อีกไม่ช้า...ผลงานภาพยนตร์เรื่องแรกของ "ที โมเมนต์" เรื่อง "โอเวอร์ไซส์ ทลายพุง" ที่คิดเอง สร้างเอง ทำเอง(โดยไม่ได้จ้าง สสส. มาช่วยซัพพอร์ต) ก็จะกลายเป็นเพียงความทรงจำของคอหนัง และจะมี วีซีดี-ดีวีดี ของแท้ตามมายืนบนแผงแน่นอน นับเป็นหนังไทยเรื่องแรกของปีที่ทำออกมาสนุกสนาน และตรงใจคนดูเป็นที่สุด แต่รายได้จากการฉายกลับอยู่ในอาการน่าเป็นห่วง ถึงกับมีการยืนยันรายได้แบบประชดตัวเองผ่านสื่อเฟซบุ๊คของค่ายในวันที่สองของการฉายว่า "ทะยานสู่ล้านที่ 2"...เห็นไหม ?
ทำให้บอสใหญ่อย่าง "วิสูตร พูลวรลักษณ์" ต้องหันหน้าเข้าวัดเพื่อทบทวนความผิดหวังครั้งแรกของทางค่าย และเพื่อประกันงานชิ้นต่อไปที่น่าจะลบล้างความผิดหวังได้พอดู
เชื่อว่าผู้ชมหลายคนคงได้ยินชื่อน้องใหม่ในวงการหนังไทยอย่าง ที โมเมนต์ แต่บางคนเพิ่งจะได้ยินและไม่รู้จักเลยว่าชื่อนี้มาได้อย่างไร มีคนฝากถามว่าเป็นค่ายเพลงลูกทุ่งน้องใหม่เลยหรือ ผลงานออกมาคล้าย ๆ กับซิงเกิลชั้นดีแต่ยอดดาวน์โหลดและยูทูบต่ำอะไรทำนองนั้น แต่เราขอบอกเลยว่าชื่อ ที โมเมนต์ มาจาก 2 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์บันเทิง ระหว่างเฮียวิสูตร กับ โมโนกรุ๊ป ซึ่งมีสถานีโทรทัศน์ช่องโมโน 29 อยู่ในกำมือ
ถึงทาง ที โมเมนต์ จะยังไม่เปิดปากถึงหน้าตาของผลงานชิ้นต่อไป แต่เสียงบางเสียงก็ฝากมาว่า ถ้าเรื่องแรกซึ่งใช้ดาราหน้าใหม่นั้นไม่เข้าเป้า เรื่องที่สอง ที่สาม ขอให้เอาดาราดัง ๆ มาเรียกความนิยมสักหน่อยจะดีไหม... นี่เป็นคำถามที่ชวนคิดอยู่หลายที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเอาดาราที่ดังมากทางจอแก้วมาเล่นหนัง ซึ่งบางคนไม่เคยเล่นหนังมาก่อนเลย อย่างเช่น "แบรี่-ณเดชน์" กับ "ญาญ่า-อุรัสยา" หรือว่า "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" ไม่ก็สาว ๆ จาก เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ ก็เดาได้เลยว่า รายได้จะมากกว่าเรื่องแรกสักหลายเท่าตัว หรืออาจจะแซงหนังค่ายจีดีเอชก็ยิ่งดี ตราบที่ "ดาราชื่อดัง" ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียกให้คนดูกลับมาดูหนังไทย
มิฉะนั้นแล้ว อาจมีคนมาหยามด้วยการล้อเลียนชื่อค่ายหนังว่าเป็น "ที โมเหม็น"...เตรียมปิดบริษัทกลับไปตัดสินใจเอาเองได้เลย
ก็เอาเป็นว่า เราขอเป็นกำลังใจให้กับเฮียวิสูตร ในนาม บริษัท ที โมเมนต์ จำกัด หากได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหลาย ๆ ฝ่าย บริษัทก็จะมีแต่ความแข็งแรง และความสุขความเจริญ ด้วยการผลิตภาพยนตร์ที่เนื้อหาดีมีคุณภาพ ไปอีกนานแสนนาน สวัสดี.
ถ้า "ที โมเมนต์" จะจับ "ณเดชน์-ญาญ่า" มาเล่นหนังคู่กันล่ะ ผลจะเป็นเช่นไร?
ทำให้บอสใหญ่อย่าง "วิสูตร พูลวรลักษณ์" ต้องหันหน้าเข้าวัดเพื่อทบทวนความผิดหวังครั้งแรกของทางค่าย และเพื่อประกันงานชิ้นต่อไปที่น่าจะลบล้างความผิดหวังได้พอดู
เชื่อว่าผู้ชมหลายคนคงได้ยินชื่อน้องใหม่ในวงการหนังไทยอย่าง ที โมเมนต์ แต่บางคนเพิ่งจะได้ยินและไม่รู้จักเลยว่าชื่อนี้มาได้อย่างไร มีคนฝากถามว่าเป็นค่ายเพลงลูกทุ่งน้องใหม่เลยหรือ ผลงานออกมาคล้าย ๆ กับซิงเกิลชั้นดีแต่ยอดดาวน์โหลดและยูทูบต่ำอะไรทำนองนั้น แต่เราขอบอกเลยว่าชื่อ ที โมเมนต์ มาจาก 2 ผู้ยิ่งใหญ่แห่งวงการภาพยนตร์บันเทิง ระหว่างเฮียวิสูตร กับ โมโนกรุ๊ป ซึ่งมีสถานีโทรทัศน์ช่องโมโน 29 อยู่ในกำมือ
ถึงทาง ที โมเมนต์ จะยังไม่เปิดปากถึงหน้าตาของผลงานชิ้นต่อไป แต่เสียงบางเสียงก็ฝากมาว่า ถ้าเรื่องแรกซึ่งใช้ดาราหน้าใหม่นั้นไม่เข้าเป้า เรื่องที่สอง ที่สาม ขอให้เอาดาราดัง ๆ มาเรียกความนิยมสักหน่อยจะดีไหม... นี่เป็นคำถามที่ชวนคิดอยู่หลายที
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การเอาดาราที่ดังมากทางจอแก้วมาเล่นหนัง ซึ่งบางคนไม่เคยเล่นหนังมาก่อนเลย อย่างเช่น "แบรี่-ณเดชน์" กับ "ญาญ่า-อุรัสยา" หรือว่า "เจนี่ เทียนโพธิ์สุวรรณ" ไม่ก็สาว ๆ จาก เดอะ เฟซ ไทยแลนด์ ก็เดาได้เลยว่า รายได้จะมากกว่าเรื่องแรกสักหลายเท่าตัว หรืออาจจะแซงหนังค่ายจีดีเอชก็ยิ่งดี ตราบที่ "ดาราชื่อดัง" ยังเป็นปัจจัยสำคัญในการเรียกให้คนดูกลับมาดูหนังไทย
มิฉะนั้นแล้ว อาจมีคนมาหยามด้วยการล้อเลียนชื่อค่ายหนังว่าเป็น "ที โมเหม็น"...เตรียมปิดบริษัทกลับไปตัดสินใจเอาเองได้เลย
ก็เอาเป็นว่า เราขอเป็นกำลังใจให้กับเฮียวิสูตร ในนาม บริษัท ที โมเมนต์ จำกัด หากได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากหลาย ๆ ฝ่าย บริษัทก็จะมีแต่ความแข็งแรง และความสุขความเจริญ ด้วยการผลิตภาพยนตร์ที่เนื้อหาดีมีคุณภาพ ไปอีกนานแสนนาน สวัสดี.