“เพื่อไทย” ชี้ รัฐต้องเตรียมหาทางรับมือ หลัง ‘ทรัมป์’ เตรียมออกมาตรการตอบโต้ 16 ประเทศ ย้ำ ตราบที่ยังไม่มีความชัดเจนเรื่องเลือกตั้ง จะลำบากอีกเยอะ
เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เตรียมออกมาตรการตอบโต้ 16 ประเทศ ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกาโดยมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วยว่า รัฐบาลต้องเร่งศึกษารายละเอียด เพื่อเตรียมหาแนวทางรับมือโดยเร่งด่วน ก่อนที่สหรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆ กับไทย เพราะสหรัฐเป็นตลาดส่งออกหลัก สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของไทยมีมากที่เป็นปัญหากับสหรัฐขณะนี้ ซึ่งสหรัฐอาจหยิบยกมากำหนดเป็นมาตรการใช้กับไทย หรือไม่ปลดไทยออกจากการถูกจับตามอง เช่น ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่สหรัฐจัดสถานะของไทยให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับเบิ้ลยูแอล) ต่อเนื่องมาเกือบ 10 ปี ปัญหาการใช้แรงงานผิดกฎหมาย การได้รับสิทธิพิเศษทางศุลกากร(จีเอสพี) ที่สหรัฐอาจตัดสิทธิสินค้าบางรายการ สินค้าไทยบางรายการถูกสหรัฐใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุนการทุ่มตลาด รวมถึงประเด็นทางการเมือง ทั้งด้านการรูปแบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงรายงานดัชนีความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศต่างๆของธนาคารโลกที่ระบุ ในช่วงที่ผ่านมาระบบราชการไทยถอยหลัง อยู่อันดับรั้งท้ายของอาเซียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต คุณภาพของระบบราชการไทยลดลงกว่าร้อยละ 30 ขณะที่ระบบราชการของประเทศเพื่อนบ้านมีความก้าวหน้ามากขึ้น ที่สำคัญโรดแมปที่จะกลับสู่การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากไม่มีความชัดเจน โรดแมปถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก โดยไม่มีกำหนดเวลา ไม่มีความชัดเจน เชื่อว่าจะลำบากอีกเยอะ และจะมีผลกระทบหรือมาตรการในทางลบต่อประเทศตามมาอีกมาก
JJNY : เพื่อไทย” ชี้ รัฐต้องเตรียมหาทางรับมือ ‘ทรัมป์’
เมื่อวันที่ 5 เมษายน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รักษาการรองโฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เตรียมออกมาตรการตอบโต้ 16 ประเทศ ที่เกินดุลการค้ากับสหรัฐอเมริกาโดยมีประเทศไทยรวมอยู่ด้วยว่า รัฐบาลต้องเร่งศึกษารายละเอียด เพื่อเตรียมหาแนวทางรับมือโดยเร่งด่วน ก่อนที่สหรัฐจะดำเนินมาตรการใดๆ กับไทย เพราะสหรัฐเป็นตลาดส่งออกหลัก สิ่งที่เป็นจุดอ่อนของไทยมีมากที่เป็นปัญหากับสหรัฐขณะนี้ ซึ่งสหรัฐอาจหยิบยกมากำหนดเป็นมาตรการใช้กับไทย หรือไม่ปลดไทยออกจากการถูกจับตามอง เช่น ปัญหาการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา ที่สหรัฐจัดสถานะของไทยให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองเป็นพิเศษ (พีดับเบิ้ลยูแอล) ต่อเนื่องมาเกือบ 10 ปี ปัญหาการใช้แรงงานผิดกฎหมาย การได้รับสิทธิพิเศษทางศุลกากร(จีเอสพี) ที่สหรัฐอาจตัดสิทธิสินค้าบางรายการ สินค้าไทยบางรายการถูกสหรัฐใช้มาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และการอุดหนุนการทุ่มตลาด รวมถึงประเด็นทางการเมือง ทั้งด้านการรูปแบบการปกครองที่ไม่เป็นประชาธิปไตยปัญหาการละเมิดสิทธิมนุษยชน รวมถึงรายงานดัชนีความเสี่ยงทางการเมืองในประเทศต่างๆของธนาคารโลกที่ระบุ ในช่วงที่ผ่านมาระบบราชการไทยถอยหลัง อยู่อันดับรั้งท้ายของอาเซียน ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต คุณภาพของระบบราชการไทยลดลงกว่าร้อยละ 30 ขณะที่ระบบราชการของประเทศเพื่อนบ้านมีความก้าวหน้ามากขึ้น ที่สำคัญโรดแมปที่จะกลับสู่การเลือกตั้งในระบอบประชาธิปไตย มีรัฐบาลที่มาจากการเลือกตั้ง หากไม่มีความชัดเจน โรดแมปถูกเลื่อนแล้วเลื่อนอีก โดยไม่มีกำหนดเวลา ไม่มีความชัดเจน เชื่อว่าจะลำบากอีกเยอะ และจะมีผลกระทบหรือมาตรการในทางลบต่อประเทศตามมาอีกมาก