[CR] เอราวัณ สุดสวิงริ้งโก้ 1500 บาท เหลือๆ ~

ทริปนี้ของเรา เราตั้งเป้าหมายไว้ว่า :
ลักษณะการท่องเที่ยว: กินง่าย อยู่ง่าย อเวนเจอร์นิดๆ
ระยะเวลาทริป:  1 คืน 2 วัน
งบประมาณ: (ไม่เกิน) 1500 บาท
การเดินทาง: ขับรถไปเอง
จำนวนผู้ร่วมทริป: 4 คน


เวลา 04:15 น. ของเช้าเสาร์  เราเริ่มออกเดินทางจาก นครรังสิต แห่งปทุมธานี
โดยเส้นทางที่เราเลือกใช้ คือ เส้นทางหลวงหมายเลข 9 > แยกทางหลวงหมายเลข 340 > ยิงยาวทางหลวงหมายเลข 346 ไปเรื่อยๆ > เลี้ยวขวา เข้า 367 > แหละถนนเป้าหมายของเรา คือเส้นทางหลวงหมายเลข 3199 Here we go !!
คำแนะนำ ถ้า ง ง กรูเกิลเมพเถอะพวก 555555

ข้อดีของการออกเดินทางตอนเช้า คือ เราเข้าเส้นทางหลวงสาย 3199 ตอนประมาณ 6:20 น. เราได้เห็นการเริ่มต้นของชีวิต ของหมู่บ้าน พระเดินบิณฑบาต มียายยืนถือหม้อรอตักบาตรหน้าบ้าน ชีวิตเอื้อยเฉื่อยของชนบทที่ไม่เร่งรีบ อากาศดีๆตอนเช้า แสงแดดอ่อนที่เพิ่งจะแง้มตัวออกจากเส้นขอบฟ้า จนทำให้เราอดไม่ได้ที่จะลดกระจกลง สัมผัสอากาศด้านนอกและลดความเร็วของการรถเหลือสักประมาณ 60-70 กม/ชม
โอ้ยยยยยยยยยยยยย ฟินนนน ~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~~

เวลา 07:30 น. เรามาถึงเขื่อนศรีนครินทร์ ด้วยช่วงเวลาที่เรามาถึงค่อนข้างที่จะเช้ามากกกกกกกกก อากาศดีมาก   และคนน้อย เราจึงรีบวิ่งไปเก็บภาพร่างวัลแห่งการตื่นเช้ากันหน่อย   แชะ แชะ รูปที่ท่านจะได้ชมต่อจากนี้เป็นนภาพที่ถ่าย ด้วย iphone se จน ต้องจนให้สุด 55555555  
คือบับ มีดีงามมมมมมากกกกก เจ้าค่า =3=
ถ่ายมันไปรัวๆ แต่เดี๋ยวจะหาว่าเที่ยวแบบกะโหลกกะลา
เข้าสู่ช่วงสาระมีอยู่จริงกันนิดนึงเนอะ เพื่อออออ อรรรถรส !

>> เขื่อนศรีนครินทร์เป็นเขื่อนประเภทหินถมแกนดินเหนียวที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย มีความสูงจากฐานราก 140 เมตร สันเขื่อนยาว 610 เมตร กว้าง 15 เมตร พื้นที่อ่างเก็บน้ำ 419 ตารางกิโลเมตร มีความจุมากเป็นอันดับหนึ่งคือ 17,745 ล้านลูกบาศก์เมตร โรงไฟฟ้าเป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ติดตั้งเครื่องกำเนิดไฟฟ้าจำนวน 5 เครื่อง เครื่องที่ 1-3 กำลังผลิต เครื่องละ 120,000 กิโลวัตต์ เครื่องที่ 4-5 เป็นเครื่องกำเนิดไฟฟ้าระบบสูบกลับ กำลังผลิตเครื่องละ 180,000 กิโลวัตต์ รวมกำลังผลิตทั้งสิ้น 720,000 กิโลวัตต์

งานก่อสร้างเขื่อนศรีนครินทร์เริ่มเมื่อปี พ.ศ. 2516 แล้วเสร็จในปี พ.ศ. 2523 พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดชได้พระราชทานพระบรมราชานุญาตให้เชิญพระนามาภิไธยสมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนีมาขนานนามเขื่อน และเสด็จพระราชดำเนินพร้อมด้วยสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ไปทรงเปิดเขื่อนเมื่อวันที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2524<<

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้Credit: https://th.wikipedia.org/wiki/%E0%B9%80%E0%B8%82%E0%B8%B7%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%A8%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B9%8C
สองฝั่งของเขื่อนมีลักษณะต่างกัน อีกฝั่งเป็นภูเขาสลับซับซ้อน
.
.
.
และอีกฝั่ง


ฟิน ฟิน ฟิน ยาวไปปปนนะทุกท่านนน
เวลา 08:00 น. แวะทานข้าวเช้าที่ตลาดก่อนขึ้นน้ำตกเอราวัณ เราอัดพลังงานในการเดินป่าครั้งนี้ไปอย่างเต็มที่!!!
และซื้อของตุนไปครบครัน  ไม่อดตายแน่นวนนนน

เวลา 08:30 น. และแล้วเราก็มาถึง อุทยานแห่งชาติเอราวัณ บราโววววววววว่ ทำการเชคอินเข้าโรงแรม 5 ดาวของเรา โดย-ทำการจองผ่านเว็บไซต์ http://nps.dnp.go.th/ โดยเราจองก่อนเข้าที่พักมา 1 วัน ยื่นบัตรประชาชนและจ่ายหลังจากเชคเอ้าท์
Here we go !!!
พอไปถึงเราไม่มัวรีรอ รีบเบิกที่นอน จองเต๊น และเตรียมขอที่จำเป็นยัดใส่เป้ แล้วเตรียมออกเดินทาง
เนื่องจากน้ำตกแต่ละชั้นมีเวลาการปิดทำการที่แตกต่างกัน  โดย น้ำตกชั้น 7 จะปิดเร็วสุด ประมาณ 15:30 น. เนื่องจากจะต้อง รีบ flow คนลงมา ก่อนพระอาทิตย์จะตกดินน (เจ้าหน้าที่ได้กล่าวไว้)
ดังนั้นเราแนะนำให้ท่านไปชั้น 7 ก่อน นะครับทุกท่านที่รัก
ระหว่างทางที่เดินขึ้นทางค่อนข้างที่จะ โหด แต่กก็ไม่ถือว่าแย่มาก แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็เล่นเอาเราหอบบบบบบบบบบบกันเลยที่เดียว 5555555เอาซะ ไม่กล้านั่งพักเลย เดี๋ยวเสียเกียรติ พลังเยอะจริงๆ ลุง ป้า =,= และแล้ว
Finally ………ชั้นเจ็ดแล้วโว้ยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย
งูยยยยยยยยยย ที่นี่ ที่ใหน สวรรค์รึป่าววว
น้ำฟ้า เย็นเหมือนแช่น้ำแข็งมือ คือฟิน  แต่ยิ่งกว่าน้ำฟ้านั่นคือ ฝรั่ง โอ้ยยยยยย นิพพานนน
ชั้นจะอยู่ตรงนี้ !!!!! 555555555

ชั้นโดนแย่งซีนนนนนนนน ใหนบอกห้ามใส่ทูพีซไง  เอาทูพีซมา!
เล่นไปได้ซักพักใหญ่ ท้องก็เริ่มร้อง ครวญคราง แหะๆๆ ถึงเวลาต้องบอกลา บรรดา ฝ และสวรรค์ชั้น 7 แล้วหล่ะ บรัย
ด้วยความหิวดังพายุ เราจึงไม่ได้เล่นทุกชั้นน ต้องขอโทดเพื่อนชาวพันทิปด้วยนะค่ะ
ก็เพราะความหิวมันห้ามไม่ไหว มันห้ามไม่ไหวววว ~~~ =3=สภาพหลังเล่นน้ำ ยับ
แต่ด้วยอากาศเมืองไทย ซักพักก็แห้ง
ขาลง ย่อมเร็วก็ขาขึ้นเสมอ พักแปบ ไม่ต้องเร่งรีบมาก เก็บรูปยาวไปปแชะ แชะ ชาวต่างชาติถือว่าค่อนข้างเยยอะเลยที่เดียว อะเมซิ่งไทยแลนด์ไหมยู เอนจอย ! ^^
ชั้นอื่นก้ออลังการเช่นกัน
ก่อนจะจบบอกลาน้ำตกที่สวยที่สุดในประเทศไทย ขอโดดน้ำและ แชะ ภาพอีกซักรอบนะฮะ เวลาประมาณ 16:30 น. เราเดินทางมาถึงที่พักพอดี ก็อาบน้ำ ปะแป้ง แต่งตัว เสร็จเรียบร้อย ก็เตรียมตัวรับประทานอาหารเย็นกัน โดยเราขับรถไปซื้อหมูกระทะ ที่ตลาดใกล้ๆ
แต่ก่อนกลับเป็นเวลาแห่งการบอกลาพระอาทิตย์พอดี
เราจึงเลือกที่จะไปบอกลาที่ที่เดียว ที่เราสวัสดีทักทายในวันนี้ นั่นคือ เขื่อนศรีนครินทร์  บรูยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยยย

คุ้มไปอีกกกกกก
เวลา 18:30 น. พอเสร็จจากการส่งดวงอาทิตย์ไปขึ้นอีกฝั่ง เราก็กลับมาที่โรงแรมห้าดาวเพื่อทำการดินเนอร์ ครั้งใหญ่

โรงแรม 5 ดาวของเราในคืนนี้
*** ขออภัยท่านผู้อ่านทุกท่าน เนื่องจากโรงแรมของเราไม่มี ปลั๊กไฟ และเรามี Power bank เหหลือเพียง 1 ขีด ทำให้ไม่สามารถเก็บภาพช่วงกลางคืนมาได้เลย TT จบข่าว 555555 ***
ตื่นเช้า เช้าวันไหมของวันอาทิตย์
เวลา 07:30 น. เราตื่น ไม่ใช่เพราะความขยันขันแข็งแต่อย่างใด  แต่เพราะแสงอาทิตย์ปลุกเราให้ตื่นจากภวังค์ ด้วยพลังแห่งแสงและความร้อนที่สาดส่องเข้ามา
ตื่น ตื่น ตื่น ก็ด้ายยยยยย =.=  ก็ไม่แย่กับการตื่นเช้า ขึ้นมา เจอกับดวงอาทิตย์ที่ขึ้นเหยือยอดภูเขาตรงกับข้ามกับเต๊นของเราพอดีเป๊ะ พร้อมด้วยหมอกอ่อนๆที่ลอยอยู่เหนือน้ำแควใหญ่ แสงแดดดอ่อนๆยามเช้าสาดส่องมาพอดิบพอดีกับหน้าต่างของเต๊นเรา
แสงสีส้มเหลืองอ่อน ของแดด สีเขียวของต้นไม้ริมแม่น้ำ สีครามของแม่น้ำแควไหญ่ สีขาวของหมอก
ฟิน ฟิน ฟิน ฟิน ไม่ไหวล้าวววววว

เวลา 10:00 น. อาบน้ำ แต่งตัว เรียบร้อย ก่อยจะเดินทางบะบายน้ำตกสุดอลังการแห่งนี้
สถานีต่อไป ............ วัดถ้ำกระแซะ และรถไปสายมรณะ
อัดน้ำมันให้เต็มถังขับรถไปเรื่อย ตามกรูเกิลแม๊พ ตามถนนสาย    ประมาณ 1 ชั่วโมงเราก็มาถึง