สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์ - อิหม่ามนัลลา โมฮัมเหม็ด อับดุล ญามีล (Nalla Mohamed Abdul Jameel) ตกเป็นข่าวถูกสังคมประณามมาระยะหนึ่ง หลังจากที่เขาบรรยายศาสนาโดยมีเนื้อหาดูหมิ่นชาวคริสเตียน และชาวยิว จนต้องเสียค่าปรับเป็นเงิน 4,000 ดอลล่าร์ ในข้อหาส่งเสริมให้เกิดความแตกแยกระหว่างศาสนา
มีผู้อัดวิดิโอคุตบะฮ์ของอิหม่ามนัลลา ที่กล่าวในการละหมาดวันศุกร์ ที่มัสยิด Jamae Chulia เมื่อวันที่ 6 มกราคม มาเผยแพร่ โดยเขากล่าววิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า เพื่อให้ได้รับชัยชนะเหนือชาวคริสเตียน และชาวยิว ซึ่งต่อมารัฐมนตรีกิจการภายในของสิงคโปร์ ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ข้อความดังกล่าวไม่ได้มาจากอัล-กุรอาน แต่มาจากหนังสือภาษาอาหรับที่เรียนกันในหมู่บ้านของอิหม่ามในประเทศอินเดีย แถลงการณ์ยังระบุว่า ข้อความนี้ไม่อาจยอมรับให้เผยแพร่ในสังคมที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ และศาสนา
อิหม่ามนัลลา วัย 46 ปี ยอมรับต่อศาลว่า เขามีความผิดฐานสร้างอคติต่อความกลมเกลียวระหว่างศาสนิกต่างๆ และยอมรับว่า ได้ทำการสอดแทรกข้อความที่เป็นความเห็นของเขาเองเข้าไปในคุตบะฮ์ดังกล่าว
ศาลสิงคโปร์ปรับและเนรเทศอิหม่ามคุตบะฮ์ดูหมิ่นคริสเตียน-ยิว
เมื่อวันศุกร์ ที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา อิหม่ามนัลลา จัดแถลงข่าวขึ้น โดยเชิญผู้นำทั้งจากศาสนาคริสต์ ซิกข์ พุทธ ฮินดู และจากลัทธิเต๋า รวมทั้งสมาชิกองค์กรสหพันธ์ชาวอินเดียมุสลิม มารับฟังการเปิดใจของเขา ซึ่งเขาได้แสดงความเสียใจ และขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ในวันต่อมา อิหม่ามนัลลา ยังได้เดินทางไปเยือนอารามยิว Maghain Aboth Synagogue เพื่อกล่าวคำขอโทษแก่แรบไบ Moderchai Abergel ด้วย
ทั้งนี้ นอกจากจะถูกปรับเงินแล้ว ศาลยังสั่งเนรเทศอิหม่ามนัลลากลับไปประเทศอินเดียด้วย ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ มีอีก 2 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ คือ Terence Kenneth John Nunis ซึ่งเป็นผู้อัดวิดีโอคุตบะฮ์ดังกล่าว ไปเผยแพร่ ได้รับคำเตือนต่อกรณีที่เขาเลือกที่จะนำวิดิโอไปเผยแพร่เอง แทนที่จะแจ้งความกับตำรวจ ส่วนอีกบุคคลหนึ่ง คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Khairudin Aljunied จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ซึ่งถูกพักงานหลังเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ Terence Kenneth ในเฟสบุ๊ก
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
ที่มา: www.coconuts.co
ศาลสิงคโปร์ปรับและเนรเทศอิหม่ามคุตบะฮ์ดูหมิ่นคริสเตียน-ยิว
มีผู้อัดวิดิโอคุตบะฮ์ของอิหม่ามนัลลา ที่กล่าวในการละหมาดวันศุกร์ ที่มัสยิด Jamae Chulia เมื่อวันที่ 6 มกราคม มาเผยแพร่ โดยเขากล่าววิงวอนขอความช่วยเหลือจากพระเจ้า เพื่อให้ได้รับชัยชนะเหนือชาวคริสเตียน และชาวยิว ซึ่งต่อมารัฐมนตรีกิจการภายในของสิงคโปร์ ได้ออกแถลงการณ์ระบุว่า ข้อความดังกล่าวไม่ได้มาจากอัล-กุรอาน แต่มาจากหนังสือภาษาอาหรับที่เรียนกันในหมู่บ้านของอิหม่ามในประเทศอินเดีย แถลงการณ์ยังระบุว่า ข้อความนี้ไม่อาจยอมรับให้เผยแพร่ในสังคมที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลายเชื้อชาติ และศาสนา
อิหม่ามนัลลา วัย 46 ปี ยอมรับต่อศาลว่า เขามีความผิดฐานสร้างอคติต่อความกลมเกลียวระหว่างศาสนิกต่างๆ และยอมรับว่า ได้ทำการสอดแทรกข้อความที่เป็นความเห็นของเขาเองเข้าไปในคุตบะฮ์ดังกล่าว
ศาลสิงคโปร์ปรับและเนรเทศอิหม่ามคุตบะฮ์ดูหมิ่นคริสเตียน-ยิว
เมื่อวันศุกร์ ที่ 31 มีนาคม ที่ผ่านมา อิหม่ามนัลลา จัดแถลงข่าวขึ้น โดยเชิญผู้นำทั้งจากศาสนาคริสต์ ซิกข์ พุทธ ฮินดู และจากลัทธิเต๋า รวมทั้งสมาชิกองค์กรสหพันธ์ชาวอินเดียมุสลิม มารับฟังการเปิดใจของเขา ซึ่งเขาได้แสดงความเสียใจ และขอโทษในสิ่งที่เกิดขึ้น ในวันต่อมา อิหม่ามนัลลา ยังได้เดินทางไปเยือนอารามยิว Maghain Aboth Synagogue เพื่อกล่าวคำขอโทษแก่แรบไบ Moderchai Abergel ด้วย
ทั้งนี้ นอกจากจะถูกปรับเงินแล้ว ศาลยังสั่งเนรเทศอิหม่ามนัลลากลับไปประเทศอินเดียด้วย ที่น่าสนใจอีกเรื่องหนึ่งคือ มีอีก 2 คน ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ คือ Terence Kenneth John Nunis ซึ่งเป็นผู้อัดวิดีโอคุตบะฮ์ดังกล่าว ไปเผยแพร่ ได้รับคำเตือนต่อกรณีที่เขาเลือกที่จะนำวิดิโอไปเผยแพร่เอง แทนที่จะแจ้งความกับตำรวจ ส่วนอีกบุคคลหนึ่ง คือ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ Khairudin Aljunied จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ ซึ่งถูกพักงานหลังเข้าไปวิพากษ์วิจารณ์ Terence Kenneth ในเฟสบุ๊ก
สำนักข่าวมุสลิมไทยโพสต์
ที่มา: www.coconuts.co