น่าคิด !? การกลับมาขายของ SS Note 7 กับข้ออ้างเรื่องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น เกิดขึ้นเพราะ การสร้างของมนุษย์ ในสิ่งของต่างๆ ในกรณีของ SS note 7 นั้น สินค้าไม่ได้ใช้งาน หรือใช้งานแล้วในบ้างส่วน
แต่ต้องเรียกเก็บทั้งหมดเนื่องจากปัญหาความปลอดภัยจากการใช้งาน คือการระเบิดของมือถือดังกล่าว กว่าจะผลการตรวจสอบก็ใช้เวลาหลายเดือน
ว่าสาเหตุมันเกิดจากการทำงานที่ผิดพลาดของแบตเตอรี่ โดยทาง SS เรียกเครื่องกลับครั้งแรกเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว ก็ออกสู่ตลาดใหม่อีกครั้งแต่ก็ยังซ้ำรอยเดิมคือ ระเบิดเพราะแบตนั้นเอง จนต้องเรียกเก็บกลับทั้งหมด
แต่วันดีคืนดีต้องเอาเครื่องที่เรียกเก็บมาขายอีกครั้ง โดยอ้างว่า เพื่อ ลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจริงๆแล้ว ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น เกิดมานานแล้ว เมื่อสินค้าทางอิเล็กทรอกนิกส์หมดอายุก็ต้องทิ้ง แล้วเอาไปจำกัด แต่เคสของ SS Note7 นั้นไม่ใช่ เพราะสินค้ายังไม่ได้ขายเลย แต่ต้องเป็นขยะแล้ว
มันมีคุณค่าของผลิตภัณฑ์อยู่ แต่ทว่า ชีวิตและทรัพย์ของผู้บริโภคมันสำคัญกว่าหรือเปล่า
สิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญก็จริงแต่เราๆมันก็แก้ไขกันไปว่า มลพิษเกิดขึ้นก็แก้ไข แต่ทว่า ถ้าเอาออกมาขายอีกครั้ง แล้วใครกล้าที่รับประกัน เรื่องที่เกิดขึ้น
ชีวิตของผู้บริโภค หรือ ทรัพย์สินของผู้บริโภค ใครกล้ารับผิดชอบ
ดังนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง หาทางออกในเรื่องนี้ ลองไปดูเมืองนอก เช่น US ,ยุโรป ว่าให้วางขายหรือเปล่า ถ้าไม่แสดงว่า อะไร
ไม่ใช่อ้างประเทศอื่นๆละกัน เพราะมาตรฐานของ US หรือยุโรป นั้นเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค ถ้าหากไม่ปลอดภัย เค้าก็ไม่ให้ขาย หรือขายไปแล้วต้องเรียกกลับมาแก้ไข หรือ ยกเลิกการขาย
คิดให้ดี ว่า ควรที่ให้ขาย หรือ คิดให้ดีก่อนที่จะซื้อ ละกัน ฝากไว้ละกัน
น่าคิด !? การกลับมาขายของ SS Note 7 กับข้ออ้างเรื่องไม่ทำลายสิ่งแวดล้อม
ขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น เกิดขึ้นเพราะ การสร้างของมนุษย์ ในสิ่งของต่างๆ ในกรณีของ SS note 7 นั้น สินค้าไม่ได้ใช้งาน หรือใช้งานแล้วในบ้างส่วน
แต่ต้องเรียกเก็บทั้งหมดเนื่องจากปัญหาความปลอดภัยจากการใช้งาน คือการระเบิดของมือถือดังกล่าว กว่าจะผลการตรวจสอบก็ใช้เวลาหลายเดือน
ว่าสาเหตุมันเกิดจากการทำงานที่ผิดพลาดของแบตเตอรี่ โดยทาง SS เรียกเครื่องกลับครั้งแรกเปลี่ยนแบตเตอรี่แล้ว ก็ออกสู่ตลาดใหม่อีกครั้งแต่ก็ยังซ้ำรอยเดิมคือ ระเบิดเพราะแบตนั้นเอง จนต้องเรียกเก็บกลับทั้งหมด
แต่วันดีคืนดีต้องเอาเครื่องที่เรียกเก็บมาขายอีกครั้ง โดยอ้างว่า เพื่อ ลดปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งจริงๆแล้ว ปัญหาขยะอิเล็กทรอนิกส์นั้น เกิดมานานแล้ว เมื่อสินค้าทางอิเล็กทรอกนิกส์หมดอายุก็ต้องทิ้ง แล้วเอาไปจำกัด แต่เคสของ SS Note7 นั้นไม่ใช่ เพราะสินค้ายังไม่ได้ขายเลย แต่ต้องเป็นขยะแล้ว
มันมีคุณค่าของผลิตภัณฑ์อยู่ แต่ทว่า ชีวิตและทรัพย์ของผู้บริโภคมันสำคัญกว่าหรือเปล่า
สิ่งแวดล้อมนั้นสำคัญก็จริงแต่เราๆมันก็แก้ไขกันไปว่า มลพิษเกิดขึ้นก็แก้ไข แต่ทว่า ถ้าเอาออกมาขายอีกครั้ง แล้วใครกล้าที่รับประกัน เรื่องที่เกิดขึ้น
ชีวิตของผู้บริโภค หรือ ทรัพย์สินของผู้บริโภค ใครกล้ารับผิดชอบ
ดังนั้น หน่วยงานที่รับผิดชอบโดยตรง หาทางออกในเรื่องนี้ ลองไปดูเมืองนอก เช่น US ,ยุโรป ว่าให้วางขายหรือเปล่า ถ้าไม่แสดงว่า อะไร
ไม่ใช่อ้างประเทศอื่นๆละกัน เพราะมาตรฐานของ US หรือยุโรป นั้นเข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยของผู้บริโภค ถ้าหากไม่ปลอดภัย เค้าก็ไม่ให้ขาย หรือขายไปแล้วต้องเรียกกลับมาแก้ไข หรือ ยกเลิกการขาย
คิดให้ดี ว่า ควรที่ให้ขาย หรือ คิดให้ดีก่อนที่จะซื้อ ละกัน ฝากไว้ละกัน