รีวิว :: Ghost In The Shell (2017) “มนุษย์คืออะไร? จิตวิญญาณคืออะไร?”



“Ghost In The Shell”  (3/5)

“มนุษย์คืออะไร? จิตวิญญาณคืออะไร?”


      Ghost In The Shell หนังที่สร้างจากอนิเมะ อภิมหาไซไฟแนวปรัชญาที่ได้รับความนิยมเมื่อหลายสิบปีก่อน ซึ่งเจ้ก็ไม่ได้ตามดูหรอก (แต่คงต้องตามแน่ๆเมื่อดูหนังเรื่องนี้แล้ว) อีกทั้งยังเป็นแรงบันดาลผลักดนให้เกิดหนังไตรภาคอย่าง The Matrix อีกด้วย ซึ่งปรัชญาหนักหน่วงกว่าเรื่องนี้เป็นอย่างมาก ก่อนเข้าเรื่องเรามาเรียนรู้พระพุทธศาสนากันเล็กๆน้อยๆดีกว่า

      หนังเรื่องนี้ตั้งคำถามทิ้งทวนไว้ว่า “มนุษย์คืออะไร? จิตวิญญาณคืออะไร?” ตามคำโปรยที่เจ้โปรยไว้นั่นแหละ และหนังเรื่องนี้ตั้งำถามให้กับคนดูในช่วงเริ่มต้นไว้ว่า ในยุคที่เทคดนโลยีสามารถสร้างปัญญาประดิษฐ์ขึ้นเพื่อทดแทนทุกสิ่งทุกอย่างที่มนุษย์ทำได้นั้น จิตวิณญาณ หรือ Ghost มันหลบซ่อนไปไว้ตรงไหน?

     จิต คือ ธาตุรู้หรือธาตุคิด ที่มีกระบวนการเปลี่ยนแปลงไปตามองค์ประกอบหรือคุณภาพต่างๆ กระบวนการนี้เกิดขึ้นดับไปตามแต่ที่จิตจะเหนี่ยวสิ่งใดขึ้นมาจับไว้ ตามกฏอนัตตาแล้ว จิตถือเป็นสิ่งที่ไม่เที่ยงแท้ จิตที่ดำรงอยู่ได้ด้วยการอิงอาศัยประกอบกันเป็นกระบวนการทำงาน เรียกว่า ธรรมธาตุ ๗ อันประกอบด้วย เวทนา, สัญญา, สังขาร, วิญญาณ, มโน, จิต และภวังค์ ซึ่งแต่ละอย่างก็จะมีแยกย่อยออกไปอีก

    นั่นแหละที่หนังอยากจะบอกเราในช่วงแรก แต่กลับกันในความเป็นจริงนั้น จิตวิณญาณมีความซับซ้อนกว่าระดับสติปัญญาของมนุษย์เรา ปัญญาประดิษฐ์จะสามารถคิดค้นสร้างขึ้นได้เอง (คงมีแต่ระดับพระพุทธเจ้าเท่านั้นที่อาจสามารถสร้างจิตขึ้นมาได้ แต่ท่านไม่เคยทำเลย เพราะไม่รู้จะทำไปเพื่ออะไร!) ซึ่งแน่นอนเหตุการณืในอนาคตคงไม่เกิดขึ้นจริง หนังเรื่องนี้ได้ตั้งคำถามจั่วไว้ว่า

“ในอนาคตที่เทคโนโลยีก้าวล้ำหน้า จนสามารถสร้างทุกสิ่งอย่างทดแทนมนุษย์ได้”  นั่นคือกายภาพ
“ในอนาคตที่มนุษย์สร้างปัญญาประดิษฐ์ สามารถคิดพูดจนได้จนมีจิตวิญญาณของตัวเองขึ้นมา” นั่นคือมโนภาพ



        เรื่องราวพูดถึง ผู้พันโมโตโกะ ซึ่งรับบทโดยสาวขาโหดอย่าง สการ์เลต โจแฮนสัน ซบอร์กสาวแห่งหน่วยเฉพาะกิจประจำองค์กรต่อต้านผู้ก่อการร้ายไซเบอร์ชื่อว่า Public Security Section 9 ที่ก่อตั้งโดยบริษัทหุ่นยนต์ฮันก้า โรโบติกส์ โดยหน่วยเฉพาะกิจดังกล่าวพยายามยับยั้งการก่อการร้ายของคูเซ่ ที่ทำทุกวิถีทางเพื่อยับยั้งความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีของฮันก้า
     
       เนื้อเรื่องดำเนินตามเส้นเรื่องไปอย่างปกติและลื่นไหล อาจจะมีช่วงที่ให้น่าเบื่อบ้างแต่ไม่ถึงกลับง่วงหนาวหาวนอน จุดแข็งของหนังเรื่องนี้คือ ตัวละคร ซึ่งสกาเรต สอบผ่านมากๆที่ต้องมารับบทไซบอคสาวญี่ปุ่นผู้มีจิตใจ รวมถึงงาน Visual คือดีงามมากถึงมากที่สุด เก็บรายละเอียดได้ดี แต่บางซีนยังไม่ถึงกับเนียนเท่าไหร่

**เนื้อหาวิเคราะห์สปอยนิดนึง**
    [Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้



    สุดท้ายแล้วแนวคิดปรัชญาที่ใส่มาในหนังคนดูสามารถที่จะเข้าใจง่าย ไม่งง แน่นอน จากตัวของผู้พันโมโตโกะ ก็ตั้งคำถามชวนคิดไว้ว่า “สุดท้ายแล้วเมื่อตัดร่างกายออกไป อะไรที่เป็นตัวเรา?”  ดูอย่างง่ายๆที่ภายในหนังมักจะพูดออกมาเสมอ เมื่อวิญญาณ แปรเปลี่ยนเป็น “ข้อมูล” และมีการ hack เกิดขึ้น เราจะสิ้นสุดลงตรงไหน? หนังเรื่องนี้ตั้งคำถามต่างๆนานาที่ทำให้น่าติดตาม เช่นเดียวกับ The Matrix

      Ghost In The Shell จึงเป็นหนังปรัชญาที่เจ้ว่าดูแล้วเข้าใจง่าย ทุกสิ่งทุกอย่างในเรื่องย่อมมีเหนือกว่า และเหนือกว่าเรื่อยๆ โมโตโกะกลับกลายเป็นตัวแทนของพระพุทะเจ้าหรือพระเจ้าที่อยู่เหนือจิตเหล่านั้น เมื่อรับรู้ว่าตนคืออะไร? และต้องทำอะไรต่อเพื่ออะไร?

     The Matrix หาได้ก็อปปี้เรื่องนี้มาแต่อย่างใด เพียงได้รับอิทธิพลหลายๆอย่างในเรื่องเข้ามาประกอบ อาทิ คนร้ายในองค์กรไซเบอร์ และการแอคข้อมูลต่างๆ แต่สำหรับ The Matrix แล้วแนวคิดปรัชญาไปไกลกว่าเรื่องนี้เป็นเท่าตัว

       สุดท้ายแลว้ความดีงามของเรื่องนี้ ขอยกให้กับงานสร้าง Visual และ ตัวละครทุกตัวที่ดูมีสีสัน เหมือนหลุดออกมาจากเอนิเมะจริงๆ บทคิดว่าจะผลิกผันตามแบบฉบับฮอลีวูด แต่ก็ยังคงความน้ำเน่าเคล้าคลุ้งกลิ่นอายเอเชียอยู่เป็นเนื่องๆ และเรื่องนี้จะจบลงตรงไหน เจ้ขอเวลาไปดูฉบับการ์ตูนดีกว่า อยากเข้าถึงจิตวิญญาณแบบ โมโตโกะบ้าง



ฝากเพจรีวิวหนังด้วยนะคะ https://goo.gl/uoCLnH
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่