว่า ไม่กลัวชาวบ้านนินทาหรอว่าลูกสาวคนเดียว งานแต่งก็ไม่มี สินสอดก็ไม่ได้ แม่บอกว่า ไม่แคร์ จะไปสนใจมันทำไมเอาที่ลูกของแม่มีความสุขก็พอ คนอื่นช่างมัน
อยากบอกว่าพอได้คุยเรื่องนี้เราโล่งใจมาก เพราะเราเองก็ไม่อยากเรียกสินสอดจากผู้ชาย ไม่อยากจัดงานแต่งเพราะดูยุ่งยากและสิ้นเปลือง อีกอย่างก็เคยได้ยินจากเพื่อนคนหนึ่งที่คณะที่พ่อเค้าบอกว่าว่าถ้าไม่ได้สินสอดล้านหนึ่งจะไม่ยอมให้แต่ง นั้นทำให้เรากังวลเพราะไม่เคยคุยเรื่องนี้กับที้บ้านเลย
แต่ตอนนี้เรารู้สึกโชคดีมากๆที่ได้เกิดเป็นลูกพ่อกับแม่ เราเป็นลูกคนเดียวก็จริง แต่พ่อแม่เลี้ยงเราแบบไม่คาดหวังอะไร ไม่ได้หวังให้เรามาเลี้ยงตอนแก่ ปล่อยให้เราได้เลือกคณะเรียนเอง หรือการคบเพื่อนก็ไม่ว่า ทำงานกลับบ้านดึกๆก็ได้ เราอยากไปคอนเสิร์ตหรือไปเที่ยวไกลๆก็ไปได้ ทำงานพิเศษตอนกลางคืนก็ได้ ติดนิยายการ์ตูนก็ไม่ว่า เราอยากทำอะไรก็ได้ทำ ไม่เคยบังคับให้เราทำอะไรตามที่ตัวเองอยากให้เป็น
ส่วนที่พ่อแม่กล้าปล่อยขนาดนี้ แม่บอกว่าเองอยากให้เราเรียนรู้ด้วยตัวเอง พอไม่มีพ่อแม่แล้วลูกจะได้อยู่ได้ อีกอย่างแม่เชื่อใจเรา เชื่อว่าลูกแม่รู้ว่าอะไรควรไม่ควร อยากบอกเลยว่า นั้นทำให้เราคิดได้เองเลยว่าพ่อแม่เชื่อใจเราขนาดนี้เราไม่ควรทำอะไรที่ทำให้พ่อแม่เราเสียใจ เหมือนมันบอกให้เราทำอะไรที่ถูกที่ควรโดยที่พ่อแม่ไม่ได้บังคับเลยค่ะ
พิมพ์มาซะยาว สุดท้ายนี้อยากบอกว่ารู้สึกโชคดีมากๆที่ได้เกิดมาเป็นลูกของพ่อกับแม่ รักพ่อแม่มากๆค่ะ
ป.ล.รู้สึกตื้นตันจนทนเก็บไว้ไม่ไหวจริงๆค่ะ ขอระบายในพันทิปแล้วกันนะคะ