ออกตัวก่อนเลยนะครับว่าพิมพ์ค่อนข้างเยอะ
...เห็นมีหลายคนที่ดูแต่ปางก่อนตั้งกระทู้ถึง สน-ยุกต์ และ วิว-วรรณรท ไปพอสมควรแล้ว ผมจุงขอตั้งกระทู้ถึงตัวละครเด่นอีกตัวในเรื่องที่เรียกได้ว่าเป็นปมปัญหาของทั้งหมดในเรื่อง คือบทของหม่อมเจ้าหญิงวิไลเลขา หรือ หญิงแต้ ที่แสดงโดยบี-น้ำทิพย์
...ผมยอมรับว่าเคยอ่านนิยายเรื่องแต่ปางก่อนมาเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วเมื่อทำเป็นละครในเวอร์ชั่นก่อนหน้า ซึ่งคิดว่าบทหญิงแต้ดีมาก แต่ไม่เยอะมากเท่าไหร่ เมื่อจะทำมาสร้างใหม่และเป็นบี-น้ำทิพย์แสดง ไม่ได้ห่วงว่าบีจะแสดงไม่ได้เลย แต่รู้สึกแค่ว่าบียังไม่น่าลงมาเล่นร้ายเต็มตัว แต่บทนี้คงน่าสนใจจริงๆ บีถึงได้รับเล่น
...นอกจากนี้ผมได้กลับไปอ่านนิยายแต่ปางก่อนอีกครั้ง มีตอนหนึ่งของนิยายที่บรรยายลักษณะหญิงแต้แล้วทำให้รู้สึกว่า...ต้องเป็นบี-น้ำทิพย์เท่านั้น
"ราชาวดีเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ห้อมล้อมด้วยสาวๆ วัยเดียวกันอีกหลายคนเดินใกล้เข้ามา การที่หม่อมพเยียสรรเสริญว่า 'ราวกับนางละเวง' นั้น เห็นจะเป็นเพราะท่านหญิงวิไลเลขามีพระวรกายค่อนข้างสูง ดูมหญ่กว่าสตรีไทยทั่วไป แม้ว่าไม่ใช่คนท้วม แต่ก็ไม่อ้อนแอ้นโปร่งบาง พระฉวีขาวผ่อง รับกันดีกับฉลององค์สีส้มแกมทองที่แต่งมาทั้งชุด...ความจริงท่านหญิงวิไลเลขาไม่ใช่คนขี้ริ้ว อาจจะเรียกได้ว่างามพอประมาณ แต่ดวงพักตร์มีลักษณะแข็งค่อนข้างดุโดยนิสัย"
(ที่มา บางส่วนจากนิยายแต่ปางก่อน ของ แก้วเก้า พิมพ์ครั้งที่ 9 2548 หน้า 143)
...ซึ่งจากที่นิยายได้บรรยายไว้ ผมคิดถึง บี-น้ำทิพย์ คนเดียว
...จนเมื่อวันที่ละครออนแอร์ ผมได้ดูมาเรื่อยๆ จึงได้เห็นว่าบีเล่นได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก บทหญิงแต้ก็เยอะขึ้นกว่าเวอร์ชั่นก่อน มีที่มาที่ไปของความร้าย และดีทีสุดคือฉากสาปแช่งท่านชายใหญ่ ละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ ความโกรธ เกลียดที่หญิงแต่คั่งแค้นอยู่ในใจถูกแสดงออกมาชัดเจนทั้งทางสีหน้า แววตา วาจา และอารมณ์ จนถึงตอนนี้หญิงแต่เข้าสู่วัยชรา บีเล่นให้เห็นความแตกต่างระหว่างหญิงแต้วัยสาวและวัยชราได้ค่อนข้างชัดเจนและน่าติดตามอย่างละลายตาไม่ได้เลย (ใจจริงอยากให้แต่งแก่แบบตอนฟิตติ้งครั้งแรก แต่เข้าใจว่าน่าจะมีการปรับวัยลงมาเพื่อให้สัมพันธ์กับช่วงเวลาและเรี่ยวแรงที่พอจะฟาดฟันกับราชาวดีได้)
...ตอนนี้ยอมรับว่าติดแต่ปางก่อนมาก และบทที่รอติดตามที่สุดก็คือหญิงแต้ เพราะดูแล้วเป็นบทที่มีพัฒนาการทางด้านอารมณ์เรื่อยๆ และผู้จัดได้ตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกบี-น้ำทิพย์มารับบทนี้ คิดว่าตอนนี้คงพิสูจน์ได้แล้วว่าบีคือเพชรเม็ดงามของ exact อีกคนหนึ่ง ยังไม่อยากให้บีลงไปรับเล่นบทรองๆ ลงไปมากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าศักยภาพของบีสามารถเล่นบทนางเอกที่ต้องใช้พลังทางอารมณ์ หรือบทตัวเอก ตัวนำแบบนก-สินจัย ได้สบาย
...ส่วนบทโทรทัศน์เรื่องนี้ เมื่อผมได้ดูละครแล้วย้อนกลับไปอ่านนิยายอีกครั้ง พบว่าเวอร์ชั่นนี้ทำได้ตรงตามบทโทรทัศน์มาก แม้จะมีบางตอนที่แต่งเติมมาบ้างแต่ก็ถือว่าสมเหตุสมผล รวมถึงได้ทีมนักแสดง ทีมงาน และผู้กำกับที่เก่งมาสร้างสรรค์ละครเรื่องนี้ ทำให้ละครมีความละมุนละไม น่าติดตาม
...สุดท้ายอยากจะฝากให้หลายคนที่ยังไม่ได้ชม ลองดูกันเถอะครับ ตอนนี้มีลงใน youtube แล้ว แล้วหลายคนจะต้องอิ่มเอมใจไปกับความรักเหนือกาลเวลาของท่านชายใหญ่กับเจ้านางม่านแก้ว (ราชาวดี) และติดตามดูว่าความแค้นของหญิงแต้จะทำให้ทุกคนต้องได้รับผลกระทบกันแค่ไหน และผมจะติดตามละครจนจบแน่นอนครับ
ปล. - ตอนนี้ผมเป็นแฟนละครของบี-น้ำทิพย์ และพี่สันต์ (ผู้กำกับ) เรียบร้อยแล้วครับ
- ขออนุญาตยืมรูปจากกระทู้รายงานสดมาใช้ประกอบในกระทู้และขอขอบคุณเจ้าของรูปมา ณ ที่นี้ด้วยครับ
ชื่นชมบี-น้ำทิพย์ หม่อมเจ้าหญิงวิไลเลขา (หญิงแต้) ที่หลุดมาจากนิยาย และละครแต่ปางก่อน
...เห็นมีหลายคนที่ดูแต่ปางก่อนตั้งกระทู้ถึง สน-ยุกต์ และ วิว-วรรณรท ไปพอสมควรแล้ว ผมจุงขอตั้งกระทู้ถึงตัวละครเด่นอีกตัวในเรื่องที่เรียกได้ว่าเป็นปมปัญหาของทั้งหมดในเรื่อง คือบทของหม่อมเจ้าหญิงวิไลเลขา หรือ หญิงแต้ ที่แสดงโดยบี-น้ำทิพย์
...ผมยอมรับว่าเคยอ่านนิยายเรื่องแต่ปางก่อนมาเมื่อประมาณ 10 กว่าปีที่แล้วเมื่อทำเป็นละครในเวอร์ชั่นก่อนหน้า ซึ่งคิดว่าบทหญิงแต้ดีมาก แต่ไม่เยอะมากเท่าไหร่ เมื่อจะทำมาสร้างใหม่และเป็นบี-น้ำทิพย์แสดง ไม่ได้ห่วงว่าบีจะแสดงไม่ได้เลย แต่รู้สึกแค่ว่าบียังไม่น่าลงมาเล่นร้ายเต็มตัว แต่บทนี้คงน่าสนใจจริงๆ บีถึงได้รับเล่น
...นอกจากนี้ผมได้กลับไปอ่านนิยายแต่ปางก่อนอีกครั้ง มีตอนหนึ่งของนิยายที่บรรยายลักษณะหญิงแต้แล้วทำให้รู้สึกว่า...ต้องเป็นบี-น้ำทิพย์เท่านั้น
"ราชาวดีเห็นหญิงสาวคนหนึ่ง ห้อมล้อมด้วยสาวๆ วัยเดียวกันอีกหลายคนเดินใกล้เข้ามา การที่หม่อมพเยียสรรเสริญว่า 'ราวกับนางละเวง' นั้น เห็นจะเป็นเพราะท่านหญิงวิไลเลขามีพระวรกายค่อนข้างสูง ดูมหญ่กว่าสตรีไทยทั่วไป แม้ว่าไม่ใช่คนท้วม แต่ก็ไม่อ้อนแอ้นโปร่งบาง พระฉวีขาวผ่อง รับกันดีกับฉลององค์สีส้มแกมทองที่แต่งมาทั้งชุด...ความจริงท่านหญิงวิไลเลขาไม่ใช่คนขี้ริ้ว อาจจะเรียกได้ว่างามพอประมาณ แต่ดวงพักตร์มีลักษณะแข็งค่อนข้างดุโดยนิสัย"
...ซึ่งจากที่นิยายได้บรรยายไว้ ผมคิดถึง บี-น้ำทิพย์ คนเดียว
...จนเมื่อวันที่ละครออนแอร์ ผมได้ดูมาเรื่อยๆ จึงได้เห็นว่าบีเล่นได้ดีกว่าที่คิดไว้มาก บทหญิงแต้ก็เยอะขึ้นกว่าเวอร์ชั่นก่อน มีที่มาที่ไปของความร้าย และดีทีสุดคือฉากสาปแช่งท่านชายใหญ่ ละสายตาไม่ได้เลยจริงๆ ความโกรธ เกลียดที่หญิงแต่คั่งแค้นอยู่ในใจถูกแสดงออกมาชัดเจนทั้งทางสีหน้า แววตา วาจา และอารมณ์ จนถึงตอนนี้หญิงแต่เข้าสู่วัยชรา บีเล่นให้เห็นความแตกต่างระหว่างหญิงแต้วัยสาวและวัยชราได้ค่อนข้างชัดเจนและน่าติดตามอย่างละลายตาไม่ได้เลย (ใจจริงอยากให้แต่งแก่แบบตอนฟิตติ้งครั้งแรก แต่เข้าใจว่าน่าจะมีการปรับวัยลงมาเพื่อให้สัมพันธ์กับช่วงเวลาและเรี่ยวแรงที่พอจะฟาดฟันกับราชาวดีได้)
...ตอนนี้ยอมรับว่าติดแต่ปางก่อนมาก และบทที่รอติดตามที่สุดก็คือหญิงแต้ เพราะดูแล้วเป็นบทที่มีพัฒนาการทางด้านอารมณ์เรื่อยๆ และผู้จัดได้ตัดสินใจถูกแล้วที่เลือกบี-น้ำทิพย์มารับบทนี้ คิดว่าตอนนี้คงพิสูจน์ได้แล้วว่าบีคือเพชรเม็ดงามของ exact อีกคนหนึ่ง ยังไม่อยากให้บีลงไปรับเล่นบทรองๆ ลงไปมากกว่านี้ เพราะเชื่อว่าศักยภาพของบีสามารถเล่นบทนางเอกที่ต้องใช้พลังทางอารมณ์ หรือบทตัวเอก ตัวนำแบบนก-สินจัย ได้สบาย
...ส่วนบทโทรทัศน์เรื่องนี้ เมื่อผมได้ดูละครแล้วย้อนกลับไปอ่านนิยายอีกครั้ง พบว่าเวอร์ชั่นนี้ทำได้ตรงตามบทโทรทัศน์มาก แม้จะมีบางตอนที่แต่งเติมมาบ้างแต่ก็ถือว่าสมเหตุสมผล รวมถึงได้ทีมนักแสดง ทีมงาน และผู้กำกับที่เก่งมาสร้างสรรค์ละครเรื่องนี้ ทำให้ละครมีความละมุนละไม น่าติดตาม
...สุดท้ายอยากจะฝากให้หลายคนที่ยังไม่ได้ชม ลองดูกันเถอะครับ ตอนนี้มีลงใน youtube แล้ว แล้วหลายคนจะต้องอิ่มเอมใจไปกับความรักเหนือกาลเวลาของท่านชายใหญ่กับเจ้านางม่านแก้ว (ราชาวดี) และติดตามดูว่าความแค้นของหญิงแต้จะทำให้ทุกคนต้องได้รับผลกระทบกันแค่ไหน และผมจะติดตามละครจนจบแน่นอนครับ
ปล. - ตอนนี้ผมเป็นแฟนละครของบี-น้ำทิพย์ และพี่สันต์ (ผู้กำกับ) เรียบร้อยแล้วครับ
- ขออนุญาตยืมรูปจากกระทู้รายงานสดมาใช้ประกอบในกระทู้และขอขอบคุณเจ้าของรูปมา ณ ที่นี้ด้วยครับ