อีกสองวัน ผมก็ต้องไปสอนแดนเป็นครั้งที่ 3 เรารู้จากสองครั้งแรกว่าแดนสนใจชีวะกับเคมีมาก (จริงๆแล้วรู้ก่อนหน้านั้นอีก)แต่ที่เราไม่เคยรู้เลยก็คือแดนสนใจฟิสิกส์มากน้อยแค่ไหน และนี่ถือเป็นเรื่องที่ยากสำหรับผม
ก่อนอื่นเลยเราก็ต้องมาดูกันก่อนว่าเนื้อหาที่ควรสอนเขามีอะไรบ้าง ผมหาหัวข้อมาจากเว็บนี้
อ่านดูสักพักก็ตกลงปลงใจที่จะสอนเรื่อง Motion ผมว่าคนที่ชอบฟิสิกส์โดยส่วนใหญ่ก็น่าที่จะเลือกหัวข้อนี้ครับ หลังจากนั้นเราก็จะเล็งไปที่เรื่อง Speed เพราะว่าเป็นเรื่องที่น่าสอนมาก มันเป็นเรื่องที่พอแดนเข้าใจแล้ว มันก็จะเป็นพื้นฐานที่จะทำให้เขาสามารถที่จะเรียนรู้เรื่องทางฟิสิกส์ไปเรื่อยๆได้
แล้วมันควรจะเริ่มมาจากตรงไหนดีละครับ
คนชอบฟิสิกส์มักจะรู้กันว่า Define speed and calculate average speed from total distance หารด้วย total time
ก่อนอื่นเลยแดนต้องรู้เรื่องภาพรวมก่อน ผมเลยหาภาพที่สามารถจะอธิบายเรื่องภาพรวมได้จากภาพนี้
พอมาเตรียมสอนแดน มันทำให้ผมอินกับฟิสิกส์มากขึ้นเหมือนกันนะครับ คือเราต้องหาวิธีสอนเขาให้เข้าใจว่าอะไรมันคืออะไร
และมันต้องเริ่มมาจากสิ่งที่เรามองเห็นก่อน นั่นคือ total distance หลังจากนั้นมันก็ต้องเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้ นั่นก็คือ total time แล้วพระเอกของเราก็โผล่มา ซึ่งก็คือ speed หรืออาจเรียกได้ว่า average speed แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า speed มันคือเท่าไหร่ เราก็ต้อง calculate คือถ้าจะปูพื้นฐานด้านฟิสิกส์ให้กับเด็ก 5 ขวบ ผมว่าตรงนี้ต้องชัดมากๆ ส่วน concept อื่น เช่น displacement , acceleration และก็ velocity ก็แล้วแต่จังหวะและโอกาสก็แล้วกัน
ต่อมาเราต้องหาสื่อที่เหมาะกับเขา ผมเลยหาภาพนี้มา
ผมว่ามันเหมาะมากๆเลยครับ ผม print สี และก็ถ่ายเอกสีออกมาอีกหลายชุด เดี๋ยวก็รู้ครับว่าทำไมผมต้องภาพนี้ไปหลายภาพด้วย.
พอถึงวันที่จะต้องไปสอน ผมก็ตื่นเต้นอีกแล้วครับ จริงๆนี่ก็ครั้งที่ 3 แล้ว แต่ผมก็ยังตื่นเต้นอยู่เลย
พอเราเจอกันเป็นครั้งที่ 3 เราก็สนิทกันมากขึ้น
ก่อนอื่นเลย ผมก็บอกแดนว่าวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องฟิสิกส์ concept สำคัญอย่างแรกที่แดนต้องรู้จักคือ distance โชคดีมากที่แดนรู้จักคำนี้แล้ว ผมก็เลยชวนคุยเรื่อง time มันก็จะเริ่มออกปรัชญาหน่อยๆ เราคุยกันและถกเถียงกันว่า time มันคืออะไรกันแน่ก่อนจะวกกลับมาว่ามันก็คือ time นั่นแหละ
พอมาถึง speed เราจะรู้ได้ยังไงล่ะ เราก็ต้อง calculate นะ ไม่งั้นเราจะไม่รู้ พอมาถึงตรงนี้ แหะ ผมดันใช้คำผิด ผมพูดว่า speed ก็คือ distance over time ซึ่งก็น่าจะเข้าใจนะ แต่แดนทำหน้างงๆ และพูดออกมาว่า distance divided by time ? ซึ่งก็โอเคนะ ผมก็บอกว่าใช่ ผมลืมไปเลยว่าสำหรับแดนแล้ว คำมันต้องชัด
หลังจากนั้น ผมก็โชว์รูปนี้เพื่อให้เขาเห็นโดยภาพรวมว่าอะไรมันคืออะไร
พอเข้าใจกันดีแล้ว มันต้องมีแบบฝึกหัด แต่ของเรามันคงไม่ใช่แบบฝึกหัดธรรมดา
ผมหยิบเอกสารนี้ขึ้นมา
แล้วก็พูดว่า “ผมจะให้แดนหาคนมา 5 คนนะ เราจะมาดูกันว่า เขาสามารถวิ่งได้ distance เท่าไหร่ ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ แล้วเราก็จะมาหา average speed กัน เริ่มคนแรกเลยครับ"
แดนพูดว่า “ผมละกัน”
“โอเค แล้วแดนวิ่งได้เท่าไหร่ละ”
“อืม เอา 500 เมตรละกันครับ”
“เวลาที่ใช้อ่ะครับ”
“อืม 100 วินาทีครับ”
ผมคิดในใจว่า แหม ฉลาดจัง พยายามหาตัวเลขที่คำนวณง่าย
“โอเคครับ speed ของแดนเป็นเท่าไหร่ครับ”
“ 5 เมตรต่อวินาทีครับ”
“โอเคครับ คนต่อไปเลือกใครดีเอ่ย”
“เอาครูครับ”
“ได้ครับ แดนคิดว่าผมวิ่งได้กี่เมตร”
“ครูแก่แล้ว เอา 10 เมตรพอครับ”
“แล้วผมใช้เวลาไปเท่าไหร่ละ”
“น่าจะสัก 5 วินาที”
“speed จึงเป็น”
“2 เมตรต่อวินาทีครับ”
“คนที่ 3 เอาใครดีครับ แม่ไหม”
“อืม เอากัปตันอเมริกาครับ”
“โอ้ ชอบกัปตันอเมริกาเหรอครับ”
“ชอบมากครับ ครูชอบไหม”
“ไม่เคยดูเลยครับ ผมชอบสไปเดอร์แมนอ่ะ”
“อ๋อ ครับ”
“กัปตันอเมริกาวิ่งได้ไกลไหมครับ”
“น่าจะ 2,000 กิโลเมตรนะครับ”
“ใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ครับ”
“5 ชั่วโมงครับ”
“งั้น speed เป็นเท่าไหร่ครับ”
“400 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ”
“เก่งมากครับ”
ตอนนั้นผมนึกอะไรได้บางอย่าง จึงอยากถามแดนดู
“ผมมีคำถาม 5 ข้อนะครับ จะให้แดนเลือกว่าใครเหมาะที่จะเป็นคำตอบบ้าง”
“ได้ครับ”
“ถ้าพูดถึง The best man แดนคิดว่าใครครับ”
“ต้องกัปตันอเมริกาครับ”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะเขาช่วยเหลือผู้อื่นครับ”
“แล้วคิดว่าใครคือคนที่ฉลาดที่สุดครับ”
“กัปตันอเมริกาครับ”
“อ้าว ไม่ใช่แดนเหรอครับ”
“ไม่ใช่แน่นอนครับ”
“ทำไมกัปตันอเมริกาถึงฉลาดที่สุดครับ”
“ก็เขาเลือกที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอ่ะครับ เขาเลือกทางถูก”
อีกคำถามหนึ่งที่ผมถามเขาก็คือ
“แล้วใครเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดครับ”
“ครูไงครับ”
“คงไม่ใช่มั้ง ในโลกมีนักวิทยาศาสตร์ตั้งเยอะ”
“ผมไม่รู้จักนี่ครับว่าใครเป็นใคร ผมรู้จักแต่ครู ครูก็โอเคครับ ตั้งใจสอนผม”
ผมเลยลองเปลี่ยนคำถามใหม่
“เอาอย่างนี้ก็ได้ งั้นใครคือนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดครับ”
“ก็ครูอีกล่ะครับ”
ผมงง “ไหงเป็นอย่างนั้นละครับ”
“เท่าที่เราคุยกัน ผมว่าโอเคครับ คนอื่นผมไม่รู้จัก”
“ทำไมต้องรู้จักด้วยอ่ะครับ”
“ถึงจะเก่ง แต่ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่องก็คงไม่เก่งอ่ะครับ”
“กัปตันอเมริกาเป็นไปได้ไหมครับ”
“กัปตันอเมริกาไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ครับ”
“โอเคครับ”
หลังจากนั้นเราก็คุยกันอีกหลายเรื่องครับ ก็ไม่ค่อยจะสำคัญเท่าไหร่นัก อ้อ แต่มีเรื่องนึง ผมอยากรู้มากๆเลยครับ
“แดนชอบดูการ์ตูนเรื่องอะไรอ่ะครับ”
“Scooby doo ครับ”
“แล้วทำไมถึงชอบเรื่องนี้ละครับ”
“ชอบเดาอ่ะครับว่าตอนจบ ใครคือตัวร้ายในแต่ละตอน ชอบครับ แล้วก็ในเรื่องมีผี แต่สุดท้ายผีก็ไม่ใช่ผีครับ”
ผมโล่งอกมากๆเลยที่แดนมีการ์ตูนที่ชอบ
วันนั้นเป็นอีกวันที่ผมชอบมากครับ รู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกดีในหลายๆเรื่อง
ก่อนจากกัน แดนบอกผมว่า “อย่าลืมไปหากัปตันอเมริกามาดูนะครับ”
“โอเคครับ ผมไม่ลืมหรอก”
แล้วผมก็ออกจากบ้านแดนมาอย่างมีความสุขครับ.
CCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCCC
*** แดน อัจฉริยะวัย 5 ขวบ เพื่อนใหม่ของผม ตอนที่ 4 ฟิสิกส์ + กัปตันอเมริกา ***
ก่อนอื่นเลยเราก็ต้องมาดูกันก่อนว่าเนื้อหาที่ควรสอนเขามีอะไรบ้าง ผมหาหัวข้อมาจากเว็บนี้
อ่านดูสักพักก็ตกลงปลงใจที่จะสอนเรื่อง Motion ผมว่าคนที่ชอบฟิสิกส์โดยส่วนใหญ่ก็น่าที่จะเลือกหัวข้อนี้ครับ หลังจากนั้นเราก็จะเล็งไปที่เรื่อง Speed เพราะว่าเป็นเรื่องที่น่าสอนมาก มันเป็นเรื่องที่พอแดนเข้าใจแล้ว มันก็จะเป็นพื้นฐานที่จะทำให้เขาสามารถที่จะเรียนรู้เรื่องทางฟิสิกส์ไปเรื่อยๆได้
แล้วมันควรจะเริ่มมาจากตรงไหนดีละครับ
คนชอบฟิสิกส์มักจะรู้กันว่า Define speed and calculate average speed from total distance หารด้วย total time
ก่อนอื่นเลยแดนต้องรู้เรื่องภาพรวมก่อน ผมเลยหาภาพที่สามารถจะอธิบายเรื่องภาพรวมได้จากภาพนี้
พอมาเตรียมสอนแดน มันทำให้ผมอินกับฟิสิกส์มากขึ้นเหมือนกันนะครับ คือเราต้องหาวิธีสอนเขาให้เข้าใจว่าอะไรมันคืออะไร
และมันต้องเริ่มมาจากสิ่งที่เรามองเห็นก่อน นั่นคือ total distance หลังจากนั้นมันก็ต้องเป็นสิ่งที่เราสัมผัสได้ นั่นก็คือ total time แล้วพระเอกของเราก็โผล่มา ซึ่งก็คือ speed หรืออาจเรียกได้ว่า average speed แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่า speed มันคือเท่าไหร่ เราก็ต้อง calculate คือถ้าจะปูพื้นฐานด้านฟิสิกส์ให้กับเด็ก 5 ขวบ ผมว่าตรงนี้ต้องชัดมากๆ ส่วน concept อื่น เช่น displacement , acceleration และก็ velocity ก็แล้วแต่จังหวะและโอกาสก็แล้วกัน
ต่อมาเราต้องหาสื่อที่เหมาะกับเขา ผมเลยหาภาพนี้มา
ผมว่ามันเหมาะมากๆเลยครับ ผม print สี และก็ถ่ายเอกสีออกมาอีกหลายชุด เดี๋ยวก็รู้ครับว่าทำไมผมต้องภาพนี้ไปหลายภาพด้วย.
พอถึงวันที่จะต้องไปสอน ผมก็ตื่นเต้นอีกแล้วครับ จริงๆนี่ก็ครั้งที่ 3 แล้ว แต่ผมก็ยังตื่นเต้นอยู่เลย
พอเราเจอกันเป็นครั้งที่ 3 เราก็สนิทกันมากขึ้น
ก่อนอื่นเลย ผมก็บอกแดนว่าวันนี้เราจะมาคุยกันเรื่องฟิสิกส์ concept สำคัญอย่างแรกที่แดนต้องรู้จักคือ distance โชคดีมากที่แดนรู้จักคำนี้แล้ว ผมก็เลยชวนคุยเรื่อง time มันก็จะเริ่มออกปรัชญาหน่อยๆ เราคุยกันและถกเถียงกันว่า time มันคืออะไรกันแน่ก่อนจะวกกลับมาว่ามันก็คือ time นั่นแหละ
พอมาถึง speed เราจะรู้ได้ยังไงล่ะ เราก็ต้อง calculate นะ ไม่งั้นเราจะไม่รู้ พอมาถึงตรงนี้ แหะ ผมดันใช้คำผิด ผมพูดว่า speed ก็คือ distance over time ซึ่งก็น่าจะเข้าใจนะ แต่แดนทำหน้างงๆ และพูดออกมาว่า distance divided by time ? ซึ่งก็โอเคนะ ผมก็บอกว่าใช่ ผมลืมไปเลยว่าสำหรับแดนแล้ว คำมันต้องชัด
หลังจากนั้น ผมก็โชว์รูปนี้เพื่อให้เขาเห็นโดยภาพรวมว่าอะไรมันคืออะไร
พอเข้าใจกันดีแล้ว มันต้องมีแบบฝึกหัด แต่ของเรามันคงไม่ใช่แบบฝึกหัดธรรมดา
ผมหยิบเอกสารนี้ขึ้นมา
แล้วก็พูดว่า “ผมจะให้แดนหาคนมา 5 คนนะ เราจะมาดูกันว่า เขาสามารถวิ่งได้ distance เท่าไหร่ ภายในระยะเวลาเท่าไหร่ แล้วเราก็จะมาหา average speed กัน เริ่มคนแรกเลยครับ"
แดนพูดว่า “ผมละกัน”
“โอเค แล้วแดนวิ่งได้เท่าไหร่ละ”
“อืม เอา 500 เมตรละกันครับ”
“เวลาที่ใช้อ่ะครับ”
“อืม 100 วินาทีครับ”
ผมคิดในใจว่า แหม ฉลาดจัง พยายามหาตัวเลขที่คำนวณง่าย
“โอเคครับ speed ของแดนเป็นเท่าไหร่ครับ”
“ 5 เมตรต่อวินาทีครับ”
“โอเคครับ คนต่อไปเลือกใครดีเอ่ย”
“เอาครูครับ”
“ได้ครับ แดนคิดว่าผมวิ่งได้กี่เมตร”
“ครูแก่แล้ว เอา 10 เมตรพอครับ”
“แล้วผมใช้เวลาไปเท่าไหร่ละ”
“น่าจะสัก 5 วินาที”
“speed จึงเป็น”
“2 เมตรต่อวินาทีครับ”
“คนที่ 3 เอาใครดีครับ แม่ไหม”
“อืม เอากัปตันอเมริกาครับ”
“โอ้ ชอบกัปตันอเมริกาเหรอครับ”
“ชอบมากครับ ครูชอบไหม”
“ไม่เคยดูเลยครับ ผมชอบสไปเดอร์แมนอ่ะ”
“อ๋อ ครับ”
“กัปตันอเมริกาวิ่งได้ไกลไหมครับ”
“น่าจะ 2,000 กิโลเมตรนะครับ”
“ใช้เวลาประมาณเท่าไหร่ครับ”
“5 ชั่วโมงครับ”
“งั้น speed เป็นเท่าไหร่ครับ”
“400 กิโลเมตรต่อชั่วโมงครับ”
“เก่งมากครับ”
ตอนนั้นผมนึกอะไรได้บางอย่าง จึงอยากถามแดนดู
“ผมมีคำถาม 5 ข้อนะครับ จะให้แดนเลือกว่าใครเหมาะที่จะเป็นคำตอบบ้าง”
“ได้ครับ”
“ถ้าพูดถึง The best man แดนคิดว่าใครครับ”
“ต้องกัปตันอเมริกาครับ”
“ทำไมล่ะ”
“เพราะเขาช่วยเหลือผู้อื่นครับ”
“แล้วคิดว่าใครคือคนที่ฉลาดที่สุดครับ”
“กัปตันอเมริกาครับ”
“อ้าว ไม่ใช่แดนเหรอครับ”
“ไม่ใช่แน่นอนครับ”
“ทำไมกัปตันอเมริกาถึงฉลาดที่สุดครับ”
“ก็เขาเลือกที่จะช่วยเหลือผู้อื่นอ่ะครับ เขาเลือกทางถูก”
อีกคำถามหนึ่งที่ผมถามเขาก็คือ
“แล้วใครเป็นนักวิทยาศาสตร์ที่ดีที่สุดครับ”
“ครูไงครับ”
“คงไม่ใช่มั้ง ในโลกมีนักวิทยาศาสตร์ตั้งเยอะ”
“ผมไม่รู้จักนี่ครับว่าใครเป็นใคร ผมรู้จักแต่ครู ครูก็โอเคครับ ตั้งใจสอนผม”
ผมเลยลองเปลี่ยนคำถามใหม่
“เอาอย่างนี้ก็ได้ งั้นใครคือนักวิทยาศาสตร์ที่เก่งที่สุดครับ”
“ก็ครูอีกล่ะครับ”
ผมงง “ไหงเป็นอย่างนั้นละครับ”
“เท่าที่เราคุยกัน ผมว่าโอเคครับ คนอื่นผมไม่รู้จัก”
“ทำไมต้องรู้จักด้วยอ่ะครับ”
“ถึงจะเก่ง แต่ถ้าสื่อสารไม่รู้เรื่องก็คงไม่เก่งอ่ะครับ”
“กัปตันอเมริกาเป็นไปได้ไหมครับ”
“กัปตันอเมริกาไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ครับ”
“โอเคครับ”
หลังจากนั้นเราก็คุยกันอีกหลายเรื่องครับ ก็ไม่ค่อยจะสำคัญเท่าไหร่นัก อ้อ แต่มีเรื่องนึง ผมอยากรู้มากๆเลยครับ
“แดนชอบดูการ์ตูนเรื่องอะไรอ่ะครับ”
“Scooby doo ครับ”
“แล้วทำไมถึงชอบเรื่องนี้ละครับ”
“ชอบเดาอ่ะครับว่าตอนจบ ใครคือตัวร้ายในแต่ละตอน ชอบครับ แล้วก็ในเรื่องมีผี แต่สุดท้ายผีก็ไม่ใช่ผีครับ”
ผมโล่งอกมากๆเลยที่แดนมีการ์ตูนที่ชอบ
วันนั้นเป็นอีกวันที่ผมชอบมากครับ รู้สึกผ่อนคลาย รู้สึกดีในหลายๆเรื่อง
ก่อนจากกัน แดนบอกผมว่า “อย่าลืมไปหากัปตันอเมริกามาดูนะครับ”
“โอเคครับ ผมไม่ลืมหรอก”
แล้วผมก็ออกจากบ้านแดนมาอย่างมีความสุขครับ.