สวัสดีค่ะ
เนื้อเรื่องในกระทู้ตามหัวข้อเลยน้ะ ที่เขียนกระทู้นี้ขึ้นมาก็เพื่อที่จะมาแชร์ประสบการณ์ให้คนที่กำลังจะจัดฟันกันค่ะ (ตอนนี้เรายังอยู่ในช่วงกำลังเตรียมตัวที่จะจัดฟันค่ะ ซึ่งเราก็จะมาอัพกระทู้ตามสถานการณ์เรื่อยๆค่ะ)
ว่าด้วยเรื่องการจัดฟัน สำหรับบางคนคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น สำหรับเราก็เช่นกัน เราเป็นผู้หญิง อายุ 17 ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่พอดี แม่เราเลยพาไปจัดฟัน เหตุผลที่เราต้องจัดฟันก็เพราะ ดังนี้…??
- ฟันบนยื่นออกมาไม่สบกันกับฟันล่าง (เรียกง่ายๆคือ ฟันเหยินอ้ะแหละ)

-ฟันล่างซ้อนเก ฟันกรามบิดเบี้ยวล้มหมด
- มีหินปูน (ทำให้เหงือกเราอักเสบอ่าาาาา)

- เศษอาหารมันจะติดอยู่ตรงซอกฟันที่ซ้อนเก (อันเนี้ยสุดๆเลย ทำให้แปรงฟันลำบากมาก ต้องคอยเขี่ยๆ แคะๆตลอด เวลาจะแทะข้าวโพดทีนี่แบบ โอ้ยยยยยย ลำบากใจ) ฯลฯ
ณ วันหนึ่ง แม่เราบอกว่า วันนี้ไปคลินิกจัดฟันกันน้ะลูก เราก็ตอบเขาไปว่า ค่ะ (เราเป็นลูกที่ค่อนข้างตามใจแม่อ้ะ เขาให้ทำอะไรก็ตามใจเขาไปซะหมด)
พอไปถึงคลินิก ที่คลินิกมีคนก็พอประมาณอ้ะ พวกที่เขาจัดฟันกันแล้วอ้ะ มองไปรอบๆนี่ มีเรานี่แหละที่เป็นน้องใหม่ ในนั้นเห็นเขาจัดกันหมดแล้วอ้ะ เรากับแม่เดินไปที่เคาท์เตอร์ แม่บอกพี่ที่เป็นพนักงานที่เคาท์เตอร์ว่า อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดฟันอ้ะค่ะ พี่เขาก็หยิบรายละเอียดให้ดู พี่เขาก็ถามต่อว่าจะอ่านรายละเอียดก่อนหรือว่าจะให้หมอตรวจด้วยเลยคะ แม่เราก็บอกว่าให้หมอตรวจเลยก็ได้ค่ะ พี่เขาพยักหน้ารับและก็ขอบัตรประชาชนเรา พี่เขาบอกต่ออีกว่าเดี๋ยวรอเรียกชื่อน้ะคะพร้อมกับคืนบัตรประชาชนเรามา แล้วเรากับแม่ก็กลับมานั่งอ่านรายละเอียดที่โซฟา สักครู่นึง เขาก็เรียกชื่อเรา พี่เขาบอกให้เราเข้าห้องเบอร์3 เราก็เข้าไป แม่ก็เข้าไปกับเราด้วย ตื่นเต้นน้ะ ก็ไม่เคยคิดจะจัดด้วยถ้าไม่มีปัญหาแบบที่บอกข้างบนอ้ะ พอเขาก็ตรวจดูว่าลักษณะฟันเราต้องรักษายังไง หมอเขาก็บอกว่าเราต้องจัดประมาณ3ปี เพราะฟันบนเรายื่นออกมาเยอะ ส่วนฟันล่างก็ซ้อนเกล้มหมด (เราก็คิดในใจ ก็น้ะ ตามสภาพ) หมอเขาก็ถามว่าตกลงจัดไหม แม่เราบอกจัดค่ะ (ถามหนูก่อนไหมคะแม่ แต่ถึงถามเราก็ตามใจเขาอยู่ดีแหละ ไม่ถามก็เหมือนกันแหละเนอะ) หมอเขาก็ขอเช็คฟัน สรุปแล้วเราต้องเคลียร์ช่องปาก 3 อย่าง คือ…??
- ขูดหินปูน
- อุดฟัน 3 ซี่
- ถอนฟัน 4 ซี่ (อันนี้คือตกใจมาก เกิดมาเราไม่เคยถอนฟันเลย)
แม่เราฟังเสร็จก็บอกกับหมอว่า ขอไปเคลียร์ช่องปากข้างนอกน้ะคะ หมอก็บอกว่า ได้ค่ะ เดี๋ยวหมอเขียนใบส่งตัวน้ะคะ แล้วหมอเขาก็บอกกับแม่เราว่า วันนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ฟัน ถ่ายรูป และเอกซเรย์ฟันน้ะคะ แม่เราบอก ได้ค่ะ หมอบอกต่ออีกว่า เชิญคุณแม่ด้านนอกก่อนน้ะคะ แม่เราก็ออกไป จากนั้นหมอเขาก็บอกว่า จะพิมพ์ฟันเรา เริ่มแรกจะมีวัสดุอุ่นๆนิ่มๆให้เรากัด ต่อมาเขาก็เอาเหล็กที่บล็อคฟัน-ล่างมาลงใส่เข้าไปกับฟันเราดู (คิดว่าน่าจะเป็นแม่พิมพ์) แล้วเขาก็เอาออก หมอเขาก็บอกกับเราว่าไม่ต้องตื่นเต้นน้ะคะ ทำใจสบายๆ หายใจเข้าหายใจออกลึกๆ เดี๋ยวต่อไปหมอต้องใส่แบบเมื่อกี้นี้อีกรอบนะคะ แต่รอบนี้จะมีวัสดุเย็นๆค่ะ แล้วหมอจะต้องกดแรงนิดนึงนะคะ(เรามีโรคประจำตัว เราเป็นโรคหอบ หมอเขาเลยต้องค่อนข้างใส่ใจเรื่องนี้ค่ะ) จากนั้นเขาก็เอาบล็อคนั้นมาใส่เข้ากับฟันเราอีกรอบ แล้วเขาก็กด พิมพ์ฟันก็ประมาณนี้อ้ะคะ ตอนพิมพ์ฟันบนไม่เท่าไหร่ แต่ตอนพิมพ์ฟันล่างนี่แบบบอกไม่ถูกเหมือนจะอ้วกยังไงไม่รู้ แถมตอนแกะเหมือนจะเอาไม่ออกด้วย แต่ก็ออกค่ะ คุณหมอเขาทำดี มือเบาด้วย (เป็นเฉพาะบางคนน้ะ) พอพิมพ์ฟันเสร็จ หมอเขาก็ถ่ายรูป หน้าตรง ด้านข้าง หุบปาก ยิ้มเห็นฟัน แล้วหมอเขาก็บอกว่าเสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวอีกสักพักต้องไปเอกซเรย์น้ะคะ เราก็ออกมาจากห้องมานั่งรอกับแม่ พักหนึ่ง ก็มีพี่พนักงานเอกซเรย์พาเราไปเอกซเรย์ชั้น 3 ตอนเอกซเรย์รอบแรก มันจะมีอุปกรณ์ของเครื่องเอกซเรย์ให้เรากัดไว้ รอบสองจะมีอุปกรณ์ของเครื่องเอกซเรย์สอดเข้าไปในรูหูเรา (ไม่ลึกค่ะ) พักหนึ่งก็เป็นอันเสร็จ (ตอนที่เครื่องเอกซเรย์กำลังเอกซเรย์มันจะมีเสียง ไม่น่ากลัวค่ะ) พี่เขาก็บอกกับเราว่าเสร็จแล้ว ไปรอชั้นล่างได้เลยค่ะ เราก็เดินลงไปหาแม่ พี่ที่เคาท์เตอร์ก็เรียกไปชำระค่าใช้จ่าย ดังนี้...??
- ค่าพิมพ์ฟัน 500 บาท
- ค่าเอกซเรย์ฟัน 1,000 บาท
รวม 1,500 บาท (จ่ายไปเรียบร้อยค่ะ) แล้วเรากับแม่ก็ออกมาจากคลินิก
การเคลียร์ช่องปาก
ณ โรงพยาบาล วันนั้นเราจะไปขูดหินปูน แต่พอดูนาฬิกาก็กลัวว่าจะไม่ทันอ้ะ มันสายแล้วด้วยไง พอไปยื่นบัตรพี่พยาบาลคนสวยก็บอกว่าน่าจะไม่ได้ขูดเพราะเต็มหมดแล้ว แต่ถ้าคิวถอนอ้ะยังมีอยู่ค่ะ เราก็ตกใจ แล้วก็สะกิดแม่ว่าไม่อยากถอนวันแรก แล้วพี่พยาบาลก็บอกว่า เดี๋ยวหนูไปนั่งพักให้หายเหนื่อยแล้ววัดความดันให้พี่หน่อยน้ะคะ แม่เรายังคุยกับพี่พยาบาลคนสวยอยู่ แม่เดินมาหาเรา บอกว่า วันนี้อาจจะได้ขูดหินปูน แต่ต้องรอแฟ้มประวัติก่อน รออยู่พักใหญ่แฟ้มประวัติก็ยังไม่มา แม่เราเลยบอกว่า อยู่นี่แหละเดี๋ยวแม่ลงไปถามแฟ้มประวัติที่เคาท์เตอร์ชั้น 1 ให้ (แผนกทันตกรรมอยู่ชั้น 3 ) แม่เราเดินลงไปทางบันไดด้วย (Super Mom) สรุปวันนั้นแม่ไปตามแฟ้มประวัติเรามาให้ที่แผนกทันตกรรมทัน เราก็เลยได้ขูดหินปูน
ต่อมา เราก็ไปอุดฟัน 3 ซี่ เรื่อยๆ ไม่ได้อุด 3 ซี่ ทีเดียวหรอก เพราะว่าแต่ละซี่ที่ผุอ้ะ ผุลึกและก็ผุซี่ที่ 7 (ซี่สุดท้าย หรือฟันกรามซี่ในสุดอ้ะ) ผุซี่ที่ 7 ล่างซ้าย-ขวา และก็ ผุซี่ที 7 บนซ้าย อุดวันละซี่ (ขอบอกเลยน้ะใครที่ฟันผุซี่ในสุดอ้ะผุลึกมากเงี้ย ถอนทิ้งเลยดีกว่า อุดแบบเราอ้ะทรมาน มีซี่หนึ่งในสามซี่นี้อ้ะ มันผุลึก แล้วตอนเจียฟันอ้ะเราเสียวมาก หมอนต้องฉีดยาชาให้เรา ไม่งั้นคงอุดไม่เสร็จอ้ะ แล้วนั่นเป็นการฉีดยาชาครั้งแรกในชีวิต มันเจ็บและปวด น้ำตาแทบเล็ด) แต่ก็ไม่ได้อุดทุกวันหรอกน้ะ เพราะบางวันก็ไปเสียเที่ยว คิวเต็มแล้วก็ต้องกลับบ้าน (ประมาณว่าไปถึงยื่นบัตร พี่พยาบาลบอก กลับบ้านได้เลยค่ะ คิวเต็มแล้วค่ะ) ไม่ได้ราบรื่นค่ะ และแล้วก็มาถึงวันที่อุดฟันหมดแล้ว และต่อมาคือต้องถอน วันที่ถอน เราขอถอน 2 ซี่ ข้างซ้าย วันนั้นตอนถอนพี่พยาบาลคนสวยสลับคิวเรามาอยู่ห้อง 3 เขาบอกเราว่าเดี๋ยวป้ายยาชาให้ตอนฉีดยาชาจะได้ไม่เจ็บ หมอเขาก็ป้ายยาชาให้เรา แล้วเขาก็คุยกันเรื่องยาชาที่ป้ายอยู่ว่าป้ายแล้วตอนฉีดก็ยังรู้สึกอยู่ (เราแบบคิดเลย แล้วทำไมเขาไม่คุยกันเวลาอื่น มาคุยตอนที่เรากำลังจะถอนเนี้ยน้ะ) เป็นไปตามที่เขาคุยกัน ตอนฉีดก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี (ยาชาหลอกเด็ก) ระหว่างที่รอยาชาออกฤทธิ์หมอเขาก็พยายามคุยกับเราให้เราผ่อนคลาย แล้วเขาก็ถามว่ารู้สึกชาๆหนาๆยัง เราก็พยักหน้า เขาก็เอาเครื่องมือมากดๆ เขาก็ถามว่ารู้สึกไหม เราก็บอกว่าไม่ เขาก็เอาเครื่องมือมาแซะเหงือกเรา (ฟันบน) คือตอนนั้นไม่รู้สึกอ้ะ มีแค่แรงกดเฉยๆ แต่ตอนเขาเอาคีมมาดึงฟันอ้ะ มันก็จะรู้สึกดึงๆอ้ะ พอฟันหลุด เขาก็ให้เราพักแป๊บนึง พี่พยาบาลคนสวยมาคุยกับเราแล้วจับมือเรา เขาบอก โห มือ เย็นเฉียบเลย พอมาฟันล่าง โห อันเนี้ย รู้สึกเลย กดอย่างแรง ดึงอย่างแรง เขาบอกว่ามันจะรู้สึกต่างจากฟันล่างนิดหน่อย แต่ถ้าเจ็บจี๊ดยกมือบอกเขา รู้สึกล้วนๆเลย แต่มันก็ไม่ได้เจ็บอ้ะ แต่ความรู้สึกมันแบบเหมือนอีกนิดก็จะเจ็บจี๊ดแล้วอ้ะ แต่ก็ผ่านมาได้ พี่พยาบาลคนสวยถามเราว่า ฟันหนูจะเอากลับบ้านป่าวคะ เราพยักหน้า เขาก็พูดเชิงตลกว่า เห็นไหมมีโปรโมชั่นด้วยถอนฟัน แถมฟันกลับบ้านด้วย (ตอนถอนเขาไม่ได้เอาผ้ามาคลุมหน้าเราหรอก)
การถอนฟันโดยการจัดฟันไม่ใช่การรักษาที่โรงยาบาลก็เสียเงินค่ะ ของเราเสียซี่ละ 200 บาท รวมวันนั้น เสีย 400 บาท
ตอนนี้เรากำลังพักให้แผลที่ถอนมาหายก่อน 1 อาทิตย์ จากนั้นก็จะไปถอนต่ออีก 2 ซี่ค่ะ (ขอบอกว่ากินอาหารลำบากมาก กินโจ๊กเรายังใช้หลอดดูดเลย อาจจะเป็นกับบางคนเท่านั้น ถอนฟันมาเราก็มีอาการปวดฟันบ้างนิดหน่อยค่ะ)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้เดี๋ยวมาอัพกระทู้ต่อน้ะคะตามสถานการณ์ค่ะ
การจัดฟันของเด็กอายุ 17 ปี มันจะเป็นยังไงกันน้ะ
ว่าด้วยเรื่องการจัดฟัน สำหรับบางคนคงเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น สำหรับเราก็เช่นกัน เราเป็นผู้หญิง อายุ 17 ตอนนี้อยู่ในช่วงปิดเทอมใหญ่พอดี แม่เราเลยพาไปจัดฟัน เหตุผลที่เราต้องจัดฟันก็เพราะ ดังนี้…??
- ฟันบนยื่นออกมาไม่สบกันกับฟันล่าง (เรียกง่ายๆคือ ฟันเหยินอ้ะแหละ)
-ฟันล่างซ้อนเก ฟันกรามบิดเบี้ยวล้มหมด
- มีหินปูน (ทำให้เหงือกเราอักเสบอ่าาาาา)
- เศษอาหารมันจะติดอยู่ตรงซอกฟันที่ซ้อนเก (อันเนี้ยสุดๆเลย ทำให้แปรงฟันลำบากมาก ต้องคอยเขี่ยๆ แคะๆตลอด เวลาจะแทะข้าวโพดทีนี่แบบ โอ้ยยยยยย ลำบากใจ) ฯลฯ
ณ วันหนึ่ง แม่เราบอกว่า วันนี้ไปคลินิกจัดฟันกันน้ะลูก เราก็ตอบเขาไปว่า ค่ะ (เราเป็นลูกที่ค่อนข้างตามใจแม่อ้ะ เขาให้ทำอะไรก็ตามใจเขาไปซะหมด)
พอไปถึงคลินิก ที่คลินิกมีคนก็พอประมาณอ้ะ พวกที่เขาจัดฟันกันแล้วอ้ะ มองไปรอบๆนี่ มีเรานี่แหละที่เป็นน้องใหม่ ในนั้นเห็นเขาจัดกันหมดแล้วอ้ะ เรากับแม่เดินไปที่เคาท์เตอร์ แม่บอกพี่ที่เป็นพนักงานที่เคาท์เตอร์ว่า อยากทราบรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดฟันอ้ะค่ะ พี่เขาก็หยิบรายละเอียดให้ดู พี่เขาก็ถามต่อว่าจะอ่านรายละเอียดก่อนหรือว่าจะให้หมอตรวจด้วยเลยคะ แม่เราก็บอกว่าให้หมอตรวจเลยก็ได้ค่ะ พี่เขาพยักหน้ารับและก็ขอบัตรประชาชนเรา พี่เขาบอกต่ออีกว่าเดี๋ยวรอเรียกชื่อน้ะคะพร้อมกับคืนบัตรประชาชนเรามา แล้วเรากับแม่ก็กลับมานั่งอ่านรายละเอียดที่โซฟา สักครู่นึง เขาก็เรียกชื่อเรา พี่เขาบอกให้เราเข้าห้องเบอร์3 เราก็เข้าไป แม่ก็เข้าไปกับเราด้วย ตื่นเต้นน้ะ ก็ไม่เคยคิดจะจัดด้วยถ้าไม่มีปัญหาแบบที่บอกข้างบนอ้ะ พอเขาก็ตรวจดูว่าลักษณะฟันเราต้องรักษายังไง หมอเขาก็บอกว่าเราต้องจัดประมาณ3ปี เพราะฟันบนเรายื่นออกมาเยอะ ส่วนฟันล่างก็ซ้อนเกล้มหมด (เราก็คิดในใจ ก็น้ะ ตามสภาพ) หมอเขาก็ถามว่าตกลงจัดไหม แม่เราบอกจัดค่ะ (ถามหนูก่อนไหมคะแม่ แต่ถึงถามเราก็ตามใจเขาอยู่ดีแหละ ไม่ถามก็เหมือนกันแหละเนอะ) หมอเขาก็ขอเช็คฟัน สรุปแล้วเราต้องเคลียร์ช่องปาก 3 อย่าง คือ…??
- ขูดหินปูน
- อุดฟัน 3 ซี่
- ถอนฟัน 4 ซี่ (อันนี้คือตกใจมาก เกิดมาเราไม่เคยถอนฟันเลย)
แม่เราฟังเสร็จก็บอกกับหมอว่า ขอไปเคลียร์ช่องปากข้างนอกน้ะคะ หมอก็บอกว่า ได้ค่ะ เดี๋ยวหมอเขียนใบส่งตัวน้ะคะ แล้วหมอเขาก็บอกกับแม่เราว่า วันนี้จะมีค่าใช้จ่ายในการพิมพ์ฟัน ถ่ายรูป และเอกซเรย์ฟันน้ะคะ แม่เราบอก ได้ค่ะ หมอบอกต่ออีกว่า เชิญคุณแม่ด้านนอกก่อนน้ะคะ แม่เราก็ออกไป จากนั้นหมอเขาก็บอกว่า จะพิมพ์ฟันเรา เริ่มแรกจะมีวัสดุอุ่นๆนิ่มๆให้เรากัด ต่อมาเขาก็เอาเหล็กที่บล็อคฟัน-ล่างมาลงใส่เข้าไปกับฟันเราดู (คิดว่าน่าจะเป็นแม่พิมพ์) แล้วเขาก็เอาออก หมอเขาก็บอกกับเราว่าไม่ต้องตื่นเต้นน้ะคะ ทำใจสบายๆ หายใจเข้าหายใจออกลึกๆ เดี๋ยวต่อไปหมอต้องใส่แบบเมื่อกี้นี้อีกรอบนะคะ แต่รอบนี้จะมีวัสดุเย็นๆค่ะ แล้วหมอจะต้องกดแรงนิดนึงนะคะ(เรามีโรคประจำตัว เราเป็นโรคหอบ หมอเขาเลยต้องค่อนข้างใส่ใจเรื่องนี้ค่ะ) จากนั้นเขาก็เอาบล็อคนั้นมาใส่เข้ากับฟันเราอีกรอบ แล้วเขาก็กด พิมพ์ฟันก็ประมาณนี้อ้ะคะ ตอนพิมพ์ฟันบนไม่เท่าไหร่ แต่ตอนพิมพ์ฟันล่างนี่แบบบอกไม่ถูกเหมือนจะอ้วกยังไงไม่รู้ แถมตอนแกะเหมือนจะเอาไม่ออกด้วย แต่ก็ออกค่ะ คุณหมอเขาทำดี มือเบาด้วย (เป็นเฉพาะบางคนน้ะ) พอพิมพ์ฟันเสร็จ หมอเขาก็ถ่ายรูป หน้าตรง ด้านข้าง หุบปาก ยิ้มเห็นฟัน แล้วหมอเขาก็บอกว่าเสร็จแล้วค่ะ เดี๋ยวอีกสักพักต้องไปเอกซเรย์น้ะคะ เราก็ออกมาจากห้องมานั่งรอกับแม่ พักหนึ่ง ก็มีพี่พนักงานเอกซเรย์พาเราไปเอกซเรย์ชั้น 3 ตอนเอกซเรย์รอบแรก มันจะมีอุปกรณ์ของเครื่องเอกซเรย์ให้เรากัดไว้ รอบสองจะมีอุปกรณ์ของเครื่องเอกซเรย์สอดเข้าไปในรูหูเรา (ไม่ลึกค่ะ) พักหนึ่งก็เป็นอันเสร็จ (ตอนที่เครื่องเอกซเรย์กำลังเอกซเรย์มันจะมีเสียง ไม่น่ากลัวค่ะ) พี่เขาก็บอกกับเราว่าเสร็จแล้ว ไปรอชั้นล่างได้เลยค่ะ เราก็เดินลงไปหาแม่ พี่ที่เคาท์เตอร์ก็เรียกไปชำระค่าใช้จ่าย ดังนี้...??
- ค่าพิมพ์ฟัน 500 บาท
- ค่าเอกซเรย์ฟัน 1,000 บาท
รวม 1,500 บาท (จ่ายไปเรียบร้อยค่ะ) แล้วเรากับแม่ก็ออกมาจากคลินิก
การเคลียร์ช่องปาก
ณ โรงพยาบาล วันนั้นเราจะไปขูดหินปูน แต่พอดูนาฬิกาก็กลัวว่าจะไม่ทันอ้ะ มันสายแล้วด้วยไง พอไปยื่นบัตรพี่พยาบาลคนสวยก็บอกว่าน่าจะไม่ได้ขูดเพราะเต็มหมดแล้ว แต่ถ้าคิวถอนอ้ะยังมีอยู่ค่ะ เราก็ตกใจ แล้วก็สะกิดแม่ว่าไม่อยากถอนวันแรก แล้วพี่พยาบาลก็บอกว่า เดี๋ยวหนูไปนั่งพักให้หายเหนื่อยแล้ววัดความดันให้พี่หน่อยน้ะคะ แม่เรายังคุยกับพี่พยาบาลคนสวยอยู่ แม่เดินมาหาเรา บอกว่า วันนี้อาจจะได้ขูดหินปูน แต่ต้องรอแฟ้มประวัติก่อน รออยู่พักใหญ่แฟ้มประวัติก็ยังไม่มา แม่เราเลยบอกว่า อยู่นี่แหละเดี๋ยวแม่ลงไปถามแฟ้มประวัติที่เคาท์เตอร์ชั้น 1 ให้ (แผนกทันตกรรมอยู่ชั้น 3 ) แม่เราเดินลงไปทางบันไดด้วย (Super Mom) สรุปวันนั้นแม่ไปตามแฟ้มประวัติเรามาให้ที่แผนกทันตกรรมทัน เราก็เลยได้ขูดหินปูน
ต่อมา เราก็ไปอุดฟัน 3 ซี่ เรื่อยๆ ไม่ได้อุด 3 ซี่ ทีเดียวหรอก เพราะว่าแต่ละซี่ที่ผุอ้ะ ผุลึกและก็ผุซี่ที่ 7 (ซี่สุดท้าย หรือฟันกรามซี่ในสุดอ้ะ) ผุซี่ที่ 7 ล่างซ้าย-ขวา และก็ ผุซี่ที 7 บนซ้าย อุดวันละซี่ (ขอบอกเลยน้ะใครที่ฟันผุซี่ในสุดอ้ะผุลึกมากเงี้ย ถอนทิ้งเลยดีกว่า อุดแบบเราอ้ะทรมาน มีซี่หนึ่งในสามซี่นี้อ้ะ มันผุลึก แล้วตอนเจียฟันอ้ะเราเสียวมาก หมอนต้องฉีดยาชาให้เรา ไม่งั้นคงอุดไม่เสร็จอ้ะ แล้วนั่นเป็นการฉีดยาชาครั้งแรกในชีวิต มันเจ็บและปวด น้ำตาแทบเล็ด) แต่ก็ไม่ได้อุดทุกวันหรอกน้ะ เพราะบางวันก็ไปเสียเที่ยว คิวเต็มแล้วก็ต้องกลับบ้าน (ประมาณว่าไปถึงยื่นบัตร พี่พยาบาลบอก กลับบ้านได้เลยค่ะ คิวเต็มแล้วค่ะ) ไม่ได้ราบรื่นค่ะ และแล้วก็มาถึงวันที่อุดฟันหมดแล้ว และต่อมาคือต้องถอน วันที่ถอน เราขอถอน 2 ซี่ ข้างซ้าย วันนั้นตอนถอนพี่พยาบาลคนสวยสลับคิวเรามาอยู่ห้อง 3 เขาบอกเราว่าเดี๋ยวป้ายยาชาให้ตอนฉีดยาชาจะได้ไม่เจ็บ หมอเขาก็ป้ายยาชาให้เรา แล้วเขาก็คุยกันเรื่องยาชาที่ป้ายอยู่ว่าป้ายแล้วตอนฉีดก็ยังรู้สึกอยู่ (เราแบบคิดเลย แล้วทำไมเขาไม่คุยกันเวลาอื่น มาคุยตอนที่เรากำลังจะถอนเนี้ยน้ะ) เป็นไปตามที่เขาคุยกัน ตอนฉีดก็ยังรู้สึกเจ็บอยู่ดี (ยาชาหลอกเด็ก) ระหว่างที่รอยาชาออกฤทธิ์หมอเขาก็พยายามคุยกับเราให้เราผ่อนคลาย แล้วเขาก็ถามว่ารู้สึกชาๆหนาๆยัง เราก็พยักหน้า เขาก็เอาเครื่องมือมากดๆ เขาก็ถามว่ารู้สึกไหม เราก็บอกว่าไม่ เขาก็เอาเครื่องมือมาแซะเหงือกเรา (ฟันบน) คือตอนนั้นไม่รู้สึกอ้ะ มีแค่แรงกดเฉยๆ แต่ตอนเขาเอาคีมมาดึงฟันอ้ะ มันก็จะรู้สึกดึงๆอ้ะ พอฟันหลุด เขาก็ให้เราพักแป๊บนึง พี่พยาบาลคนสวยมาคุยกับเราแล้วจับมือเรา เขาบอก โห มือ เย็นเฉียบเลย พอมาฟันล่าง โห อันเนี้ย รู้สึกเลย กดอย่างแรง ดึงอย่างแรง เขาบอกว่ามันจะรู้สึกต่างจากฟันล่างนิดหน่อย แต่ถ้าเจ็บจี๊ดยกมือบอกเขา รู้สึกล้วนๆเลย แต่มันก็ไม่ได้เจ็บอ้ะ แต่ความรู้สึกมันแบบเหมือนอีกนิดก็จะเจ็บจี๊ดแล้วอ้ะ แต่ก็ผ่านมาได้ พี่พยาบาลคนสวยถามเราว่า ฟันหนูจะเอากลับบ้านป่าวคะ เราพยักหน้า เขาก็พูดเชิงตลกว่า เห็นไหมมีโปรโมชั่นด้วยถอนฟัน แถมฟันกลับบ้านด้วย (ตอนถอนเขาไม่ได้เอาผ้ามาคลุมหน้าเราหรอก)
การถอนฟันโดยการจัดฟันไม่ใช่การรักษาที่โรงยาบาลก็เสียเงินค่ะ ของเราเสียซี่ละ 200 บาท รวมวันนั้น เสีย 400 บาท
ตอนนี้เรากำลังพักให้แผลที่ถอนมาหายก่อน 1 อาทิตย์ จากนั้นก็จะไปถอนต่ออีก 2 ซี่ค่ะ (ขอบอกว่ากินอาหารลำบากมาก กินโจ๊กเรายังใช้หลอดดูดเลย อาจจะเป็นกับบางคนเท่านั้น ถอนฟันมาเราก็มีอาการปวดฟันบ้างนิดหน่อยค่ะ)
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้