สวัสดีครับ มีเรื่องจะมาเล่าสู่กันฟังใครที่กำลังจะแต่งงาน หรือ อยากมีไอเดียก็เข้ามาชมกันได้นะครับ

เริ่มต้น กันเลยนะครับ ก่อนอื่น ก็ ต้องหาเจ้าสาว ให้พี่ชายก่อน พี่ชาย ของ จขกท สูง ประมาณ 185 เซนติเมตร รับราชการทหาร ครับ
ในขณะที่ พี่ชายโสด ผมก็ ติดต่อ เพื่อน สมัยเรียน มาให้ ได้รู้จักกัน นางเป็น ผญ. โย่ง สูง 170 กว่าๆ ซึ่งก็จัดว่าสูงมาก ใน ต่างจังหวัด  (จังหวัดตรัง นะครับ)
เลยคิดว่าเหมาะที่จะเข้ามาร่วมครอบครัวตัวโย่งของเรา  หลังจากแนะนำ กัน แล้วให้ทั้งคู่ไปสานสัมพันธ์กัน เคมีน่าจะเข้ากันได้ นางก็เลย เป็นแฟนกัน

เวลาผ่านไป ประมาณ 4 ปี อะไรเข้าที่เข้าทาง ทั้งคู่ก็ ตกลงแต่งงานกัน  ผมในฐานะที่รับจ็อบเป็นช่างภาพ ก็หาข้อมูลโน้นนี่นั่น มาให้ ทั้งสองดู
ซึ่งลงความเห็นกันว่า จะไปหาซื้อชุดเอง และถ่ายภาพเอง โดยไม่ไปซื้อแพ็คเก็จจากทางร้านเวดดิ้ง รวมถึงจัดซุ้มถ่ายภาพ ของชำร่วย ในงาน ก็จัดการกันเองหมดครับ

เราเดินทางเข้า กทม เพื่อหาชุดแต่งงาน จากการโพสสอบถามในเฟสบุ๊ค และข้อมูลมาก็ เจอร้านที่น่าจะใช่เรา คือ BRIDE WHOLESALE ที่ ศูนย์การค้าวอเตอร์เกท ประตูน้ำ เป็นร้านขายชุดแต่งงาน ทั้งปลีกทั้งส่ง ราคา ตั้งแต่ 1000 ถึง หลักหมื่น บาท เมื่อถึงร้านนี้เราก็ได้ชุด ทั้ง เจ้าบ่าว เจ้าสาว ชุดเจ้าสาว 6000 บาท และ สูท เจ้าบ่าว 4000 บาท (ใจจริงอยากได้ถูกกว่านี้ แต่ ในเมื่อ บ่าวสาว ถูกใจแบบ ก็เลย ตัดสินใจซื้อ ) หลังจากนั้นเราก็ไปหาเครื่องประดับที่เดียวกันแต่คนละชั้น ราคาชิ้นละ 30 - 200 บาท ถูกมากๆ เป็นร้าน ที่เป็น แมวสีดำ จำชื่อไม่ได้ 5555  ส่วนของชำร่วย ไปซื้อจาก เจเจ มอลล์ เป็นกระเป๋า ใบละ 9 บาท พร้อมโบว์ และ ป้ายชื่อ และพวก ของตกแต่งต่างๆ ไปได้มาจากจตุจักร ครับ ก็ถือว่าครบครับ

กลับมาก็เริ่มถ่ายพรีเวดดิ้งครับ ช่างหน้าเป็นเพื่อนที่ทำงาน ของผมเองครับ เห็นนางแต่งหน้ามาทำงาน เป๊ะทุกวันเลยทาบทามมาช่วยแต่ง 2 วัน ให้ค่าเหนื่อย
ในการแต่งหน้า และตามไปช่วยด้วย วันละ 1500 บาท ครับ โดยงานนี้เป็นงานรับแต่งหน้างานแรก ของนางครับ

เราก็เริ่มถ่ายกันในชุดแต่งงาน

เป็นการถ่ายที่ยากมาก เพราะฝนตกๆ หยุดๆ เดี๋ยวแดด เดี๋ยวฝน ครับ
และบ่าวสาว ก็เขิล กัน หัวเราะกัน ไปตลอด น่าตีมาก
















ชุดแต่งงาน ก็จบไป นะครับ อันที่จริง ช่วงกลางวัน เราเปลี่ยนเป็นชุดไทย ก่อน แล้วไปต่อชุดแต่งงานตอนเย็นอีกที แต่เพื่อความต่อเนื่อง
เลยลงเป็นชุดๆไปนะครับ

ชุดไทยตามกระแส นาคี เลยครับ ช่วงนั้นคำแก้วกำลังมา และไม่อยากให้พรีเวดดิ้งซ้ำกับใคร เลยไปเช่าชุดร้าน เช่าชุดแฟนซีมาครับ ชุดละ 400 บาท











และก้ตามมาด้วย เสื้อลายพราง เพื่อบ่งบอก ความเป็นตัวตนของเจ้าบ่าวครับ

แบบว่าปูเนื้อเรื่องมาแบบ ตั้งแต่ยุคก่อน จนมาถึงยุค ปัจจุบัน อะไรแบบนี้ครับ 5555






วันที่ 2 เราก็ มาถ่ายกันในชุดสบายๆ ครับ และเจ้าสาว เริ่มป่วย เลยถ่ายกันไม่เยอะครับ







จบพรีเวดดิ้งครับ ถ่ายช่วงเดือน ธันวาคม งานแต่งเดือน มกราคม 5555
ในส่วนของการ์ดแต่งงาน ผมก็ออกแบบเอง และ สั่งพิมพ์ที่ร้าน สโนว์ไวท์ ดิจิตอลโฟโต้เซอร์วิส ได้งานรวดเร็วมากครับ สั่งพิมพ์แบบภาพถ่าย ตกใบละ 2.5 บาท ครับ  และแผ่นป้ายต่างๆก็สั่งจากที่นี่ครับ

พอใกล้ถึงวันงาน ความเครียดก็เริ่มมาเยือน เนื่องจาก พายุ โหมกระหน่ำ ฝนตก ทุกวัน เลยครับ
แต่ยังไงงานก็ต้องมีต่อไปครับ  


วันงานมีฝนปรอยลงมานิดหน่อยในช่วงเช้า

ชุดงานพิธีของเจ้าสาว เช่าในร้านเวดดิ้ง ในจังหวัดตรัง ครับ รวมทั้งชุดรดน้ำสังข์ ราคาเช่านี่บอกเลยว่า ซื้อชุดใหม่ได้เลย ครับ












เสร็จพิธีรับขันหมาก และพิธีหมั้น ก็เป็นรดน้ำสังข์ต่อนะครับ ผมมาจัดที่รดน้ำสังข์ไว้ตั้งแต่ตอนกลางคืนครับ เพราะเช้าต้องมาถ่ายรูป
ตอนวางแผนกันคือ รดน้ำสังข์แบบเอ้าดอร์ ใต้ต้นไม้ มีแค่ไฟกับผ้า แต่สภาพอากาศไม่เอื้ออำนวย ลุ้นว่าน้ำจะท่วมรึเปล่าเลยได้ตามที่เห็น 555













หลังจากเสร็จพิธีเช้า ผมก็ต้องรีบ ไปจัดซุ้มตอนเย็นต่อ บอกเลยว่า เป็นอะไรที่แข่งกับเวลามาก
ไม่ควรจะทำแบบนี้ครับ ควรแบ่งทีมกันไปเลย แต่ ผม เป็นทั้ง ช่างภาพ และออแกไนเซอร์ของงาน มันรีบไปหมดทุกอย่าง
และแบบที่ได้กับที่คิดเอาไว้ก้ค่อยข้างไกลกันมาก เลย หยิบโน้น หยิบนี่ ที่ ทำไว้ และซื้อไว้แล้ว มาประกอบกันให้เป็นรูปร่าง
และแข่งกับเวลา งานเลี้ยงก้ใกล้จะเริ่มแล้วครับ เลยอดได้ภาพช่วงที่เจ้าสาวไปแต่งหน้า เลย ครับ




อันนี้เป้นผมเองครับ อิอิอิ





หลังจาก แขกมาเรื่อยๆ ฝนก็เทกระหน่ำลงมาครับ เก็บของ กันวุ่นเลยครับ แต่ถือว่าโชคดี มากครับ ที่ฝนยังเมตตาตกลงมาตอนค่ำ

และบ่าวสาวก็เข้าหอกันไปด้วยสภาพเปียกปอน 5555

ขอบคุณที่ติดตาม ครับ
หมียักษ์ในบ้านโพรงกระต่าย