[CR] Review Spice & Wolf สาวหมาป่ากับนายเครื่องเทศ นิยายที่หลายๆ คนรอคอย

กระทู้รีวิว
นี่เป็นการรีวิวครั้งแรกของผมเลยครับ อาจจะมีผิดพลาดบ้าง เพราะอ่านยังไม่เยอะเท่าไร ถ้ามีพลาดตรงไหนรบกวนช่วยแก้ไขกันด้วยนะครับ

ชื่อเรื่อง : Ookami to koshinryo , Spice & Wolf , สาวหมาป่ากับนายเครื่องเทศ หรืออีกชื่อที่รู้จักกันคือ "ไร้น้ำยาเกาะหมากิน"
ผู้แต่ง : Isuna Hasekura
ภาพ : Jyuu Ayakura
ลิขสิทธิ์โดย : Siam Inter Comics Light


#เรื่องย่อ (ยกมาจากท้ายเล่ม)


พ่อค้าเร่ลอเรนส์ได้พบกับเด็กสาวคนหนึ่งกำลังนอนหลับอยู่บนกระบะรถม้าของตนเองที่บรรทุกกองฟางไว้เต็ม เด็กสาวคนนี้มีหน้าตางดงาม มีหูและหางของหมาป่า และยังบอกว่าตัวเองชื่อโฮโระ เป็นเทพผู้ปกครองการเพาะปลูก

"เทพน่ะไม่ใช่ผู้ยิ่งใหญ่อย่างที่หลายคนคิดหรอก เราก็คือโฮโระ ไม่ใช่ใครอื่นหรอกนะ"

ลอเรนส์ต้องตกตะลึงกับวาทศิลป์การพูดอันแสนจะเจ้าเล่ห์ของเธอ และแล้ว... แม้จะยังคงเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งเรื่องที่ว่าเธอเป็นเทพจริงหรือไม่ แต่สุดท้ายแล้วทั้งสองก็ร่วมทางกันและการเดินทางของทั้งสองคนยังต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับการต่อรองราคาที่คาดไม่ถึง

ข่าวลือเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงราคาของเหรียญเงินที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้ และการเจรจาต่อรองที่เคลือบแฝงไปด้วยความสงสัยของลอเรนส์...

ขอบอกก่อนเลยว่าผมเคยอ่านแต่ฉบับ eng มาแบบผ่านๆ ตา และไม่ได้อ่านฉบับภาษาญี่ปุ่นมาก่อน ฉะนั้นรีวิวนี้จะไม่ยกเรื่องความถูกต้องของการแปลผมจะไม่ขอยกมาพูดครับ แต่เป็นการรีวิวในฉบับคนอ่านที่รอคอยมานานคนหนึ่ง

Spice & Wolf เป็นนิยายที่ผมชื่อว่าคนไทยหลายๆ คน รอคอยมานานมาก เป็นเรื่องที่เขียนขึ้นเมื่อราวปี 2006 ซึ่งถ้านับจากปัจจุบันก็นับว่าเกิน 10 ปีแล้ว ฉะนั้นเรื่องสำนวนและการใช้ภาษาจึงค่อนข้างแตกต่างจากนิยายยุคปัจจุบันพอสมควร เรียกได้ว่าอยู่ก้ำกึ่งระหว่าง Light novel กับ วรรณกรรม เลยก็คงไม่ผิดนัก แต่สำหรับด้านเนื้อหาแล้วเอนเอียงไปทาง Light Novel ซะมากกว่า

#พลอต


เรื่องราวของ Spice & Wolf จะมีเซ็ตติ้งเป็นธีมยุคกลางประมาณ ศตวรรษที่ 11 - 12 เห็นจะได้ เพราะมีการกล่าวถึงศาสนจักรและยังไม่รู้จักระบบที่เรียกว่า "ธนาคาร" กัน เนื้อหากล่าวถึง "คารฟ ลอเรนส์" พ่อค้าเร่ผู้ที่ใช้ชีวิตอยู่บนรถม้า คอยลากขนสินค้าจากเมืองหนึ่งไปยังเมืองหนึ่ง โดยที่ตั้งความหวังว่าอยากจะเก็บเงินซักก้อน เพื่อเปิดร้านของตัวเองในเมือง ซึ่งการเดินทางไปทั่วของลอเรนส์ผู้นี้ คือสิ่งที่ทำให้กลายเป็นประเด็นหลักของเรื่อง

ฟังดูอาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อ แต่สิ่งที่ทำให้เรื่องราวน่าสนใจขึ้นก็คือ คืนหนึ่งในขณะที่ลอเรนส์หยุดพักเขาก็ได้พบกับเด็กสาวผู้มีใบหูและหางเป็นหมาป่า เธอแนะนำตัวว่าตัวเองชื่อ โฮโระ หมาป่าสาวผู้ถูกเคารพบูชาในฐานะเทพ และเพื่อหาทางกลับสู่บ้านเกิดทางตอนเหนือ เธอจึงขอเดินทางไปกับลอเรนส์ด้วย ซึ่งนั่นก็ได้ทำให้การเดินทางของทั้งสองและเรื่องราวได้เริ่มขึ้น

#รีวิว


ทางด้านเนื้อหา อยากจะขอบอกก่อนเลยว่าแม้จะเป็นแนวแฟนตาซี เซ็ตติ้งในยุคกลาง แต่ต้องขอแสดงความเสียใจด้วยที่ในเรื่องแทบจะไม่มีแสดงอภินิหารอะไรเลย... เพราะนิยายเรื่องนี้เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับ "การค้า" "การแลกเปลี่ยน" ถ้าตัดเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกออก ก็คงต้องเรียกว่าเป็นตำราอธิบายหลักเศรษฐกิจในยุคกลาง ซะมากกว่าที่จะเป็นนิยาย

เพราะเรื่องราวของนิยายเรื่องนี้กล่าวถึงชีวิตของพ่อค้าเร่คนหนึ่ง และสาวหมาป่าที่มีความรู้สั่งสมมานานอีกตนหนึ่ง กับการเดินทาง ที่ระหว่างทางบังเอิญต้องมีการเจรจาแลกเปลี่ยนระหว่างพ่อค้าด้วยกัน มีการทำสัญญา หลอกลวง หักเหลี่ยม มีทั้งได้ผลบ้าง พลาดหลงกลบ้าง และบ้างก็อาจจะเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์ไม่คาดฝัน จนลืมไปได้เลยว่าเรื่องนี้เป็นนิยายแนวแฟนตาซี

ถ้าว่ากันตามเนื้อหาแล้ว หากไม่นับความสัมพันธ์พ่อแง่ยิ้มอนของสองตัวเอง นิยายเรื่องนี้จะเหมาะกับผู้อ่านวัยผู้ใหญ่ หรืออย่างต่ำก็ควรจะระดับมหาวิทยาลัย เพราะเนื้อหาซับซ้อน มีการกล่าวถึงเศรษฐกิจ การแลกเปลี่ยนเงินตรา ฉะนั้นจึงต้องมีความรู้เป็นพื้นอยู่พอควรถึงจะรู้สึกสนุกครับ

ว่าถึงเนื้อหาไปแล้ว คราวนี้ขอกล่าวถึงตัวละครบ้าง แต่ก่อนจะกล่าวถึงผมก็อยากจะขอบอกก่อนว่า ขอให้สลัดคราบที่เคยเห็นในอนิเมะทิ้งไปซะ! เพราะโฮโระในอนิเมะ กับฉบับนิยายนี้ให้ความรู้สึกค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควร

ตัวละครหลักสองตัวคือ คาร์ฟ ลอเรนส์ กับ โฮโระ หมาป่าเจ้าปัญญา ซึ่งสำหรับพระเอกเรา ลอเรนส์ จะมีลักษณะค่อนข้างคล้ายกับผู้ชายทั่วไปตรงที่ มักจะยึดแนวคิดตัวเองเป็นใหญ่ โดยทำให้หลายครั้งลืมคำนึงถึงสิ่งรอบข้าง และถูกหลอกจนต้องให้โฮโระเข้ามาช่วยเตือนบ่อยๆ

ส่วน โฮโระ นั้นแม้ว่าจะฉลาดและเจ้าเล่ห์ตามประสาเทพที่อยู่มานาน แต่อีกด้านกลับมีมุมขี้เหงา และขี้อ้อน จนดูแล้วเหมือนกับเด็กสาวขี้แกล้งที่ยังไม่รู้จักโต (รับประกันถูกใจหมี) ซึ่งในทางกลับกัน อนิเมะ กลับทำให้โฮโระดูเหมือนสาวฉลาด เซ็กซี่ แต่ก็ไม่เซ็กซี่ตามที่เห็น (ฮา) แต่แน่นอนว่า Character design ถูกใจสาวกชาวเคโมะฯ อย่างแน่นอน



เรื่องตัวละครจบไปแล้ว ต่อไปขอกล่าวถึงการบรรยาย

เนื่องจากนิยายเรื่องนี้เขียนมาได้ราวๆ 10 ปีแล้ว การบรรยายจึงเป็นแบบเก่า ไม่เหมือน Light Novel ปัจจุบันที่ตัดสั้นให้อ่านกระชับ ทำให้บางอารมณ์รู้สึกเหมือนนิยายแปลฝั่งตะวันตกมากกว่าจะเป็นนิยายญี่ปุ่น คนที่อ่านนิยายมาตั้งแต่ยุคปี 2000 คงไม่เป็นปัญหา แต่สำหรับคนที่เพิ่งเริ่มอ่านหลังปี 2010 นี่ต้องกุมขมับแน่นอน

แต่ถ้าถามว่าบรรยายดีมั้ย? ผมคงต้องขอบอกว่าบรรยายดีมาก ผู้แปลเองก็แปลได้อรรถรสดีอีกต่างหากด้วย การใช้สรรพนามค่อนข้างดี อย่างเช่นโฮโระ จะใช้คำโบราณอย่าง่ "เจ้า" และ "เรา" ซึ่งบ่งชี้ถึงอายุได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังการมีการแสดงอารมณ์ของโฮโระ ที่มักจะปากอย่างนึงแต่หูกับหางนี่กระดิกระริกๆ ด้วยความดีใจไปแล้ว

การแปลค่อนข้างไหลลื่นไม่มีสะดุด แถมอ่านมายังไม่พบกับการพิมพ์ตก หรือพิมพ์ผิด จนทำเอาแปลกใจเลยว่านี่ใช่งานจากค่ายสยามจริงหรือ?

จะมีก็จุดติดใจ 2 จุดเท่านั้นคือ

1. หน้า 110 ไม่แน่ใจว่าอันนี้ต้นฉบับกล่าวอย่างนี้ หรือผู้แปลพลาด เพราะโฮโระตาม wiki เขียนว่าโฮโระดูเหมือนเด็กสาวอายุประมาณ 15 แต่ในฉบับแปลนี้ กลับเขียนว่า "ใบหน้าที่ซุกซ่อนอยู่ใต้ฮู้ดนั้น คือใบหน้าของเด็กสาวอายุไม่ถึงสิบขวบ" ซึ่งนั่นเป็นประเด็นที่ติดใจอยู่ตั้งแต่อ่านครั้งแรก ผมเองก็ไม่กล้าฟันธงเพราะไม่เคยอ่านฉบับภาษาญี่ปุ่น เอาเป็นว่าแค่ติดใจแปลกๆ เท่านั้น

2. การใช้สรรพนามของตัวประกอบคนหนึ่ง ซึ่งเรียกตัวเองว่า "ฉัน" แต่ดันพูด "ครับ" ไม่ใช่ว่าผิดแต่มันดูขัดๆ ไปหน่อย ส่วนหนึ่งคงเพราะในไทยคำว่า Ore มันไม่มีความหมายตรงๆ ล่ะมั้ง... อันนี้เป็นการติดใจส่วนตัว แต่ก็ไม่ได้มีการผิดอะไรทั้งนั้น

#สรุป...


นิยายเรื่องนี้ถ้าให้เทียบกับหนังก็คงต้องบอกว่าเป็นแนว Road trip ที่เน้นเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ แม้ว่าจะเป็นแนวแฟนตาซี แต่ก็ไม่มีแฟนตาซีอะไรออกมาให้เห็นเลยนอกจากนางเอกของเรา แต่เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับเศรษฐกิจและการค้าขายในยุคกลางที่ค่อนข้างลึก พอๆ กับเรื่องจอมมารผู้กล้าฯ เลยทีเดียว

คะแนนโดยรวม


รูปเล่ม 4.5/5

- ทำรูปเล่มออกมาค่อนข้างดี จัดสรรหน้ากระดาษค่อนข้างดี ตามมาตรฐานนิยาย Pocket book ถึงจะมีบางจุดที่ตัวหนังสือร่ายยาวเป็นพรืดก็เถอะ แต่แอบเซ็งเล็กน้อยตรงที่ผมชอบเล่มใหญ่แบบของแปล eng มากกว่าเล่มเล็ก

เนื้อหา 3.5/5 สำหรับผู้อ่านธรรมดา และ 7/5 สำหรับผู้อ่านที่มีความรู้ด้านการเงินการแลกเปลี่ยน

- อย่างที่ว่าไปหากตัดเนื้อหาความสัมพันธ์ระหว่างตัวเอกสองคนออก เรื่องนี้มันจะกลายเป็นตำรา Medieval economics แทน ฉะนั้นหากจะสนุกก็จำเป็นจะต้องเข้าใจเกี่ยวกับการซื้อขายแลกเปลี่ยนด้วย

ตัวละคร 4/5 และ 10/5 สำหรับชาวเคโมะฯ

- ผมกล้ารับประกันว่าหลายๆ คนจะหงุดหงิดกับพระเอกในช่วงแรกๆ ไม่มีทั้งจุดเด่น แถมยังโดนเขาหลอกต่อเนื่อง ถ้าไม่มีโฮโระมาอยู่นี่คาดว่าคงหมดตัวตามชื่อเรื่องที่ตั้งกันเล่นๆ ว่า "ไร้น้ำยาเกาะหมากิน" เป็นแน่

แต่เพราะโฮโระน่ารักมาก~ แม้จะฉลาดเป็นกรดเพราะอยู่มานาน แต่กลับมีนิสัยเหมือนเด็กขี้แกล้ง พาลทำเอาอยากหยิกแก้มเล่น แถมยังขี้เหงา ขี้อ้อน ปานลูกหมาอีกต่างหาก อย่างตอนอ้อนขอซื้อแอปเปิ้ลกินนี่ ผมนี่ความดันขึ้นจนแทบจะหัวใจวายตายกันเลยทีเดียว (อวยเป็นการส่วนตัว)

ปัจจุบันนิยายเรื่องนี้มีความยาวถึง 17 เล่ม และปัจจุบันก็ได้ขึ้นภาค 2 ซึ่งเป็นเนื้อหารุ่นลูกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย หวังว่าทางสยามจะทำการตีพิมพ์นิยายในตำนานนี้จนครบ และออกต่อยันรุ่นลูกอย่างน้องมิวรี่ด้วย~

ชื่อสินค้า:   Spice and wolf
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่