
สวัสดีครับวันนี้ไอ้แว่นขาวขอพาเพื่อนๆไปเที่ยวเมืองเบอร์เกนเมืองท่าทางตะวันตกของนอร์เวย์ พอดีเมื่อปีก่อนผมเดินทางไปล่าแสงเหนือที่ไอส์แลน ก่อนกลับไทยก็แวะเที่ยวนอร์เวย์สักนิดนึง เมืองเบอร์เกนถือว่าเป็นเมืองท่าที่ใหญ่ที่สุดในนอร์เวย์และเรียกได้ว่าเป็นเมืองท่าสำคัญของยุปโรปเลยทีเดียว เป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองรองจากกรุงออสโลเมืองหลวงนั้นเอง อันมีคนบอกว่าเมืองนี้ฝนตก 240 ต่อปีเรียกได้ว่าอยู่สามวันฝนตกสองวัน แต่สำหรับผมแล้วโชคเข้าข้างผมครับ ฟ้าเปิดไม่มีฝนเลย วันนี้เป็นหนึ่งในร้อยกว่าวันที่ฝนไม่ตก

สำหรับการเดินทางไปเบอร์เกนนั้นเดินทางไปได้หลายวิธี จะเลือกรถไฟ เครื่องบิน ขับรถ หรือ เรือ สำหรับผม ผมเลือกที่จะเดินทางโดยรถไฟจากกรุงออสโล โดยรถออกจากกรุงออสโลตอนกลางคืนถึงเบอร์เกนเช้าพอดีเลย ค่ารถไฟถูกแถมยังประหยัดโรงแรมไปอีกหนึ่งคืน แต่เอาจริงๆนอนไม่ค่อยสบายเท่าไรนะครับ แม้ที่นั้งจะว่างผมซื้อตั๋วเป็นตู้นั้ง เบาะปรับไม่ได้

ปวดหลังชะมัด จากต้นทางกรุงออสโซตอนห้าทุ่ม ถึงเบอร์เกนช่วงเจ็ดโมงพอ บรรยากาศยังเช้ามาก เมืองยังเงียบอยู่เลยครับ ผมก็ฝากกระเป๋าล๊อกเกอร์ในสถานีรถไฟ แล้วก็ออกไปเดินเลยในเมืองก่อน เนื่องจากยังไม่สามารถเช็คอินที่โรงแรมได้

ไฮไลท์ของเมืองนี้คือบริเวณท่าเรือ ซึ่งมาร้านค้ามายมากรวมไปถึงจุดสำคัญของเมืองคือ บรีเก็นซึ่งเป็นกลุ่มอาคารไม้บริเวณท่าเรือบางหลังจะใช้งานเป็นคลังสินค้าสมัยก่อน ซึ่งมีอายุหลายร้อยปีแต่ก็มีการบูรณะมาเรื่อยๆเพื่อให้ดูใหม่อยู่เสมอ เนื่องจากเป็นอาคารไม้ เลยมีไฟไหม้หลายครั้งจนเหลือเพียง 58 หลังในปัจจุบัน ได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกซะด้วย หากมาในช่วงหน้าร้อนบริเวณท่าเรือจะมีตลาดปลาด้วยแบบกลางแจ้งด้วยนะครับ ผมมาหน้าหนาวอด

มุมจากป้อมปราการมองเข้ามาในตัวเมือง เนื่องจากเป็นเมืองเก่าแก่ เมืองจึงมีป้อมปราการไว้ป้องกันเมือง

บริเวณท่าเรือมีเรือใบจอดอยู่ด้วย เรือลำนี่เป็นเรือท่องเที่ยวนะครับ มีกิจกรรมภายในเรือ ออกแนวผจญภัยไปกับแจ๊คสแปโร่

แวะเดินเล่นบริเวณบรีเก็นแป๊ปนึง ได้บรรยากาศอาคารไม้เก่ามากๆ พื้นไม้ลั่นดังเอี๊ยดอ๊าดตลอดทาง

จากคลังสินค้าใช้เก็บของในสมัยก่อนปัจจุบันถูกปรับปรุงมาเป็นโรงแรมร้านค้าแทน ตามกาลเวลา

ร้านคาเฟ่เล็กๆในบริเวณนั้น บรรยากาศยังเงียบอยู่ครับเนื่องจากช่วงหน้าหนาว ไม่ใช่ไฮซีซั่นของที่นี้

Bryggens Museum เป็นพิพิธภัณฑ์แสดงข้อมูลเกี่ยวกับ บรีเก็นที่พาเพื่อนๆไปชมมาด้านบน โดยตัวพิพิธภัณฑ์สร้างอยู่บนซากอาคารบรีเก็นเก่าที่ถูกไฟไหม้ไปในปีคศ. 1955 ค่าเข้าชม 80 NOK ใครมีบัตรนักเรียน นักศึกษาลดครึ่งราคาเหลือ 40 NOK

ช่วงที่ผมไปเยี่ยมชม ชั้นบนสุดของพิพิธภัณฑ์มีการจัดนิทรรศการภาพถ่ายเมืองเบอร์เกน สมัยที่เกิดไฟไหม้ในเมืองครั้งใหญ่

ช่วงเย็นหลังจากเช็คอินที่โรงแรมเรียบร้อยผม เราจะเดินทางขึ้นไปจุดชมวิวที่สวยที่สุดในเบอร์เกนกันนะครับ ภูเขาลูกนี้ชื่อ Fløyen สามารถขึ้นได้โดนใช้บริการรถรางครับ หรือบางคนจะเดินก็ได้ครับ ก็แล้วแต่….. ค่าขึ้นอยู่ที่ 45 NOK ถ้าไปกลับก็ 90 NOK ไอ้แว่นขาวมันงกเลยซื้อแค่ขาขึ้นครับ จริงๆคือจะเดินกินบรรยากาศขาลง 555+

บอกเลยว่าใครมาเบอร์เกนแล้วไม่ได้มาจุดนี่ถือว่ามาไม่ถึง เป็นจุดชมพระอาทิตย์ที่สวยมาก วันนี้ฟ้าเปิดซะด้วยเข้าทางเลย
เด่วมาต่อนะครับ
[CR] ตะลุยเมือง BERGEN ในวันที่ฝนไม่ตก
เด่วมาต่อนะครับ