แชร์ประสบการณ์ work and travel ที่ (แถว) grand canyon เด้อ

hello!

สวัสดีทุกๆคน นี่ก็ใกล้จะปิดเทอมอีกรอบแล้ว คงมีหลายคนที่ตัดสินใจเข้าร่วมโครงการนี้
และหลายคนที่ยังคงลังเล หรือศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับโครงการ
เราเป็นหนึ่งในคนที่ไปเวิคมาปีที่แล้ว เลยอยากจะมาแชร์ประสบการณ์ให้ฟัง
แน่นอนว่าก่อนไป เราคาดหวังนู่นนี่นั่นเช่น ได้ฝึกทำงาน ได้เก็บเงิน ได้เที่ยว (ซึ่งเราได้กลับมาหมด!)

ขอเกริ่นก่อนสักนิดว่า 3 เดือนที่ไปอยู่กิน ทำงาน มันผ่านไปไวจนน่าใจหาย ใครไปปีนี้ก็อย่าลืมใช้มันให้เต็มที่
มันผ่านไปไวมากจริงๆ

                                     
//

งานที่เราไปทำก็คือ mcdonald’s ที่เมือง tusayan, arizona
จริงๆเมืองนี้เรียกว่าเป็นแบบแค่ทางผ่านก่อนถึงอุทยาน grand canyon
เลยทำให้ในเมืองไม่มีอะไรเลย นอกจาก ร้านอาหาร โรงแรม
เรียกได้ว่าเห็นแกรนด์แคนยอนจนเบื่อไปเลย (555)



ขั้นตอนก่อนไปแบบรวบรัดเลย
1.หาเอเจนซี่ (เราว่าจริงๆแล้วทุกเอเจนซี่ก็ดีหมด เราว่าใช้ความรู้สึกและดวงล้วนๆขั้นตอนนี้)
2.เลือกงาน ทุกงานก็สนุกไปคนละแบบ เลือกที่อยากทำที่สุด เวลาทำงานจะได้สนุก
3.สัมภาษณ์งาน ขั้นตอนนี้เราก็ว่าจริงๆแล้วนายจ้างเขาก็รับหมดนะ ขอแค่พูดภาษาเบื้องต้นได้ สื่อสารรู้เรื่องแค่นั้นเอง
4.สัมผ่านก็รอทำวีซ่าเลย จัดเตรียมเอกสาร
5.ทำวีซ่า พกความมั่นใจไป ดวง และภาษา
6.จองตั๋ว
7.บินเลยเด้อ


(พักเครื่องที่เกาหลี)

//

สิ่งที่สนุกคือ เมื่อเครื่องบินจอดถึงอเมริกานี่แหละ (เปิดเพลง party in the usa ประกอบค่ะ)
มันคือแบบเราต้องหาหนทางไปที่ทำงานอะ ซึ่งแค่หาหนทางเข้าเมือง,ไปขึ้นบัส นี่เราว่าก็สนุกแล้ว
เพราะพอเราลงถึงปุ๊ป ทุกคนก็กระจายแยกย้ายไป ตอนเราไปโชคดีหน่อยที่มีเพื่อน มันก็จะสนุกที่คอยช่วยหาหนทางไปกัน
ตอนนั้นเราโชคดีมาก เจอคุณลุงที่เคยมาเที่ยวเมืองไทยและรักประเทศไทย
คอยช่วยเหลือเต็มที่มากๆ




01

มาพูดถึงตอนเราเดินทางไปที่ทำงานดีกว่า แมคโดนอลที่เราทำงานตั้งอยู่ที่ tusayan, arizona
ขึ้นเครื่องจากไทย 5-6 ชั่วโมงถึงเกาหลี รอต่อเครื่อง และบินต่ออีก 10-12 ชั่วโมง
เราลงเครื่องที่ las vegas ต่อบัสเกรย์ฮาว ไปเมือง flagstaff,az และต่อ shuttle bus เข้าไปยัง grand canyon
ซึ่งมันเหนื่อยมาก และทรมานนนนน จากเวกัสไปอีกเมืองใช้เวลาประมาณ5-6 ชั่วโมง
ตอนไปถึงก็ตีสองแล้ว สถานีปิดหมด อากาศหนาวมาก! เมืองเล็กมาก ทุกอย่างปิด ต้องทน และรอขึ้นบัสในเช้าอีกวัน
วัดความอดทนและอึดมาก


/

พอผ่านค่ำคืนมหาโหดไปได้ ก็ขึ้นบัสต่อเข้าแกรนด์แคนยอน ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมง
แต่ตลอดข้างทางสวยมาก ยังแอบมีหิมะบนเขาไกลๆ (แค่นี้ก็ตื่นเต้นแล้ว)


อีก 1 ชั่วโมงก็ถึงเมืองที่เราอยู่ เรากับเพื่อนก็เดินเข้าไปในแมค ตอนเข้าไปก็แอบเขินหน่อยๆ
เพราะมีกระเป๋าเดินทางพะรุงพะรังมาก บวกกับน้ำก็ยังไม่ได้อาบ แถมตอนนั้นคนในร้านก็มีเยอะ
แต่เมเนเจ้อก็ใจดี พาเราไปบ้านพัก ซึ่งบ้านที่เราพักอยู่หลังแมคเลย
เดินไม่ถึงนาที บ้านที่เราอยู่มีทั้งคนไทย คนจีน และจาไมก้า
ห้องนอนเรามีรูมเมทอีกสองเป็นคนไทย มีห้องครัว และห้องนั่งเล่นไปในตัว
เราว่าสบายดี ไม่แย่เลย


//

และอย่างที่บอกว่าเรามาทำแถวๆ grand canyon สิ่งแรกที่เราทำเลยเมื่อมาถึงคือ
เก็บกระเป๋า และออกไปหาแกรนด์แคนยอนเด้อออ
วิธีไปสะดวกมากๆ ที่นี่จะมีรถบัส วิ่งรับส่งคนจากเมืองไปอุทยานตลอดเวลา
เลยทำให้ไปไม่อยากเลย ใช้เวลาประมาณ10-15 นาทีก็ถึงแล้ว! แถมฟรีด้วย (สำหรับlocal) 


ช่วงที่เราไปตรงกับฤดูร้อนพอดี คนเยอะมาก มีนักท่องเที่ยวที่เดินทางมา hiking  
แถมอากาศบางวันยังแอบร้อน (อุตส่าห์หนีร้อนมา) ถ้าใครชอบธรรมชาติ จะรักที่นี่
มันสมแล้วที่เป็นสิ่งมหัศจรรย์หนึ่งของโลก ส่วนเรามองจนเบื่อไปเลยทีเดียว ใครชอบ hiking ไม่ควรพลาด!

//

3 เดือนที่แลกกับการไม่มีสัญญาณเน็ต wifi ช้ามาก!
และซิมที่ใช้งานได้มีแค่ของ verizon ซึ่งเราไม่สามารถซื้อมาใส่โทรศัพท์ได้ (ได้แค่พวกt mobile at&t)
เหมือนอยู่แต่บนเขา ห้างไม่มีให้เดิน คือไม่มีอะไรเลย
แต่สิ่งที่เราเข้าถึงง่ายที่สุด คือธรรมชาติรอบตัว หลังบ้าน ก็เป็นป่า
ความมหัศจรรย์ของหิน ที่ถูกทับถมมาเรื่อยๆหลายร้อยปี
เราได้ไป tour อันนึง เขาเล่าให้ฟังว่า ตรงนี้เคยเป็นน้ำมาก่อน ซึ่งมันสูงมาก
ยังคงมีซากสัตว์ทะเล ปะการัง สมัยก่อนไว้อยู่
มันอัศจรรย์มากๆ เราว่ามันคุ้มมากเลย เหมือนเราได้รู้จัก
แกรนด์แคนยอนแบบคนคนนึงที่โตมากับมันเลย
ไม่ใช่แค่ในมุมนักท่องเที่ยว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่