กรอกหูทุกวัน ว่าฟองสบุ่อสังหาจะแตก บ้านคอนโด ราคาจะลง.. มันลงซะที่ไหน บ้านชานเมืองสร้างในป่า-บ่อปลา ราคา 6 ล้าน เลย
อย่าง ปากน้ำ สมุทรปราการ
พวกนักวิชาเกิน เป่าหู พูดกรอกหูทุกวัน
ว่าต่อไปน้ำท่วม ไม่เกิน 10 ปีจะ กินหายเข้ามาถึง สำโรง กินไปถึง บางพลี
ผ่านมา จากประถม จบ ป 6 ประจำจังหวัด เรียนอยู่ตลาดปากน้ำ มองเห็นเรื่อเข้าออกทุกวัน
คิดเรื่อง อำนาจทางทะเล และ การมีสายการเดินเรือแห่งชาติ และการขยายท่าเรือว่าทำไมต้องเข้า ท่าเรือคลองเตย
ไม่เข้าที่ฝั่งตะวันออก แล้วเอาขึ้นรถไฟ วิ่งส่งไปภาคต่าง ลดการจราจรใน กทม.
มอต้น มอ ปลาย มันก็พูดอีกว่า ท่วมๆๆๆ แน่ๆ ไม่เกิน 10 ปี
ทีดินแถว บางบ่อ ตอนนั้น 100 วา ราคา 1 แสนบาท วาละ 1000 บาท ถือว่าแพงละ..
สมัยนี้วาละ 15000 บาท. จาก ปี 2534 ถึง. ปีนี้นะ ถ้าไปซื้อหุ้นพอเจอปี 2540 คงโดนไปละ
แถมยังมีก็ยังมีถนน ศรีนครินทร์ ตัดมาถึง แยกการไฟฟ้า เชื่อม ถนน สุขมวิท
ผมไปเรียน มอต้น ร ร ส.ป. ไม่ใช่สายปัญญา นะ คือ ร ร. สมุทรปราการ ข้าง ร .ร. เป็นร้านขายไม้ไผ่ เป็นสวน
ค่ารถสองแถว สองบาท จากปากน้ำ ไป ร ร.
อีกฝั่ง ร ร. เป็นคลอง สวน ต้นมะพร้าว วันนั้นละ มีห้างโรบินสันตรงข้าม ร ร เลย
มอปลาย มาเรียน สตรีสมุทรปราการ. บ้านทาวน์เฮาท์สมัยนั้น แค่ราคา 5 แสนบาทเอง
สมัยนี้ขายมือสองกัน หลังละ 1.5 ล้านด้านหลัง ร ร.
ทังสองโรงเรียน จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวผ่าน
พวกาน ตระกูลแลนด์ทั้งหลาย มาสร้าง สงสัย ผบห.บริษัทพวกนี้ เค้าทำบ้านขาย ขายเสร็จรีบโกยเงินหนี แน่ๆ เพราะ อีก 10 น้ำท่วม
คนซื้อบ้านจะอยู่ได้อีกแค่ 10 ปี บ้านแลนด์ - ลดา ตรงศรีนครินทร์ 5 ล้าน สมัยก่อนว่าแพงละ ตอนนี้ขายกันหลังละ 40 ล้านเป็นเรื่องปกติ
แต่ช่วงต้มยำกุ้ง ที่ไม่รอด ก็มี พวก RR โรสลอยซ์ สมประสงค์กรุ๊ป โดนกันไปทั่วหน้าในตลาดหลักทรัพย์
ทิ้งร้างไว้นาน จะ อีเวอร์เอามาทำต่อ ขายหลังละ 2.ล้าน สมัยนั้น แต่แบบบ้านเดิมวางไว้ไม่ดี
เดินเข้าบ้านไป ส้วมอยู่ใกล้ประตูเข้าบ้านเลย ดูผิดหลังฮวงจุ้ย
_____________
สำโรง เอาแค่ สิบปีที่แล้ว
บ้าน สองหลังสุดท้าย QH ราคาแพง 80 และ 150 ล้าน 200 วา..
ย้ำว่า ราคาเพียง 80 ล้าน
บ้าน 10 ล้านถือเป็น บ้านราคาปกติ เค้าไม่กลัวน้ำท่วมกันหรือ
แล้วนิ มีรถไฟฟ้าวิ่งไปถึง บางปู เค้าจะให้นั่งรถไฟฟ้าชมทะเลใช่มั้ยย
ถ้าท่วมจริงๆ รถไฟฟ้าวิ่งไป มองไปที่ไหนก็เจอแต่น้ำ
_________
เอาง่ายๆ บ้านผมแถม สำโรง หัวเทพารักษ์
ทาวน์เฮาท์ หลัง 2 1 ล้าน ราคาตีประเมินสมัยนั้น ปี 2551 ตอนนี้ ประกาศขายกัน 2.6 ล้าน
คอนโด 36 ตร ม. หน้าโรงพักสำโรง 2.3 ล้าน เท่าราคาบ้าน ps ในซอยลึกๆ จาก ถ. เทพารักา์ กม.2
บ้านเดี่ยว 50 ตร ว. โครงการที่ไม่มีสระว่ายน้ำ 3.5 ล้าน แถม นิสสันมาสซ์
ปี 54 ขึ้นเป็น 4 ล้าน ยังแถมรถ
ปี 55 4.5 ล้าน
ปี 58 ขึ้นเป็น 5.3 ล้าน โครงการเดิม เฟสใหม่ในหมู่บ้านเดียวกัน
_______________
แถวบางพลี.. สมัยนั้น ก็ บ่อปลาไง บางพลี บางบ่อ
ปลาสลิดบางบ่อ อร่อยกว่าแพงกว่าบางพลี เพราะ บางบ่อมีทางออกทะเล น้ำทะเลทำให้ปลาสลิดอร่อยกว่า เพราะน้ำหมุนเวียนดีกว่า
บางพลี
แล้วสมัยนี้ บางพลี บ้านเดี่ยวขึ้นกันเพียบ
บางพลีบางนา จริงๆมันติดกันนั้นละ วิ่งเส้น บางนาตราด กับ. กับเส้นเทพารักษ์
มันก็วิ่งเข้าเขตบางพลีเหมือนกัน
.... มีเรื่องเล่า ขำๆ คนซื้อบ้านอยู่ใกล้กัน คนนึงขับรถไกลมากแต่ก็ยังอยู่เขตบางพลี
อีกคนขับเส้นเดียวกัน แต่เลี้ยวออกอีกทางนิดเดียว หมูบ้านนั้น กลายเป็นเขตของ ฉะเชิงเทราไปละ
กลายเป็นบ้านนอกไปเลย บางคนเอามาล้อกันว่า ขับรถจากบ้านนอกเข้ามาทำงาน กรุงเทพ
แต่บ้านราคาเท่าๆกันเลย 6 ล้าน ตอนนี้ขึ้นเป็น 7.5 ล้านละ ถ้าตั้งขาย
บางหมู่บ้าน ยังเป็นบ่อปลาอยู่ เย็นๆ ก็นั่งกินข้าว มองเครื่องบินขึ้นลง ดมกลิ่นตากสลิดก็ได้... ฟินไปอีกแบบ
....... แต่ที่แน่ๆ ถ้า คนที่คิดจะมีบ้าน แล้วบอกว่าไม่ซื้อไม่ซื้อ
รอเก็บเงิน ซื้อเงินสดไปเลย ไม่กล้าซื้อกลัวเป็นหนี้
บางคนบอกซื้อรถก่อนเพราะไปจีบสาว ต้องใช้รถ มีรถแปลว่ามีเงิน อันนี้ก็แล้วแต่คนคิด.
ก็คงไม่ผิด แต่ถ้าระยะเวาผ่านไป เราย้อนเวลากลับมาซื้อบ้าน ซื้อทำเลเดิมที่อยากได้ไม่ได้แล้วนะ
บ้านซื้อวันนั้น ราคาคือราคาวันนั้น 1 ล้านวันนั้น ผ่อน 7000 บาท ถ้าตอนนั้นเงินเดือน 2 หมื่น
วันนี้ 5 ปีผ่านไป บ้านขึ้นมา 2. 9 ล้านเริ่มต้น เงินเดือนเพิ่มเป็น 2.5 หมื่นละ
แต่ผ่อนบ้านแบงค์บอกคิดที่ 50- 60 % ถือว่าสุดๆละ ผ่อนได้ 14000 บาท ต่อเดือน
2.9 ล้าน ต้องผ่อนประมาณ 18000 บาทต่อเดือน..... นิคือส่วนที่เพิ่มขึ้นจากค่าซื้อเวลา 5 ปี
บ้านราคาเพิ่มขึ้น 1.9 ล้าน (ในกรณีทำเลนั้นดี และบังเอิญรถไไฟ้าดันมาเร็ว กว่าแผนเดิม )
ดีเวลอปเปอร์ มันเลยบอกราคาเผื่อไปเลย 10 ปีล่วงหน้าละ
ฉะนั้น คุณจะผ่อนบ้าน.. ก็ต้องผ่อนไปอีก 10 ปี บ้านหลังนี้ขายถึงจะเท่าทุน
หรือกำไรเล็กน้อย...โดยอย่าลืมว่าจะต้องมีภาษีขายบ้านด้วย ผู้ขายจ่ายภาษีจากการขายบ้าน
วันนั้น เล่าให้ฟังเล่นๆ นะครับ. เพราะปิดเทอมแล้ว
ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ผมแค่ ขายบ้านไป1 หลัง ช่วง 2551 ช่วงเงินเฟ้อสูง ก่อนน้ำมันจะเริ่ม พีค ที่ 140 ดอลลาร์
เพือเวลาประเมิณบ้านแล้วขายจะไ่ด้ขายที่ ราคาแพงหน่อย และรอให้ราคาน้ำมันโลกตกลงแล้ว ดอกเบี้ยขาลง
ตลาดหุ้นลงเพราะน้ำมันถูกปั่นขึ้นไปมากเกินความเป็นจริง ค่อยมาดูอีกที
พอขายเสร็จ ผมลดการเล่นหุ้น และไปเป็นคนกินเงินเดือน
รออีกประมาณ 6 เดือน ถึงได้ซื้อบ้านหลังที่ 4 แถวสำโรงเหมือนเดิม
แล้วพอตลาดหุ้นดิ่งหนัก ลงไป 387 ก็นั้นละ เริ่อมมาซื้อหุ้น
และหุ้นอสังหา ปันผลสูงมาก ( ถ้ามั่นใจว่า บ. ไม่เจ๊ง เพราะ บ. ที่ผ่านปี 40 มาเแล้ว มีประสบการณ์ และ ปัญหาเป็นของ usa
ไม่ใช่ปัญหาการเงินของไทย ไทยเรายังมีเงินสดเพียงพอ ต่างกับปี 2540 ที่เราไม่มีเงินเป็นหนี้นอกสูง เงินดอลลาร์สำรองก็ไม่มี )
ยังเคยคุยกับ ดร. ศุภวุฒิว่า ดอลลาร์ ล้นๆ 1.8 แสนล้าน มากว่าสมัยต้มยำกุ้ง 10 เท่าที่เรามี ทำให้อ่อนๆบ้าง
โดยการเอาซื้อ อาวุธโยนเงินดอลลาณืออกนอกประเทศไปมั้งได้มั้ย แล้ว เปลี่ยนเป็น สกุลสวิต หรือซื้อทองคำเข้ามาเก็บแทน
เก็บที่ แถว 900 นิละ ถ้าขึ้นไป 1400 เราก็กำไรละในตัวเลขบัญชีเงินของชาติ
_______ วันนี้เดี่ยว กลับไปนอนแช่น้ำ ที่บ้านหลังที่ 4 นั้นละ
บ้านหลังนี้ ซื้อไว้ ตอนปี 2551 แต่ไม่ได้มาอยู่ ปี 2554 ถึงมาทำบ้านก่อนน้ำท่วมใหญ่ครึ่งประเทศ
แต่บ้านผมไม่ท่วม กะให้ท่วมซะหน่อย จะได้เอาประกันมาตกแต่งบ้านต่ออีกรอบ ...
พอไม่ท่วม ที่ดินแถวหมู่บ้าน อีกซอย วาละ 27000 เป็น 30000 และ 33000 ลุงแถวบ้านบอกขายให้ ลุงลดให้แล้วนะ
คงสงสารเห็นผมยังเด็กอยู่ที่บอกขาย ตอนนี้แก่ไม่ขายละ ทำเป็นบ้านอยู่เองไปเลย 2556
_____แต่บ้านผมสิ จาก ปี 2554 ผมยังทำไม่เสร็จเลยนะ บ่อปลาคราฟ ยังไม่เสร็จ
ห้องครัวยังไม่ได้ทำ ยังหากระเบื้องสวยๆ ถูกใจไม่ได้
ปล. ยังหาช่างดีดี ไม่ได้ด้วย รอคิวอยู่ งานน้อยช่างไม่อยากมาอีก
ใครว่าฟองสบู่ คนตกงานไม่มีงานทำกันละ 1000 บาทต่อวันยังไม่เอาเลยทำก่อสร้าง
ห้องครัว บ่อปลา แสนนึงค่าแรงอย่างเดียวยังไม่มีคนอยากทำเลย ของผมซื้อเอง งานเล็กน้อยไม่เอา
พ่อผมใช้ที่ด้านนอกทำครัว ควันไอร้อนจากหารทำกับข้าว ไปเกาะสี บนฝา ที่ผนัง สีผนัง ICI กึ่งเงินสีพีช
วันนั้นลองเอาผ้าลูบดู โหหห คราบน้ำมันทั้งนั้น ที่ทำให้สีบ้านดูไม่สวย
ก็คงต้องทาใหม่อีกรอบ เพดานก็ด้วย ขอบไฟดาวน์ไลท์นึกว่าสนิมกิน ที่ไหนได้ละ.. มันคราบน้ำมัน
เดี่ยววันนี้จะกลับไปบ้านหลัง 4 ละ ..ไปนอนแช่น้ำเล่น
เพราะ หลัง 5 - 6 ที่พระราม 4 มันไม่มีอ่างน้ำใหญ่ๆให้แช่ อิอิ
นิละ ครับ.... ความลำบากของมนุษย์เงินเดือนอย่างผม
ครูเอกชนจนๆ ต้องหาเงินผ่อนบ้านเอง บ้านหลัง4 ยังผ่อนอยู่เลย ผ่อนแต่ไม่ได้อยู่นะ ให้พ่อเฝ้า ให้พ่ออยู่ผมไม่ได้อยู่หรอก
บ้านหลังนี้ กลายเป็น ที่เก็บของ เก็บของเล่นซะมากกว่า.
ทามมไม พ่อแม่เราไม่มีหุ้นมาโอนให้เรา ซักหมื่นล้านมั้งนะ จะได้ไม่ต้องผ่อนบ้าน ซื้อของจะได้ซื้อเงินสดได้เลย
กรอกหูทุกวัน ว่าฟองสบุ่อสังหาจะแตก บ้านคอนโด ราคาจะลง.. มันลงซะที่ไหน บ้านชานเมืองสร้างในป่า-บ่อปลา ราคา 6 ล้าน เลย
อย่าง ปากน้ำ สมุทรปราการ
พวกนักวิชาเกิน เป่าหู พูดกรอกหูทุกวัน
ว่าต่อไปน้ำท่วม ไม่เกิน 10 ปีจะ กินหายเข้ามาถึง สำโรง กินไปถึง บางพลี
ผ่านมา จากประถม จบ ป 6 ประจำจังหวัด เรียนอยู่ตลาดปากน้ำ มองเห็นเรื่อเข้าออกทุกวัน
คิดเรื่อง อำนาจทางทะเล และ การมีสายการเดินเรือแห่งชาติ และการขยายท่าเรือว่าทำไมต้องเข้า ท่าเรือคลองเตย
ไม่เข้าที่ฝั่งตะวันออก แล้วเอาขึ้นรถไฟ วิ่งส่งไปภาคต่าง ลดการจราจรใน กทม.
มอต้น มอ ปลาย มันก็พูดอีกว่า ท่วมๆๆๆ แน่ๆ ไม่เกิน 10 ปี
ทีดินแถว บางบ่อ ตอนนั้น 100 วา ราคา 1 แสนบาท วาละ 1000 บาท ถือว่าแพงละ..
สมัยนี้วาละ 15000 บาท. จาก ปี 2534 ถึง. ปีนี้นะ ถ้าไปซื้อหุ้นพอเจอปี 2540 คงโดนไปละ
แถมยังมีก็ยังมีถนน ศรีนครินทร์ ตัดมาถึง แยกการไฟฟ้า เชื่อม ถนน สุขมวิท
ผมไปเรียน มอต้น ร ร ส.ป. ไม่ใช่สายปัญญา นะ คือ ร ร. สมุทรปราการ ข้าง ร .ร. เป็นร้านขายไม้ไผ่ เป็นสวน
ค่ารถสองแถว สองบาท จากปากน้ำ ไป ร ร.
อีกฝั่ง ร ร. เป็นคลอง สวน ต้นมะพร้าว วันนั้นละ มีห้างโรบินสันตรงข้าม ร ร เลย
มอปลาย มาเรียน สตรีสมุทรปราการ. บ้านทาวน์เฮาท์สมัยนั้น แค่ราคา 5 แสนบาทเอง
สมัยนี้ขายมือสองกัน หลังละ 1.5 ล้านด้านหลัง ร ร.
ทังสองโรงเรียน จะมีรถไฟฟ้าสายสีเขียวผ่าน
พวกาน ตระกูลแลนด์ทั้งหลาย มาสร้าง สงสัย ผบห.บริษัทพวกนี้ เค้าทำบ้านขาย ขายเสร็จรีบโกยเงินหนี แน่ๆ เพราะ อีก 10 น้ำท่วม
คนซื้อบ้านจะอยู่ได้อีกแค่ 10 ปี บ้านแลนด์ - ลดา ตรงศรีนครินทร์ 5 ล้าน สมัยก่อนว่าแพงละ ตอนนี้ขายกันหลังละ 40 ล้านเป็นเรื่องปกติ
แต่ช่วงต้มยำกุ้ง ที่ไม่รอด ก็มี พวก RR โรสลอยซ์ สมประสงค์กรุ๊ป โดนกันไปทั่วหน้าในตลาดหลักทรัพย์
ทิ้งร้างไว้นาน จะ อีเวอร์เอามาทำต่อ ขายหลังละ 2.ล้าน สมัยนั้น แต่แบบบ้านเดิมวางไว้ไม่ดี
เดินเข้าบ้านไป ส้วมอยู่ใกล้ประตูเข้าบ้านเลย ดูผิดหลังฮวงจุ้ย
_____________
สำโรง เอาแค่ สิบปีที่แล้ว
บ้าน สองหลังสุดท้าย QH ราคาแพง 80 และ 150 ล้าน 200 วา..
ย้ำว่า ราคาเพียง 80 ล้าน
บ้าน 10 ล้านถือเป็น บ้านราคาปกติ เค้าไม่กลัวน้ำท่วมกันหรือ
แล้วนิ มีรถไฟฟ้าวิ่งไปถึง บางปู เค้าจะให้นั่งรถไฟฟ้าชมทะเลใช่มั้ยย
ถ้าท่วมจริงๆ รถไฟฟ้าวิ่งไป มองไปที่ไหนก็เจอแต่น้ำ
_________
เอาง่ายๆ บ้านผมแถม สำโรง หัวเทพารักษ์
ทาวน์เฮาท์ หลัง 2 1 ล้าน ราคาตีประเมินสมัยนั้น ปี 2551 ตอนนี้ ประกาศขายกัน 2.6 ล้าน
คอนโด 36 ตร ม. หน้าโรงพักสำโรง 2.3 ล้าน เท่าราคาบ้าน ps ในซอยลึกๆ จาก ถ. เทพารักา์ กม.2
บ้านเดี่ยว 50 ตร ว. โครงการที่ไม่มีสระว่ายน้ำ 3.5 ล้าน แถม นิสสันมาสซ์
ปี 54 ขึ้นเป็น 4 ล้าน ยังแถมรถ
ปี 55 4.5 ล้าน
ปี 58 ขึ้นเป็น 5.3 ล้าน โครงการเดิม เฟสใหม่ในหมู่บ้านเดียวกัน
_______________
แถวบางพลี.. สมัยนั้น ก็ บ่อปลาไง บางพลี บางบ่อ
ปลาสลิดบางบ่อ อร่อยกว่าแพงกว่าบางพลี เพราะ บางบ่อมีทางออกทะเล น้ำทะเลทำให้ปลาสลิดอร่อยกว่า เพราะน้ำหมุนเวียนดีกว่า
บางพลี
แล้วสมัยนี้ บางพลี บ้านเดี่ยวขึ้นกันเพียบ
บางพลีบางนา จริงๆมันติดกันนั้นละ วิ่งเส้น บางนาตราด กับ. กับเส้นเทพารักษ์
มันก็วิ่งเข้าเขตบางพลีเหมือนกัน
.... มีเรื่องเล่า ขำๆ คนซื้อบ้านอยู่ใกล้กัน คนนึงขับรถไกลมากแต่ก็ยังอยู่เขตบางพลี
อีกคนขับเส้นเดียวกัน แต่เลี้ยวออกอีกทางนิดเดียว หมูบ้านนั้น กลายเป็นเขตของ ฉะเชิงเทราไปละ
กลายเป็นบ้านนอกไปเลย บางคนเอามาล้อกันว่า ขับรถจากบ้านนอกเข้ามาทำงาน กรุงเทพ
แต่บ้านราคาเท่าๆกันเลย 6 ล้าน ตอนนี้ขึ้นเป็น 7.5 ล้านละ ถ้าตั้งขาย
บางหมู่บ้าน ยังเป็นบ่อปลาอยู่ เย็นๆ ก็นั่งกินข้าว มองเครื่องบินขึ้นลง ดมกลิ่นตากสลิดก็ได้... ฟินไปอีกแบบ
....... แต่ที่แน่ๆ ถ้า คนที่คิดจะมีบ้าน แล้วบอกว่าไม่ซื้อไม่ซื้อ
รอเก็บเงิน ซื้อเงินสดไปเลย ไม่กล้าซื้อกลัวเป็นหนี้
บางคนบอกซื้อรถก่อนเพราะไปจีบสาว ต้องใช้รถ มีรถแปลว่ามีเงิน อันนี้ก็แล้วแต่คนคิด.
ก็คงไม่ผิด แต่ถ้าระยะเวาผ่านไป เราย้อนเวลากลับมาซื้อบ้าน ซื้อทำเลเดิมที่อยากได้ไม่ได้แล้วนะ
บ้านซื้อวันนั้น ราคาคือราคาวันนั้น 1 ล้านวันนั้น ผ่อน 7000 บาท ถ้าตอนนั้นเงินเดือน 2 หมื่น
วันนี้ 5 ปีผ่านไป บ้านขึ้นมา 2. 9 ล้านเริ่มต้น เงินเดือนเพิ่มเป็น 2.5 หมื่นละ
แต่ผ่อนบ้านแบงค์บอกคิดที่ 50- 60 % ถือว่าสุดๆละ ผ่อนได้ 14000 บาท ต่อเดือน
2.9 ล้าน ต้องผ่อนประมาณ 18000 บาทต่อเดือน..... นิคือส่วนที่เพิ่มขึ้นจากค่าซื้อเวลา 5 ปี
บ้านราคาเพิ่มขึ้น 1.9 ล้าน (ในกรณีทำเลนั้นดี และบังเอิญรถไไฟ้าดันมาเร็ว กว่าแผนเดิม )
ดีเวลอปเปอร์ มันเลยบอกราคาเผื่อไปเลย 10 ปีล่วงหน้าละ
ฉะนั้น คุณจะผ่อนบ้าน.. ก็ต้องผ่อนไปอีก 10 ปี บ้านหลังนี้ขายถึงจะเท่าทุน
หรือกำไรเล็กน้อย...โดยอย่าลืมว่าจะต้องมีภาษีขายบ้านด้วย ผู้ขายจ่ายภาษีจากการขายบ้าน
วันนั้น เล่าให้ฟังเล่นๆ นะครับ. เพราะปิดเทอมแล้ว
ผมไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญด้านนี้ ผมแค่ ขายบ้านไป1 หลัง ช่วง 2551 ช่วงเงินเฟ้อสูง ก่อนน้ำมันจะเริ่ม พีค ที่ 140 ดอลลาร์
เพือเวลาประเมิณบ้านแล้วขายจะไ่ด้ขายที่ ราคาแพงหน่อย และรอให้ราคาน้ำมันโลกตกลงแล้ว ดอกเบี้ยขาลง
ตลาดหุ้นลงเพราะน้ำมันถูกปั่นขึ้นไปมากเกินความเป็นจริง ค่อยมาดูอีกที
พอขายเสร็จ ผมลดการเล่นหุ้น และไปเป็นคนกินเงินเดือน
รออีกประมาณ 6 เดือน ถึงได้ซื้อบ้านหลังที่ 4 แถวสำโรงเหมือนเดิม
แล้วพอตลาดหุ้นดิ่งหนัก ลงไป 387 ก็นั้นละ เริ่อมมาซื้อหุ้น
และหุ้นอสังหา ปันผลสูงมาก ( ถ้ามั่นใจว่า บ. ไม่เจ๊ง เพราะ บ. ที่ผ่านปี 40 มาเแล้ว มีประสบการณ์ และ ปัญหาเป็นของ usa
ไม่ใช่ปัญหาการเงินของไทย ไทยเรายังมีเงินสดเพียงพอ ต่างกับปี 2540 ที่เราไม่มีเงินเป็นหนี้นอกสูง เงินดอลลาร์สำรองก็ไม่มี )
ยังเคยคุยกับ ดร. ศุภวุฒิว่า ดอลลาร์ ล้นๆ 1.8 แสนล้าน มากว่าสมัยต้มยำกุ้ง 10 เท่าที่เรามี ทำให้อ่อนๆบ้าง
โดยการเอาซื้อ อาวุธโยนเงินดอลลาณืออกนอกประเทศไปมั้งได้มั้ย แล้ว เปลี่ยนเป็น สกุลสวิต หรือซื้อทองคำเข้ามาเก็บแทน
เก็บที่ แถว 900 นิละ ถ้าขึ้นไป 1400 เราก็กำไรละในตัวเลขบัญชีเงินของชาติ
_______ วันนี้เดี่ยว กลับไปนอนแช่น้ำ ที่บ้านหลังที่ 4 นั้นละ
บ้านหลังนี้ ซื้อไว้ ตอนปี 2551 แต่ไม่ได้มาอยู่ ปี 2554 ถึงมาทำบ้านก่อนน้ำท่วมใหญ่ครึ่งประเทศ
แต่บ้านผมไม่ท่วม กะให้ท่วมซะหน่อย จะได้เอาประกันมาตกแต่งบ้านต่ออีกรอบ ...
พอไม่ท่วม ที่ดินแถวหมู่บ้าน อีกซอย วาละ 27000 เป็น 30000 และ 33000 ลุงแถวบ้านบอกขายให้ ลุงลดให้แล้วนะ
คงสงสารเห็นผมยังเด็กอยู่ที่บอกขาย ตอนนี้แก่ไม่ขายละ ทำเป็นบ้านอยู่เองไปเลย 2556
_____แต่บ้านผมสิ จาก ปี 2554 ผมยังทำไม่เสร็จเลยนะ บ่อปลาคราฟ ยังไม่เสร็จ
ห้องครัวยังไม่ได้ทำ ยังหากระเบื้องสวยๆ ถูกใจไม่ได้
ปล. ยังหาช่างดีดี ไม่ได้ด้วย รอคิวอยู่ งานน้อยช่างไม่อยากมาอีก
ใครว่าฟองสบู่ คนตกงานไม่มีงานทำกันละ 1000 บาทต่อวันยังไม่เอาเลยทำก่อสร้าง
ห้องครัว บ่อปลา แสนนึงค่าแรงอย่างเดียวยังไม่มีคนอยากทำเลย ของผมซื้อเอง งานเล็กน้อยไม่เอา
พ่อผมใช้ที่ด้านนอกทำครัว ควันไอร้อนจากหารทำกับข้าว ไปเกาะสี บนฝา ที่ผนัง สีผนัง ICI กึ่งเงินสีพีช
วันนั้นลองเอาผ้าลูบดู โหหห คราบน้ำมันทั้งนั้น ที่ทำให้สีบ้านดูไม่สวย
ก็คงต้องทาใหม่อีกรอบ เพดานก็ด้วย ขอบไฟดาวน์ไลท์นึกว่าสนิมกิน ที่ไหนได้ละ.. มันคราบน้ำมัน
เดี่ยววันนี้จะกลับไปบ้านหลัง 4 ละ ..ไปนอนแช่น้ำเล่น
เพราะ หลัง 5 - 6 ที่พระราม 4 มันไม่มีอ่างน้ำใหญ่ๆให้แช่ อิอิ
นิละ ครับ.... ความลำบากของมนุษย์เงินเดือนอย่างผม
ครูเอกชนจนๆ ต้องหาเงินผ่อนบ้านเอง บ้านหลัง4 ยังผ่อนอยู่เลย ผ่อนแต่ไม่ได้อยู่นะ ให้พ่อเฝ้า ให้พ่ออยู่ผมไม่ได้อยู่หรอก
บ้านหลังนี้ กลายเป็น ที่เก็บของ เก็บของเล่นซะมากกว่า.
ทามมไม พ่อแม่เราไม่มีหุ้นมาโอนให้เรา ซักหมื่นล้านมั้งนะ จะได้ไม่ต้องผ่อนบ้าน ซื้อของจะได้ซื้อเงินสดได้เลย