ยอมรับว่านี่เป็นกระทู้แรกในชีวิตของเราและกว่าเราจะทำใจตั้งกระทู้และอธิบายออกไปให้ใครได้รับรู้ก็ทำใจอยู่นานเหมือนกันซึ่งจุดประสงค์ก็เพราะปัญหาข้างต้นนั่นแหละหลายคนอาจจะคิดว่าชีวิตคุณดีกว่าคนอื่นอีกมากมายคุณมีแขน ขาครบ จริงค่ะอันนั้นเราไม่เถียงแต่ชีวิตเราก็ใช่ว่าจะราบรื่น เอาล่ะ!!!เราจะเริ่มเล่าชีวิตอันแสน เรียกว่าบัดซบได้มั้ย เพราะตั้งแต่เกิดมาเราได้ประสบกับคำว่าความสุขแค่กี่ครั้งกันเพราะเรา"ไม่มีทั้งพ่อและแม่"ไว้ให้พึ่งพิงเนื่องจากพวกท่านเสียชีวิตไปนานแล้ว เราอาศัยอยู่กับพี่ชายเพียงสองคนพี่ชายเราก็ใช่ว่าจะให้ความสนใจเรามากนักเขาเพียงแค่เจียดเศษเงินให้เราใช้บ้างไม่เคยเจอหน้ากันทั้งอาทิตย์ก็มี ปัญหาที่เราเจอนี้พอจะเรียกว่าบัดซบได้รึยังถ้ายัง...มันยังมีอีก ก่อนหน้านี้เราพยายามสวดมนต์ให้พระท่านคุ้มครองพี่ชายเราทุกคืนเพราะความที่เรามีเค้าเป็นคนที่เรียกว่าครอบครัวได้เต็มปากเป็นคนสุดท้าย แต่ดูเหมือนสิ่งศักสิทธ์คงไม่มีจริงเพราะรุ่งเช้าประมาณตี3มีคนมาเคาะประตูบ้านเราพร้อมกับฝันร้ายที่เกิดขึ้นจริง พี่เราประสบอุบัติเหตุเราต้องดิ้นรนทำให้เค้าทุกอย่างโดยลำพังผ่านช่วงเวลานั้นมาอย่างยากลำบาก แต่สุดท้ายพี่เราก็กลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้ เค้าพิการและที่แย่ไปกว่านั้นคือ เราเข้าใจว่าคนป่วยคงมีอารมณ์ฉุนเฉียวบ้างแต่ที่เป็นอยู่มันมากเกินไปพอพี่เราโกรธที่เราทำอะไรให้ไม่พอใจเค้ามักจะด่าเราเสียๆหายๆให้อายชาวบ้านทั้งที่มันไม่เป็นความจริง บางครั้งก็ไล่เราไปและสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกแย่มากที่สุดคือความฝันที่อยากจะเรียนต่อของเรามันพังสลาย จนเราต้องออกมาหางานทำและตามมาพร้อมกับปัญหาใหม่ที่ที่เราอยู่เรียกได้ว่าค่อนข้างชนบท งานมีน้อย ประกอบกับเราต้องหางานทำใกล้บ้านเนื่องจากต้องดูพี่ด้วย งานที่เราได้เป็นงานขายของอาจมองว่ามันง่ายๆแต่ที่ที่เราจะไปทำงานเจ้านายค่อยข้างดุ เค้าให้เราทำทุกอย่าง ซักผ้า ทำงานบ้าน หรือแม้แต่งานที่เราไม่ถนัดซักนิดอย่างปอกผลไม้(เจ้านายมีกิจการหลายอย่างหนึ่งในนั้นคือร้านที่เราทำงานขายอุปกรณ์และขายผลไม้) เราก็ต้องทำทุกเช้าเราไม่อยากตื่นอยากจะหลับแบบไม่มีวันตื่นด้วยซ้ำ เราเคยคิดอยากหนีไปให้ไกลที่สุด ไปในที่ที่ไม่มีใครรู้จักอยากไปเริ่มต้นชีวิตใหม่ที่นั่นอาจจะทำงานรับจ้างไปก่อนแก้ขัด แรกๆอาจจะลำบากซักนิดแต่เราเชื่อว่าต่อไปเราจะสามารถปรับตัวได้ แต่เราไม่สามารถทำอย่างนั้นได้เพราะยังมีคำว่าบุญคุณค้ำคออยู่เรายังมีพี่ที่ต้องดูแล มีภาระที่ไม่สามรถสลัดไปไหนได้
จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังคงต้องจมปรักอยู่กับความทุกข์พวกนั้น ที่ที่เราอยู่และสิ่งที่เราเจอเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ล่ามให้เราไปไหนไม่ได้บางทีก็คิดนะว่าถ้าเรื่องนี้ถูกเอาไปแต่งเป็นนิยายมันคงจะเป็นเรื่องที่ห่วยแตกที่สุด
สุดท้ายเราอยากจะบอกกับคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของเราว่าขอบคุณที่รับฟังปัญหาและขอบคุณทุกๆความคิดเห็นจริงๆ
หมดหวัง ท้อแท้ สิ้นหวัง
จนถึงทุกวันนี้เราก็ยังคงต้องจมปรักอยู่กับความทุกข์พวกนั้น ที่ที่เราอยู่และสิ่งที่เราเจอเป็นเหมือนโซ่ตรวนที่ล่ามให้เราไปไหนไม่ได้บางทีก็คิดนะว่าถ้าเรื่องนี้ถูกเอาไปแต่งเป็นนิยายมันคงจะเป็นเรื่องที่ห่วยแตกที่สุด
สุดท้ายเราอยากจะบอกกับคนที่เข้ามาอ่านเรื่องราวของเราว่าขอบคุณที่รับฟังปัญหาและขอบคุณทุกๆความคิดเห็นจริงๆ