ว่างเว้นไม่ได้เขียนกระทู้เดือนเศษ เพราะต้องเคลียร์ธุระส่วนตัวให้เสร็จ

เดือนนี้จะได้พักผ่อนทั้งเดือน

วันนี้เป็นวัน "เช็งเม้ง หรือ ชิงหมิง 清明" ซึ่งถือเป็นวันสำคัญวันหนึ่งของชาวจีน

เพราะถือเป็นวันที่แสดงออกของความกตัญญูที่ลูกหลานมีต่อ "บรรพบุรุษ"


เช็งเม้ง เป็นชื่อ 1 ใน 24 ช่วงเวลาใน 1 ปี โดยยึดหลักการโคจรรอบดวงอาทิตย์ของโลก ดังรูป




จากรูปเราจะเห็นว่า ในวงกลมวงหนึ่งจะมี 360 องศา ถ้าเราแบ่งเป็น 24 ช่วงเวลา

แต่ละช่วงจะห่างกัน 15 องศา คิดเป็นช่วงเวลา แต่ละช่วงจะห่างกัน 15 วัน 5 ชั่วโมง 15 นาที


การนับปฏิทินแบบนี้จะเริ่มต้นที่วัน"ตงจื้อ หรือ ตังโจ่ย 冬至" ซึ่งเป็นวันที่โลกอยู่ห่างจากดวงอาทิตย์มากที่สุด

และเป็นวันที่วงโคจรทำมุม 270 องศากับดวงอาทิตย์ และเมื่อนับไปอีก 105 - 106 วัน จากวัน ตังโจ่ย

ก็จะถึงวัน "เช็งเม้ง" ซึ่งปกติจะตรงกับวันที่ 4 หรือ 5 เมษายนของทุกปี


ในสมัยชุนชิว (ช่วงนั้นอยู่ในราชวงค์ โจว แต่ขุนศึกตั้งตัวเป็นใหญ่ จึงแบ่งเป็นร้อยกว่าประเทศ)

ฉงเอ๋อ เป็นเจ้าชายแคว้น จิ้น  หนีภัยแม่เลี้ยงที่คิดร้าย หลบหนีไปต่างประเทศ

มีคนสนิทติดตามไปด้วยหลายคน ครั้งหนึ่ง ไปตกอยู่ในที่ลำบาก ไม่มีอาหาร คนติดตามคนหนึ่งชื่อ "เจี้ย จื่อ ทุย 介子推"

ได้เฉือนเนื้อตัวเองไปให้ องค์ชาย ฉงเอ๋อ กิน จึงผ่านวิกฤตนั้นไปได้



ฉงเอ๋อ ลำบากอยู่ต่างแดนถึง 19 ปี ได้รับความช่วยเหลือจากหลายประเทศ

จึงกลับไป รปห ที่บ้านเกิดจนได้เป็นอ๋อง


เมื่อถึงคราวปูนบำเหน็จ ฉงเอ๋อ ลืม เจี้ย จื่อ ทุย ต่อเมื่อนึกได้ เจี้ย จื่อ ทุย ก็หายไปแล้ว

จึงส่งคนตาม เมื่อทราบที่อยู่จึงให้คนเชิญมารับตำแหน่ง แต่ เจี้ย จื่อ ทุย ไม่เพียงแต่ไม่ยอมมา

กลับแบกแม่ตัวเองขึ้นไปหลบซ่อนบนภูเขา คราวนี้ ฉงเอ๋อ ซึ่งปราบดาภิเษกเป็น "จิ้น เหวิน กง 晋文公" มาด้วยตนเอง


เนื่องจากภูเขาลูกนั้นใหญ่ การค้นหาจะใช้เวลามาก ขุนนางคนหนึ่งจึงแนะนำให้เผาภูเขา แต่เปิดทางลง 1 ด้านไว้

จิ้นอ๋องเห็นด้วยจึงสั่งให้เผา  แต่คิดไม่ถึงเลยว่า เจี้ย จื่อ ทุย ไม่ยอมลงมา

เมื่อไฟมอด จิ้นอ๋อง ขึ้นเขาไปพบซากศพ เจี้ย จื่อ ทุย กับแม่ โอบต้นไม้โดนไฟคลอกตาย





ด้วยความเสียใจ จิ้นอ๋อง เลยออกคำสั่งว่า นับตั้งแต่นี้ ให้ทุกวันครบรอบวันตายของ เจี้ย จื่อ ทุย

ห้ามทุกคนก่อไฟ แม้กระทั่งไฟในเตาก็ห้ามก่อ จึงเป็นที่มาของคำว่า "เทศกาลอาหารเย็น"

และบังเอิญวันนั้นตรงกับวันก่อนเทศกาลเช็งเม้ง 1 วัน ต่อมาจึงผนวก 2 เหตุการณ์นี้เข้าด้วยกันเข้าด้วยกัน

จึงเป็นที่มาของคำว่า "เทศกาลเช็งเม้ง ต้องทานอาหารเย็น"



และด้วยความอาลัยในตัว เจี้ย จื่อ ทุย จิ้นฮ๋อง ได้เอาต้นไม้ต้นนั้นมาทำเป็น เกี๊ยะ 木屐

เพื่อที่เวลาเดินจะมีเสียง ต๊ก ต๊ก และ จิ้นอ๋อง ก็จะรำพันว่า โอ้!!! ใต้เท้า...เจี้ย จื่อ ทุย

ซึ่งต่อมาคำว่า "ใต้เท้า 足下" จึงเป็นสรรพนามบุรุษที่ 2 ที่ยกย่องคู่สนทนา


ในปีค.ศ 1976 ที่ประเทศจีน

ปีนั้น นายกรัฐมนตรี โจว เอิน ไหล 周恩来　ถึงแก่อสัญกรรม และยังอยู่ในช่วงปฏิวัติวัฒนธรรม 文化大革命

แก้งค์ 4 คน 四人邦เรืองอำนาจ  แต่ประชาชนเกลียดแก้งค์นี้มาก


ในช่วงวัน เช็งเม้ง ประชาชนซึ่งอาศัยอยู่ในนครปักกิ่ง อ้างการไว้อาลัยนายก โจว เอิน ไหล

ถือโอกาสมาชุมนุมที่จัตุรัส "เทียน อัน เหมิน 天安门"

ประมาณ 2 ล้านคน เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยต่อนโยบาย ปฏิวัติ วัฒนธรรม และต่อต้าน แก้งค์ 4 คน





ภายหลังเหตุการณ์นี้ แก้งค์ 4 คน กล่าวหา เติ้ง เสี่ยว ผิง 邓小平อยู่เบื้องหลังการชุมนุม

จึงอ้างคำสั่งประธาน เหมา เจ๋อ ตง 毛泽东　ปลด เติ้ง ออกจากทุกตำแหน่ง

และด้วยเหตุนี้ แก้งค์ 4 คนยิ่งเป็นที่รังเกียจของประชาชน และนับจากนี้ไปเพียง 6 เดือน

ในวันที่ 6 ตุลาคม 1976 แก้งค์ 4 คน ก็ถูกกำจัด จีนก็เจริญก้าวหน้ามาทุกวันนี้


ป.ล  รายละเอียดปลีกย่อย ไว้เขียนในเม้นท์ย่อย เพราะบางเรื่องละเอียดอ่อน

ป.ล 2 การกำหนดปีหนึ่งมี 24 ช่วงเวลา ภาษาอังกฤษใช้คำว่า solar term

ป.ล 3 ใครชอบประวัติศาสตร์ พรุ่งนี้ถ้ามีเวลาจะเขียนเรื่อง "กบฏเมษาฮาวาย" กับ "กบฏน้ำลาย"