[CR] ฮอกไกโด ปลายฤดูหนาว ที่ยังหนาวจับใจ

ออกตัวก่อนเลยว่า จขกท ไม่ใช่แฟนพันธุ์แท้ของการเที่ยวฤดูหนาว เพราะอากาศที่หนาวมากๆมันทรมาน อีกอย่างเหนื่อยกับการเตรียมตัว หาเสื้อผ้า อุปกรณ์กันหนาว รองเท้าที่ต้องเดินบนหิมะได้ โอ้ยยยเยอะ และก็ไม่ชอบเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์ แต่ๆๆๆ ครั้งนี้ที่ยอมไปเพราะว่า ฟรี! 5555

การไปเที่ยวกับกรุ๊ปทัวร์มีข้อดีคือ ไม่ต้องแพลนทริป ไม่ต้องจองที่พัก และไม่ต้องเดินเยอะเพราะมีรถบัสคอยพาไปตามสถานที่ต่างๆ แต่ถ้าเลือกได้ขอไปเองดีกว่า ฟินกว่าเยอะเลย

วันเดินทางทัวร์นัดเราไปเจอที่สนามบินสุวรรณภูมิ เราเดินทางกับสายการบิน Asia Alantic Airlines เป็นแบบเช่าเหมาลำ บริการดี แอร์มีน้ำใจ ใช้ได้เลยค่ะ ขาไปยิ่งชอบเพราะมีที่นั่งว่างเยอะ พอสัญญาณรัดเข็มขัดดับลง ก็นอนสิคะ ที่นั่งข้างๆว่างพาดยาวค่ะ หลับยาวสบายมั่กๆ ^^”

เราถึงสนามบินชิโตเซ่ ประมาณ 8:30 น. พอผ่านขั้นตอนทุกอย่างเสร็จสรรพ น้องหัวหน้าทัวร์ก็ให้เวลาเปลื่อนเสื้อผ้า ล้างหน้า แปรงฟัน ที่สนามบินมีห้องเลี่ยนเสื้อผ้า ห้องแต่งหน้า แยกให้เลยค่ะ
แต่งตัวเสร็จแล้วก็ไปที่รถบัสที่มาจอดรอที่สนามบินและจะเป็นรถที่พาเราเดินทางไปสถานที่ต่างๆตลอด 3 วัน

วันแรก โปรแกรมคือ หุบเขานรก หรือ หุบเขาจิโกคุดานิ - ศาลเจ้าฮอกไกโด
หุบเข้านรกเป็นเขตอุทยานแห่งชาติ ที่เรียกว่าหุบเขานรกเพราะมีบ่อโคลนและบ่อน้ำร้อนธรรมชาติเดือดปุดๆ อยู่ตลอดเวลา เปรียบเสมือนกระทะทองแดง ที่นี่เป็นฉากนึงของหนังแฟนเดย์ด้วยค่ะ


ดูๆไปก็เหมือนนรกจริงๆเนอะ มีความแห้งแล้ง มีควันพวยพุ่ง


จริงๆ ถ้าขยันเดินขึ้นเนินเขาไป จะเจอรูปปั้นและจุดให้ถ่ายรูปอีกค่ะ แต่ว่าเรายอมแพ้ เพราะกลิ่นกำมะถันแรงมาก


สูดกลิ่นกำมะถันเต็มปอดแล้วก็ได้เวลาอาหารเที่ยง น้องไกด์ก็พาเราไปกินชาบู ซุปมิโสะ รดชาดน้ำซุปอร่อยมาก แต่ของทะเลไม่ค่อยสด



ด้านหน้าร้านอาหารจะมีภูเขาไฟสูงเด่นเป็นสง่า รอวันประทุ สังเกตดีๆ ตรงยอดเขาจะมีควันค่ะ


อิ่มแล้วก็ถ่ายรูปไปเรื่อยๆ ก็แอบมีคนมาสะกิด พี่ที่มาด้วยกันยื่นไอติมให้ รับมาพร้อมรอยยิ้มขอบคุณ แต่จริงๆ อยากจะถามกลับ พี่คะ อากาศ 3 องศา แถมมีลม พี่คิดว่าหนูไหวใช่ไหมคะ หัวเราะ มองหารถบัส กะจะไปนั่งกินบนรถจะได้ไม่หนาวมาก กำลังจะก้าวขา คนขับรถสวนภาษาญี่ปุ่นที่อนุมานได้ว่า ห้ามนำของกินขึ้นไปกินในรถ จ้ะ กินไอติมท้าลมหนาวต่อไปจ้ะ

ที่สุดท้ายที่น้องไกด์พาไปคือศาลเจ้าฮอกไกโด


ประเพณีของที่นี่ ก่อนเข้าไปขอพรด้านในศาลเจ้า เราต้องล้างมือ และบ้วนปากที่อ่างน้ำด้านนอกก่อนค่ะ


วิธีคือ เอากระบวยตักน้ำ ล้างมือซ้ายก่อน ตามด้วยมือขวา และบ้วนปาก เสร็จแล้วก็กระดกไม้ขึ้นเพื่อให้น้ำที่เหลือในกระบวยไหนลงมาที่ด้ามจับเป็นการทำความสะอาดเพื่อคนอื่นจะได้ใช้ต่อ


จบวันแรก

วันที่สอง โปรแกรมคือ คิโรโระ สกีรีสอร์ท - เมืองโอารุ - ทำเนียบรัฐบาลเก่า - สวนโอโดริ

วันนี้สินะฟินนาเล่ ฉากลั่นระฆังในหนังแฟนเดย์ก็มา ฉันจะได้ขึ้นกระเช้าไปสั่นระฆัง แต่ๆ ความฝันดับวูบตอนน้องไกด์บอกว่าเราจะไปสั่นระฆังไม่ได้แล้วเพราะหิมะเริ่มละลาย มันจะลื่น และอันตรายทางรีสอร์ทเลยปิดไม่ให้ขึ้นไป สรุปก็เดินเล่นถ่ายรูปไปค่ะ



หิมะขาวๆ




เสร็จจากสกี เราก็ไปทานอาหารเที่ยง มื้อนี้มาเป็นเซ็ต




อิ่มแล้วน้องไกด์ก็พาไปที่เมืองโอตารุ เมืองน่ารัก มีความตะมุตะมิ มีร้านขนมให้ช้อป ชิม เต็มไปหมด

แลนด์มาร์คของเมืองนี้คือ คลองโอตารุ




ร้านขนมเยอะมาก ชิมจนอิ่ม



มาต่อกันที่ทำเนียบรัฐบาลเก่า และสวนโอโดริ ซึ่งอยู่ในซัปโปโร่ค่ะ


สวนโอโดริเป็นสถานที่จัด snow festival ค่ะ


อาหารเย็นของวันนี้เราไปกินราเม็ง ที่ตรอกราเม็งค่ะ ตรอกราเม็งเป็นตรอกเล็กๆ (นึกภาพตรอกบายพาสที่สยามตามนะคะ) ที่มีร้านระเม็งรวมตัวกันอยู่ ส่วนมากจะเป็นร้านเล็กๆ ที่นั่งเป็นเค้าเตอร์ เราตกลงเลือกร้านแรกเลย คุณลุงเจ้าของร้านบอกว่าเค้าเป็นรุ่นที่สามแล้วค่ะ ขออภัยลืมถ่ายรูปร้าน 555



มาถึงวันสุดท้าย เป็นวันฟรีเดย์ แปลว่าเค้าจะปล่อยให้เราเที่ยวเอง ฉันรอเวลานี้มานานมากกก วันที่ฉันจะได้ไปเดิน ไปถ่ายรูป ไปกินตามใจฉัน แต่ๆๆๆ ชาวคณะไม่ปล่อยฉันเลย อยากจิร้องไห้ สรุปก็ต้องพาพวกเค้ากลับไปที่โอตารุเพราะ จขกท อยากกินซูชิ เรานั่งรถไฟไปค่ะ คุ้มมากเพราะเราได้เห็นทะเลด้วย

มาถึงก็เดินเรื่อยๆจนไปเจอท่าเรือ ก็เข้าไปแบบงงๆ เอ้าสรุป ได้รูปเฉยเลย 55



ได้เวลาอาหารกลางวัน จขกท ยอมโดนเกลียด แจ้งชาวคณะไปเบาๆว่า พี่คะหนูจะไปกินซูชิค่ะ ใครอยากทานก็ไปด้วยกัน ใครไม่อยากก็ตามสบาย เจอกันที่สถานีรถไฟบ่ายสามครึ่งค่ะ พูดจบก็เดินเลยค่ะ ปล่อยให้เค้างงกันไป นานาแต่งตัว นี่ก็อดคิดไม่ได้ ไมตรูร้ายกาจขนาดนี้วะ 555 สรุปมีคนตามไปกินซูชิด้วยอีกสองคน ที่เหลือไม่รู้ว่าไปกินอะไร 555

เอาตรงๆ ผิดหวังกับซูชิที่นี่ ไม่ฟินเท่าที่ตลาดปาโอซาก้า สั่งมาคนเดียว 2 เซต แต่ก็กินไม่หมด







อิ่มแล้วก็นั่งรถไฟกลับ เดินช้อปปิ้งนิดหน่อย ก่อนแยกย้ายกันพักผ่อน เตรียมตัวเดินทางกลับเช้าวันรุ่งขึ้น

เป็นอันจบทริปค่ะ ก็นับว่าไม่เลวร้าย แต่ก็ไม่ได้ฟินอะไรมากมาย สำหรับ จขกท ใบไม้แดงยังคงเป็นที่หนึ่งในใจเสมอ

แล้วพบกันใหม่กระทู้หน้า พฤศจิกายน นี้จะไปตามหาใบไม้แดงค่ะ

“Life is too short to leave beautiful places unvisited”
ชื่อสินค้า:   ฮอกไกโด (Hokkaido)
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่