มีเงินเหลือเยอะ อยากจะปล่อยเงินกู้ แต่ไม่รู้ว่าจะเรียกดอกเบี้ยได้เท่าไรกันแน่?? (เชิญด้านใน)

สวัสดีครับ
เผอิญมีสมาชิกท่านหนึ่งหลังไมล์มาถามเกี่ยวกับดอกเบี้ยตามกฎหมาย
ก็เลยคิดว่าน่าจะยังมีอีกหลายท่านที่ยังไม่ทราบแน่ชัดเรื่องอัตราดอกเบี้ยตามที่กฎหมายกำหนด
จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ครับ (กระทู้นี้ไม่เกี่ยวกับสถาบันการเงินนะครับ กล่าวเฉพาะบุคคลทั่วไปล้วนๆ)

อาจจะดูเป็นวิชาการหน่อยแต่จะขอรวบรัดให้เข้าใจง่ายๆเลยนะครับ หนี้เงินกู้หรือหนี้เงินอื่นๆนั้น เราสามารถคิดดอกเบี้ยได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี
ถ้ามีการคิดดอกเบี้ยเกินกว่านี้ ดอกเบี้ยจะเป็นโมฆะทั้งหมดครับ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 654)
(แต่ยังเรียกสามารถเรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้ร้อยละ 7.5 ต่อปี อะไรคือผิดนัด เดี๋ยวอธิบาย)
โดยมาตรา 654 บัญญัติว่า “ห้ามมิให้เรียกดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี ถ้าในสัญญากำหนดดอกเบี้ยเกินกว่านั้น ก็ให้ลดลงมาเป็นร้อยละ 15 ต่อปี”  
ทีนี้หลายคนคงสงสัยว่า อ้าว...แล้วทำไมดอกเบี้ยมันเป็นโมฆะล่ะ มันต้องลดลงมาเป็นร้อยละ 15 ต่อปี มิใช่รึ?
กฎหมายก็เขียนไว้ชัดเจนอยู่แล้วนี่  ขอตอบดังนี้ครับ เพราะว่ามันมีพระราชบัญญัติห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตรา พ.ศ. 2560
(ฉบับเดิมคือ พ.ศ. 2475 ถูกยกเลิกโดยฉบับใหม่นี้ มีเนื้อหาคล้ายกันแต่เขียนข้อความให้ครอบคลุมป้องกันการหลีกเลี่ยงกฎหมาย
และเพิ่มโทษผู้กระทำผิดให้เหมาะสมกับปัจจุบัน) คือตาม พ.ร.บ.ห้ามเรียกดอกเบี้ยเกินอัตราฯ มันมีโทษทางอาญาและเป็นกฎหมายที่เกี่ยวกับความสงบเรียบร้อย
ดอกเบี้ยมันจึงเป็นโมฆะทั้งหมด แต่เขาไม่ได้ไปแก้ไขประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มารตรา 654
ซึ่งถ้าใครอ่านเฉพาะมาตรา 654 อย่างเดียว อาจจะทำให้เข้าใจผิดได้เหมือนกัน

ส่วนการกู้เงินที่คู่กรณีตกลงกันว่าจะคิดดอกเบี้ยเงินกู้ด้วย แต่ไม่ได้ระบุอัตราดอกเบี้ยไว้ อย่างนี้กฎหมายให้ใช้ร้อยละ 7.5 ต่อปีครับ
แต่ถ้าไม่ได้ตกลงว่าจะต้องเสียดอกเบี้ยด้วยก็จะเรียกดอกเบี้ยไม่ได้เลยนะ (ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 7)
(แต่ยังเรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้ร้อยละ 7.5 ต่อปี อะไรคือ เดี๋ยวอธิบาย)

ดอกเบี้ยผิดนัด คืออะไร
ก่อนอื่นต้องกล่าวถึงการผิดนัดก่อน  ผิดนัดก็เหมือนกับการที่เรานัดใครไว้แล้วไม่ไปตามนัดนั่นแหละ
ร้อยทั้งร้อยไม่มีใครอยากคบพวกที่ชอบผิดนัดหรอกครับ เอ๊ะ...หรือว่าใครชอบ?!?  
ซึ่งในทางกฎหมาย การผิดนัดก็คือการที่ลูกหนี้ไม่ชำระหนี้ตามวันเวลาที่ตกลงกันไว้กับเจ้าหนี้ (ผิดนัดทันที) (มาตรา 204 วรรคสอง)
หรือกรณีที่เป็นหนี้ไม่ได้ระบุเวลาชำระหนี้ไว้แน่นอน แต่เจ้าหนี้ได้บอกกล่าวเตือนให้ลูกหนี้ชำระหนี้แล้ว ลูกหนี้ก็ยังไม่ชำระ
ลูกหนี้ก็ตกเป็นผู้ผิดนัด (มาตรา 203 วรรคหนึ่ง ประกอบมาตรา 204 วรรคหนึ่ง)
ในกรณีที่ผิดนัดนี้กฎหมายกำหนดให้คิดดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 ต่อปี (มาตรา 224)
hightlight คือ หนี้เดิมไม่ว่าจะมีการคิดดอกเบี้ยกันหรือไม่ ถ้าผิดนัดปุ๊บ
กฎหมายก็ให้เจ้าหนี้มีสิทธิเรียกดอกเบี้ยได้ในระหว่างผิดนัด (ไม่ได้ย้อนไปถึงวันกู้นะ)
คล้ายๆเป็นการลงโทษลูกหนี้อยู่เนืองๆ ประมาณว่ามีหนี้ก็ต้องชำระให้ตรงเวลา เพิกเฉยก็ต้องโดนบทลงโทษบ้าง
แต่ถ้ามีการคิดดอกเบี้ยกันอยู่แล้ว และมีการคิดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าร้อยละ 7.5 ต่อปี (ไม่เกิน 15 ต่อปี) ดอกเบี้ยผิดนัดก็คิดในอัตราเดิมต่อปี
จะไม่ใช่ร้อยละ 7.5 ต่อปีนะครับ เช่น มีการกู้ยืมกันโดยคิดดอกร้อยละ 12 ต่อปี เมื่อผิดนัด ก็เรียกดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 12 ต่อไป
คือดอกเบี้ยอัตราเดิมจะยังคงเดินไปเรื่อยๆ เพราะถ้าให้ดอกเบี้ยผิดนัดลดลงมาเป็นร้อยละ 7.5 ต่อปี ก็สบายลูกหนี้สิครับ
แต่ถ้าเดิมเรียกดอกเบี้ยกันน้อยกว่าร้อยละ 7.5 ต่อปี เช่นมีการเรียกกันร้อยละ 5 ต่อปี เมื่อผิดนัดปุ๊บ ดอกเบี้ยมันจะไม่ใช่ร้อยละ 5 ต่อปี
แต่จะขยับเป็นร้อยละ 7.5 ต่อปี แต่ถ้าเดิมมีการเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปี ดอกเบี้ยเป็นโมฆะทั้งหมด
แต่คิดดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 7.5 ต่อปีได้เหมือนกัน เพราะถึงแม้ว่าดอกเบี้ยเงินกู้จะเป็นโมฆะ แต่เงินต้นยังสมบูรณ์อยู่นะครับ
นี่แหละคือดอกเบี้ยผิดนัดตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์

มันจะมีหนี้เงินอีกประเภทหนึ่งคือ หนี้ที่เกิดจากการละเมิด ละเมิดก็คือการที่เราไปทำอะไรให้เขาเสียหายอย่างใดๆก็ตาม
ไม่ว่าจะจงใจหรือประมาทเลินเล่อก็ตาม ถ้าตกลงค่าเสียหายกันได้ ในส่วนแพ่งก็จบไป
ในส่วนอาญา ถ้าไม่ใช่คดีความผิดต่อส่วนตัว จะไม่จบนะ แต่ไม่ขออธิบายเพราะมันยาวและเนื้อหาไม่เกี่ยวกับกระทู้นี้ เดี๋ยวจะออกทะเล
หากมีการฟ้องเรียกค่าเสียหายกันขึ้นมาแล้วฝ่ายผู้เสียหายชนะคดี กฎหมายก็ถือว่าผู้ทำละเมิดผิดนัดมาแต่เวลาทำละเมิด (วันทำละเมิด)
เมื่อเป็นหนี้เงิน ผิดนัดก็ต้องเสียดอกเบี้ยด้วยในอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีเหมือนกัน (มาตรา 206 ประกอบมาตรา 224)

สรุป หนี้เงินกู้ จะเรียกได้ไม่เกินร้อยละ 15 ต่อปี ถ้าดอกเบี้ยเกินกว่านี้ ดอกเบี้ยเป็นโมฆะทั้งหมด
แต่เงินต้นสมบูรณ์และเรียกดอกเบี้ยผิดนัดได้ร้อยละ 7.5 ต่อปี โดยดอกเบี้ยผิดนัดร้อยละ 7.5 ต่อปี ใช้กับหนี้เงินทุกประเภท
ไม่ว่าจะเกิดจากสัญญา (นิติกรรม) หรือละเมิด (นิติเหตุ) ก็ตาม อันนี้ในทางแพ่งนะครับ
ส่วนในทางอาญาใครเรียกดอกเบี้ยเกินร้อยละ 15 ต่อปี มีโทษทั้งจำและปรับ (ถ้าจับได้นะ55) และงานนี้ธนาคารบอกตรูไม่เกี่ยว ตรูได้อภิสิทธิ์(>_<")

อีกอย่าง พวกเงินกู้นอกระบบที่แปะตามเสาไฟฟ้าหรือตามสะพานลอยเนี่ย เท่าที่เห็นส่วนมากจะเรียกดอกเบี้ยกันเกินกว่าร้อยละ 15 ต่อปีมากกกกกกกกกกกก  
แต่ก็นะ ก็ยังมีคนไปกู้กัน แล้วเพราะอะไรล่ะ ประเด็นนี้ขอข้ามไปละกัน อธิบายไปเดี๋ยวโดนด่าอีก

ขอบคุณครับหัวเราะ
  
คำคมส่งท้าย “บุญคุณต้องทดแทน มีหนี้ต้องชำระ (เจ้าหนี้ฝากบอกว่า ขอต้นคืนก็ยังดี กราบล่ะ55)”
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่