จะหยุดหนือจะเดินหน้าต่อ

ต้องบอกก่อนนะครับว่า กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกของผม เรื่องมันมีอยู่ ว่า ผมกับแฟนคบกันมาใด้ เข้าปีที่6 *เป็นเพศที่สามนะครับ เขาเป็นคนต่าง จังหวัด ส่วนผมอยู่ที่ กทม ตั้งแต่กำเนิด เรียนจบเขาก็มาอยู่ที่กทมและหางานทำครับ แรกๆ ผมก็คอยช้วยเหลือเชาเรื่องเงิน  อยู่บ้างเพราะเขาเกรงใจ พ่อกับแม่ เพราะตอนเรียน ป.ตรีเขาไม่ใด้กู้เรียน แม่กับพ่อเขาเป็นคนส่งเสียครับ ผมก็ไปๆมาๆกับ บ้านและที่พักเขา ในช้วงที่เรายังไม่มีอะไร (เงินทอง)ผมกับเขามีความสุขมาก ถึงแม้บางวัน เราสองคนต้องกินมาม่าทุกมื้อก็ตาม ต่อมาเขาก็ใด้เขาทำงานบริษัทเอกชนแห่งหนึ่งครับ เงินเดือนอยู่ที่ 50,000 Up ซึงตัวผมเองเงินเดือน ประมาณ 25,000 บาท ชวิตเปลี่ยนเลยครับ อยากใด้อะไร ก็ใด้ ผมไม่ต้องเอ่ยปากเลยครับ เขาซื้อให้หมดทุกอย่างซึ่งตัวเขาก็ใช้เงินแบบ เปลืองเหมือนกัน ทั้งซื้อเสื้อผ้า แบรนด์ดังๆทุกๆอาทิตย์ วันหยุดเดินห้าง กินข้าวห้าง  ต่อมาจากอยู่อพาทเมนต์ ธรรมดา ก็เปลี่ยนเป็นซื้อคอนโด ราคา 1.69 เพียงเวลา แค่ 2ปี ด้วยชื่อผม และในปีถัดมา รถก็ตามมาอีกคัน ซึ่งมีของผมอยู่แล้ว1คัน แรกๆก็ดีอยู่หลอกครับ ผมสบายเลยก็ว่าใด้ มีทุกอย่างที่อยากมี คนที่เคยดูถูก เมื่อก่อน ก้กลายเป็นพูดถึงผมในทางที่ดีขึ้นว่าเก่งทำงานจนตั้งตัวใด้โดย ไม่พึ่ง เงินของพ่อแม่ (พ่อผมค่อนข้างเป็นที่นับหน้าถือตา แถ่วบ้านส่วนใหญ่เขาเรียก "ป๋า" แต่พ่อกับแม่รับใด้ในตัวผม และท่านก็รักแฟนผมมาก เหมือนลูกสไภ้ จริงๆ) แต่พอหลังๆนี้ เวลาผมทะเลาะกับเขาที่ไร เขาชอบพูดถึงเรื่องเงินทุกครั้ง หรือ มีอยู่ครั้งนึงเราทะเลาะกัน แต่ไม่เคยหยาบคายใส่กันนะครับ เขาพูดว่า เงินเดือน ของผมเนี่ย ใช้ให้พอถึงสิ้นเดือนก่อนเถอะ ถ้าคิดว่าไปเจอคนใหม่ แล้วมีใครผมใด้มากกว่าที่เขาให้ใด้ ก็เชิญ. แล้วมันเป็นคำพูดที่ผมใด้ยินแล้วรู้สึกแย่มาก เหมือนผม มาเป็นแค่เด็กเลี้ยงของเขา แต่ก็ยอมรับนะครับ ว่าผมไปใหนไม่ใด้จริงๆ ไม่รุ้ว่าเพราะรักหรือผูกพัน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่