เรืองมีอยู่ว่า
เรากับแฟนคบกันมาแล้ว2รอบ รอบ1เราขอเลิกกับเขาเพราะคิดว่าฐานะเราไม่เหมาะสมกับเขา เวลาผ่านไป2ปี จนมาถึงรอบที2เราได้มาเจอกันโดยบังเอิญ ได้เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊ค แต่รอบ2นี้ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงมีแฟนยุแล้ว เราเป็นเพื่อนทีดีต่อกันดีกว่า แต่เขาไม่ได้คิดแบบนั้น เขาโทรมาหาเราทุกวันทำดีทุกอย่างจนขอเราแต่งงาน เราก็ใจอ่อนคิดว่าเขาคงรักเราจิงๆ แม้เราเคยทิ้งเขาแล้วรอบ1
ในฐานะทีเราจน ระหว่างทีหมั้นกันรอวันแต่งงานมาถึงตามประเพณีคนอีสาน เรากับเขาทำงานคนล่ะที เขาทำงานเก็บเงินมาแต่งเรา ส่วนเราก็เก็บเงินเพื่อสร้างบ้านใหม่ให้สมฐานะเทียบเท่ากันเขา เมื่อวันแต่งงานมาถึง บ้านทีเราสร้างใหม่เสร็จไม่ทันเพราะแค่เวลา1เดือน ก็ถึงวันแต่งแล้ว เราก็โทรไปหาแฟนบอกว่าทำไงดีบ้านเราสร้างยังไม่เสร็จ แฟนก็ตอบว่าไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องคิดมาก ทางครอบครัวเราไม่ได้คิดแบบนั้นขอแค่รักกันก็พอ เราก็สบายใจขึ้นเรื่อยนัดก็คงจะไม่ได้ ตั้งแต่คบกันกับแฟนมาเราไม่เคยเจอหน้าญาติพี่น้องพ่อแม่เขาเลยสักครั้ง เคยครั้งเดียววันทีมาหมั้น แค่นั้นแหละ
หลังจากแต่งงานเราก็ได้ย้ายมาทำงานกับแฟนมาอยู่กับแฟน เวลาผ่านไปหลายเดือน เราตั้งท้อง ทั้งทำงานและท้องไปด้วย แฟนก็บอกให้ออกมาพักก็บอกว่าไม่ เราทำไหว จนได้8เดือนครึ่ง เลยคุยกับแฟนว่าจะคลอดลูกทีบ้านเรานะ เทอว่าไง แฟนก็โอเคก็โทรไปบอกแม่แฟน แต่แม่แฟนให้มาคลอดทีบ้านแฟน เราก็ยอมคงไม่เป็นไรหรอก พ่อแม่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
จนคลอดลูก แฟนลางานลงมาเยี่ยมได้3วันก็กลับไปทำงานต่อ เราก็เลี้ยงลูกอยู่บ้านแฟนกับพ่อแม่เขา จนวันหนึ่งเราและแม่แฟนพาลูกไปโรงบาล หมอนัดตรวจตัวเหลือง ลูกเราตัวเหลืองหมอให้นอนเข้าตู้อบ1คืน ด้วยความทีเป็นห่วงลูกมาก ลูกเราจะเป็นอะไรมากไหม หมอก็คำแนะนำ เราทั้งร้องไห้ทั้งมากคิดไปหมดทุกอย่าง คือตอนนั้นอ่ะเคลียดมาก แม่แฟนก็ทำหน้าตาเหมือนพอใจทีลูกเราเข้าโรงบาล เราก็นั่งเฝ้าลูกอยู่ข้างๆตู้อบ ลูกก็ไม่ยอมเข้าตู้อบเพราะเขาคงจะร้อนเพราะใช้ไฟ2หลอดส่อง ไหนจะให้น้ำเกลืออีก เขาก็ร้องงอแง แม่แฟนก็พูดขึ้นว่า ลำคาญไม่รุ้จะร้องอะไรกันหนักกันหนา จะไปไหนก็ไม่ได้ไป มาเฝ้าพวกแกอยู่เนี้ย ในใจคิดแหละแล้วไม่คิดว่าแกจะพูดคำนี้อออกมา น้ำตาตกในเลย กลั้นใจพูดกับแกว่าแม่อยากไปไหนล่ะ ไปได้นะ เดี๋ยวหนูดูลูกหนูเอง แกก็เดินออกไป กลับเข้ามาก็มานอนทีเก้าอี้ ไม่ได้ช่วยเราหรอก
ลูกได้กลับบ้าน พอถึงบ้านเราร้อนเลยไปอาบน้ำ ส่วนลูกเราคนมาเยี่ยมเยอะไหนจะญาติแฟนคนข้างบ้านก็เปลี่ยนกันอุ้มไปอุ้มมา อาบน้ำเสร็จเลยเดินมาหาแม่แฟนจะเอานมให้ลูกกิน เห็นแม่แฟนกำลัวเอาน้ำส้มเขียวหวานให้ลูกเรากิน เราตกใจกินได้หรอเด็กแค่5วันเอง แต่ได้แต่มองพูดอะไรไม่ได้
3-4ชม.ผ่านไปลูกเริ่มงอแงจากทีไม่เคยงอแงแบบนี้มาก่อน ถ่ายบ่อยมาก เริ่มคิดแหละสงสัยต้องเป็นทีน้ำส้มแน่ๆ เราตัดสินใจบอกแม่แฟนว่าลูกถ่ายบ่อย ร้องไห้ ไม่ค่อยดูดนม แม่แฟนก็ตอบว่าเด็กก็แบบนี้แหละ เรื่องปกติ เราก็เงียบ พยายามเอานมให้ลูกกินและก็คิดว่าเราจะพาลูกไปหาหมอยังไงดี ทำไงดี
สักพักแฟนโทรมา ได้ยินเสียงลูกร้อง แฟนก็ถามเราว่าทำไมลูกร้องเก่งจัง เราก็เงียบไม่พูดกลัวเราจะทะเลาะกับแม่เขา แฟนก็ถามอยู่แบบนั้นแหละ เราก็เลยตัดสินใจบอก ถ้าไม่บอกแฟนก็ถามซ้ำ ถ้าแฟนรุ้เราคงจะได้พาลูกไปให้หมอตรวจดู ก็เลยบอกว่าแม่เทอเอาน้ำส้มเขียวหวานให้ลูกกิน ถ่ายยังไม่หยุดเลย
แฟนก็โทรไปถามแล้วบอกแม่เขาว่าพึ่งเอาให้ลูกผมกินนะ ก็พาไปหาหมอ หมอบอกว่าน้องลำไส้อักเสบ แล้วเอายามาให้แม่ทานให้ลงผ่านน้ำนมให้ลูกกินนะ
เราเสียใจมากแต่พูดอะไรไม่ได้ วันต่อมาเราไม่ลูกเลยอยู่ในสายตาตลอด แม่แฟนก็ทำกับข้าวไว้ให้แกงหัวปลีใส่ปลาดุกให้กิน เราก็กิน กินแล้วปวดหัว เวียนหัว ปวดหลังมาก แม่เราโทรมาเล่นด้วยถามว่ากินข้าวกับอะไรแกงหัวปลีใส่ปลาดุกแม่ แม่ตอบขึ้นเสียงสูงว่าปลาดุกกินไม่ได้มันผิด คนอีสานบอกว่าแม่ลูกอ่อนห้ามกินไปมั่วกินผิดก็อาจถึงตายได้ เราก็รีบไปอวกออก ก็เริ่มดีขึ้นเลยทอดไข่เจียวกินแทน พ่อแม่แฟนไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกมีแต่เรากับลูก แม่เราเลยบอกออกว่ากลับมาอยู่บ้านเราก่อนนะจะให้พี่ชายไปรับ จร้าแม่ แม่เรากลัวเกิดอันตรายเกี่ยวกับเรื่องการกิน
ก็ได้คุยกับแม่แฟนว่าจะพาลูกเรากลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่เราและไปดูช่างสร้างบ้านต่อทียังไม่เสร็จ แม่แฟนก็โวยวายเลย แกพูดว่าบ้านเราหลังเล็กๆเห็นสร้างตั้งนานแล้วไม่เสร็จสักที อย่าเอามาเป็นข้ออ้าง บอกว่าเราไม่ดีไม่เหมาะสมกับลูกชายแก ถ้าแกรุ้แบบนี้จะไม่ให้ลูกชายไปแต่งไปสู่ขอ บอกว่าลูกชายแกโง่ทีสุดทีมาคบกับเรามาแต่งงานกับเรา เพราะเราไม่มีอะไรสักอย่าง นิสัยก็ไม่ดี จะเอาลูกเราไว้แต่จะไม่เอาเรา
เรากอดลูกร้องไห้เลยอยู่ในห้อง แม่แฟนพูดอยู่ข้างนอกห้องพูดเสียงดังมาก เรื่องจะกลับบ้านเราก็บอกแฟนแล้ว แฟนโอเคให้ไป เพราะตอนแรกทีแต่งงานแฟนเราเป็นลูกชายคนเล็กถ้าแต่งงานก็ให้เอาเมียมาอยู่บ้านแม่ เราก็ตอบกลับไปว่าไปอยู่ได้แต่ต้องให้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่เราบ้าง ทุกคนเข้าใจในวันนั้นแล้วแต่เราไม่คิดว่าพ่อแม่แฟนจะไม่ให้เรากลับไปบ้านเราเลย แถมบอกกับเราต่อว่า ถึงมาอยู่บ้านสามี พ่อแม่สามีด่าว่ายังไงก็ต้องอดทนเอา เราไม่เอาแล้วยังไงก็จะพาลูกกลับ เลิกก็เลิกกับแฟน ลูกก็จะไม่ให้
ก่อนจะกลับเราเอาตังให้แม่แฟนเพิ่มอีก4000บาทให้เอาไว้ใช้เพราะตอนทีเราคลอดฝากพิเศษก็เสียทั้งหมด26000บาท แม่แฟนก็ชอบไปพูดกับคนอื่นว่าไม่มีตังลูกสะใภ้คลอดลูกหมดตังไปเยอะ แต่ทุกบาทค่าคลอดเป็นเงินเราทั้งหมด และเอาเงินให้แกไว้ใช้ระหว่างทีเราไปอยู่บ้านเขาจนคลอดและหลังคลอดเงิน18000บาท เราเสียใจเราคิดผิดแล้ว เราพลาดแล้วไม่คิดว่าพ่อแม่เขาจะเป็นแบบนี้ เงียบ เงียบมาเรื่อยๆ จนลูกได้2เดือนแฟนก็มารับอยู่บ้านเรา เพื่อลงไปอยู่กับเขา พอถึงแม่แฟนก็โทรมาหาเราถามว่าต่อไปจะทำยังไง ลูกจะให้ใครเลี้ยง งานจะทำไหม ก็พูดดูเหมือนว่าเรามาเกาะลูกชายแกกินลูกชายคงลำบากหาตังคนเดียว
ก็พอมีเงินก้อนอยู่จำนวนหนึ่งจะลงทุนอะไรดี จะเลี้ยงลูกเอง ก็เลยลองเปิดเพจขายรองเท้าผ้าใบแฟชั่นเกาหลีชาย-หญิง เพราะพี่ชายเคยขายตามตลาดแล้วบอกว่าได้รายได้ดี เราก็เลยปรึกษากับแฟนก็เลยตัดสินใจไปจองรถกระบะ เพื่อจะขายของตามตลาดขายในเพจด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย
แฟนก็โทรไปคุยให้แม่เขาฟังแหละเราก็ไม่รุ้ ไม่นานแม่แฟนก็โทรมาหาเรา ถามว่าออกรถมาจะขายของแล้วลูกล่ะจะทำไง เราก็บอกไปว่าจะเอาไปด้วยจะเลี้ยงเอง คิดถึงลูก ไม่อยากห่างจากลูก แม่แฟนก็ตอบว่า ออกรถมาเงินไม่ใช่น้อยๆจัไหวหรอจะรอดไหม อย่าให้แม่พ่อขายหน้านะว่าออกรถมาผ่อนไม่ไหว ไหนจะลูกไหนจะรถ แฟนก็ทำงานคนเดียว ตัวเองก็ไม่ได้ทำงาน เลี้ยงลูกอยู่แต่ห้อง เราเลยตอบกลับว่าไหวยังไงก็ต้องไหวก็หน้านี้ก็ใช่ว่าจะสบายยิ่งหนักกว่าตอนนี้อีกแม่
พอถึงวันรับรถลูกชายชอบสีขาวแต่แม่เขาบอกให้เอาสีดำ เราเลยบอกแฟนว่าสีกรมชอบไหมมันถูกโฉลกกับเรากับแฟนเลย แต่พอไปพูดให้แม่แฟนฟังเท่านั้นแหละโวยวายไปกันใหญ่เลย พอเรื่องรถผ่านไป แฟนก็ยังทำงานอยู่ เราก็เลี้ยงลูกอยู่ห้อง แม่แฟนก็พูดแต่คำเดิมๆว่า ว่าเราไม่ทำงานให้แฟนทำคนเดียวเราเลยทนไม่ไหวบอกให้แฟนไปลาออกจากงานสะ แล้วออกมาขายของทุกวัน ทีแรกก็ว่าจะขายเสาร์-อาทิตย์ ส่วนเราก็เอาลูกขายในเพจไปขับรถส่งของให้ลูกค้าทางไปรษณีแทนวันจันทร์-ศุกร์แฟนก็ทำงาน
แม่แฟนก็ไม่ให้เราขับรถ ก็ไม่รุ้ว่าเพราะอะไรทั้งทีเราก็มีใบขับขี่ ขับรถเก่งกว่าลูกชายเขา แฟนเราออกรถกระบะมาเขายังขับรถไม่เป็นด้วยซ้ำ ใบขับขี่ยังไม่มี แต่กลับบอกลูกชายแกว่า ค่อยๆขับไปเดี๋ยวก็เป็นเองแต่อย่าให้เมียขับนะ
จนทุกวันนี้ไม่รุ้จะทำอย่างไงกับชีวิตครอบครัว แฟนเราเขาดีกับเราทุกอย่าง ไม่เคยทีจะทะเลาะกันเลย เมื่อเกิดปัญหากับแม่เขาทีไรหรือแม่แฟนพูดมาเราไม่ทำตามหรือเราตอบกลับในความคิดของเรา แม่แฟนก็ชอบโทรไปหาลูกชายเขาทันที จนได้ทะเลาะกันเรื่อยๆมาและก็ไม่ร้ายแรงเพราะแฟนจะถามหาเหตุผลเสมอ แต่เราก็ไม่กล้าพูดออกหมดว่าแม่เขามาพูดกับเราแบบไหนแล้วไปพูดกับแฟนแบบไหน นี้จะกลับบ้านสงกรานต์แล้ว ทางบ้านเรามีคณะผ้าป่าจะมาทอดถวายเงินผ้าป่าสร้างวัด หนึ่งในนั้นเราก็เป็นกรรมการร่วมด้วย เลยว่าจะกลับบ้านเราไปทอดผ้าป่าก่อนค่อยตีรถกลับไปบ้านเขาแต่แม่แฟนก็ไม่ยอมยังไงก็ต้องกลับไปบ้านแฟนก่อน เราก็เลยต้องได้โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าจะได้เอาซองผ้าป่าไปถวายทีหลัง มันหน้าอายมาก เมื่อเรื่องนี้แม่แฟนก็ไม่ฟังไม่เข้าใจ เรายอมไม่อยากมีปัญหาปล่อยมาหลายครั้งหลายรอบแล้ว เป็นแบบนี้ถูกครั้ง จนเคยบอกแฟนนะว่าเราเลิกกันเถอะกลับไปหาแม่เทอแล้วให้แม่เทอหาคนทีดีคู่ควรกับเทอจะดีกว่าไหม แฟนก็ตอบว่าไม่ตลอด หนักใจมากค่ะ ไม่รุ้จะต้องทำอย่างไง จะเอาใจก็เอาไม่ถูกหรอกค่ะ ขนาดอยู่กับแฟนทีกทม.นะค่ะพ่อกับแม่เขาอยู่ต่างจังหวัด ยังขนาดนี้ ถ้าเป็นนี้ต่อไปคงจะได้หนีไปแบบไม่ต้องบอกแฟนเลยค่ะ ชีวิตไม่มีความสุขเลยค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ใครเคยเจอแบบนี้มาบ้าง
แม่แฟนชอบให้เราทำตามทุกอย่างทีแกสั่ง จู่จี้ทุกเรื่อง เราต้องทำอย่างไงดี จะเลิกกับแฟนดีไหม
เรากับแฟนคบกันมาแล้ว2รอบ รอบ1เราขอเลิกกับเขาเพราะคิดว่าฐานะเราไม่เหมาะสมกับเขา เวลาผ่านไป2ปี จนมาถึงรอบที2เราได้มาเจอกันโดยบังเอิญ ได้เป็นเพื่อนกันในเฟสบุ๊ค แต่รอบ2นี้ไม่ได้คิดอะไร คิดว่าเขาคงมีแฟนยุแล้ว เราเป็นเพื่อนทีดีต่อกันดีกว่า แต่เขาไม่ได้คิดแบบนั้น เขาโทรมาหาเราทุกวันทำดีทุกอย่างจนขอเราแต่งงาน เราก็ใจอ่อนคิดว่าเขาคงรักเราจิงๆ แม้เราเคยทิ้งเขาแล้วรอบ1
ในฐานะทีเราจน ระหว่างทีหมั้นกันรอวันแต่งงานมาถึงตามประเพณีคนอีสาน เรากับเขาทำงานคนล่ะที เขาทำงานเก็บเงินมาแต่งเรา ส่วนเราก็เก็บเงินเพื่อสร้างบ้านใหม่ให้สมฐานะเทียบเท่ากันเขา เมื่อวันแต่งงานมาถึง บ้านทีเราสร้างใหม่เสร็จไม่ทันเพราะแค่เวลา1เดือน ก็ถึงวันแต่งแล้ว เราก็โทรไปหาแฟนบอกว่าทำไงดีบ้านเราสร้างยังไม่เสร็จ แฟนก็ตอบว่าไม่เป็นไรหรอกไม่ต้องคิดมาก ทางครอบครัวเราไม่ได้คิดแบบนั้นขอแค่รักกันก็พอ เราก็สบายใจขึ้นเรื่อยนัดก็คงจะไม่ได้ ตั้งแต่คบกันกับแฟนมาเราไม่เคยเจอหน้าญาติพี่น้องพ่อแม่เขาเลยสักครั้ง เคยครั้งเดียววันทีมาหมั้น แค่นั้นแหละ
หลังจากแต่งงานเราก็ได้ย้ายมาทำงานกับแฟนมาอยู่กับแฟน เวลาผ่านไปหลายเดือน เราตั้งท้อง ทั้งทำงานและท้องไปด้วย แฟนก็บอกให้ออกมาพักก็บอกว่าไม่ เราทำไหว จนได้8เดือนครึ่ง เลยคุยกับแฟนว่าจะคลอดลูกทีบ้านเรานะ เทอว่าไง แฟนก็โอเคก็โทรไปบอกแม่แฟน แต่แม่แฟนให้มาคลอดทีบ้านแฟน เราก็ยอมคงไม่เป็นไรหรอก พ่อแม่เราก็ไม่ได้ว่าอะไร
จนคลอดลูก แฟนลางานลงมาเยี่ยมได้3วันก็กลับไปทำงานต่อ เราก็เลี้ยงลูกอยู่บ้านแฟนกับพ่อแม่เขา จนวันหนึ่งเราและแม่แฟนพาลูกไปโรงบาล หมอนัดตรวจตัวเหลือง ลูกเราตัวเหลืองหมอให้นอนเข้าตู้อบ1คืน ด้วยความทีเป็นห่วงลูกมาก ลูกเราจะเป็นอะไรมากไหม หมอก็คำแนะนำ เราทั้งร้องไห้ทั้งมากคิดไปหมดทุกอย่าง คือตอนนั้นอ่ะเคลียดมาก แม่แฟนก็ทำหน้าตาเหมือนพอใจทีลูกเราเข้าโรงบาล เราก็นั่งเฝ้าลูกอยู่ข้างๆตู้อบ ลูกก็ไม่ยอมเข้าตู้อบเพราะเขาคงจะร้อนเพราะใช้ไฟ2หลอดส่อง ไหนจะให้น้ำเกลืออีก เขาก็ร้องงอแง แม่แฟนก็พูดขึ้นว่า ลำคาญไม่รุ้จะร้องอะไรกันหนักกันหนา จะไปไหนก็ไม่ได้ไป มาเฝ้าพวกแกอยู่เนี้ย ในใจคิดแหละแล้วไม่คิดว่าแกจะพูดคำนี้อออกมา น้ำตาตกในเลย กลั้นใจพูดกับแกว่าแม่อยากไปไหนล่ะ ไปได้นะ เดี๋ยวหนูดูลูกหนูเอง แกก็เดินออกไป กลับเข้ามาก็มานอนทีเก้าอี้ ไม่ได้ช่วยเราหรอก
ลูกได้กลับบ้าน พอถึงบ้านเราร้อนเลยไปอาบน้ำ ส่วนลูกเราคนมาเยี่ยมเยอะไหนจะญาติแฟนคนข้างบ้านก็เปลี่ยนกันอุ้มไปอุ้มมา อาบน้ำเสร็จเลยเดินมาหาแม่แฟนจะเอานมให้ลูกกิน เห็นแม่แฟนกำลัวเอาน้ำส้มเขียวหวานให้ลูกเรากิน เราตกใจกินได้หรอเด็กแค่5วันเอง แต่ได้แต่มองพูดอะไรไม่ได้
3-4ชม.ผ่านไปลูกเริ่มงอแงจากทีไม่เคยงอแงแบบนี้มาก่อน ถ่ายบ่อยมาก เริ่มคิดแหละสงสัยต้องเป็นทีน้ำส้มแน่ๆ เราตัดสินใจบอกแม่แฟนว่าลูกถ่ายบ่อย ร้องไห้ ไม่ค่อยดูดนม แม่แฟนก็ตอบว่าเด็กก็แบบนี้แหละ เรื่องปกติ เราก็เงียบ พยายามเอานมให้ลูกกินและก็คิดว่าเราจะพาลูกไปหาหมอยังไงดี ทำไงดี
สักพักแฟนโทรมา ได้ยินเสียงลูกร้อง แฟนก็ถามเราว่าทำไมลูกร้องเก่งจัง เราก็เงียบไม่พูดกลัวเราจะทะเลาะกับแม่เขา แฟนก็ถามอยู่แบบนั้นแหละ เราก็เลยตัดสินใจบอก ถ้าไม่บอกแฟนก็ถามซ้ำ ถ้าแฟนรุ้เราคงจะได้พาลูกไปให้หมอตรวจดู ก็เลยบอกว่าแม่เทอเอาน้ำส้มเขียวหวานให้ลูกกิน ถ่ายยังไม่หยุดเลย
แฟนก็โทรไปถามแล้วบอกแม่เขาว่าพึ่งเอาให้ลูกผมกินนะ ก็พาไปหาหมอ หมอบอกว่าน้องลำไส้อักเสบ แล้วเอายามาให้แม่ทานให้ลงผ่านน้ำนมให้ลูกกินนะ
เราเสียใจมากแต่พูดอะไรไม่ได้ วันต่อมาเราไม่ลูกเลยอยู่ในสายตาตลอด แม่แฟนก็ทำกับข้าวไว้ให้แกงหัวปลีใส่ปลาดุกให้กิน เราก็กิน กินแล้วปวดหัว เวียนหัว ปวดหลังมาก แม่เราโทรมาเล่นด้วยถามว่ากินข้าวกับอะไรแกงหัวปลีใส่ปลาดุกแม่ แม่ตอบขึ้นเสียงสูงว่าปลาดุกกินไม่ได้มันผิด คนอีสานบอกว่าแม่ลูกอ่อนห้ามกินไปมั่วกินผิดก็อาจถึงตายได้ เราก็รีบไปอวกออก ก็เริ่มดีขึ้นเลยทอดไข่เจียวกินแทน พ่อแม่แฟนไม่ค่อยอยู่บ้านหรอกมีแต่เรากับลูก แม่เราเลยบอกออกว่ากลับมาอยู่บ้านเราก่อนนะจะให้พี่ชายไปรับ จร้าแม่ แม่เรากลัวเกิดอันตรายเกี่ยวกับเรื่องการกิน
ก็ได้คุยกับแม่แฟนว่าจะพาลูกเรากลับบ้านไปเยี่ยมพ่อแม่เราและไปดูช่างสร้างบ้านต่อทียังไม่เสร็จ แม่แฟนก็โวยวายเลย แกพูดว่าบ้านเราหลังเล็กๆเห็นสร้างตั้งนานแล้วไม่เสร็จสักที อย่าเอามาเป็นข้ออ้าง บอกว่าเราไม่ดีไม่เหมาะสมกับลูกชายแก ถ้าแกรุ้แบบนี้จะไม่ให้ลูกชายไปแต่งไปสู่ขอ บอกว่าลูกชายแกโง่ทีสุดทีมาคบกับเรามาแต่งงานกับเรา เพราะเราไม่มีอะไรสักอย่าง นิสัยก็ไม่ดี จะเอาลูกเราไว้แต่จะไม่เอาเรา
เรากอดลูกร้องไห้เลยอยู่ในห้อง แม่แฟนพูดอยู่ข้างนอกห้องพูดเสียงดังมาก เรื่องจะกลับบ้านเราก็บอกแฟนแล้ว แฟนโอเคให้ไป เพราะตอนแรกทีแต่งงานแฟนเราเป็นลูกชายคนเล็กถ้าแต่งงานก็ให้เอาเมียมาอยู่บ้านแม่ เราก็ตอบกลับไปว่าไปอยู่ได้แต่ต้องให้กลับมาเยี่ยมพ่อแม่เราบ้าง ทุกคนเข้าใจในวันนั้นแล้วแต่เราไม่คิดว่าพ่อแม่แฟนจะไม่ให้เรากลับไปบ้านเราเลย แถมบอกกับเราต่อว่า ถึงมาอยู่บ้านสามี พ่อแม่สามีด่าว่ายังไงก็ต้องอดทนเอา เราไม่เอาแล้วยังไงก็จะพาลูกกลับ เลิกก็เลิกกับแฟน ลูกก็จะไม่ให้
ก่อนจะกลับเราเอาตังให้แม่แฟนเพิ่มอีก4000บาทให้เอาไว้ใช้เพราะตอนทีเราคลอดฝากพิเศษก็เสียทั้งหมด26000บาท แม่แฟนก็ชอบไปพูดกับคนอื่นว่าไม่มีตังลูกสะใภ้คลอดลูกหมดตังไปเยอะ แต่ทุกบาทค่าคลอดเป็นเงินเราทั้งหมด และเอาเงินให้แกไว้ใช้ระหว่างทีเราไปอยู่บ้านเขาจนคลอดและหลังคลอดเงิน18000บาท เราเสียใจเราคิดผิดแล้ว เราพลาดแล้วไม่คิดว่าพ่อแม่เขาจะเป็นแบบนี้ เงียบ เงียบมาเรื่อยๆ จนลูกได้2เดือนแฟนก็มารับอยู่บ้านเรา เพื่อลงไปอยู่กับเขา พอถึงแม่แฟนก็โทรมาหาเราถามว่าต่อไปจะทำยังไง ลูกจะให้ใครเลี้ยง งานจะทำไหม ก็พูดดูเหมือนว่าเรามาเกาะลูกชายแกกินลูกชายคงลำบากหาตังคนเดียว
ก็พอมีเงินก้อนอยู่จำนวนหนึ่งจะลงทุนอะไรดี จะเลี้ยงลูกเอง ก็เลยลองเปิดเพจขายรองเท้าผ้าใบแฟชั่นเกาหลีชาย-หญิง เพราะพี่ชายเคยขายตามตลาดแล้วบอกว่าได้รายได้ดี เราก็เลยปรึกษากับแฟนก็เลยตัดสินใจไปจองรถกระบะ เพื่อจะขายของตามตลาดขายในเพจด้วยเลี้ยงลูกไปด้วย
แฟนก็โทรไปคุยให้แม่เขาฟังแหละเราก็ไม่รุ้ ไม่นานแม่แฟนก็โทรมาหาเรา ถามว่าออกรถมาจะขายของแล้วลูกล่ะจะทำไง เราก็บอกไปว่าจะเอาไปด้วยจะเลี้ยงเอง คิดถึงลูก ไม่อยากห่างจากลูก แม่แฟนก็ตอบว่า ออกรถมาเงินไม่ใช่น้อยๆจัไหวหรอจะรอดไหม อย่าให้แม่พ่อขายหน้านะว่าออกรถมาผ่อนไม่ไหว ไหนจะลูกไหนจะรถ แฟนก็ทำงานคนเดียว ตัวเองก็ไม่ได้ทำงาน เลี้ยงลูกอยู่แต่ห้อง เราเลยตอบกลับว่าไหวยังไงก็ต้องไหวก็หน้านี้ก็ใช่ว่าจะสบายยิ่งหนักกว่าตอนนี้อีกแม่
พอถึงวันรับรถลูกชายชอบสีขาวแต่แม่เขาบอกให้เอาสีดำ เราเลยบอกแฟนว่าสีกรมชอบไหมมันถูกโฉลกกับเรากับแฟนเลย แต่พอไปพูดให้แม่แฟนฟังเท่านั้นแหละโวยวายไปกันใหญ่เลย พอเรื่องรถผ่านไป แฟนก็ยังทำงานอยู่ เราก็เลี้ยงลูกอยู่ห้อง แม่แฟนก็พูดแต่คำเดิมๆว่า ว่าเราไม่ทำงานให้แฟนทำคนเดียวเราเลยทนไม่ไหวบอกให้แฟนไปลาออกจากงานสะ แล้วออกมาขายของทุกวัน ทีแรกก็ว่าจะขายเสาร์-อาทิตย์ ส่วนเราก็เอาลูกขายในเพจไปขับรถส่งของให้ลูกค้าทางไปรษณีแทนวันจันทร์-ศุกร์แฟนก็ทำงาน
แม่แฟนก็ไม่ให้เราขับรถ ก็ไม่รุ้ว่าเพราะอะไรทั้งทีเราก็มีใบขับขี่ ขับรถเก่งกว่าลูกชายเขา แฟนเราออกรถกระบะมาเขายังขับรถไม่เป็นด้วยซ้ำ ใบขับขี่ยังไม่มี แต่กลับบอกลูกชายแกว่า ค่อยๆขับไปเดี๋ยวก็เป็นเองแต่อย่าให้เมียขับนะ
จนทุกวันนี้ไม่รุ้จะทำอย่างไงกับชีวิตครอบครัว แฟนเราเขาดีกับเราทุกอย่าง ไม่เคยทีจะทะเลาะกันเลย เมื่อเกิดปัญหากับแม่เขาทีไรหรือแม่แฟนพูดมาเราไม่ทำตามหรือเราตอบกลับในความคิดของเรา แม่แฟนก็ชอบโทรไปหาลูกชายเขาทันที จนได้ทะเลาะกันเรื่อยๆมาและก็ไม่ร้ายแรงเพราะแฟนจะถามหาเหตุผลเสมอ แต่เราก็ไม่กล้าพูดออกหมดว่าแม่เขามาพูดกับเราแบบไหนแล้วไปพูดกับแฟนแบบไหน นี้จะกลับบ้านสงกรานต์แล้ว ทางบ้านเรามีคณะผ้าป่าจะมาทอดถวายเงินผ้าป่าสร้างวัด หนึ่งในนั้นเราก็เป็นกรรมการร่วมด้วย เลยว่าจะกลับบ้านเราไปทอดผ้าป่าก่อนค่อยตีรถกลับไปบ้านเขาแต่แม่แฟนก็ไม่ยอมยังไงก็ต้องกลับไปบ้านแฟนก่อน เราก็เลยต้องได้โทรแจ้งผู้ใหญ่บ้านว่าจะได้เอาซองผ้าป่าไปถวายทีหลัง มันหน้าอายมาก เมื่อเรื่องนี้แม่แฟนก็ไม่ฟังไม่เข้าใจ เรายอมไม่อยากมีปัญหาปล่อยมาหลายครั้งหลายรอบแล้ว เป็นแบบนี้ถูกครั้ง จนเคยบอกแฟนนะว่าเราเลิกกันเถอะกลับไปหาแม่เทอแล้วให้แม่เทอหาคนทีดีคู่ควรกับเทอจะดีกว่าไหม แฟนก็ตอบว่าไม่ตลอด หนักใจมากค่ะ ไม่รุ้จะต้องทำอย่างไง จะเอาใจก็เอาไม่ถูกหรอกค่ะ ขนาดอยู่กับแฟนทีกทม.นะค่ะพ่อกับแม่เขาอยู่ต่างจังหวัด ยังขนาดนี้ ถ้าเป็นนี้ต่อไปคงจะได้หนีไปแบบไม่ต้องบอกแฟนเลยค่ะ ชีวิตไม่มีความสุขเลยค่ะ ช่วยแนะนำหน่อยค่ะ ใครเคยเจอแบบนี้มาบ้าง