คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 8
คนเราเกิดมา มันมีเหตุให้เกิดมา
เกิดมาแล้วแก่ เกิดมาแล้วตาย ร่างกายทิ้งลงดินไป สมบัติก็ทิ้งไว้เบื้องหลัง ญาติมิตรก็ตามไปไม่ได้ เกียรติยศศักดิ์ศรีก็ทิ้งลงดินตามไป
เกิดมาทำไม ดูจะเป็นคำถามที่ตอบยาก
แต่ถ้าถามว่าเกิดมาเพื่ออะไร อันนี้จะนึกภาพง่ายขึ้น
เราเกิดมาเพื่อแสวงหาในสิ่งที่เราต้องทิ้งหรือ
เราเกิดมาเพื่อผูกสัมพันธ์กับคนที่ต้องพลัดพรากจากลาหรือ
เราดิ้นรนแสวงหาสิ่งที่ไม่มั่นคงแน่นอน แล้วก็ตายไปอย่างเดียวดายหรือ
ถ้าคิดว่าบาปบุญเอาไปได้ ชาติหน้ามีจริง เราเกิดมาเพื่อเพียงทำบุญเอาไว้ใช้ชาติหน้า แล้วก็ต้องวนเวียนทำบุญ ใช้บุญ ทำบุญใช้บุญไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ได้มาทั้งสิ้น อย่างไม่มีวันจบลงหรือ
ค่อยๆมองภาพชีวิตทั้งชีวิตเหมือนหนังสือเล่มนึง ทุกเล่มต้องมีตอนจบ เขียนจบเรื่องนึง ก็วางลงแล้วหยิบเล่มใหม่ขึ้นมาเขียนเรื่อยๆอย่างไม่รู้จบ มองดูคนนั่งเขียนหนังสือเป็นพันๆหมื่นๆเล่ม บางเล่มเนื้อเรื่องดีน่าอิจฉาราวกับเทพนิยาย บางเรื่องทุกข์ตรมอย่างน่าสงสารวนเวียนไปมา มันคงเป็นภาพที่น่าอึดอัด
ผมเรียนและปฏิบัติชีวิตตามแนวทางของศาสนาพุทธ ขอพูดตามสิ่งที่เข้าใจคือ ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อเรียนรู้ ว่าชีวิตนี้มีทุกข์มากสุขน้อย สิ่งต่างๆควบคุมและบังคับบัญชาไม่ได้ เกิดและตายวนเวียนมานานแสนนาน และจะนานต่อไปอีก เราพอใจแบบนี้หรือ ถ้าไม่พอใจ เห็นว่าไม่มีแก่นสารสาระใดใดในการเกิดมา ก็ถึงค่อยๆสอนใจเข้ามา ค่อยๆถอดถอนความยึดถือกายนี้ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการออกจากโลก อย่างไม่ต้องหันกลับมาอีก
เกิดมาแล้วแก่ เกิดมาแล้วตาย ร่างกายทิ้งลงดินไป สมบัติก็ทิ้งไว้เบื้องหลัง ญาติมิตรก็ตามไปไม่ได้ เกียรติยศศักดิ์ศรีก็ทิ้งลงดินตามไป
เกิดมาทำไม ดูจะเป็นคำถามที่ตอบยาก
แต่ถ้าถามว่าเกิดมาเพื่ออะไร อันนี้จะนึกภาพง่ายขึ้น
เราเกิดมาเพื่อแสวงหาในสิ่งที่เราต้องทิ้งหรือ
เราเกิดมาเพื่อผูกสัมพันธ์กับคนที่ต้องพลัดพรากจากลาหรือ
เราดิ้นรนแสวงหาสิ่งที่ไม่มั่นคงแน่นอน แล้วก็ตายไปอย่างเดียวดายหรือ
ถ้าคิดว่าบาปบุญเอาไปได้ ชาติหน้ามีจริง เราเกิดมาเพื่อเพียงทำบุญเอาไว้ใช้ชาติหน้า แล้วก็ต้องวนเวียนทำบุญ ใช้บุญ ทำบุญใช้บุญไปเรื่อยๆ แต่สุดท้ายก็ต้องพลัดพรากจากสิ่งที่ได้มาทั้งสิ้น อย่างไม่มีวันจบลงหรือ
ค่อยๆมองภาพชีวิตทั้งชีวิตเหมือนหนังสือเล่มนึง ทุกเล่มต้องมีตอนจบ เขียนจบเรื่องนึง ก็วางลงแล้วหยิบเล่มใหม่ขึ้นมาเขียนเรื่อยๆอย่างไม่รู้จบ มองดูคนนั่งเขียนหนังสือเป็นพันๆหมื่นๆเล่ม บางเล่มเนื้อเรื่องดีน่าอิจฉาราวกับเทพนิยาย บางเรื่องทุกข์ตรมอย่างน่าสงสารวนเวียนไปมา มันคงเป็นภาพที่น่าอึดอัด
ผมเรียนและปฏิบัติชีวิตตามแนวทางของศาสนาพุทธ ขอพูดตามสิ่งที่เข้าใจคือ ชีวิตนี้เกิดมาเพื่อเรียนรู้ ว่าชีวิตนี้มีทุกข์มากสุขน้อย สิ่งต่างๆควบคุมและบังคับบัญชาไม่ได้ เกิดและตายวนเวียนมานานแสนนาน และจะนานต่อไปอีก เราพอใจแบบนี้หรือ ถ้าไม่พอใจ เห็นว่าไม่มีแก่นสารสาระใดใดในการเกิดมา ก็ถึงค่อยๆสอนใจเข้ามา ค่อยๆถอดถอนความยึดถือกายนี้ อันเป็นจุดเริ่มต้นของการออกจากโลก อย่างไม่ต้องหันกลับมาอีก
แสดงความคิดเห็น
ใครเคยรู้สึกบ้างว่าชีวิตมันแค่นี้เองหรอ ?