เเชร์ประสบการณ์ขอวีซ่าท่องเที่ยวออสเตรเลีย เเบบเเฟนสปอนเซอร์ให้ พร้อมวีธีเตรียมเอกสารแบบเป๊ะปัง!

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่าค่ะ พอดีเราคบกับแฟนชาวออสเตรเลียมา 5 ปี แล้วเราทำเรื่องขอวีซ่าไปหาเค้าที่ออส แล้วเรากังวลว่าจะไม่ผ่าน แต่ด้วยความตั้งใจและความรอบคอบในการเตรียมเอกสาร ทำให้วีซ่าเราผ่านค่ะ *กรณีของเราเป็นกรณีที่ค่อนข้างเสี่ยงในการถูกปฏิเสธวีซ่า แต่เรายังสามารถทำให้ผ่านได้ อยากมาเเชร์ประสบการณ์ค่ะเผื่อใครกำลังอยากหาข้อมูลกรณีเดียวกันหรือคล้ายๆ กัน

เหตุผลที่คิดว่าไม่น่าได้วีซ่าก็คือ
- แฟนเราเป็นออสซี่ อายุ 21 ปี
- เราอายุ 21 ปี เรียนอยู่ปี 2 และพึ่งดรอปเรียนไปเมื่อไม่นานมานี้
- เราว่างงาน
- เราไม่ได้ยื่นหลักฐานทางการเงินของเราเลย เนื่องจากลืม 55555 ลืมจริงๆ ค่ะ เพราะมัวแต่ไปเตรียมอย่างอื่น
- ไม่คิดว่าหลักฐานยืนยันที่จะกลับมาไทยแน่นอนแข็งแรงพอจะทำให้วีซ่าผ่านได้

แต่วีซ่าเราผ่านค่ะ เลยจะมาแชร์เอกสารเพิ่มเติมที่เราได้ยื่นไป

ก่อนอื่นเลยเราจะไม่ขอพูดถึงเอกสารทางการที่รู้ๆ กันอยู่แล้วนะคะ เช่น พวกฟอร์ม 1419 หรือ สำเนาเอกสารต่างๆ คิดว่าใครจะขอวีซ่าควรรู้อยู่แล้วว่าเอกสารที่จำเป็นต้องมีอะไรบ้าง หรือไม่ก็เข้าไปที่กระทู้นี้นะคะ [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้https://pantip.com/topic/30901948 จขกทของกระทู้นี้รีวิวเรื่องเอกสารไว้อย่างละเอียดแล้ว (ขออนุญาตินำลิ้งกระทู้มาลงนะคะ)

**นอกเหนือจากเอกสารจำเป็นพวกนั้นแล้ว ตั้งแต่บรรทัดนี้ไป จะเป็นเอกส่รเพิ่มเติมของผู้เป็น sponsor และเอกสารที่เราเพิ่มเข้าไปค่ะ**

เริ่มจากเอกสารในส่วนที่เเฟนเราส่งมาให้ก่อนนะคะ มีดังนี้ค่ะ

1. เอกสารทางการเงินของแฟน (sponsor)
อันนี้สำคัญที่สุดนะคะ ควรย้อนหลังอย่างน้อย 6 เดือน ให้เห็นที่มาที่ไปของเงินให้ชัดเจน และมียอดเงินเพียงพอที่จะครอบคลุมค่าใช้จ่ายให้เราตอนที่อยู่ในออสเตรเลีย (แฟนเราทำงานประจำเลยมีเงินเก็บจำนวนหนึ่งค่ะ)

2.ใบรับรองการทำงานของแฟน (sponsor)
อันนี้ก็สำคัญค่ะเพราะจะเป็นตัวช่วยการันตีว่า sponsor มีงานทำจริงๆ

3. Pay slip
ใบรับรองการจ่ายเงินเดือนของ sponsor อันนี้ก็สำคัญอีกเช่นกัน เพราะจะช่วยทำให้สถานทูติเห็นว่า sponsor มีรายรับมาจากการทำงานจริงๆ

4.จดหมายเชิญ
เพื่อความชัวร์ควรมีจดหมายเชิญค่ะ เขียนประมาณว่า เป็นแฟนกัน รู้จักกันยังไง รู้จักกันตัเงแต่เมื่อไหร่ อยากให้เราไปหาเขาที่ออสเตรเลีย จะช่วยดูแลเรื่องที่พัก/ค่าใช้จ่าย ประมาณนี้ค่ะ
****จดหมายเชิญเนี่ยยย ไม่จำเป็นต้องส่งมาทางไปรษณีย์เท่านั้นนะคะ สามารถเขียนใส่กระดาษแล้วสแกนส่งมาได้ค่ะ แล้วเราก็เอาไปปริ้นได้เลย****

5. สำเนาpassport ของ sponsor
สำคัญมากค่ะ ควรมีหน้าเเรก และทุกหน้าที่มีตราประทับ ไปไหนมาบ้าง มาไทยกี่ครั้ง สแกนให้หมดค่ะ
**** เช่นเดียวกันคือให้แฟนสแกนแล้วส่งมาค่ะ แต่ย้ำนิดนึงค่ะว่า ควรเซนกำกับทุกสำเนาเอกสาร จะดูน่าเชื่อถือยิ่งขึ้นค่ะ****

6. รูปถ่ายที่พักแฟน
อันนี้ไม่จำเป็นแต่เราคิดว่าใส่ๆ ไปก็น่าจะช่วยไรได้บ้าง 5555
และทั้งหมดนั้นคือส่วนที่แฟนต้องทำค่ะ


ส่วนของเรานั้นเราเตรียมเอกสารยืนยันความสัมพันธ์ค่ะ

1. จดหมายแนะนำตัว
เราเขียนรายละเอียดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ ว่าทำไมเราจึงอยากไปออส คบกับแฟนมากี่ปีแล้ว บลาๆๆ แล้วแนะนำตัวเองว่าตอนนี้อยู่ที่ไหนทำอะไรอยู่

2. รูปถ่ายคู่กัน
อันนี้เราสนุกมากก นั่งเลือกรูปสนุกเลย จัดอัลบั้ม ปริ้นออกมา แล้วเขียนบรรยายว่านี่ถ่ายที่ไหน ไปเที่ยวไหนกันมาบ้าง

3.บทสนทนาออนไลน์ และ video call
ตอนเราอยู่ห่างกันมีเเชทคุยกันก็ก๊อปแคปหน้าจอปริ้นใส่กระดาษไปเลยค่ะ
จากนั้นก็เตรียมเงิน เตรียมใจมุ่งหน้าไปขอวีซ่าเลยค่ะ
เรารออยู่ประมาณ 10 วัน สถานทูติไม่โทรมาสัมภาษณ์ด้วยค่ะ (แอบกังวล ;_; ไม่โทรมาจะผ่านม้ายยยยยย)

แต่แล้ววววววววว
ความเป๊ะในการเตรียมเอกสารบวกกับความตั้งใจของเรากับแฟนก็เห็นผลค่ะ VISA เราผ่าน ได้วีซ่า single entry มา 3 เดือนค่ะ อึ้งมากก ดีใจมากกก

โดยส่วนตัวแล้วเราคิดว่าที่วีซ่าเราผ่านเพราะ
- เราเขียนแนะนำตัวถึงความตั้งใจจริงของเรา
- เรากับเเฟนคบกันแบบจริงจังมา 5 ปีค่ะ แล้วแฟนเรามาหาเราที่ไทย 4 ครั้ง
- เราเคยไปเที่ยวตปท.มาแล้วเราไม่เคยอยู่เกินกำหนดวีซ่าเลยสักครั้ง
ทั้งหมดนี้เลยทำให้ความตั้งใจของเราประสบผลสำเร็จค่ะ


สุดท้ายนี้อยากจะฝากไว้อย่างนึงคือ การขอวีซ่าควรมีความสัตย์จริงค่ะ จะไปทำอะไรก็บอกไปตรงๆ มีหลักฐานอะไรที่ดูน่าเชื่อถือ เอามายื่นให้หมด ทางสถานทูติเค้ายินดีรับอยู่แล้ว และที่สำคัญที่สุดคือห้ามอยู่เกินวีซ่าเด็ดขาดเเสดงให้เห็นว่าตัวเองนั้นมีจุดประสงค์ที่ดีที่จะเข้าประเทศจริงๆ


ผิดพลาดประการใด ต้องขออภัยด้วยค่ะ
และหวังว่าจะมีประโยชน์แก่หลายๆ คนนะคะ


P.S. นี่เป็นเพียงกรณีของเราเท่านั้น เรากับแฟนมีความสัมพันธ์ที่จริงจัง แล้วมีหลักฐานยืนยันน่าเชื่อถือถึงได้วีซ่ามา และยังคบกันมานานถึง 5 ปี สำหรับคู่อื่นๆ ที่พึ่งคบกันหรือยังไม่มีหลักฐานที่หนักแน่นพอก็อาจรอเวลาให้อะไรๆ ลงตัวสักหน่อยก็ได้ค่ะ แล้วค่อยรวบรวมเอกสารไปขอ
ยังไงก็ขอเป็นกำลังใจให้นะคะ สู้ๆ ค่ะ